ความคิดเห็นที่ 1 มาลงชื่อรอฟัง จากคุณ : EREWHON_nowhere เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 53 23:14:20

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าคุณคิดจะไป อันดับแรกคือเลือกรัฐ และโรงเรียน โรงเรียนในออสเตรเลียแบ่งเป็นสองกลุ่มคือ โรงเรียนของรัฐบาล กับโรงเรียนเอกชน(รับรองโดยรัฐบาล) ไม่เหมือนกันนะครับ โรงเรียนของรัฐบาลไม่มีวันเจ๊ง ส่วนโรงเรียนเอกชนเรียนอยู่ดีๆเมื่อวาน วันนี้มาตอนเช้าปรากฏว่าโรงเรียนปิดตัวเองไปแล้วก็อาจเป็นไปได้ ไม่ค่อยเกิดขึ้นหรอกครับแต่ก็เคยเกิด (เรียกกันว่าการถูกลอยแพคือ นร.ถูกปล่อยให้ไม่มีที่เรียน) จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 53 23:14:58

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องของผมนะ ฟังเขาเล่ามา ผิดถูกอะไรก็ชี้แนะด้วยละกัน มีคนรู้จักหลายคน ลาออกจากงานวิศวฯแล้วก็ไปทำงานที่ออสฯ คือ ลงเรียนภาษา และก็ทำงานเสริฟร้านอาหารและทำความสะอาดบ้านด้วย เขาบอกว่า เหนื่อยมาก ทำความสะอาดบ้านรกๆ ทั้งวัน แล้วต้องเอาประกาศไปติดไว้ตามป้าย ให้คนโทรไปจ้างมาทำความสะอาด ชม.นึงน่าจะได้ประมาณ 600 กว่าบาทไทยนะ ร้านอาหารก็ทำตอนเย็น ร้านไหนดี ก็มีอาหารมื้อเย็นเก็บไว้ให้ 1 มื้อ ทำงานแต่เช้า กว่าจะเลิกก็ 4 ทุ่ม แล้วเดี๋ยวนี้ เห็นบอกว่า ทางออสฯ เริ่มกวดขันเรื่องต่างด้าวมาทำงานกันมากขึ้น อาจจะหาเงินได้ไม่ดีเท่ากับเมื่อหลายปีก่อน จากคุณ : Christian Chang เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 53 23:19:32

ความคิดเห็นที่ 4 “อย่างนี้เราก็เลือกรร.รัฐบาลสิ  ปลอดภัยไว้ก่อน” เลือกได้ดีครับ แต่คุณจะหาเงินเป็นกอบเป็นกำได้ยาก เพราะรร.รัฐบาลเข้มงวดกับการเช็คชื่อ และรายงานการเข้าเรียนของคุณต่อ Immigration มากกว่าเอกชนมาก เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะลงเรียนบังหน้า แล้วแอบไปหาเงิน ถ้าเวลาเข้าเรียนของคุณมีไม่ถึง 80% ถูกส่งกลับนะครับ แต่ไม่แน่ใจว่าจะถูก Blacklist ด้วยหรือเปล่า :( เพราะฉะนั้นถ้าคุณตั้งใจจะไปหาเงิน รร.เอกชนจึงน่าจะเหมาะกว่า เท่าที่รู้มีบางแห่งไม่เช็คชื่อเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนผมอยู่ที่นั่น 4 ปี ได้ข่าวมีรร.เอกชนที่ทำอย่างนั้นถูกปิดไปสองแห่ง จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 53 23:21:40

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ Christian Chang ที่ฟังมาเป็นเรื่องจริงครับ :( จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 53 23:24:09

