ความคิดเห็นที่ 1 ที่รู้ๆ มา เขาจะมีกฏเกี่ยวกับการเปิด-ปิดร้าน คือประมาณว่า จำกัดวันหยุด เคี่ยวกับเวลาพอสมควร (แต่อันนี้เข้าใจได้ คือมันจะดูไม่ดีหากลูกค้าเข้าห้างแล้วร้านไม่พร้อมน่ะ) จากคุณ : จะว่าไปแล้ว เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 16:36:08

ความคิดเห็นที่ 2 ขั้นตอนนะครับ 1. เราต้องส่งรูปแบบร้าน+สินค้าไปให้เขาพิจารณา 2. ถ้าสินค้าและรูปแบบผ่าน คือไม่ซ้ำกับคนอื่น , ไม่ทำให้เสีย image ห้างฯ เขาจะแจ้งกลับ นัดวันทำสัญญา + เงินประกัน 3. เรื่องวันหยุดส่วนใหญ่เขาจะไม่ให้หยุดนะครับ คือถ้าเราไม่ว่างก็ต้องหาคนมาขายแทน อันนี้ลองคุยดูเป็นครั้งไป 4.อื่นๆ รายละเอียดปลีกย่อยลองคุยดูได้ครับถ้าสินค้าผ่านแล้ว * แนะนำให้จ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือน ดีกว่าหัก GP (%) นะครับควบคุมงบได้ง่ายกว่า คิดว่าคงช่วยได้บ้าง ขอให้โชคดีกับธุรกิจใหม่นะครับ จากคุณ : pataprin (pataprin) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 06:17:41

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยกับ คห 1 กับ 2 ค่ะ ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมนะคะ  ค่อนข้างยาวสักหน่อยค่ะ 1.ดูว่าพื้นที่ที่ต้องการขาย  อยู่ส่วนไหน  ใครเป็นผู้ดูแล  เช่นฟู้ดคอร์ดเป็นร้านอาหารในล็อก ,เป็นเทคโฮม  หรือเป็นคีออส หรือเป็นร้านอินเตอร์ฟู้ดส์ ห้างจะแยกคนดูแลอย่างชัดเจนค่ะ ถ้าสนใจเทคโฮม ก็โทรเข้าไปที่ห้าง  ฝ่ายจัดซื้อ ถามเค้าว่าอยากเช่าพื้นที่โซนไหน ต้องติดต่อ จัดซื้อคนไหนค่ะ 2.ถ้ามีพื้นที่ว่าง  หรืออาจไม่มี  แต่ยังเปิดรับพิจารณาในกรณีที่เผื่อมีพื้นที่ว่างในอนาคต เค้าจะ เชิญเราไปกรอกใบสมัคร  นำเสนอสินค้า  หรือนำสินค้าไปทดสอบ  ชิมหรือดูคุณภาพและรสชาติ 3.ในกรณีพื้นที่เต็ม  และไม่รับพิจารณา  อย่าเพิ่งท้อค่ะ คนคุยกับเราอาจเป็นแค่เพียงคนเดียวที่ รับผิดชอบส่วนเดียวเท่านั้น   4.จุดโปรโมชั่นลงง่ายที่สุด ในกรณีที่พื้นที่อื่นไม่ว่าง  เป็นจุดที่อยู่ในทำเลที่ดี  ถ้ามีกำลังในการ ขนย้าย และสินค้าไม่มากเหมือนร้านใหญ่ๆ ก็ขอเล่นรายการโปรโมชั่นชิมลางก่อนค่ะ  คนรับ ผิดชอบก็จะเป็นอีกส่วนหนึ่ง   5.เงื่อนไขตามห้างกำหนด   มีทั้ง income sharing หรือ coupon เป็นเครดิต และค่าเช่าพื้นที่ เราเก็บเงินเอง   แล้วแต่โซนที่ห้างกำหนดค่ะ  เงื่อนไขต่อรองได้ในกรณีที่ห้างเชิญมา คือ ต้องการเรามาขายมากๆ ก็ได้เปรียบในการต่อรอง  แต่ถ้าเรามาขอขาย  จะต่อรองยากค่ะ   6.