|
มาแชร์ ประสบการณ์ครับ ไม่เคยขายเสื้อผ้าเหมือนกัน แต่พอรู้มาบ้าง ไม่ถูก 100% นะครับ
ธุรกิจขายเสื้อผ้าส่งลงทุนหลายล้านมั๊ย และโอกาสเจ๊งสูงหรือเปล่าครับ
= โอกาสรุ่งกับร่วงผมว่าพอๆกันครับ แน่นอนที่ ธุรกิจ ตัวนี้ไม่ต้องอาศัยดวงเลยครับ อาศัย
1 ทำเล ต้องอยู่ในแหล่งค้าส่ง แน่นอนถ้าคุณ ไม่มีล็อค ที่เซ้งค์ สิทธิขาดในแพลตินั่ม คุณต้องแบกต้นทุนค่าเช่า 55,000-100,000 บาทแน่นอน 55,000 บาทคือครึ่งล็อค ถ้าเต็มล็อค 100,000 บาท ส่วนคนที่ เซ้งค์สิทธิ์ขาดมาก็แบกต้นทุนที่ต่ำกว่าแน่นอน แต่ตรงนี้ไม่ใช่ปัจจัยหลักเท่าไหร่
2 กลุ่มลูกค้า แน่นอนว่า พวกที่อยู่ได้และขายดีมักมีลูกค้าประจำ โดยส่วนมาก นิตยสารวัยรุ่นนั้น มักจะลง แบรนด์เสื้อผ้าในหนังสือ อาทิ cheez เป็นต้น การที่เขามีลูกค้าประจำได้แสดงว่า ถ้าสินค้าไม่ดี หรือการตลาดไม่ดี ไม่รู้แทรนด์แฟชั่น ที่เปลี่ยนไวเหมือนโกหก เค้าคงอยู่ตรงนี้ไม่ได้ และแน่นอนว่า ต้องรู้จักแฟชั่นพอสมควร มีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงตามตลาด เว้นแต่จะ ออกแบบเสื้อผ้าเป็นแนวๆไปเลย เช่น จบ ศิลปาการ ออกแบบเสื้อยืด เพ้นท์ลาย อินดี้ ทำแบบเอง เก๋ไม่ซ้ำใคร ผลิต ไอค่อนตัวการตูน ของตัวเอง ผลิด กล่องใส่เสื้อเก๋ๆๆ เพราะถ้าสินค้าคุณตามเทรนด์มากจนเกินไป ก็จะซ้ำๆกับร้านอื่นๆ คราวนี้ คุณต้องมาแข่งเรื่องราคา แน่นอนว่า ถ้า คุณไม่มีโรงงาน หรือ ไม่มีล็อคที่เซ้งค์สิทธิ์มาตั้งแต่เดิมคุณต้องขายสินค้า ในราคาที่แพงกว่า ซึ่งการขายที่แพงกว่า ทำไห้ขายได้น้อยชิ้นกว่า
3 คุณไม่จำเป็นต้องมีโรงงาน แต่ถ้ามีโรงงานเป็นของตัวเองจะได้เปรียบมากๆ
4 ถ้าจะขายเสื้อผ้าเกาหลี ผมบอกตรงๆเลยครับ made in korea , made in jpan ถ้าไม่ใช่แบรนด์ ตามห้าง พวกนี้รับมาจาก กวางโจว และ เสินเจิ้น ทั้งนั้นครับ สินค้า ถ้ารับจีนมา มี มากกว่า 5 เกรด ง่ายๆ 1a-2a-3a-4a-miror ดังนั้น ถ้าคิดว่าสินค้าจีนไม่ดี ไม่จริงครับ มีทั้งดีและไม่ดี แต่ การกำหนดตรงนี้อยู่ที่ แหล่งขายสินค้า เช่นถ้าขายสยาม คุณต้องเอาเสื้องานจีนเกรด miror มาขายใช่มั้ยครับ แต่ในทางกลับกัน ตะวันนาคุณต้องเอาเสื้องานเกรด 1a มาขายไงครับ กลุ่มผู้ซื้อ ต้นทุนสินค้าครับ อย่างเช่นรองเท้า แบบเหมือนกันหมด แต่ ใช้วัสดุต่างกัน ต้นทุนย่อมต่างกัน
ช่องทางการจำหน่าย จำเป็นมั๊ยครับที่เราต้องมีหน้าร้านที่แพลตตินั่ม แล้วคืนวันศุกร์เราต้องไปเช่าร้านที่สวนจตุจักร เพื่อให้แม่ค้าต่างจังหวัดมา ซือไป