ความคิดเห็นที่ 6 ต่อมาก็ต้องขอ Visa จะเข้าประเทศเค้าก็ต้องขอบัตรผ่านก่อน เอกสารสำคัญในการขอ Visa ก็มีสามอย่าง 1. หนังสือตอบรับเข้าเรียนจากทางโรงเรียน อันนี้ไม่ยุ่งยาก ให้บริษัทตัวแทนเขาจัดการให้เราได้ 2. ใบตรวจสุขภาพ ถ้าคุณไม่มีปัญหาสุขภาพร้ายแรงอะไรก็ไม่มีปัญหา 3. ใบแสดงฐานะทางการเงิน อันนี้แหละที่คนส่วนใหญ่จะวุ่นวายกับมันมากที่สุด บางคนมีการวางแผนตกแต่งบัญชีกันเป็นปีๆทีเดียว “แล้วต้องมีเงินแค่ไหนละถึงจะผ่าน???” ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน..... อ่าว :P ที่บอกได้คืออย่างต่ำเลยต้องมีพอจ่ายค่าเรียน และค่าครองชีพตามเวลาที่คุณเรียนอยู่ที่นั่น แต่ยิ่งมีเงินมากโอกาสผ่านก็ยิ่งสูง ทีนี้จะคำนวนค่าเรียนอย่างไรอ่านข้อต่อไป จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 53 23:43:29

ความคิดเห็นที่ 7 อ้อ...เกือบลืมเรื่องรัฐ ถ้าอยากให้มีอากาศอบอุ่นนานหน่อยก็แนะนำเมือง Perth, Western Australia กับ  Brisbane, Queensland ถ้าชอบบรรยากาศแบบเมืองหลวงก็ Sydney, New South Wales หรือถ้าอยากอยู่เงียบๆ คนไทยน้อยๆ ฝรั่งก็น้อย ไปนี่เลย Canberra, Capital Territory แต่งานก็น้อยตามไปด้วยนะ ถ้าถูกใจกับอากาศเย็น และไม่วุ่นวายมากก็แนะนำ Melbourne, Victoria อากาศเปลี่ยนเร็วมาก พกร่มติดตัวไว้เสมอ แล้วก็ระวังลูกเห็บด้วย สุดท้ายถ้าชอบอากาศเย็น และเงียบสงบแบบธรรมชาติก็ Hobart, Tasmania จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 53 23:50:33

ความคิดเห็นที่ 8 ทีนี้มาดูค่าเรียน และค่าครองชีพทั่วไป ก่อนจะได้เงินก็มีส่วนที่ต้องจ่ายไปก่อน และเตรียมจะจ่าย ค่าเรียนภาษาที่ต้องจ่ายล่วงหน้า โดยจะคิดเป็นสัปดาห์ละ 280 เหรียญ เรียนเทอมละ 20 สัปดาห์ หรือครึ่งปี (ที่นับเป็นครึ่งปีเพราะมีวันหยุดกลางภาค และปิดเทอมด้วย แต่ช่วงที่หยุดนั้นไม่มีการคิดค่าเรียน) ถ้าเป็นรร.เอกชนค่าเรียนอาจจะถูกกว่านี้หน่อยเพราะเค้าต้องจูงใจให้คนมาสมัคร คิดคราวๆที่ 30 บาทต่อ 1 เหรียญออสเตรเลีย ค่าเรียนเทอมนึงที่คุณต้องจ่ายก็คือ 280x20x30=168,000 บาท จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 00:02:58

ความคิดเห็นที่ 9 ค่าเช่าบ้าน ถ้าเป็นแชร์เฮาส์ (บ้านที่แบ่งให้หลายคนมาเช่าห้องอยู่ร่วมกัน) ก็ตกอยู่ประมาณ 400-500 เหรียญต่อเดือนหรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับทำเลบ้าน และขนาดห้องด้วย บ้านส่วนใหญ่จะคิดค่าเช่าห้องที่ใหญ่กว่าแพงกว่า ถ้าคุณอยู่ครึ่งปีก็ 500x6x30=90,000 บาท (ที่คิดจาก 500 เพราะ 400 หายากมากๆๆๆ บ้านที่คิดค่าเช่าถูกมักจะไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ที่คนในบ้านต้องมาหารจ่ายกันเพิ่มแต่ละเดือน) บางบ้านอาจจะยอมให้คุณหาเพื่อนมาแชร์ห้องด้วยได้ค่าเช่าคุณก็จะถูกลงไป จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 00:11:52

