ความคิดเห็นที่ 1 จริงครับ แต่ก็ไม่ใช่ทุกบริษัท จากคุณ : Q (QDora) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 03:55:17

ความคิดเห็นที่ 2 เพิ่งเคยได้ยิน จากคุณ : นักการตลก สีหวาน (Dr. Will) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 05:25:22

ความคิดเห็นที่ 3 ค่อนข้างจะจริง จากคุณ : Flaminio เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 06:17:22

ความคิดเห็นที่ 4 มันไม่ใช่สูตรสำเร็จ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ เพราะมีเพียงหน้าที่ตำแหน่งเท่านั้น ที่ต้องการความเก๋า ความสุขุม อายุงานที่มาก และความเชี่ยวชาญเฉพาะที่สร้างกันใหม่ไม่ได้ ตำแหน่งงานส่วนใหญ่ต้องการประสบการณ์และความสามารถอย่างมากไม่เกิน 10 ปี จึงทำให้คนที่มีคุณค่าต่องานสูงที่สุดมักอยู่ในช่วงวัยตั้งแต่ 30-35 ปี หลังจากนั้น เนื่องจากอายุที่มากขึ้น สมรรถภาพที่ลดลงตามอายุของสายตา กล้ามเนื้อ ความคล่องตัว ความสามารถของคนจึงมีแต่ decline ไม่ได้เพิ่มขึ้นอีกแล้วหลังอายุ 35 ปี สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ technology และความรู้ที่เกิดขึ้นตามยุคสมัย เช่น คอมพิวเตอร์ เป็นเรื่องจริงที่แม้แต่วิศวกรคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมเมอร์ที่เรียนจบเมื่อ 15 ปีที่แล้ว และไม่ได้เพิ่มพูนความรู้ตัวเอง ย่อมมีสมรรถภาพและความรู้สูงเท่ากับคนที่เพิ่งจบใหม่ไปไม่ได้ เพราะมี technology และความรู้เกิดใหม่มากมายตลอดเวลา คนที่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ ย่อมมีความรู้หลากหลายมากกว่า และต่อยอดได้ดีกว่าคนที่เรียนจบมานานแล้ว ถ้าบริษัทประสบปัญหาขาดทุน หรือมีพนักงานอายุเกิน 35 เป็นจำนวนมาก ผู้บริหารย่อมเริ่มความคิดที่จะถ่ายโอนคนเก่าๆ ออกไปอย่างแน่นอน จากคุณ : ยินดีให้คำปรึกษา เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 06:54:53 A:124.120.148.59 X: TicketID:301933

ความคิดเห็นที่ 5 "มีจริงหรือครับที่พนักงานบริษัทเอกชน ต้องถูกกดดันหรือบีบให้ออกพออายุเกิน 40" จะมีจริงหรือไม่ จะลองยกสองตัวอย่างให้เปรียบเทียบดู หากเจ้าของกระทู้เป็นเจ้าของกิจการบริษัทจะทำอย่างไร 1. คนทำงานมาจนอายุระดับนี้ ประสบการณ์จะสูง เงินเดือนก็จะสูงตาม  หากเป็นคนมีความสามารถ มีมนุษย์สัมพันธ์ดี มีวิสัยทัศน์ ก็จะอยู่ในระดับหัวหน้า มีบารมีที่รุ่นน้องจะเกรงใจ จะสามารถสั่งการสั่งงาน บริหารบริษัทให้ก้าวหน้าได้ 2.แต่ถ้าเป็นคนไม่มีความสามารถ ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ ใหญ่เพราะอยู่นาน ให้ลองสั่งการสั่งงานดูก็ทำถูกๆผิดๆ  พอไม่ปรับตำแหน่งให้ก็โวยวาย ทีเรื่องเงินแล้วชอบเรียกร้อง แต่พอเรื่องงานกลับคิดไม่ออก  เวลาประท้วงบริษัทตัวเองชอบออกหน้า  แต่พอจะให้หาเงินเข้าบริษัทกลับหลบข้างหลัง ชอบคัดค้านรุ่นน้องที่เก่งกว่าไม่ให้ก้าวหน้า จนเขาลาออกไปสร้างความเจริญให้บริษัทอื่น จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 07:16:06

ความคิดเห็นที่ 6 ผมอยู่ในสายงานเอกชนมาตลอดทั้งเล็กและใหญ่ ที่คุณถามคงไม่เป็นแบบนั้นครับ ในองค์กรเอกชนการตั้งเป้าหมายจะต้องสอดคล้องกับผลสำเร็จ ในช่วงอายุหนึ่งที่คุณไฟแรงคุณจะทะยานเข้าหาได้ไม่ยากครับ แต่เมื่อถึงคราวที่คุณฟอร์มตก อาจจะด้วยปัญหาเกมส์การเมือง ปัญหาสุขภาพ ปัญหาเรื่องความเบื่อ หรือปัญหาครอบครัว เมื่อนั้นคุณก็จะถูกประเมินและถูกบีบโดยอ้อมครับ แต่ถ้าคุณรู้จักการปรับตัว เรียนรู้วัฒนะธรรมองค์กร คุณก็จะพัฒนาตัวคุณและเติบโตไปตามองค์กร คุณก็จะสามารถอยู่ได้ยาวหรือมีหนทางจากไปทำธุรกิจเองโดยที่คุณเองจะเป็นฝ่ายทิ้งองค์กรของคุณเองครับ จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 08:39:41

ความคิดเห็นที่ 7 บางบริษัทเป็นยังงั้นจริงๆ น้าผมก็ถูกบีบๆทางอ้อมจนต้องลาออกเอง ทั้งที่เงินเดือนอยู่ค่อนข้างสูงแล้ว (6-7หมื่น ตอนอายุ 38-39) เป็นบริษัททางยุโรปด้วย แต่ทังนี้ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองด้วยว่ามีความสามารถมากแค่ไหนต่อบริษัท จากคุณ : อืม ให้มันได้ยังงี้สิ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 09:06:06

ความคิดเห็นที่ 8 เท่าที่ผมเห็น พนักงานพวกนี้จะเป็นพวกที่... ไม่พัฒนาไปไหน มีระบบอะไรใหม่ๆเข้ามาก็ไม่เอา ให้ทำงานอื่นเพิ่มก็ไม่ทำ(แต่แน่นอนว่าเงินเดือนต้องเพิ่มขึ้นทุกปี) จนกระทั่งพนักงานในระดับเงินเดือนที่ต่ำกว่ามีความสามารถแซงไปแล้ว คำถามก็คือ เจ้าของกิจการหรือผู้บริหารควรจะทำยังไง เพราะเนื้อที่ไม่มีมากพอสำหรับทำพิพิธภัณฑ์ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 09:15:50

ความคิดเห็นที่ 9 มีจริงครับ ผมเคยเห็นจะ ๆ พี่เขาอายุ45ได้แล้วอ่าครับ ลูกโตจนทำงานแล้ว แต่พี่เขาไม่ค่อยมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเท่าไรนะครับ ด่าเก่ง คนไม่ชอบเยอะ ทำงานกับองค์กรมา 20 ปีได้แล้วอ่าครับ ตั้งแต่สมัยเจ้าของคนเก่าบริหารงานเกือบเจ๊ง จนเจ้าของคนใหม่มาเทคไป เป็นระดับผู้จัดการฝ่ายแล้ว แต่วุฒิ ปวช ปวส อะไรนี้เลยตัน สูงได้แค่นั้น โดนกดดันให้ออก บริษัทมหาชนชื่อดังครับ อยากรู้บริษัทไรหลังไมค์มาได้ จะได้ระวังตัวกันไว้ จากคุณ : สถานีชิดลม (รถด่วนลอยได้) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 09:29:54

