|
ขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองไห้ฟังครับ เกี่ยวกับห้าง ยูเนี่ยนมอลด์ลาดพร้าวซอย1
ผมเริ่มขายของที่ห้างยูเนี่ยนมอลด์ เดือน ตุลาคม 2550 ชั้น 1F และ 2F ยอมรับว่า สถาณการณ์ตอนนั้น ค่าเช่าไม่แพงเลย ร้านก็เปิดกันไม่มาก ถึงคนเดินน้อย แต่อยู่สบายกว่าตอนนี้ เพราะการแข่งขันไม่สูง ค่าเช่าไม่สูงจนเกินไป แต่ใช่ว่า สถาณการณ์ตอนนั้น จะไม่มีคนที่ท้อถอยและออกไป
ต่างกับสถานการณ์ยูเนี่ยนมอลด์ตอนนี้ 2553 คนเดินเยอะขึ้น เพราะ
ตลาดลุงเพิ่มถดถอยลง (ตลาดหลังการบินไทย) อากาสร้อน แออัด ของแพง
ตะวันนาเริ่มเสื่อม สินค้าไม่หลากหลายเน้นสินค้าราคาถูก เหมือนตลาดนัด ขายซ้ำๆกัน เพราะหลายๆล็อคเป็นเจ้าของเดียวกันและจับกลุ่มระดับล่างอย่างเดียว ไม่มีรถไฟฟ้าใต้ดิน และ ไม่มีจุดพักผ่อน
เซ็นเตอร์วันยังไม่ไปไหน ปิด ปรับปรุง ณ วันนี้ 24 ธันวาคม 2553 เปิดซอยร้อยร้าน สถาณการณ์เริ่มดีขึ้น แต่ใช่ว่าจะมีสินค้าหลากหลาย เน้นแฟชั่น ประตูน้ำ สำเพ็ง ซะส่วนมาก ไม่เน้นสินค้าผู้ชาย เกรดราคายังคงเป็น ของราคาถูก ที่ไม่มีแบรนด์สินค้าเข้ามา อีกทั้ง ของข้างนอกห้างก็แบบเดียวกับในห้าง แต่ได้ทำเล เพราะอยู่กลางเมือง คนพลุกพล่าน จึงขายไห้คนกลุ่มใหญ่ที่ต้องการสินค้าราคาถูก
เซ็นทรัลลาดพร้าว เศรษฐกิจที่ซบเซา จึงทำไห้คนต้องการสินค้าราคาถูกสมเหตุสมผล ทำไห้คนบางกลุ่มหันมาเดินยูเนี่ยนมอลด์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกัน ด้วย สกายวอลค์
ตอนนี้มองมองเป็นชั้นๆ ไปนะครับ
ชั้นG คือชั้นที่ มี kfc และ โออิชินะครับ ชั้นนี้ค่าเช่าค่าเซ้งค์ ไม่เป็นรองชั้น 1F สินค้าที่ขายส่วนมาก จะเป็นเสื้อผ้าเกรดดีเน้นขายราคาสูง และ เป็นแหล่งของ copy ส่วนตัวมองว่า ค่าเช่าชั้นนี้สูงเกินไปครับ และ บู๊ทเป็น บู๊ทแบบไม่ถาวร มีโอกาสโดนย้ายสูง (ส่วนตัวมองว่าไม่น่าลงทุนเลย)
ชั้น 1 F ชั้นนี้เป็นชั้นที่คนเดินเยอะที่สุด เปรียบเหมือนหัวใจของห้างเพราะมีร้านค้าถาวร เกือบเต็มพื้นที่ และมีทางเชื่อมสกายวอล์ค คนเดินเข้าทางด้านนี้มากกว่าทางหน้าห้าง
ทั้งชั้น G และชั้น 1F นั้น ถ้าจะรอดได้ต้องมีหลายปัจจัยประกอบกัน (ณ ตอนนี้ 2553)
1 ไม่เป็นของประตูน้ำ สำเพง แพลตินั่ม สวนจตุจักรขายส่งตอนเช้า เพราะของพวกนี้เกลี่อนแล้วในห้างนี้ นอกจากคุณจะเอามาขายตัดราคา ซึ่งไม่ดีเลยเพราะ ร้านอื่นๆก็สามารถทำได้แถมสายป่านยาว และ มีฐานลูกค้าเก่าเพียบ
2 ของ copy ของกวางโจว , โรงเกลือ , ฮ่องกง พวกนีอยู่ได้ เพราะคนนิยมของถูก เก๋ (ไม่แนะนำไห้ขายเพราะผิดจรรยาบรร และ โดนจับปรับได้)