ความคิดเห็นที่ 10 ต่อมาค่ากิน และเดินทาง อันนี้ไม่รู้จะคำนวนให้ดูยังไงเพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อย่างค่าเดินทางแต่ละเมืองก็ไม่เท่ากัน ขึ้นกับระยะทางด้วยอย่างที่ออสเตรเลียเค้าจะแบ่งเป็นโซน ถ้าเดินทางในโซนเดียวกันก็ราคานึง ข้ามโซนก็อีกราคานึง มีตั๋วชม. ตั๋ววัน ตั๋วสัปดาห์ ตั๋วเดือนเยอะไปหมด บางเมืองนร.ต่างชาติซื้อตั๋วลดราคาได้ บางเมืองซื้อไม่ได้ ค่ากินนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ผมก็เลยจะคิดโดยประมาณจากประสบการณ์ใช้จ่ายส่วนตัวละกันว่า ค่ากินถ้าอยู่แบบประหยัดหน่อยแบบซื้อมาทำกินเองก็ตกอาทิตย์ละประมาณ 50 เหรียญ ไปซื้อตอนซุปเปอร์ใกล้ปิดจะได้เนื้อราคาถูก หรือตลาดเอเชียก็จะได้ของถูกกว่าใน Supermarket แต่ถ้าตลาดมันไกลจากบ้านก็ต้องดูละว่าคุ้มค่ารถไหม เรื่องเงินนี้ต้องคิดเยอะครับ ส่วนค่าเดินทางก็ถ้าโชคดีหาได้ที่พักใกล้ที่เรียน และที่ทำงาน หรือหาซื้อจักรยานมือสองสักคันได้ก็จะช่วยประหยัดไปได้เยอะมาก ถ้าไม่ได้ก็ซื้อเป็นตั๋วเดือนตกประมาณ 60-70 เหรียญ รวมแล้วค่ากิน และค่าเดินทางก็ตกประมาณเดือนละ 270 เหรียญ 270x6x30=48,600 บาท จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 00:41:45

ความคิดเห็นที่ 11 สรุปยอดค่าใช้จ่ายครึ่งปีแบบคร่าวๆ ค่าเรียน = 168,000 ค่าที่พัก = 90,000 ค่าครองชีพ = 48,600 ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ = 30,000 แบบ Low cost รวม 336,600 บาท ค่าซื้อเครื่องครัว เครื่องใช้จิปาถะมันต้องมีบ้างละ รวมแล้วน่าจะประมาณ 350,000 บาท ฉะนั้นคุณควรจะมีอย่างน้อย 400,000 บาทละตอนยื่นขอ Visa สำหรับการไปอยู่ครึ่งปี คืนพรุ่งนี้มาต่อว่างานสำหรับนักเรียนจะเป็นงานอะไรบ้าง แล้วได้ค่าตอบแทนมากน้อยแค่ไหน จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 00:56:32

ความคิดเห็นที่ 12 ทำงานได้ 20 ชม.ต่อสัปดาห์ งานที่ทำก็คงเป็นงานร้านอาหารไทย เพื่อนเราเรียนภาษามาสองปีแล้ว ภาษาไม่กระดิก แต่ก็เน้นทำงาน หนักมากๆๆๆๆๆ  ได้เงิน ชม.ละ 4-5 เหรียญ เช่าห้องรวมอยู่อัดกันเป็น 10 ซึ่งผิดกฏหมายมาก ..แต่ก็ยังมีคนทำ ...คิดภาพคอนโดหนึ่งยูนิต มี 2 ห้องนอน...และห้องนั่งเล่นรวมยังมีคนเอาที่กั้นมากั้นนอนอีก ห้องแคบมากที่สุด...ระเบียงหน้าต่างคนก็ยังไปนอน 3-4 คน เราว่าคงได้เงินดีอยู่มั้ง แต่แลกกับสุขภาพและชีวิต มันก็แค่นั้นเอง ปีหน้าเพื่อนเราก็กลับมาแล้ว สุขภาพแย่มาก จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 05:58:56

ความคิดเห็นที่ 13 คิดถึงอนาคตหลังกลับมาจากต่างประเทศบ้างหรือเปล่าครับ หรือว่าคิดจะไปล้างจานทั้งชีวิต? คิดผิดคิดใหม่นะครับ อย่าเห็นแก่เงินก้อนระยะสั้น แล้วความภูมิใจของคุณ หน้าตาของประเทศเกิด .... อย่าลืมคิดด้วย สำคัญรึเปล่า ??? จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 08:59:17