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่เสมอไปหรอกค่ะ มันขึ้นกับความสามารถด้วย  ตราบใดที่คุณพัฒนาตัวไปได้สอดคล้องกับเป้าหมายบริษัท คุณก็จะยังก้าวหน้าต่อไปได้เรื่อยๆ คุณก็จะไม่ถูกบีบออก   บริษัทเราคนที่อายุมากๆอยู่มาเป็นยี่สิบปีจนเกษียณก็มีเยอะแยะค่ะ  แต่บางคนถ้าไม่สามารถตอบโจทย์ของบริษัทได้ก็มีสิทธิ์ที่จะโดนแบบนั้น Managaer ที่บริษัทท่านนึงทำงานที่นี่ตั้งแต่เรียนจบ จนตอนนี้ใกล้เกษียณ ท่านก็มาทำงานโดยที่จริงๆแล้วไม่มีหน้าที่ความรับผิดชอบอะไรชัดเจนนะคะ  มีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน  แต่หลายๆวันต่อสัปดาห์ท่านมีหน้าที่เดินไปดูพื้นที่ผลิตกับผู้บริการระดับสูงและให้คำแนะนำ ถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์ต่างๆให้ เพราะท่านอยู่มานานจนรู้ที่มาที่ไป ทุกซอกทุกมุมของบริษัท  ท่านก็อยู่ได้โดยที่ไม่ได้ถูกบีบ เพราะบริษัทถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าและทำประโยชน์ให้บริษัทมากมาย จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 09:54:38

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าเก่งจริงต่อให้ 60ปี เค้าก็จะจ้าง เป็นที่ปรึกษาไรก็ว่ากันไป จากคุณ : เด็กขงเบ้ง เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 10:21:15

ความคิดเห็นที่ 12 จริงค่ะ ( ย้ำเสียงหนัก ) บริษัทบางแห่งสภาวะการเงินในบริษัทย่ำแย่แล้ว แต่ภายนอกยังดูดี เป็นบริษัทมีชื่อเสียง แต่การ Turn Over สูงมาก ถ้าสังเกตในเวบหางานต่างๆจะเห็นว่า บริษัทนี้จะประกาศรับพนักงาน ระดับ Management บ่อยๆ เพราะต้องเอาคนเก่าออกไปเนื่องจาก ค่าตัวเริ่มสูงมาก เกิน 100K กันแล้ว ,,, และเค้าจะรับ Manager ใหม่ เข้ามาโดยจ่ายค่าตอบแทนครึ่งต่อครึ่ง ที่เล่าให้ฟังแบบนี้ได้ เพราะแฟนเราเจอมาแล้วค่ะ แผนกแฟนเราเคยมี Manager ถึง 10 ท่าน แต่ละท่าน เงินเดิอนเกือบแสน บ้างก็แสนกว่า ,, ตอนนั้นแฟนเราเพิ่งเข้ามาใหม่ๆ เลยได้แค่ 60K อยู่ๆไปบรรดา Manager เหล่านั้นก็ถูกกดดันให้ออกหมด !! รู้มั๊ยคะว่าเหลือแฟนเราคนเดียว ทำงานให้เค้าทั้งแหลมฉบังและระยอง ดูแลโรงงานในเครือให้เค้า 5 โรงงาน !! อดทนทำไปดีกว่าตกงาน ตลอดเวลาที่ทำงานมาเวลาประเมินผลงานได้เกรด A ทุกปี ( ดีใจมาก ) และปีนี้ทาง GM โทรมาหาแฟนเราแล้วและบอกว่า " ปีนี้ผมก็ให้คุณ A นะ" เตรียมปรับเงินเดือนอีก 5 % จะได้แตะ 100K กับเค้าซะที ก่อนที่จะถึงวันจ่ายโบนัส HR เข้ามาคุยด้วยบอกว่า " เขียนใบลาออกซะ จะได้โบนัส ถ้าไม่เขียนก็ไปตัวเปล่าๆ  " ใจร้ายมาก เค้าให้เหตุผลว่า แฟนเราไม่สามารถควบคุมการขาดลามาสาย ของลูกน้องได้ดีที่ควร ให้คะแนน 3 คะแนนจาก 4 คะแนน ทุกวันนี้เรากับแฟนถอดใจกับบริษัทนี้ไปเลย ทำงานให้หนักจริงๆ วันหยุดไม่เคยได้หยุด วันสงกรานต์ วันพ่อ วันแม่ ไม่มีได้หยุดเลยค่ะ อยากให้เข้ากะกลางคืนเพราะบริษัทลูกค้าเตรียม Mass Product แล้ว ก็ทำให้ได้หมด ไม่มีอิดออด เจ้าของบริษัทบอกว่า " รู้ว่าเหนื่อยนะ ช่วยๆกันหน่อย เสร็จงานนี้จะพาทั้งทีมไปเที่ยวสิงคโปร์ " ไม่ได้หวังอยากไปเที่ยวนะคะ เพราะรู้ว่าไม่มีทาง!! สุดท้ายเค้าซื้อ ข้าวมันไก่มาเลี้ยงแฟนเราและทีมน้องๆ Engineer , Technician คนละห่อ จากประสบการณ์การทำงานมา 15 ปีของแฟนเรา เค้าบอกเพิ่งเคยเจอที่นี่เป็นครั้งแรก !! อยากบอกให้เพื่อนๆรู้ว่า มันมีอยู่จริงค่ะ ( ไม่ได้โม้ !! ) แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 13:13:25 จากคุณ : ทะเลสีฟ้าจัง เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 10:43:44

