|
กลยุทธ์ต่อไปนี้เป็นวิธีปูเส้นทางสายงานอาชีพจากห้องเซิร์ฟเวอร์เข้าไปอยู่ในออฟฟิศได้อย่างใจปรารถนา
ถ้าคุณเห็นด้วยว่า ในโลกนี้ไม่มีโปรเจ็คไอที คุณอาจกำลังมุ่งหน้าสู่เส้นทางสายงานอาชีพที่ต้องการถูกทางแล้วก็เป็นได้
ถึงแม้ว่าในตอนนี้ เทคโนโลยีจะมีความสำคัญต่อพนักงานระดับล่างมากกว่าแต่ก่อนก็จริงอยู่ แต่ก็นับเป็นเรื่องน่าเศร้าไม่น้อยสำหรับมือโปรด้านไอทีเก่งๆ อย่างคุณ เพราะคุณคงคิดว่า น่าจะมีโอกาสเติบโตในสายงานอาชีพไปสู่ตำแหน่งงานใหญ่ๆ โตๆ ไม่น้อยหน้าคนอื่นเขาบ้าง แต่บรรดาผู้บริหารใส่สูททั้งหลายกลับไม่เข้าใจเอาเสียเลยว่า คุณทำงานเกี่ยวกับอะไรกันแน่ ที่สำคัญพวกเขาเป็นตัวแปรสำคัญที่ชี้เป็นชี้ตายโอกาสเลื่อนตำแหน่งของคุณเสียด้วยซิ ดังนั้น ในขณะที่วันๆ หนึ่งคุณมัวแต่ขลุกอยู่ในห้องเซิร์ฟเวอร์ชั้นล่างเพื่อช่วยให้บริษัทสามารถทำงานเสร็จลุล่วงไปได้ในแต่ละวัน พวกผู้บริหารเหล่านั้นกลับอยู่แต่ชั้นบนของออฟฟิศมองเห็นแต่วิวอันสวยงามเลยทำให้มองไม่เห็นผลงานของคุณเลย
อันที่จริง มันไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้นเสมอไป และมันก็ไม่ควรจะเป็นด้วย หากคุณประยุกต์ใช้กลยุทธ์ต่อไปนี้เพื่อเป็นใบเบิกทางสร้างอนาคตที่ดีในสายงานอาชีพคุณ
เราได้ไปพูดคุยกับบรรดา CEO, CIO, ผู้นำและตัวแทนสรรหาผู้บริหารมือดีเกี่ยวกับกรรมวิธีไต่เต้าในหน้าที่การงานจากบริษัทต่างๆ ในโลกใบนี้ที่ซึ่งเทคโนโลยีกลายเป็นศูนย์กลางสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดไปแล้ว และได้รวบรวมกลยุทธ์เด่นๆ 20 วิธีในการสร้างและใช้ประโยชน์จากโอกาสงามๆ ในสายงานอาชีพไอที
คิดถึงธุรกิจก่อนเทคโนโลยี
ไม่มี โปรเจ็คไอที ใดๆ ทั้งสิ้น จะมีก็แต่โปรเจ็คธุรกิจที่จัดทำโดยมือโปรด้านไอทีเท่านั้น June Drewry ซึ่งเป็น CIO ของ Chubb Corp48 พันล้านใน Warren, N.J กล่าว ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทประกันภัยด้วยเม็ดเงินลงทุน
กลยุทธ์พื้นฐานหากต้องการประสบความสำเร็จในสายงานอาชีพคือ: ถ้าคุณอยากได้รับสิทธิ์เลื่อนตำแหน่งภายในบริษัท คุณต้องคิดให้เหมือนนักธุรกิจก่อนมือโปรด้านไอที Ray Howell ซึ่งเป็นกรรมการผู้อำนวยการของส่วนพัฒนาแอพพลิเคชั่นในบริษัท ซึ่งเป็นบริษัทสรรหาพนักงานด้านไอทีกล่าว Sapphire Technologies
สิ่งที่ช่วยผมได้มากที่สุดในช่วงแรกๆ ก็คือ การคิดว่า ผมจำเป็นต้องมองโปรเจ็คไอทีในเชิงธุรกิจให้ได้เสียก่อน Howell กล่าว เมื่อมีการพูดคุยเกี่ยวกับโปรเจ็คไอทีในที่ประชุม ผมเลยเข้าใจพนักงานฝ่ายการเงินและฝ่ายขาย รวมถึงมองเห็นปัญหาอย่างทะลุปรุโปร่งเหมือนอย่างที่พวกเขามองเห็น ซึ่งช่วยให้ผมสามารถหาวิธีแก้ไขได้อย่างทันท่วงที หัวหน้าผมก็เล็งเห็นประเด็นนี้เหมือนกัน เลยทำให้ผมได้รับสิทธิ์โปรโมทไปสู่ตำแหน่งงานที่สูงขึ้น
ในตอนนี้ พนักงานที่เข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีและผลกระทบที่มีต่อธุรกิจกำลังเป็นที่ต้องการตัวสูงมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน Paul Taylor ซึ่งเป็นรองประธานภาคของบริษัท Hudsonทักษะความสามารถพิเศษเหล่านั้นจะโดดเด่นชัดเจนสะกดทุกสายตาเมื่อถึงเวลาต้องพิจารณาเลือนตำแหน่งพนักงาน ซึ่งเป็นบริษัทสรรหาพนักงานและบริหารพนักงานที่มีทักษะความสามารถพิเศษสังเกตเห็น