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : อยากเขกหัวตัวเอง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 09:45:19

ความคิดเห็นที่ 15 ไปเป็นโจรน่ะเหรอ? หากินอย่างผิดกฏหมายแผ่นดินอื่นทำไมครับ ถ้าจะเป็นโจรปล้นร้านทองในไทยได้เงินเร็วกว่า จากคุณ : Schweissnaht (Schweissnaht) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 10:10:17

ความคิดเห็นที่ 16 พอดีเคยไปเรียนอยู่ที่อังกฤษมาน่ะคับ เคยทำงานไปเรียนภาษาไปแบบที่จขกท.พูดถึง โดยส่วนตัวผมคิดว่า เก็บเงินได้ยากนะคับ (หมายถึงเก็บเปนเรื่องเปนราว เยอะๆๆ) เพราะว่า 1 ค่าเงินอ่อนลงมาก (ที่อังกฤษนะคับ ที่AUSผมไม่ทราบเหมือนกัน)   ในขณะที่ค่าแรงเท่าเดิม ค่าเิงินอ่อน ค่าครองวีพขึ้นตลอด    ผมไปตอนปีที่มีวางระเบิดที่ลอนดอน ค่าแรงร้านอาหารไทย ทำ5โมงถึงร้านปิด5ทุ่ม ได้25ปอนด์ จนผมกลับไทย4ปีต่อมาก็ยัง25เหมือนเดิม แต่ค่ารถเมล์ขึ้นปีละ10% ค่าบ้านค่ากินอืนๆขึ้นแต่ค่าแรงไม่เคยขึ้น ค่าเงินลดอีก 2 ปีๆนึงพออยู่ไปวีซ่าหมด ก็ต้องเอาเงินที่เก็บมาเปนค่าต่อวีซ่า ค่าลงเรียนคอร์สใหม่ 3 การท่องเที่ยว พอไปเมืองนอกก็จะเที่ยวๆหาประสบการณ์ (ไม่ได้ไปกันบ่อยๆนี่เนอะ) 4 ซื้อของ พอไปอยู่ตปท.ก็จะบ้าซื้อของคับ ลดราคาทีก็ซื้อกันกระจาย ใช้เอง ฝากคนโน้นนี้ 5 บางคนไปติดการพนัน (นร.นี่ติดกันเล่นกันเยอะด้วยคับ) ---------------------------------- แต่ก็มีหลายๆคนที่เก็บเงินได้นะคับ แต่ก็ต้องแลกด้วยการไม่เที่ยว ไม่ซื้อ ไม่ไปไหน ทำงานตลอดวัน และทุกวัน ผมว่าอยู่ที่ใจหล่ะคับ .... ตั้งเป้าไว้ว่าจะไปทำไร ก็ต้องทำให้ได้ หลายคนบอกว่าเป้าคือไปเก็บเงิน แต่ก็ไปเีที่ยวมันซะทุกที่ ซื้อของมันทุกเทศกาล แบบนี้มันคงเก็บไม่ได้ ในขณะที่อีกคนอาจจะมีเงินเก็บ แต่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหน... จากคุณ : numkaochina (ikki) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 11:28:53

ความคิดเห็นที่ 17 ไอ้เรื่องกวดขันน่ะ มันกวดขันกันมาตั้งแต่ก่อนคนไทยจะไปอีกครับ และก็จะกวดขัน"มากขึ้นกว่าเดิม" แต่คนไทยก็จะไปกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยเหมือนกัน ไม่มีนัยสำคัญอะไร จากคุณ : lARtZnolASt เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 11:55:51