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าความสามารถ ประสบการณ์เพิ่มตามอายุ ใครจะไม่อยากจ้าง? แต่ถ้าไม่พัฒนาตัวเอง อยู่ไปวันๆ ไม่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เงินเดือนเพิ่มเรื่อยๆแต่ความสามารถเท่าเดิม เอาเด็กจบใหม่มาสอนไม่นานก็ทำแทนได้ จะจ้างไว้ทำไม ? ก็เพราะระบบราชการจ้างคนแบบนี้ไว้เยอะไง ถึงได้มีปัญหาเยอะ จากคุณ : maxijojo123 เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 10:51:04

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่จริง สำหรับบริษัทที่ผมทำอยู่ครับ Sale Mgr. ที่นั่งข้างๆผมอายุ 55 แล้วไม่เห็นแกจะโดนอะไรเลย อีกคน Assist Mkt Mgr อายุ 50 ได้ก็ไม่เห็นจะมีวี่แววว่าจะโดนเด้งเลยครับ ผมว่ามันอยู่ที่วัฒนธรรมองค์กรมากกว่าครับ บางที่ให้ความสำคัญกับพนักงานมาก และเชื่อว่า พนักงานเป็นทรัพยากร ที่สำคัญของบริษัท กว่าจะได้คนมาทำงานแต่ละครั้ง ยากน่ะครับ กว่าจะเทรน กว่าจะรู้วัฒนธรรมองค์กร กว่าจะ... จากคุณ : 9ตะวัน เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:41:59

ความคิดเห็นที่ 15 คิดว่าคงแล้วแต่ที่ครับ คนแก่อาจเป็นที่ต้องการ หรือไม่ก็แล้วแต่จะมองครับ แต่ผมคิดว่าคนที่อายุมากขึ้นถ้ามีแผนสำรองไว้ก็ไม่เสียหายครับ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้กับชีวิตลูกจ้างครับ ต้องวางแผนการเงินไว้แต่เนิ่นๆ อาจลงทุนในตลาดหุ้น เก็บออม หรือคิดแผนธุรกิจส่วนตัวไว้ครับ บางทีคนเราเมื่อถึงเวลานั้นอาจจะคิด จะพูด หรือทำอะไรไม่ออกครับ ถ้ามันยังมาไม่ถึง ก็ต่อว่ากันได้ครับไม่ผิดอะไร วางแผนไว้ ชีวิตไม่ได้มีแต่งาน แต่งานคือสิ่งที่พิสูจน์คุณค่าของคน ที่สำคัญที่สุดคือจิตใจที่เป็นปกติ เมื่อคนออกจากหัวโขนในที่ทำงานอย่างสิ้นเชิง แล้วคุณจะรู้ว่าอะไรที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตครับ จากคุณ : นายแว่นธรรมดา เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 12:17:59