เพิ่มศักยภาพในการทำงาน
โดยปกติแล้ว พนักงานที่ทุ่มเททำงานนอกเหนือจากหน้าที่รับผิดชอบมักจะได้รับโอกาสงามๆ ในการเลื่อนตำแหน่งรวดเร็วกว่า แต่ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตามที คุณต้องทำงานให้ดีอยู่เสมอ ไม่ใช่ว่าดีบ้างไม่ดีบ้างแล้วแต่อารมณ์
การทำงานบรรลุตามเป้าหมายอยู่เป็นประจำเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดที่ทำให้ผู้บริหารมองเห็นแววในตัวคุณ Brendan CourtneySpherion ซึ่งเป็นบริษัทสรรหาและว่าจ้างพนักงานด้วยเม็ดเงินลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์กล่าว นั่นหมายความว่า คุณต้องสามารถทำงานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกันและทำงานเสร็จไม่ว่าจะยุ่งมากแค่ไหนก็ตามหรือสามารถแสดงภาวะผู้นำนอกเหนือจากงานที่คุณรับผิดชอบตามหน้าที่ได้ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานอาวุโสของบริษัท
ยิ่งคุณมีความรับผิดชอบมากขึ้นแค่ไหน บริษัทก็ยิ่งขาดคุณไม่ได้มากขึ้นแค่นั้น Carly Drum ซึ่งเป็นกรรมการผู้ัจัดการของบริษัท Drum Associates ที่เป็นบริษัทสรรหาผู้บริหารใน New York กล่าว ยิ่งคุณสามารถพัฒนาศักยภาพได้เต็มที่มากแค่ไหน หรือทำงานจนถึงขีดจำกัดที่คุณสามารถทำได้มากแค่ไหน - บริษัทก็ยิ่งต้องว่าจ้างพนักงานใหม่เข้ามาช่วยงานคุณมากขึ้นแค่นั้น และเมื่อจำเป็นต้องจ้างคนเพิ่ม แน่นอนว่า คุณก็ต้องได้รับสิทธิ์โปรโมทไปสู่ตำแหน่งงานที่สูงขึ้น
ประเด็นสำคัญที่ต้องใส่ใจตรงนี้ก็คือ คุณเองก็ต้องแน่ใจด้วยเช่นกันว่า คุณสามารถส่งมอบงานได้ก่อนที่จะตกลงรับหน้าที่ความรับผิดชอบใหม่เข้ามา
รับอาสาทำงานให้มากขึ้น
วิธีช่วยหางานมาทำให้มากขึ้นก็คือการอาสารับโปรเจ็คเหลือขอที่ไม่มีใครต้องการแล้วมาทำให้สำเร็จ Sunil Misra กล่าวว่า โอกาสสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงครั้งแรกมาถึงตอนที่เขาทำงานเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์เมื่ออายุได้ 24 ปี เขาได้อาสารับเป็นผู้นำทีมกะกลางคืนเพื่อทดสอบระบบการบริหารเอกสารและซอฟต์แวร์ CAD ของบริษัท
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ผู้บริหารอาวุโสเล็งเห็นคุณค่าในตัวผม Misra กล่าว ตอนนี้เขาเป็นรองประธานด้านบริการให้คำปรึกษาของบริษัท Getronics ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการด้านเทคโนโลยีข้อมูลและการสื่อสารใน Amsterdam ผมต้องทำงานร่วมกับกลุ่มคนที่แตกต่าง คือกลุ่มผู้ทดสอบ end-user ซึ่งโดยปกติแล้ว ผมคงไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกับพวกเขาในสายงานอาชีพของผม ณ. ตอนนั้นเป็นแน่ หลังจากนั้น ผมก็ได้รับการขอร้องให้เข้าไปช่วยบริหารโปรเจ็คเพื่อเตรียมออกชุดผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่