ความคิดเห็นที่ 18 ลืมไปอีกเรื่องนึง คือถ้าคุณตัวคนเดียว ไม่รู้จักใครที่นั่น ทางรร.จะจัดให้คุณพักอยู่กับครอบครัวชาวออสเตรเลีย 1 เดือนก่อน เพราะฉะนั้นก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องบวกเพิ่มเข้าไปอีกคือ ค่าที่พัก+อาหาร 3 มื้อคือ 240 เหรียญต่อสัปดาห์ 240x4x30 = 28,800 บาท ค่าจัดหาที่พักรวมค่าไปรับคุณที่สนามบินและส่งถึงที่พักอีก 260 เหรียญ 260x30 = 7,800 บาท (ราคานี้ผมเอามาจากเว็บไซต์ของรร.ที่ผมเคยเรียน คิดว่าที่อื่นๆก็คงไม่แตกต่างกันมาก) พอรวมกับยอดข้างบนก็สรุปแล้วคุณต้องมีอย่างน้อยๆ 400,000 บาทแน่นอนละ . . . บางคนที่มาถามผมเรื่องนี้ผมรู้ว่าเขา/เธอท้อแท้ ผิดหวังกับอะไรหลายๆอย่าง การได้ไปใช้ชีวิตเมืองนอกมันน่าดึงดูดครับหลายคนคงไม่ปฏิเสธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนไม่เคยไป พอมีคนมาแนะนำช่องทาง มาเสนอโอกาสให้ บวกกับใจที่พร้อมจะไปอยู่แล้วหลายคนก็เลยตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า บางคนเชื่อจริงๆว่าจะทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำร่ำรวยกลับมา บางคนก็อาจจะคิดว่าคงไม่ลำบากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้หรอก สุดท้ายแล้วที่ผมเห็นมาน้อยคนจะรุ่งเรือง ส่วนใหญ่จะพอเอาตัวรอดถูๆไถ่ๆไปได้ แต่บางคนถึงกับปางตาย จะว่าไปก็คงคล้ายๆกับการซื้อล็อตเตอรี่ ทุกคนรู้ว่ามีรางวัลอยู่ในนั้น แต่ไม่ใช่ทุกคนจะหยิมได้ถูกเลข ถูกเวลาแล้วคว้ารางวัลไป ผมก็หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณๆตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมกับตัวคุณเองนะครับ ผมจะเขียนต่อละ... แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 53 14:55:43 จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 14:52:51

ความคิดเห็นที่ 19 คุณเห็นค่าใช้จ่ายกันแล้ว ตอนนี้มาดูแหล่งรายรับกันบ้าง งานที่คนไปเรียนที่นั่นไม่ว่าจะชาติไหนทำกันก็คืองานใช้แรงงานต่างๆครับ ที่นิยมทำกันก็มีงานทำความสะอาด และงานร้านอาหาร บางคนอาจนึกในใจว่า “อะไรกัน มีงานแค่นี้เองเหรอ o_O?” จริงๆก็มีอีกครับเช่น งานนวด งานขับแท็กซี่, งานจัดของใน Supermarket, งานในไร่, งานโรงงาน, งานคีย์ข้อมูล, งานเก็บจาน หรือตักอาหารใน Food Court เป็นต้น แต่โอกาสบางคนจะได้งานพวกนี้เกือบเป็นศูนย์เพราะ... จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 15:16:06

ความคิดเห็นที่ 20 งานพวกนี้เค้าไม่รับนร.ที่มาเรียนช่วงสั้นๆ อย่างงานจัดของใน Supermarket กับงานคีย์ข้อมูล เพราะเค้าต้องฝึกสอนงานให้คุณก่อน ถ้าทำงานได้ไม่นานก็ต้องกลับแล้วเค้าก็ไม่อยากได้ บางงานไม่ใช่ว่าใครไปทำก็ได้เช่นขับแท็กซี่ คุณก็ต้องมีใบขับขี่ของรัฐนั้นๆ คุณต้องไปเรียนต้องไปสอบก่อน ส่วนงานโรงงาน, งานในไร่, งานใน Food Court ก็ทำได้แค่ช่วงปิดเทอมเพราะงานพวกนี้ทำตอนกลางวันซึ่งคุณต้องเข้าเรียน งานนวดพอจะมีลุ้นมากหน่อยถ้าคุณนวดเป็นแต่ก็เป็นงานกลางวันอีกเหมือนกัน “หมายความว่าหมดสิทธิ์ทำงานตอนกลางวันเลยเหรอ” อันนี้ขึ้นกับโชคด้วยครับ คือการเรียนภาษาจะเรียนแค่ครึ่งวัน แบ่งเป็นครึ่งเช้ากับครึ่งบ่าย ถ้าคุณโชคดีได้เรียนครึ่งเช้า คุณก็มีโอกาสไปหางานทำได้ทั้งช่วงบ่ายและค่ำ แต่ถ้าโชคไม่ดีรร.จัดให้คุณเรียนช่วงบ่ายคุณก็ทำงานได้แค่ช่วงค่ำ ยกเว้นคุณจะโดดเรียน แต่ก็เสี่ยงมากที่จะโดนไล่กลับก่อนกำหนด คงพอจะเห็นภาพกันแล้วนะครับว่าอุปสรรค์มันเยอะแค่ไหน :( และเมื่องานมีน้อยคนก็ต้องแย่งกันครับ เพราะฉะนั้นต้องทำใจไว้ด้วยนะครับว่าไปถึงเดือนแรกคุณอาจจะไม่ได้งานทำเลย ยิ่งสำหรับคนที่มีงบจำกัดด้วยแล้วนี่เครียดไม่น้อยเลย แนะนำให้นิดนึงว่าถ้าคุณตัดสินใจไปอยู่ที่นั้นแล้วพยายามทำความรู้จัก ผูกมิตรกับคนไว้เยอะๆ เพราะพวกเขาสามารถช่วยแนะนำงานให้คุณได้ แต่ก็เลือกคบคนด้วยนะครับไม่งั้นอาจจะเจองานเข้าได้เหมือนกัน จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 15:43:11