ความคิดเห็นที่ 16 จากประสบการณ์ของผมขอตอบว่ามีจริง และไม่จริงครับ ขึ้นอยู่กับว่า คุณทำงานในบริษัทไหนมากกว่า ผมเคยทำงานค้าปลีกมาสองที่ ที่แรก ตอนนี้เป็นของฝรั่งไปแล้ว เรื่องบีบคนเนี้ยต้องบอกว่า จริงครับ ถ้าคุณทำงานให้ฝรั่งไม่ได้ อย่าว่าแต่เงินเดือนเป็นแสนเลยครับ แค่เงินเดือนหมื่นนิด ๆ เค้าก็ให้ออก หรือประเมิณไม่ผ่านโปรให้เหมือนกัน แต่ถ้าใครทำได้ โปรโมทเงินเดือนเป็นแสน มีรถประจำตำแหน่งให้กันไปเลย ที่สอง เป็นบริษัทของตระกูลห้างใหญ่ของเมืองไทย แต่ผมทำในส่วนของ บริษัทอื่น แต่อยู่ในเครื่อ คือที่นี้เจ้าของงกมาก ถ้าใครเงินเดือนเกินเพดาน ต้องออกบีบให้ออกหมด ไม่มีการจ้างออกนะครับเพราะว่าต้องจ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งเงินเดือน ของ พนง.ที่บีบให้ออกนั้นก็แค่ หลักหมื่นเอง คือพวก พนง.เล็ก ๆ เค้าจะยอมจ้างไม่เกิน 2 หมื่น ระดับ manager ก็จะจ้างไม่ให้เกิน 3หมื่น หากใครที่เข้ามาใหญ่เกินกว่านี้ ต้องจัดการเอาออกให้หมด เพราะตอนที่รับมา ลูกชายเค้ายังไม่ได้เข้ามาดูแล แต่ตอนนี้ลูกชายเค้ามาดูแลกิจการแล้ว พี่แก สั่งบีบออกหมด ส่วนปัจจุบันผมทำที่บริษัท ที่พึ่งขายให้กับ ตปท.ไป ก็เริ่มๆ มีการริดรอดอำนาจระดับ CFO กันบ้างแล้ว ตอนนี้ก็มี ต่างชาติ เข้ามาบริหารกันเพิ่มมากขึ้นนเรื่อง ๆ แต่คนไทยก็ยังมากกว่า แต่ก็น้อยลดจำนวนลงเรื่อยๆ แต่ระดับ manager ที่นี้เงินเดือนสูงครับเกือบแสนกันทั้งนั้น แต่ก็ยังอยู่ได้เรื่อง ๆ ไม่มีการบีบให้ออก แต่อย่างใดครับ จากคุณ : เนจิ แห่ง โคโนหะ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 12:20:08

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าคุณสร้างคุณค่าสร้างกำไรให้บริษัทได้ เงินเดือนเท่าไหร่ อายุเท่าไหร่ เค้าก็จ้างครับ ที่โดนบีบออกก็เพราะว่าเงินเดือนเยอะ แต่คุณค่าน้อยกว่าเด็กที่มาหลัง ก็เท่านั้น เป็นความจริงที่คงต้องยอมรับครับ จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 15:02:25

ความคิดเห็นที่ 18 คห 9 กับ 16 เป็นบริษัทเดียวกันครับ ข้อมูลตรงกัน ทำเหมือนกัน จากคุณ : สถานีชิดลม (รถด่วนลอยได้) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 17:05:18

ความคิดเห็นที่ 19 ต่อให้คุณมีคุณค่าเขาก็ให้ออกครับ อย่าง SCG ถ้าไม่ห่วงเรื่องภาพพจน์ก็คงต้องเอาคนออกเหมือนกัน อย่างเพื่อนผมอายุตอน 30 ต้นๆรับเงิน 70000 บาทเพราะเขาเอาคนเก่าอายุ 35 ออกที่เงินเดือน 85000 พอเพื่อนผมได้สัก 4ปีก็ให้ออกเหมือนกัน เพื่อนเอาเด็กใหม่กว่ามาทำแทน จากคุณ : กัดจัง เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 18:15:00

ความคิดเห็นที่ 20 รู้แต่ว่าฝ่ายผลิตที่เข้ากะ อยู่ไม่เกิน 35 โดนออกหมด เพราะทำไม่ไหว จากคุณ : chet123654 เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 20:23:34

ความคิดเห็นที่ 21 มีจริงครับ จากประสบการณ์ที่ผมเคยพบมา บางทีถึงแม้คุณจะเก่งแค่ไหน แต่ก็มีปัจจัยภายนอกบางอย่างที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ครับ จากคุณ : ko_oasis เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 23:40:15