ไม่จำเป็นครับ ถ้าสินค้าของคุณสวยจริงๆ แค่เปิดขายยูเนี่ยนมอลด์คุณก็ขายไม่ไหวแล้วครับ เพราะการขายส่งนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่ที่แพลตินั่มอย่างเดียว เพียงแต่ แพลตินั่ม นั้น จะเหมาะกับการขายส่งมากกว่า แค่นั้นเอง เพราะ ถ้าสินค้าคุณสวยจริงๆ เปิดยูเนี่ยนมอลด์ก็สามารถมีคน มารับสินค้าขายส่งจากคุณได้ ด้วย การขายผ่านช่องทางทางอินเตอร์เน็ต หนังสือ อย่างที่บอก เการตลาดไม่ได้มีช่องทางเดียว สมัยนี้ อินเตอร์เน็ต การบอกปากต่อปาก หนังสือนิตสาร เพราะการเปิดขายบนแพลตินั่มนั้น มีมากกว่า 5,000 ร้านค้า ถ้าสินค้าไม่เจ๊งจริง ก็จะถูกมองผ่านไปง่ายๆครับ ห้างใหญ่ขนาดนั้น เดินดูของ 2 วัน ยังไม่ทั่วเลย ถ้าดูแบบเก็บรายละเอียดจริงๆ
3. การลงทุนต้องใช้เงินเริ่มต้นประมาณกี่ล้าน และต้องมีเงินทุนหมุนเวียนประมาณเท่าไหร่ ที่ผมกะเอาก็มีดังนี้
- ค่าเช่าร้านที่แพตตินั่ม
สมัยก่อน เซ้งค์กัน 7 ล้านบาท ปัจจุบัน ราว 30 ล้านบาท กรณีจะเซ้งค์นะครับ (ชั้น1 และ 4 มั้งจำม่ได้ เพราะเพื่อนมีล้อคอยู่) ไม่อยากเนาะนำ เสี่ยงมาก - ค่าเช่า 55,000 บาท เอาล็อคใหญ่มาซอยเป็น 2 ล้อคเล็ก - ค่าเช่า 100,000 บาท เอาล็อคใหญ่เลย - ค่าเช่าที่ร้านที่สวนจตุจักรคืนวันศุกร์ อันนี้ไม่ทราบจริงๆครับ แปต่ถ้าเรทอัตราค่าล้อค 9,000-15,000 บาทแล้วแต่ทำเล แต่ถ้าเซ้งค์ ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้าน สัญญาหมดปีหน้า แล้วต่อใหม่ จ่าย แค่ค่าเช่าแผง 222.03 บาทต่อตารางเมตรต่อปี ค่าธรรมเนียมการเช่าแผงเก็บเพิ่มอีก 120 บาทต่อเดือน
- ค่า Productคือเสื้อผ้าที่ขาย
ถ้าสินค้าคุณ ขายดี ปริมาณการผลิตมาก ย่อมมีต้นทุนตรงนี้มากครับ แต่เงินก็หมุนไวเหมือนกัน - รถปิกอัพอัพมือสองสำหรับขนส่งเสื้อผ้า
ราคารถนั้น มีตั้งแต่ 1-4 แสนบาทครับ แล้วแต่ว่าคุณจะซื้อแบบไหน
คร่าวๆที่นึกได้ รวมๆแล้วต้องใช้เงินเท่าไหร่ครับ
ลองดูครับ ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆคือ คุณต้องดีโรงงานที่ มีงานฝีมือการตัดเย็บที่ดี ,ดีไซเน่อร์เก่งๆ , การตลาดที่ดี , เงินทุนที่ หนา พอที่จะประคองตัวเอง ในกรณีที่ 3-5 เดือนแรก , ทำเลที่ดี เพราะช่วงแรก คนยังไม่รู้จัก ต้องแบกตรงนี้ไปก่อน เพราะ แฟชั่นเสื้อผ้านั้น ไปไวมาก การแข่งขันสูง มีขึ้นมีลง มีเสื่อมความนิยม ถ้าเสื่อมวันไหน หมายถึง แบรนด์คุณตาย ต้องทำแบรนด์ใหม่ ผ้าผมเลือกทำ ผมจะไม่ทำโดยเด็ดขาด และเท่าที่เดินเล่นแพลตินั่มนั้น ยังมีสินค้าอีก 1-2 กลุ่มที่ ไม่ค่อยมีคนขาย เท่าที่เห็นมี3-4 ร้านเอง
จากคุณ |
:
kitagawa_keiko
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ม.ค. 54 12:05:16
|
|
|
|
|