ความคิดเห็นที่ 21 ผมเคยไปอยู่อเมริกา 1 ปีตอนไปเรียนและทำวิจัยครับ อาศัยทำกับข้าวกินเอง ห่อไปกินที่ U   และชอบไปซื้ออาหารตอนห้าง Harris teeter ตอนห้างจะปิด จะได้ของราคาถูกมาก เช่นซื้อไก่ 1 ตัว แถม 1 ตัว, ไข่ไก่ 1 โหลราคาไม่ถึง 1 ดอลล่าร์ ผักก็กินกะหล่ำปลีหัวละ 0.5 เหรียญ เบบี้แครอท กับ บล๊อคคอรี่ก็ถูก น้ำผลไม้ก็ถูก ซื้อ 1 กล่อง แถม 1 กล่อง อาศัยเอาตัวรอดไป ข้าวสารก็ไปซื้อร้าน  asian store ของคนจีนเอา 5 lb ราคา 14 เหรียญได้มั้ง เอามาหุงกับไมโครเวฟ กินได้ 2 อาทิตย์ ถ้าอยากประหยัดเรื่องการกิน ยังไงทำอาหารกินเอง จะดีที่สุดแล้วครับ   อย่างที่อเมริกา ถ้าทำงานก็ต้องมี social security number เหมือนเลขประจำตัวประกันสังคมนี้แหละ สมัยก่อน ใครเป็นนักเรียนต่างชาติแล้วขอเลขนี้ ก็ได้กันเกือบทุกคน เดี๋ยวนี้ไม่รู้แล้วว่ายังแจกกันง่ายๆ อีกเหรอเปล่า เวลาจะไปทำงาน ก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องได้ work permit (หนังสือสัญญาจ้าง) จากนายจ้างเสียก่อน ถึงจะทำงานได้ จากคุณ : Christian Chang เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 15:47:58

ความคิดเห็นที่ 22 คิดดีๆ และหาทางรอดดีๆละกันครับ คนเราไม่มีหนทางก็ดิ้นรนกันไปครับ ถึงไปทำอาจจะไม่ถูกกฏหมายแต่ก็ของให้ทำงานสุจริตละกันครับ จากคุณ : CEO เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 16:11:00 A:124.120.49.69 X: TicketID:168968