ความคิดเห็นที่ 22 อุทาหรณ์นี้ สอนให้รู้ว่า จะเงินเดือนกี่หมื่นกี่แสน ก็ของเค้า มีคนอยู่เหนือหัว ทำให้เงินนั้นหายวับไปได้ แต่ ยืนบนขาตัวเอง กิจการตัวเอง จะพัน หมื่น ...แสน อยู่ที่เราจะทำ ช่วงไหนเหนื่อยก็ ทำน้อย แต่ลูกค้ายังอยู่ใต้ความภักดี ต้องมี tricks ผลงาน การผูกใจ ลูกค้า สำคัญว่า ลูกค้า หากแม้มีกบฏ คนที่สร้างปัญหา ก็เอาออกไปได้ ทำงานเป็นลูกจ้าง มีคนเอาเราออก ทำงานเป็นเจ้าของกิจการ แบบทำเองคนเดียว ลูกค้าเป็นผู้หมุนเวียนเปลี่ยนแทน คนที่มีสัมพันธ์อันดี จะเวียนส่งคนที่มีพลังการจ่ายแน่นๆแรงๆมาแทน เมื่อจากไป เราแขวนนวมจากวงการเดิมกว่า 3 ปีแล้ว  มีเทียบมาล่อกลับทุกปี ล่าสุดวานก่อน 5,000 usd/ เดือน onshore ต่างประเทศ คิดดูแล้ว จะกลับไปใช้ชีวิต อกสั่นขวัญแขวน ให้ใครเฉดหัวออกทำไม กว่าจะฝ่าฟัน ปรับ กฏ กติกา สร้างความภักดี คัดเลือกลูกค้า ชั้นเยี่ยม จนอยู่คู่กันมาสี่ปีวันนี้ ไม่ได้ฟลุค ไม่ได้ข้ามวัน เริ่มธุรกิจ อีกครั้งอาจไม่ดัง เฮง เหมือนวานก่อน ยืนอยู่ในร่มจักร์ตัวเองดีแล้ว... ความยั่งยืน อยู่ที่ตัวเราทำเอง... ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่มีใครมาอยู่เหนือหัวเราได้ จากคุณ : kuddle เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 01:22:39

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณครับ ผมเองเพิ่งจะได้งานรัฐวิสหกิจด้านไฟฟ้าครับ ผมเป็นวิศวกรครับ แต่ใจนึ่งอยากจะออกมาเรียนการเงิน แล้วไป fight ในธุรกิจนั้น ซึ่งผมรู้ทั้งรู้ครับว่า การแข่งขันสูงมาก 1 ในตองอูเท่านั้นจะอยู่รอด แต่ผลตอบแทนจะสูงมาก แต่อยู่นี่อารมณ์มันเปื่อยๆครับ แต่เค้าว่ากันว่ายาวๆแล้วก้อได้ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ ( ผมก้อฟังเค้ามานะครับ T_T) พ่อแม่เองก้อรับราชการมาก่อน ก้อเลยอยากให้ทำตรงนี้ ยังงัยก้อขอบคุณมากๆครับ :)) จากคุณ : จขกท (The Sleeping Prince) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 03:00:44

ความคิดเห็นที่ 24 โอ้ พระจ้าช่วย เห็นใจ คุณ  ความคิดเห็นที่ 12 จริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 11:36:52

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้ามีทั้งจริงและไม่จริง ผลสรุปก็คือมีจริงครับ เหตุผลก็ตาม คห ด้านบนเลยครับ สำหรับความคิดผม บริษัทที่ดีคือให้สิ่งที่พนักงานควรจะได้รับครับ เคยดูหนังเรื่อง Up in the air ไหมครับ พระเอกทำหน้าที่รับจ้างไล่พนักงาน ตามบริษัทออก " ผมทำงานให้บริษัทมาเป็นสิบๆปี นี่คือสิ่งที่ผมได้รับเหรอ " พนักงานคนนึงในหนังที่โดยไล่ออกพูด ฟังแล้วจื้ดครับ เราทุ่มเททำงาน แต่กลับได้รับผลแบบนี้ จากคุณ : ko_oasis เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 16:42:37

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าถูกบีบให้ออก ฟ้องกรมแรงงานได้ไหมครับ จากคุณ : ๛กอล์ฟ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 20:41:19