3 มีโรงงานผลิตสินค้าเอง หรือ ออกแบบเอง นำร้านอื่นไป 1 ก้าวเสมอ อันนี้เวิร์คครับ หลายๆร้านชั้น f1 มีการแบบแบบเสื้อผ้า ตัดเอง ขายไอเดีย ร้านพวกนี้อยู่ได้ เพราะว่า การลงทุนชั้น 1F และชั้น G นั้น ต้องใช้เงินคร่าวๆดังนี้
-ค่าเซ้งค์ล็อค 400,000-600,000 บาท
-ค่าตกแต่งร้าน 30,000-70,000 บาท
-ค่าเป๊าะเจี๊ย 80,000 บาท
-ค่าเช่ารายเดือน 4x,xxx บาท ( ค่าเช่านี้เป็นค่าเช่าประมาณการของ ปี 2554)จะเห็นว่า ค่าเช่า 1 ปี ตก 440,000 บาท
เอาต้นทุน มารวมๆ กัน ตกล้านกว่าบาท ไม่รวมค่าจ้างลูกน้อง ค่าคอมมิชชั่น ดังนั้น ผมเลยบอกว่า ชั้น G และ 1F คนที่เข้ามาต้อง พยายามอย่างมากในการรักษายอดขายดีไม่ดี ห้างเอาไปกินหมด หลายๆร้านตอนนีเข้าทำนอง กลืนไม่ได้คายไม่ออก และ คนนอกอยากเข้าคนในอยากออก
ชั้น 2f ชั้นนี้จะเป็นชั้นของ ธนาคาร โซนต่อผม คาราโอเกะ ชั้นนี้นั้นแต่เดิม โล่งมาก แต่ได้มีการขยับ ร้านต่อผม ทำเล็บจากชั้นล่างขึ้นมา และ เพิ่มโซนไอทีเข้าไป ชั้นนี้คนจะเดินน้อยกว่าชั้น 1F และ G เพราะ แฟชั่นน้อยกว่า แบะคนเดินชั้นล่างมากกว่า แต่คนเยอะกว่าชั้น 3F ชั้นนี้ มองว่า ณ ตอนนี้น่าลงทุนครับ ถ้าได้ล็อคมุมดีๆ เพราะ ชั้นนี้เป็นล็อคถาวร เสี่ยงต่อการโดนย้ายน้อยมาก
ผมคนนึงที่ไม่เคยโดนย้ายล็อค ต่างจากคนอื่น โดนกันมาหลายรายแล้ว เพราะห้างนี้ชอบ ย้ายล็อคจัดโซน และค่าเช่ายไม่แพง ขายชั้น 1F และ 2F ชั้น 2 F ได้กำไรเยอะกว่า เพราะค่าเช่า 12,xxx บาทถูกกว่าข้างล่าง ณ การต่อสัญญาครั้งที่แล้วมีล๊อคว่างร่วม 10 ล็อคทางห้าง ถามล็อค อื่นๆว่ามีใครเอามั้ย ไม่ค่อยมีคนเอา จนมีคนเอาไว้ หลายๆล็อค และปล่อยต่อล็อคละ 200,000 บาท เพื่อกินส่วนต่าง ตอนนี้ล็อั้นนี้เต็มแล้ว
ต่อมาชั้น 3F เรื่องที่ ถามมามันคือเรื่องของ อนาคต ตอบยาก ถามว่ามีแนวโน้ม ผมตอบได้เลยว่ามีเพราะ จะมีการย้าย ล็อคขายของแบบชั่วคราว ตรงคาราโอเกะชั้น 2F หน้านิติพลคลีนิค ขึ้นมาชั้นบน 3F สถานที่ย้ายขึ้นมาก็คือส่วนสีขาวที่ปิด ไกล้ๆ กับ ล็อคใหม่ที่น้องถามครับ ลองเข้าไปเดินดูได้
ถ้าดูล็อคถาวร ล็อคใหม่ ส่วนที่กระเบื้องสีดำ ล็อคสวยๆตอนนี้แล้ว ตกแต่งดีมากติดเรื่องทำเลอย่างเดียว เพราะส่วนล็อคถาวรล็อคใหม่ตรงนั้น ถ้ามองกันตรงๆคือ ไม่ไกล้ลิฟ และ บันไดเลื่อน ไม่ค่อยดี เคยลองสังเกตุไหมครับ และส่วนที่ ปิดอีก 2 ข้างคือ รออนาคต เพราะ ทางห้างต้องเปิดเต็มพื้นที่ และดัน โซนมือสอง ไปชั้น 4F ครับ ปัจจุบันล็อคมือสองขนาด2คูน2ชั้น 3F คือล็อคชั่วคราว ซึ่ง ส่วนที่ยังไม่เปิดนั้น ผมได้จองไว้แล้ว 1 ล็อค รอแค่จังหวะและเวลาเท่านั้น ณ ตอนนี้ บอกได้เลยว่า ยังไม่ เอาครับ เพราะขายอยู่ตรงนี้ รู้ความเป็นไป ไม่รีบใจเย็นอย่างเดียว รอโซน เมฟขิงเปิด และ พื้นที่จัดวางเลเอ้าท์อย่างลงตัว ร้านค้าเต็ม ยังไงคนก็ต้องเดิน ล็อคตรงนั้น ฌ ตอนนี้เลยขออยู่ห่างๆก่อนครับ ^^