แต่มีข้อควรระวังที่สำคัญอยู่ข้อหนึ่ง Misra เสริม ถ้าคุณรับอาสาทำอะไรสักอย่าง คุณต้องแน่ใจว่า คุณจะทำมันเสร็จด้วย ผมเห็นหลายๆ คนที่อาสาเข้าไปทำ แต่ไม่เห็นทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันออกมาเลยจริงๆ
อย่าโยนงานที่มีปัญหาให้ผู้อื่น
เมื่อคุณรับอาสาทำโปรเจ็คใหม่ๆ มากพอสมควร สุดท้ายจะมีโปรเจ็คหนึ่งที่ส่อเค้ายุ่งยากขึ้นมา หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น ขอให้ลุยทำต่อไปอย่าได้ท้อแท้ ห้ามชี้นิ้วสั่งให้คนอื่นรับช่วงไปทำต่อโดยเด็ดขาด Jack Ford ในฐานะ CEO ของ Charettewide-format imaging equipment กล่าว ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท
ผมกำลังมองหาคนที่เต็มอกเต็มใจทำโปรเจ็คและแสดงความรับผิดชอบเมื่อโปรเจ็คเกิดอาการสะดุดขึ้นมา Ford กล่าว ในโลกไอทีแล้ว ถ้าโปรเจ็คไม่ประสบความสำเร็จหรือทำไม่เสร็จตามกำหนด มันเป็นการง่ายที่จะพูดว่า ผู้ปฏิบัติงานหรือพนักงานขายหรือซัพพลายเออร์ข้างนอกไม่ยอมประสานงานกัน แต่มันคงจะดีกว่าเยอะถ้าพูดว่า ผมเข้าใจว่า โปรเจ็คยังไม่เสร็จเพราะติดขัดปัญหาหลายๆ อย่าง แต่เราก็กำลังเร่งแก้ไขให้มันเสร็จทันตามกำหนดอยู่
มั่นคงในจุดยืนทางความคิด
โปรดจำไว้ว่า เจ้านายจะเลื่อนตำแหน่งให้กับคนที่มีภาวะผู้นำ ปัจจัยสำคัญของภาวะผู้นำก็คือ การมีจุดยืนทางความคิดที่หนักแน่นและรู้วิธีพูดออกมาโดยไม่คำนึงว่า จะไปล้ำเส้นผู้อื่นหรือไม่ Mark Stevens ซึ่งเป็น CEO ของบริษัททางการตลาดที่ครอบคลุมทั่วโลกอย่าง MSCO และผู้แต่งหนังสือเรื่อง Your Management Sucks: Why You Have to Declare War on Yourself and Your Business กล่าว
หลายๆ คนรู้สึกกลัวหากแสดงความคิดเห็นที่แท้จริงออกไปก็เลยเก็บงำเอาไว้ไม่พูดดีกว่า แต่ในหลายๆ กรณี พูดออกมาเลยจะดีกว่า Stevens กล่าว คุณไม่สามารถเดินหน้าทำงานต่อไปได้หากมัวแต่พูดเยินยอคนอื่นเพื่อให้เขารู้สึกปลาบปลื้มว่า คุณทำหน้าที่ได้ดีไม่มีที่ติ ในทางตรงกันข้าม คุณควรสร้างแรงบันดาลใจให้คนคิดคล้อยตามคุณด้วยการยืนหยัดต่อสู้เพื่อหลักการและคุณสามารถมีความเห็นไม่ตรงกับผู้อื่นได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้เตรียมตัวเตรียมใจรับแรงปะทะจากผู้อื่นให้ดีๆ ด้วยก็แล้วกัน
ผมชอบคนที่ไม่เห็นด้วยกับผมจริงๆ Ford กล่าว มันช่วยกระตุ้นให้ผมต้องคิดใหม่ว่า ที่จริงแล้วผมเชื่อว่า เราควรต้องทำอะไรกันแน่ Ford เสริม คุณอาจพูดในลักษณะนี้ ผมเข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร แต่ทำไมเราไม่ลองใช้วิธีอื่นดูบ้างล่ะ? หากพูดแบบนี้ คุณไม่ได้วิจารณ์ผู้บริหารอาวุโสโดยตรง แต่คุณกำลังขอให้พวกเขาพิจารณาทางเลื่อกอื่นดูบ้างเท่านั้นเอง แต่ไม่ว่าข้อความจะเป็นอย่างไรก็ตาม วิธีที่คุณสื่อสารออกมาเป็นส่วนสำคัญที่สุด
ถอยออกมาตั้งหลักอย่างสง่างาม
หากคุณรวบรวมความกล้าก็แล้ว ยืนขึ้นพูดในที่ประชุมก็แล้ว รวมถึงสื่อสารให้เจ้านายทราบอย่างแยบยลก็แล้วว่า ไอเดียของเขาไม่ได้เรื่อง แต่พวกเขาก็ยังฝืนทำกันต่อไปอีก แล้วทีนี้ คุณจะทำอย่างไรดีล่ะ?