ความคิดเห็นที่ 27 ถึง ความเห็น 8  "เพราะเนื้อที่ไม่มีมากพอสำหรับทำพิพิธภัณฑ์ " คิดได้เนาะ ฮ่า ๆ จากคุณ : puijaw3 เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 02:27:30

ความคิดเห็นที่ 28 มีจริง ต้องไม่ประมาท เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ด้วย อย่าสร้างหนี้สินมากเกินตัว เก็บเงินไว้เผื่อฉุกเฉินบ้าง อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน    ผมทำงานในบริษัทใหญ่ด้านยานยนต์แถวบางนา-ตราด ตำแห่นงผจก.ระดับกลางๆ ประเมินผลงานระดับกลางๆ แต่เงินเดือนระดับสูง ต้นปี52 โดนเลย แต่ก็จากกันด้วยดี ที่ 13 เดือน บวกโบนัสปรกติ รวม 7 หลัก    ผมมีศักดิ์ศรีพอ ถ้าเขาไม่อยากจ้าง เราก็ไม่ควรอยู่ จากคุณ : คนจนเงินแต่รวยน้ำใจ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 12:13:52

ความคิดเห็นที่ 29 เน้น ย้ำอีกครั้งนะครับว่า ช่วยๆๆ กันกด VOTE ก็ดีนะครับ เพี่อที่ กระทู้จะได้อยู่ได้นานๆ นะครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 12:56:27

ความคิดเห็นที่ 30 ใช่ครับ ผมว่ามันเป็นปัญหาสำคัญของมนุษย์เงินเดือนเอกชนเลยนะครับ :) จากคุณ : The Sleeping Prince เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 13:46:47

ความคิดเห็นที่ 31 พี่ร่วมงาน โดนมาแล้วค่ะ จ่ายค่าจ้างให้ออก 7 เดือนค่ะ คุ้มมั้ย ถ้าอายุไม่เยอะก็คุ้มค่ะ หางานใหม่ ไม่ยาก แต่อายุเยอะแล้วก็ลำบากหางานยากค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าหาไม่ได้นะ ตอนนี้เค้าได้งานใหม่แล้ว แต่เงินเดือน น้อยกว่่าเดิมนะ จากคุณ : สาวน้อยเหล็กดัดฟัน เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 14:55:18