ส่วนที่ถามว่าขายเสื้อ ทำเอง ลอง เดินดูคนก่อนก็ได้ครับ เท่าที่ ขึ้นไปชั้น 3F ไปดูสาวๆ ไปเม้าท์กับเพื่อนๆ ที่ขายข้างบน ได้ใจความมาว่า สินค้ามือสองขายได้เรื่อยๆ พวกกระเป๋า และ เสื้อเชิร์ตลายสก๊อต
ส่วนเพื่อนที่ขายของใหม่ยังหาจุดยืนไม่เจอ ขายยาก เพราะแต่งห้องหรู แต่คนที่เดินส่วนมากยังห่างไกลคำนั้น และ ไม่กล้าเดินเข้าไปสัมผัส นิยามตรงนั้น ทำไห้จุดนั้นเงียบๆ แต่ ณ ตอนนี้อย่างที่บอกครับ ว่าระยะยาวดีแน่นอน แต่ตอนนี้ เพิ่งเปิดมา 1 เดือนกว่ายังคงวัดอะไรไม่ได้มาก
ไหนๆก็ไหนๆแล้วขอเล่าเรื่อง เพื่อนที่เข้ามาถาม เรื่องย฿เนี่ยนมอลด์ด้วยแล้วกันครับ
มีเพื่อนผมอีกหลายๆคนที่ เห็น ตัวผมขายได้ดี ไปได้เรื่อยๆ และอยากเข้ามาเปิดร้าน ถ้านับตั้งแต่ปี 2550-2553 ตั้งแต่เรียนจบ จนถึงทุกวันนี้ มีแค่ 1ราย เท่านั้นที่มาเปิด หลังจากที่ผมเล่าเรื่องของห้างทั้งหมดไห้ฟัง เพื่อนคนนี้มองเห็นปัญหา และโอกาส จึงคว้ามันไว้ ปัจจุบันมีล็อคขายของ 3ล็อค และไปได้ดีทุกล็อค เหลือเก็บ หลักแสนบาทหักกำไร
ส่วน เพื่อนหลายๆสิบคน น่าจะหลักร้อย ที่เข้ามาถามเรื่องล็อค หรือ พยายามช่วยหาล็อคไห้ กลับทิ้งโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆที่เพื่อนผมเหล่านั้น ยังไม่ได้ลองขายเลย เหตุผลของคนเหล่านั้นคือ
1 รู้หมดว่าขายอะไรดี แต่สิ่งที่อยากขายคนขายกันเยอะแล้ว 2 สู้คนอื่นไม่ได้ 3 กลัวขาดทุน 4 กลัวไม่มีคนเฝ้าร้าน 5 ไม่เคยค้าขาย ไม่กล้าลงทุน ซึ่งคนพวกนี้ ผมไม่ชอบเลย และ หลายๆคน ทรรศนคติยังคงเป็นแบบเดิมคือ ไม่กล้าที่จะเริ่มอะไร 3 ปีผ่านไปยังไม่กล้าเหมือนเดิม แต่พอมา หาเราที่ร้านทีไรเห็นลูกค้าเยอะก็ถามว่า ทำได้ไง ทำไมไม่ชวนหุ้นด้วย รู้งี้ทำตั้งนานแล้ว ณ ปัจจุบัน คนเหล่านั้นก็ยังเหมือนเดิม มีแพลน โปรเจค แต่ ไม่ได้เริ่มโปรเจคอะไรซักอย่าง ผมเดาว่าคนกลุ่มนี้ อีก 20 ปี ก็ยังคงเป็นแบบเดิม ครับ
ท้ายสุด ขอไห้เจ้าของกระทู้โชคดีครับ ผมว่า ณ ตอนนี้ ห้างนี้ก็ไม่ได้แย่กว่าห้างอื่น และ จากปัจจัยของห้างอื่นๆที่ พูดมาบางส่วน คงช่วยการันตรีว่า น่าเข้ามาค้าขาย ถึงแม้ห้างจะมีข้อบกพร่องไปบ้าง
จากคุณ |
:
kitagawa_keiko
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ธ.ค. 53 02:39:22
|
|
|
|
|