การแสดงความไม่พอใจไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ถ้าคุณไม่เต็มใจที่จะถอนตัวลาออกไปในตอนนั้น คุณก็ต้องหาวิธีจัดการปัญหายุ่งยากอันเกิดจากการตัดสินใจนั้นให้ดี และพร้อมที่จะรับมือหากสถานการณ์ย่ำแย่ขึ้นมา
อาจมีบางครั้งที่บริษัทดื้อดึงดำเนินรอยตามเส้นทางที่คุณคิดว่า พังแน่ๆ หากขืนทำเช่นนั้น คุณคงต้องเดิมพันด้วยหน้าที่การงานในกรณีที่คุณคิดว่า บริษัทผิดและคุณถูกแน่ๆ Drewry จาก Chubb กล่าว แต่เมื่อมีการตัดสินใจลงไปแล้ว และมันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณเข้าใจ คุณจำเป็นต้องปฏิบัติไปตามนั้นแล้วค่อยคิดหาวิธีลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ต่อไป
สร้างแอพพลิเคชั่นที่โดนใจ
ในโลกนี้มีไม่กี่คนนักหรอกที่เคยสร้างระบบปฏิบัติการที่ไม่เคยล่ม หรือแอพพลิเคชั่นเว็บเซอร์วิสที่สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านธุรการลงได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าคุณสามารถพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในส่วนสำคัญต่ออนาคตของบริษัท วิธีนั้นจะทำให้ แอพพลิเคชั่นที่โดนใจนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จได้ Stevens ของ MSCO กล่าว
มองหาสิ่งที่สำคัญสำหรับบริษัทและมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพตัวเองให้โดดเด่นที่สุดในสิ่งนั้น Stevens แนะนำ ถ้าคุณทำงานในแผนกการเงินต่างประเทศ เรียนรู้เกี่ยวกับค่าเงินประเทศต่างๆ ให้มากกว่าคนอื่นๆ ถ้าบริษัทคุณขายรองเท้า ขอให้พัฒนาตัวเองให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างการตั้งราคารองเท้าหรือเทคนิคการผลิตต่างๆ แล้วผลงานสร้างชื่อเหล่านี้จะพูดต่อกันไปปากต่อปากอย่างรวดเร็วว่า คุณเป็นคนที่ควรจะไปพบเมื่อมีคำถามใดๆ เกิดขึ้นมา
แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกัน ถ้าความเชี่ยวชาญของคุณนั้นหนักไปทางเทคนิคเสียเป็นส่วนใหญ่ สิ่งที่คุณทำได้ก็คือ การมีตราประทับติดตัวคนรู้กันไปทั่วว่า คุณเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสสำหรับความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ถ้าคุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับส่วนสำัคัญต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทอย่างเงียบๆ เช่น การเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้าน streamlining data flows ซึ่งช่วยทำให้ความสัมพันธ์กับลูกค้าดีขึ้น เป็นต้น
แอพพลิเคชั่นที่โดนใจนั้นเป็นตัวสร้างความแตกต่าง Stevens กล่าว นั่นเป็นวิธีที่คุณจะเอาชนะคนอื่นเขาได้
ก้าวล้ำทันเทคโนโลยีอยู่เสมอ
ห้องเซิร์ฟเวอร์ทำงานอาจบดบังไม่ให้คนอื่นเห็นตัวตนของคุณ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของคุณที่จะทำให้คนอื่นมองเห็นความเก่งกาจที่ซ่อนอยู่ภายในตัวตนที่แท้จริงด้วยการโดดเข้าใส่ข้อเสนอเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีโดดเด่นอย่างเช่น SOA, collaborative apps, หรือ data warehousing คุณจำเป็นต้องก้าวล้ำทันเทคโนโลยีอยู่เสมอ David BairKForce ซึ่งเป็นบริษัทจัดหาพนักงานมืออาชีพกล่าว เพราะบรรดาทักษะเดิมๆ อาจเป็นจุดอ่อนที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตในสายงานอาชีพไอทีได้ ซึ่งเป็นรองประธานด้านสรรหาบุคลากรไอทีของบริษัท