อาหารต้องการขายอะไรเพิ่มตามใจชอบไม่ได้ค่ะ  สมมตว่าเราขายข้าว  แล้วต้องการเพิ่มน้ำ   ห้างจะไม่ให้  เพราะ เปอร์เซ็นต์ของน้ำ  มากเกือบเท่าตัวของร้านอาหารค่ะ  ส่วนมากห้างจะ ขายเอง  เพราะทำโปรโมชั่นและได้เงินอุดหนุนจากบริษัทน้ำดำ มากโข จนน่าตกใจค่ะ   หรือไม่ก็เป็นร้านอินเตอร์ฟู้ดขายรวมในเซ็ทอาหาร 7.ข้อมูลเพิ่มเติม คอฟฟี่เบคเขียนไว้ลองหาอ่านดูนะคะ  ค่อนข้างยาวค่ะ 8.ถ้าได้ลงขายแล้วต้องการเพิ่มสินค้า  ต้องทำการนำเสนอ และทดสอบสินค้าเพิ่ม 9ต้องเปิดขายทุกวัน  หยุดไม่ได้ ถ้าหยุดจะถูกปรับเงิน และหากเกิดขึ้นหลายครั้งก็พิจารณา ไม่ต่อสัญญาการขาย  มาสาย ก็โดนหักเงิน มาเร็วกลับไม่โดนค่ะ 555   ขายดีของหมด ก่อนก็ไม่ได้  จะถูกเตือน 10.ถ้าไม่ใช่ร้านอินเตอร์ฟู้ด  ต้องเสียค่าใช้จ่ายเรื่อง ชุด ถุง ค่าน้ำ ค่าไฟเพิ่ม  ถ้าเป็นร้านถาวร ต้องเสียค่าประกัน ค่ามัดจำร้านบางทีก็เรียกว่าค่ามัดจำเฟอร์นิเจอร์  ค่อนข้างสูง 11.ถ้าลงขายเป็นเครดิต ต้องพร้อมเตรียมงดสดหมุนเวียนยิ่งขายดีต้องใช้เงินหมุนเวียนและเงิน จมอยู่ในระยะแรกกับห้างสูง 12..เงื่อนไขแต่ละห้างไม่ต่างกันเท่าไหร่ค่ะ   13.บางห้างยกพื้นที่เป็นคีออสคล้ายรถเข็นให้กลุ่มออกาไนเซอร์ข้างนอกเป็นผู้ดูแล เค้าจะหา คนมาขายเอง  แบบนี้เราต้องติดต่อกับออกาไนเซอร์ค่ะ ไม่ต้องติดต่อกับห้าง  แต่เค้าจะเก็บค่าเช่าเรา และเป็นตัวกลางประสานงานให้  ลักษณะแบบนี้ต้องรองสอบถามกับร้านค้าที่ตั้งขายว่าเช่าอยู่กับใคร อาจช่วยได้ไม่เยอะ  แต่รู้เขารู้เราบ้างนิดหน่อยก็ยังดีนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ สุดท้ายแล้วการขายในห้างก็มีข้อดีหลากหลายเหมือนกันค่ะในภายใต้ข้อเสียต่างๆ แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 53 10:49:35 จากคุณ : CoffeeBake เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 10:44:43

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนเลยนะครับ คุณ CoffeeBake ผมเข้าไปอ่านใน blog เรียบร้อยครับ มีประโยชน์มากๆ เลยครับ ขอบคุณนะครับ ^^ ขอถามเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ 3.ในกรณีพื้นที่เต็ม  และไม่รับพิจารณา  อย่าเพิ่งท้อค่ะ คนคุยกับเราอาจเป็นแค่เพียงคนเดียวที่ รับผิดชอบส่วนเดียวเท่านั้น   ---- ถ้าเกิดกรณีนี้ เราต้องทำอย่างไรครับ ตั้งตารอต่อไปหรือป่าวครับ 6.