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าทำงานเมืองนอกแบบที่ไปเรียนภาษาบังหน้า นี่อยากจะบอกว่าคิดผิดค่ะ 1. ไม่มีเงินเก็บ 2. เหนื่อย 3. เสี่ยงกับการโดนจับ ส่งตัวกลับประเทศ เราเคยทำงานเมืองนอกแบบที่เรียกว่า Expat หรือบริษัทส่งไปทำงาน ค่าอยู่ ค่าที่พัก ไม่ต้องจ่าย มีคนขับรถให้ เสียแต่ค่าอาหาร บางวันก็ไม่ต้องจ่าย เพราะทำกินเอง ไป supermarket อาทิตย์ละ 1 ครั้ง บางเดือนก็ เดือนละครั้ง ได้เบี้ยเลี้ยงต่างหาก แยกออกจากเงินเดือนที่ได้ประจำ กลับมาเก็บเงินได้มากอยู่นะ ไปทำงานแบบ Expat แบบนี้ถึงจะเก็บเงินได้ แต่ถ้าไปทำงานแบบเสี่ยงๆ ทำงานหนักๆ ค่าที่พัก ค่ากิน จ่ายเอง แบบนี้ ไม่น่าไปหรอกค่ะ จากคุณ : Mille-Feuilles เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 16:44:40

ความคิดเห็นที่ 24 สุดท้ายนี้ลองมาดูกันว่า คุณต้องทำงานมากแต่ไหนถึงจะมีเงินเก็บ ผมจะสมมุติให้คุณเป็นคนที่โชคดีมาก เมื่อไปถึงที่นั่นร้านอาหารที่เพื่อนคุณทำงานอยู่ก็ขาดคนทำงาน เพื่อนจึงชวนคุณไปทำงานด้วย คุณได้ทำงาน 3 คืนต่อสัปดาห์(จ, อ, พ) โดยได้ค่าแรง 40 เหรียญต่อคืน ค่าแรงงานในร้านอาหารอยู่ที่ประมาณ 40-50 เหรียญต่อคืน เริ่มงานประมาณ 5 โมง เลิก 4-5 ทุ่ม วันศุกร์เสาร์อาจถึงเที่ยงคืน แล้วรร.ภาษายังจัดให้คุณเรียนคาบเช้า 9 โมงถึงเที่ยง ซึ่งทำให้คุณสามารถทำงานเพิ่มได้อีกในตอนบ่าย (เดือนแรกคุณจะได้เงินจากงานนี้ 40*3*4 = 480 เหรียญ) สองอาทิตย์ต่อมาคุณก็ได้งานทำตอนบ่าย(พฤ, ศ) เป็นงานทำความสะอาดโดยการแนะนำจากเพื่อนของเพื่อนคุณ โดยทำ 2 หลังต่อสัปดาห์ หลังละ 3 ชม. ชม.ละ 20 เหรียญ (เดือนแรกคุณจะได้เงินจากงานนี้ 20*3*2*2 = 240 เหรียญ) รวมแล้วเดือนแรกคุณจะได้ (480+240)*30 = 21,600 บาท จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 19:23:22

ความคิดเห็นที่ 25 เดือนที่ 2 ร้านอาหารที่คุณทำงานอยู่เพิ่มค่าแรง และวันทำงานให้คุณเป็นคืนละ 50 เหรียญ สัปดาห์ละ 5 คืน (จ, อ, พ, ส, อา) เดือนที่สองคุณจะได้เงินจากงานนี้ 50*5*4 = 1,000 เหรียญ และคุณยังได้งานตักอาหารใน Food Court วันเสาร์ อาทิตย์ 10 โมงถึง 4 โมง ได้ค่าแรงวันละ 45 เหรียญ (งานนี้ทำเงินให้คุณได้ 45*2*4 = 360 เหรียญในเดือนนี้) เมื่อรวมรายได้จากงานทำความสะอาดเดือนนี้คุณก็จะได้ (1,000+360+480)*30 = 55,200 บาท จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 19:23:52

ความคิดเห็นที่ 26 เดือนที่ 3 คุณได้งานนวดตอนบ่ายวัน จ, อ, พ ชม.ละ 20 เหรียญ วันละ 3 ชม. เดือนนี้คุณจะมีรายได้จากงานนี้ 20*3*4 = 240 เหรียญ สรุปเดือนที่ 3 คุณจะได้เงิน (240*30)+55,200 = 62,400 บาท ถึงตอนนี้คุณก็แทบไม่มีเวลาเหลือแล้ว คืนวันพฤ,ศ ที่ยังว่างอยู่ถ้าคุณหางานได้ก็จะมีรายได้เพิ่มอีกนิดหน่อย เดือนที่ 4-6 ถ้าคุณยังทำเท่าเดิมอยู่ก็จะได้เงินเดือนละ 62,400*3 = 187,200 บาท สรุปแล้วถ้าคุณสามารถหางานทำได้ขนาดนี้ (ซึ่งความเป็นจริงแล้วเป็นไปได้ยากมากๆๆๆ) โดยไม่หยุด ไม่เจ็บ ไม่ป่วย โดยเฉพาะ 3 เดือนหลัง คุณก็จะทำเงินได้ 21,600+55,200+62,400+187,200 = 326,400 บาท เหนื่อยยากลำบากขนาดนี้แล้วอย่าว่าแต่จะมีเงินเก็บเลยครับ ยังไม่พอค่าใช้จ่ายเลย :( จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 19:24:46