ถ้าบริษัทคุณไม่ได้ัจัดฝึกอบรมหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดาวรุ่งพุ่งแรงสำคัญๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว ให้ไปหาหลักสูตรข้างนอกจ่ายเงินเรียนเองจะดีกว่า ถ้าการใช้เงินเพียงเล็กน้อยในตอนนี้ แต่กลับให้ผลตอบแทนกลับคืนมามากกว่าหลายเท่าในอนาคตข้างหน้า นั่นก็นับเป็นการลงทุนที่น่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีไม่ใช่หรือ Bair กล่าว
มุ่งมั่นพัฒนาตัวเอง
การศึกษาไม่ควรหยุดอยู่เพียงแค่ทักษะด้านไอที หลักสูตรธุรกิจและหลักสูตรรับรองความเป็นมืออาชีพต่างๆ จะให้ผลตอบแทนมากกว่าในระยะยาว
Dave Simon ซึ่งเป็นผู้อำนวยการด้านไอทีของ Sierra Club กล่าวว่า สิ่งที่ช่วยทำให้เขาเจริญรุ่งเรื่องในหน้าที่การงานก็คือ การได้เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีที่ผ่านการรับรอง ซึ่งเขาปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้านายที่คอยให้กำลังใจเขาเสมอมา
การผ่านการรับรองด้าน CPA ทำให้ชีวิตผมเดินหน้าต่อไปได้อย่างฉลุย เพราะผมได้เพิ่มพูนทั้งความรู้ด้านธุรกิจและความน่าเชื่อถือจากผู้บริหารระดับ line management Simon กล่าว ผมไม่ได้ถูกมองว่า เป็นเพียงพนักงานไอทีธรรมดาอีกต่อไป
Howell จาก Sapphire กล่าวว่า ตอนนี้ เขากำลังลงเรียนโปรแกรม high-tech MBA ที่ Worcester Polytechnic Institute อยู่ ซึ่งเขาจ่ายค่าเล่าเรียนเองทั้งหมด
ผมพยายามผลักดันตัวเองอยู่เสมอ จะได้มีโอกาสเติบโตได้มากกว่าหนึ่งเส้นทาง Howell กล่าว
หาปรมาจารย์เก่งๆ เข้ามาช่วย
สำหรับหลายๆ ท่านแล้ว การหาพี่เลี้ยงหนึ่งคน หรือมากกว่านั้น นับเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการพัฒนาสายงานอาชีพของตัวเอง
ผมทำงานมา 3 บริษัทแล้วและในทุกๆ บริษัท ผมจะจับคู่กับคนเก่งที่สามารถพัฒนาความเป็นมืออาชีพให้กับผมได้เป็นอย่างดีและพวกเขาเหล่านั้นก็สามารถโน้มน้าวการตัดสินใจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสายงานอาชีพผมได้อีกด้วย Bair จาก KForce กล่าว
โดยปกติแล้ว ก็แล้วแต่คุณจะมองหาคนที่คุณชอบใจเอาเอง อย่างไรก็ตาม ในบริษัทอย่างเช่น Sun Microsystems150-200 คนทั่วโลกจะต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรม SEED (Sun Engineering Enrichment and Development) 1-2 ชั่วโมงทุกๆ 2 อาทิตย์เป็นระยะเวลา 1 ปี ส่วนพนักงานที่ทำงานอยู่เดิมจะลงทะเบียนอย่างน้อย 6 เดือน แต่หลายๆ คนก็ทำเกินกว่านั้น Katy Dickinson ซึ่งเป็นผู้อำนวยการส่วน business process architecture ของ Sun กล่าว คู่พี่เลี้ยงและพนักงานจะลงเอยด้วยการออกหนังสือแล้วยื่นขอจดลิขสิทธิ์ร่วมกันในที่สุด เธอกล่าว การเป็นพี่เลี้ยงนั้นอยู่ในสายเลือดขององค์กรอยู่แล้ว พนักงานจำนวน ซึ่งเป็นระบบพี่เลี้ยงที่จับคู่ระหว่างพนักงานที่มีแววกับวิศวกรระดับอาวุโสและผู้บริหารระดับสูง โดยพนักงานใหม่จะพบปะกับพี้เลี้ยงตัวเองประมาณ
สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือ ผู้ที่จบจากโปรแกรม SEED ได้รับการเลื่อนตำแหน่งมากกว่าถึง 4 เท่าและได้รับการประเมินลำดับคะแนนผลงานยอดเยี่ยมมากกว่าพนักงานทั่วไป 1 เท่า
เรากำลังมองหาคนที่สามารถเป็นผู้นำในอนาคตด้านไอทีหรือธุรกิจของบริษัทได้ Dickinson เสริม
ปฏิบัติตามกำหนดเส้นตายอย่างจริงจัง
บ่อยครั้งที่กำหนดเส้นตายและงบประมาณในการประชุมอาจไม่คืบหน้าไปถึงไหนเมื่อโปรเจ็คไอที หรือโปรเจ็คธุรกิจที่มีไอทีเป็นส่วนประกอบหยุดชะงัก โชคร้ายที่เหตการณ์ทำนองนี้มักทำให้คนไอทีได้รับการตำหนิติเตียนว่าเป็นตัวการสำคัญ ส่งผลให้เมื่อไรก็ตามที่โปรเจ็คเกิดหยุดชะงัก คนไอทีมักโดนหางเลขถูกด่าก่อนเป็นประจำ
งบประมาณล่าช้าและบานปลายเลยกลายเป็นชื่อเรียกคนไอทีในด้านลบไปโดยปริยาย Reid Carr ซึ่งเป็นประธานของ Red Door Interactive ที่เป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านอินเตอร์เน็ตตั้งข้อสังเกต บางส่วนอาจเป็นเพราะว่า พวกเขาไม่ใช่คนที่ตั้งความคาดหวัง แต่เป็นคนที่ถูกบังคับให้ต้องทำตามที่คาดหวังมากกว่า
มืออาชีพไอทีรายใดที่ไม่สามารถทำโปรเจ็คเสร็จทันตามกำหนดเส้นตายและใส่ใจกับรายละเีอียดได้ มักพบว่า ตัวเองติดโผราื่ยชื่อพนักงานที่มีศักยภาพในลำดับต่ำๆ ที่จะเข้าท้าชิงเพื่อรับโอกาสเลื่อนตำแหน่ง Taylor จาก Hudson กล่าว
แบ่งปันความรู้กับผู้อื่น
Anthony Hill ซึ่งเป็น CTO ของ Golden Gate University ใน San Francisco กล่าวว่า นอกจากการแสดงทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยีแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดที่พนักงานไอทีควรจะทำก็คือ การแบ่งปันไอเดียและความรู้กับเพื่อนร่วมงาน
คุณสมบัติลำดับแรกของผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วก็คือ ความเต็มอกเต็มใจที่จะแบ่งปันไอเดียและสอนงานผู้อื่นHill กล่าว คุณอาจจะเป็นโปรแกรมเมอร์ที่เก่งกาจได้ แต่ถ้าคุณเก่งอยู่แต่ในโค้ดของตัวเองและไม่สามารถโน้มน้าวความคิดผู้อื่นได้ คุณก็จะไม่ได้เป็นนักสร้างอิทธิพลทางความคิดและไม่ได้เป็นผู้นำ
เก็บงำความรู้และทักษะไว้ที่ตัวเองอย่างเห็นแก่ตัวนั้นเป็นลักษณะของคนในยุคเศรษฐกิจเดิม Hill เสริม สำหรับเศรษฐกิจยุคใหม่นี้ ยิ่งคุณให้ออกไปมากเท่าไร คุณก็ยิ่งทำได้ดีมากขึ้นเท่านั้น มันไม่เกี่ยวกับว่า คุณเก่งแค่ไหน แต่มันเกี่ยวกับว่า คุณสามารถพาใครไปกับคุณได้มากแค่ไหนต่างหาก
สนับสนุนความสำเร็จของตัวเอง
การเป็นที่สุดไม่มีอะไรเกิดขึ้นถ้าไม่มีใครรู้ว่าเราเป็น Drewry จาก Chubb กล่าว คุณต้องหาทางประกาศให้ทุกคนรับทราบถึงความสำเร็จของคุณ อย่าทึกทักไปเองว่า คนอื่นจะรู้ดีว่า คุณทำอะไรลงไปแล้วบ้าง
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจัดการกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะประชุม ผูกโบว์ประดับติดตัว แล้วใช้เครื่องกระจายเสียงป่าวประกาศออกไป นั่นก็ไม่ช่วยทำให้คุณได้เพื่อนใหม่อีกเช่นกัน ดังนั้น วิธีทีุ่คุณจะใช้ประกาศความสำเร็จออกไปให้โลกรับรู้นั้นเกือบจะสำคัญพอๆ กับสิ่งที่คุณทำสำเร็จไปแล้วเลยทีเดียว