อาหารต้องการขายอะไรเพิ่มตามใจชอบไม่ได้ค่ะ.... ---- เราสามารถเสนอขายสินค้า2ประเภทได้ไหมครับ คือผมตั้งใจจะขาย เครื่องดื่มนม และ ขนมปังนม (ทำใหม่ สดๆ ทั้งคู่) คือที่ผ่านมาสังเกตุเห็นแต่ร้านขายของ 1 อย่างอ่ะครับ ไม่ก็ขายกาแฟและมีขนมห่อเล็กๆขายคู่กัน เลยไม่มั่นใจว่าจะขายของสองสิ่งที่ทำใหม่ๆ ได้ในร้านเดียวได้น่ะครับ ---- เราสามารถยื่นภาพร่างให้ทางห้างพิจารณาโดยไม่จำเป็นต้องเป็นภาพร้านจริงได้ใช่ไหมครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : sCoP เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 13:11:31

ความคิดเห็นที่ 5 ค่าเช่าแพงนะไหวหรือครับ จากคุณ : ชายเซอร์ๆ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 21:20:41

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีค่ะคุณ sCoP   3.ในกรณีพื้นที่เต็ม  และไม่รับพิจารณา  อย่าเพิ่งท้อค่ะ คนคุยกับเราอาจเป็นแค่เพียงคนเดียวที่ รับผิดชอบส่วนเดียวเท่านั้น   ---- ถ้าเกิดกรณีนี้ เราต้องทำอย่างไรครับ ตั้งตารอต่อไปหรือป่าวครับ *************************************** ตอบ สมมติใน 1 ฟูดส์คอร์ด มีคนดูดังนี้นะคะ     ร้านอาหารเป็นห้อง 1-2 คน ร้านเทคโฮมที่เป็นพาเดชั่นกั้นรวมกันเป็นกลุ่ม 1-2 คน ร้านอาหารโปรโมชั่น 1 คน ร้านอินเตอร์ฟู้ดส์ 1-2 คน ร้านค้าเช่าพื้นที่ 1-2 คน สมมติว่าขายอาหาร ถ้าติดต่อไปที่จัดซื้อร้านอาหาร แล้วบอกว่าเต็ม  เงื่อนไขร้านอาหาร สามารถติดต่อกับคนที่ดูแล เทคโฮม ...ร้านอาหารโปรโมชั่น...ร้านค้าเช่าได้  .บางห้าง หน้าที่ดูแลร้านค้าทับไลน์กันก็มีค่ะ  เวลาทำงานบางคนเค้าไม่มีพื้นที่ว่างให้  แล้วเค้า ไม่ส่งงานต่อเนื่องกันก็เยอะนะคะ  ลองติดต่อไล่ไปดู  ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายถึงว่า ทำตามที่คอฟฟี่เบคบอกแล้วต้องได้ลงขายนะคะ  องค์ประกอบมีหลายอย่างมากๆ ค่ะ   6.อาหารต้องการขายอะไรเพิ่มตามใจชอบไม่ได้ค่ะ.... ---- เราสามารถเสนอขายสินค้า2ประเภทได้ไหมครับ คือผมตั้งใจจะขาย เครื่องดื่มนม และ ขนมปังนม (ทำใหม่ สดๆ ทั้งคู่) คือที่ผ่านมาสังเกตุเห็นแต่ร้านขายของ 1 อย่างอ่ะครับ ไม่ก็ขายกาแฟและมีขนมห่อเล็กๆขายคู่กัน เลยไม่มั่นใจว่าจะขายของสองสิ่งที่ทำใหม่ๆ ได้ในร้านเดียวได้น่ะครับ ---- เราสามารถยื่นภาพร่างให้ทางห้างพิจารณาโดยไม่จำเป็นต้องเป็นภาพร้านจริงได้ใช่ไหมครับ ************************************************************** ตอบ  เริ่มต้นนำเสนอ จะขายอะไรตามความเป็นจริงเสนอได้เลยคะ  ถ้าอันไหนไม่ได้ หรือไปกระทบร้านค้าที่มีขายเหมือนกัน ห้างจะแจ้งให้ดึงรายการนั้นออกเองค่ะ   ที่คอฟฟี่เบค บอกหมายถึง ถ้าลงขายแล้วจะขายอะไรหมายถึงต้องส่งพิจารณาเพิ่มประมาณนี้ค่ะ --- เราสามารถยื่นภาพร่างให้ทางห้างพิจารณาโดยไม่จำเป็นต้องเป็นภาพร้านจริงได้ใช่ไหมค ขั้นตอนนี้ควรทำเป็นอย่างยิ่งค่ะ  ลองอ่านหัวข้อ  Proposal ดูนะคะ บางทีไปติดต่อห้างจะบอกว่า ให้ไปทำตัวนี้มาให้ดูค่ะ  อ่านไล่ไปตามนั้นเลยนะคะ   ถ้าติดต่อทั้งหมดแล้วยังไม่ได้ ลองยื่นข้อเสนอนี้ให้ห้างนะคะ บอกว่า เรามี proposal ร้านขายอะไรก็ว่าไป มานำเสนอ ขออนุญาตเข้าไปพรีเซ้นต์  เงื่อนไขเช่าหรืออะไรให้ข้ามไปก่อน ให้ถูกตากรรมการ แล้วค่อยคุยเรื่องการลงขายได้ค่ะ  บางทีถ้าถูกใจและเป็นสินค้าที่กำลังต้องการเค้าจะรีบหาพื้นที่ให้ แม้ว่าปากบอกว่าพื้นที่ไม่ว่างก็ตามค่ะ   ถ้าproposal เราไปอยู่ที่เค้าแล้ว  ถ้ามีพื้นที่ว่างและประกอบกับเป็นสินค้าที่ต้องการเค้าจะเรียกเรามา คุยจากเอกสารที่เราส่งไปค่ะ   ปัจจุบันร้านค้ามีมากมายที่ต้องการขายในห้าง  บางร้านผิดหวัง สมหวัง แต่สังเกตุดีๆ นะคะ ไม่มี ร้านไหนอยู่ยาวอยู่ยงคงกระพันค่ะ ร้านแปลกใหม่มาเปลี่ยนเวียนไปมาอยู่เรื่อย สร้างความแปลกใหม่ ภายใต้คอนเซปที่เค้าต้องแข่งกับคู่แข่งขันตลอดเวลา   ถ้ามีโอกาสลองพยายามสร้างแบรนด์ของเรา เองจากข้างนอก  เมื่อดังแล้วอยากเข้าไปขายในห้างก็ง่ายกว่าและต่อรองได้ด้วยค่ะ  อีกทางเลือกนะคะ ปล ร้านค้าที่เดินเข้าไปสมัครเพื่อขาย มีสิทธิ์ได้ลงขายประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นค่ะ และถ้ายิ่งเป็น สาขาใหญ่ทำเลดี  ส่วนมากห้างเป็นผู้เข้าหาร้านค้าค่ะ   แนะนำว่าดูทำเลที่อื่นควบคู่ไปด้วยอย่าตั้งความหวังพุ่งเป้าที่ห้างอย่างเดียวค่ะ ขอให้ประสบความสำเร็จนะคะ และค่าเช่าก็สูงมากๆ แบบ คห บนบอกค่ะ   ยกตัวอย่าง ขนมคัสตาร์ดสอดไส้ของเกาหลียี่ห้อหนึ่งใช้พื้นที่ เมตรครึ่ง ค่าเช่าประมาณ สามหมื่น + vat ค่ะ มีสูงกว่านี้เป็นเท่าตัวหรือมากกว่าก็มีค่ะ  (เป็นค่าช่า) เป็นการอธิบายเพียงหนึ่งความคิดเห็นจาก คอฟฟี่เบคค่ะ  ลองหาข้อมูลจากหลายแหล่งดูนะคะ  อย่าเชื่อหมดค่ะ จากคุณ : CoffeeBake เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 10:07:16