ความคิดเห็นที่ 27 แล้วถ้าอยากจะทำให้มีเงินเก็บก็มีสองทางครับ 1. ลดคุณภาพชีวิตตัวเอง อาหาร ที่พัก การพักผ่อน 2. โดดเรียนไปทำงาน ซึ่งไม่แนะนำให้ทำทั้งสองทางนะครับ หวังว่าคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์คงจะเห็นภาพความเป็นไปได้กันชัดเจนขึ้นนะครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ ;) จากคุณ : jay_sung เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 19:34:33

ความคิดเห็นที่ 28 d จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 54 18:37:48

ความคิดเห็นที่ 29 ตอนนี้มีเพื่อนไปตกระกำลำบากที่เมกา 2 คนค่ะคนแรกบอกว่าจะกลับมาเมืองไทย คนที่ 2 บอกว่าถ้าไม่ได้ดีไม่กลับค่ะ ส่วนเราขออยู่เมืองไทยรับเงินเดือนเป็นเงินบาทกลับบ้านมากินข้าวกับแม่ทุกวันดีกว่าค่ะ จากคุณ : tootud เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 54 20:32:23

ความคิดเห็นที่ 30 แล้วมันต่างอะไรกับต่างด้าวพม่า  ที่มาทำงานเมืองไทยเหรอครับ จากคุณ : เทพบุตรแมงนูน เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 17:03:53

ความคิดเห็นที่ 31 คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า จากคุณ : กระบี่หัก หิมะเหิน เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 23:54:59

ความคิดเห็นที่ 32 มันไม่ได้สวยหรูอย่างที่คุณคิดครับ เอาของผมนะ เมกา 1ปี ไปแบบพิเศษหน่อยเพราะมีงานทำแน่นอน 1.ค่าเทอม เทอมละ 4500 ต่อ 4 เดือน ไปปีนึงก็ 4500 * 2 + ซัมเมอร์ อีก 3000 มั้ง ทั้งหมด 12000*40 (เรทตอนนู้น) 480,000 2.ค่ากิน ของผม ฟรี 3.ค่าเดินทาง ของผม ฟรี 4.ค่าที่พัก ของผม ฟรี 5.ค่าอื่นๆ ฟรีหมด เอาง่ายๆว่าทำงานหาค่าเทอมอย่างเดียว ทำงานร้านไทย ได้ทิปอย่างเดียว ร้านคนไม่เยอะมากก็ได้ทิปตกวันละ 1.50-60 แรกๆ ทำ 7 วัน = 350 ต่อ week ตีไป 400 เดือนนึง ได้ 1,600 2.หลังๆ ได้ไปทำอีกร้าน ขายดีกว่า ได้เพิ่มประมาน เป้น week ละ 450 ได้ประมาณ เดือนละ 1800 3.ต่อมาทำ 7 วันไม่ไหว เลยขอทำ 6 วัน รายได้ก้ลดมาเหลือ 1600   หักค่าเทอมไปแทบไม่เหลือเก็บแล้วครับ 20000 เหรียญ หักค่าเทอม 12000 เหลือ 8000 กรณีนี้คือ คุณต้องไม่เสียค่าใช้จ่ายอื่นๆเลยแบบผม ถึงจะมีเงินเหลือนะ ลอง + ค่าที่พักไป ก็ไม่พอแล้ว ถ้าจะไปเก็บเงินจริงมีทางเดียวคือเป็นโรบินฮู้ดอ่ะ จากคุณ : ไม่หมูนะครับ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 12:36:18