แปรการกระทำดีๆ ของคุณสู่รายการวาระประชุมเมื่อพบปะพูดคุยกับหัวหน้าจะดีกว่า Carly Drumm แนะนำ แค่พูดถึงสิ่งที่ทำด้วยข้อเท็จจริง นี่เป็นสิ่งที่เราประสบความสำเร็จอยู่ในตอนนี้ และเรายังมีเรื่องอะไรที่ต้องทำอีกต่อไป เธอกล่าว และเมื่อไรก็ตามที่เป็นไปได้ ให้เชื่อมโยงความสำเร็จไปสู่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับพนักงานระดับล่างของบริษัทด้วย
พูดตรงๆ ว่า หากคุณไม่ทำอย่างนั้น คุณไม่เพียงแต่หลอกตัวเอง แต่คุณยังหลอกบริษัทอีกด้วย Drewry เสริม อะไรจะเกิดขึ้นจากความสำเร็จของคุณถ้าคุณลาออกไปแล้ว คนที่เหลืออยู่จะไม่รู้เลยว่า จะทำอย่างไรให้มันเกิดขึ้นซ้ำได้อีก? ในเมื่อคุณเป็นเจ้าของความสำเร็จที่ซับซ้อนนั้นแต่เพียงผู้เดียว
สร้างแฟ้มผลงานชิ้นโบว์แดง
เมื่อถึงเวลาทบทวนผลงาน มือโปรด้านไอทีกลับพบว่า ตัวเองพูดอะไรไม่ออก และนั่นหมายความว่า สายงานอาชีพได้ดำเนินมาถึงทางตันเสียแล้ว
สิ่งหนึ่งที่เราพบบ่อยครั้งว่าผู้เชี่ยวชาญด้านไอทียังขาดไปคือ ความสามารถในการสื่อสารความสำเร็จที่ทำให้บริษัทได้ Bair จาก KForceถ้าคุณทำโปรเจ็คเสร็จโดยใช้งบประมาณต่ำกว่าที่ตั้งไว้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์หรือพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่ช่วยให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายได้หลายล้านดอลลาร์ นั่นนับเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่มือโปรด้านไอทีกลับไม่รู้วิธีสื่อสารผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นให้บริษัททราบได้อย่างไร กล่าว
ทางแก้หรือ? ให้จัดเก็บแฟ้มผลงานความสำเร็จที่เขียนขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคุณสามารถนำเสนอเจ้านายในเวลาที่เหมาะสมได้ อาจจะเป็นรายการความสำเร็จแบบเป็นทางการที่คุณสามารถใช้ร่วมกับประวัติการทำงานหรืออาจเป็นแค่ลายมือเขียนก็ได้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความสามารถที่จะพูดถึงสิ่งดีๆ ที่คุณได้ทำลงไปให้กับบริษัทในช่วงระยะเวลาหนึ่ง Bair กล่าว
พัฒนาตารางเมทริกซ์ที่ช่วยพิสูจน์ให้เห็นว่า คุณมีคุณค่ากับบริษัทมากแค่ไหน Paul Groce ซึ่งเป็น CIO ด้านการคัดเลือกพนักงานของบริษัท Christian & Timber ใน New York กล่าว ผู้จัดการที่ประสบความสำเร็จจะ ตรวจวัด ทุกสิ่งทุกอย่างจากเวลาทำงานจริง, เวลาที่ว่าง ไปจนถึงค่าใช้จ่ายต่อหัวสำหรับรายได้หลายล้านดอลลาร์ Groce กล่าว คนที่ประสบความสำเร็จจะไม่รั้งรอที่จะโดดเข้าใส่และแบ่งปันตารางผลงานสร้างชื่อ กับผู้บริหารภายใน รวมถึงแชร์มุมมองความสำคัญของไอทีที่มีต่อความสำเร็จในธุรกิจกัน
สร้างเครือข่ายดีกว่าเก็บตัวเงียบ
การเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ใช้ สมาคมมืออาชีพ หรือองค์กรที่ไม่หวังผลกำไรจะเป็นช่องทางให้คุณได้พบเจอเพื่อนใหม่ๆ ช่วยสร้างเครือข่ายการติดต่อได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะยังได้รับทราบไอเดียใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณมีพื้นฐานที่ดีเป็นของตัวเองได้อีกด้วย
เมื่อคุณอุทิศเวลาและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีให้กับกลุ่มที่ไม่หวังผลกำไรหรือองค์กรธุรกิจต่างๆ คุณก็สามารถพัฒนาศูนย์กลางอิทธิพลนอกเหนือจากบริษัทของคุณเองได้ Courtney กล่าว คุณอาจมีโอกาสพัฒนาทักษะใหม่ๆ ที่ไม่มีทางจะฝึกฝนได้ในที่ทำงานเดิมของคุณเลยด้วยซ้ำ
การเป็นสมาชิกอันทรงคุณค่าของชุมชนไอทีนั้นเป็นการลงทุนในระยะยาวที่สามารถตอบแทนผลประโยชน์ได้ในภายภาคหน้า Bair จาก KForce กล่าว คุณสามารถเรียนรู้สิ่งที่บริษัทอื่นๆ กำลังทำอยู่เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและประยุกต์ใช้สิ่งเหล่านั้นกับกระบวนการธุรกิจในบริษัทของคุณเองได้ เขากล่าว บ่อยครั้งไปที่นวัตกรรมด้านไอทีมาจากคนภายนอก
เดินหน้่าแล้วสื่อสารให้เข้าใจ
ถ้าคุณต้องการเดินหน้าต่อไป คุณก็ต้องพูดในรูปแบบที่ทุกคนเข้าใจ Paul Taylor จาก Hudson กล่าว การเข้าร่วมกับองค์กรภายนอกบ้างสามารถช่วยได้ เช่น การสมัครเรียนหลักสูตรการพูดในที่สาธารณะ นั่นหมายถึง การแยกตัวเองออกจากจอคอมพิวเตอร์ เดินเตร็ดเตร่ไปในห้องโถง แล้วออกไปพบปะกับผู้คนในแผนกอื่นๆ เสียบ้าง
บ่อยครั้งที่มือโปรด้านไอทีคุ้นเคยกับการพูดศัพท์เทคนิคที่คนอื่นฟังไม่รู้เรื่อง Taylor กล่าว สำหรับคนนอกแล้ว มันเหมือนเรากำลังพูดกันคนละภาษา คนที่สามารถแปลภาษาเหล่านั้นให้เป็นภาษาธรรมดาจะได้รับโอกาสพิจารณาเลื่อนตำแหน่งงานสูงตามไปด้วย เพราะต้องใช้ทักษะการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นนอกเหนือจากแผนกไอทีได้
ว่าจ้างคนมาทำงานแทนคุณ
บ่อยครั้งที่คนไอทีดูไม่ค่อยเต็มอกเต็มใจหาคนเก่งๆ เข้ามา เพราะกลัวว่า จะต้องมานั่งแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งสูงขึ้นกันเอง Groce กล่าว กลยุทธ์ที่ดีกว่านี้ล่ะ? คอยเป็นพี่เลี้ยงและพัฒนามือใหม่ไฟแรงที่สามารถเข้ามาทำงานในตำแหน่งคุณ คุณจะได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปในระดับที่สูงกว่าอย่างไรเล่า
ผู้นำด้านไอทีอาจเป็นคนที่แย่ที่สุดในโลกสำหรับเรื่องแบบนี้ Groce เสริม พวกเขากลัวว่า การพัฒนาผู้นำรุ่นต่อไปอาจผลักดันให้ใครบางคนติดโผรายชื่อพนักงานที่มีสิทธิ์ได้รับการเลื่อนตำแหน่งในลำดับต้นๆ มากกว่าพวกเขานั่นเอง
การว่าจ้างคนดีๆ เข้ามาก็ทำให้ผู้บริหารระดับสูงเทคะแนนนิยมให้คุณได้เช่นกัน Bair จาก KForce เสริม สุดท้่ายแล้ว คุณจะสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้ว่า คุณรู้วิธีสรรหาคนเก่งๆ เข้ามาทำงาน นั่นยิ่งทำให้คุณกลายเป็นคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในบริษัทไปอีก
รับมือกับความไม่ชัดเจนได้ดี
ภาวะผู้นำนั้นเป็นคุณสมบัติที่เรากำลังมองหาจากทุกๆ หน่วยงานของบริษัท Drewry จาก Chubb กล่าว แต่การที่จะแสดงภาวะผู้นำออกมาได้นั้น คุณจำเป็นต้องแสดงให้เห็นเสียก่อนว่า คุณรับมือกับความไม่ชัดเจนได้ดี เพราะคนไอทีมักจะมองหาความชัดเจนก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อยทำการออกแบบหลังจากที่ได้รายละเอียดครบถ้วนกระบวนความ ในฐานะผู้นำ คุณไม่มีเวลามากพอที่จะทำอย่าง
จากคุณ |
:
cobainlover
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ธ.ค. 53 13:22:17
|
|
|
|
|