ความคิดเห็นที่ 32 มันก็คงจะจริงล่ะมั๊ง เราก็โดนมาเหมือนกันแหละ ที่ทำงานเก่า เห็นคนอายุเกิน 40 แค่ 5 คน จากทั้งหมดกว่า 30 คน คือ 1.ผู้จัดการ (ที่เป็นวิชาชีพเฉพาะ ประจำบริษัท คือจำเป็นต้องมีคนนี้ ถ้าไม่มี ก็จะไม่สามารถรับงานได้เลย) ซึ่งดูแล้วก็เหมือนรอเวลาว่าจะหาคนมาแทนได้เมื่อไหร่ ในที่สุดก็คงโดนบีบให้ออกไปเหมือนกัน (คนก่อนหน้าก็โดนแบบนี้มาก่อนแล้ว) 2.อดีตผู้จัดการอีกแผนก ปัจจุบันกลายเป็นพนักงานในแผนกของผู้จัดการในข้อ 1. เพราะทำไม่ถูกใจเจ้าของบริษัทในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงาน....อันนี้ก็ต้องทนกันไป ทนได้ก็อยู่ได้ 3.พี่พนักงานอีกคนที่ทำงานประหนึ่งคนเงินเดือนสองหมื่นห้า แต่เงินเดือนจริงไม่ถึงหมื่น 4.แม่บ้าน มหัศจรรย์ คนเดียวเป็นทั้งแม่บ้านของเจ้าของบริษัท และแม่บ้านของออฟฟิศ แต่เน้นหนักไปทางบ้านเจ้าของมากกว่า (เป็นงานหลัก) ส่วนงานแม่บ้านของบริษัท ถ้าทำบ้านเจ้านายเสร็จค่อยมาทำที่บริษัท (เป็นงานรอง) ส่วนเงินเดือน บริษัทจ่าย และ...คนสุดท้าย 5.เจ้าของกิจการ คงอยู่ได้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะบริษัทยังไงก็คงไม่เจ๊งง่ายๆ เด็กจบใหม่เยอะแยะ เงินเดือนก็ให้ถูกๆ ไว้ก่อน ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ออกไป ฉันหาใหม่ได้อยู่แล้ว ตัวเลือกมากมายก่ายกอง บริษัทเอกชนส่วนใหญ่ก็คงเป็นประมาณนี้แหละ  (มั๊ง) คือเค้าจ้างคนทำงาน เพื่อให้เค้าได้กำไร นั่นคือ ลูกจ้างต้องทำงานให้คุ้ม (คุ้มในมุมมองของนายจ้าง ไม่ใช่มุมมองของลูกจ้าง) เพราะค่าจ้างพนักงานก็เป็นต้นทุนอย่างนึง บางทีเราอาจรู้สึกว่าเราทำงานหนัก+เหนื่อย หรือรู้สึกว่าทำเกินเงินเดือน เงินเดือนเราน้อยไปหรือเปล่า อะไรประมาณนี้ ถ้าคิดแบบนี้ แนะนำให้หางานใหม่ เพราะคุณจะไม่มีความสุขในการทำงาน ทำไปก็ไม่สนุก ไม่ happy งานก็ออกมาไม่ดี อยู่ไปก็เครียดเปล่าๆ แต่ในอีกมุมนึง คนที่จ่ายค่าจ้างให้เราเค้าอาจมองว่าเรายังทำได้ไม่คุ้มค่าเงินนั้นก็ได้เหมือนกัน หรือถ้าเค้าต้องการลดต้นทุน เค้าคงคิดว่าเลิกจ้างคนที่มีประสบการณ์+เงินเดือนเยอะ แล้วหาเด็กใหม่ซึ่งค่าจ้างต่ำกว่ามาฝึกเอาก็ทำงานแทนได้ ประมาณนั้น การทำงานในทุกที่ต้องมีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา แค่คุณอยู่กับที่ก็เท่ากับคุณล้าหลังแล้ว เพราะคนอื่นก้าวไปข้างหน้ากันหมด แต่ว่าบางทีถึงจะก้าวไปข้างหน้าได้ก็ใช่ว่าจะอยู่ได้เหมือนกัน **เข้ามาเพิ่มเติมข้อความ แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 54 15:43:11 จากคุณ : โดนมาแล้ว (เด็กสาธุฯ) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 15:41:37

ความคิดเห็นที่ 33 ลูกน้องมีเป็น 100 ครับ แต่หัวหน้ามีหลัก 10 ถามว่า 90 คนที่เหลือไปอยู่ไหนครับ? จากคุณ : basicball เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 16:47:29

ความคิดเห็นที่ 34 จริงเหรอเนี่ย พ่อหนู 46 แล้ว แต่เงินไม่เหยียบแสนเลย คงไม่โดนหรอก ถาโดนคงแย่น่าดู แต่ว่าบริษัทพ่อนี่ มั่นคงเหมือนกัน.. จากคุณ : Margaret เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 17:52:57

ความคิดเห็นที่ 35 จริงเหรอ.... งั้นหัวหน้าเราก็ใกล้โดนแล้วดิ.... อายุก็เกิน 40 ไปไกล เงินเดือนน่าจะเกินสองแสนแล้วมั้ง.. แต่เจ้านายเราเนียนมากนะเนี่ย..เพราะเห็นให้ความสำคัญกับหัวหน้าเรามาก ตำแหน่งและความรับผิดชอบก็สูงขึ้นเรื่อยๆ เจ้านายมีไรก็มาปรึกษาขอความเห็นตลอดเลย.. ไม่แสดงออกให้รู้เลย ว่าจะบีบให้ออก อิอิ จากคุณ : pink_oreo เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 19:19:32

ความคิดเห็นที่ 36 อาจจะจริงสำหรับบางบริษัท โชคดีที่บริษัทผมไม่มีเรื่องแบบนี้ครับ จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 19:21:09

ความคิดเห็นที่ 37 อันนี้อยู่ที่การพัฒนาตนเองจิงๆคับ ถ้ากะทำงานไปวันๆ ก็เตรียมโดนเด้ง ตั้งแต่ 30 ได้เลย แต่ถ้าอยากอยู่ยาว เราต้อง active และ improve ตัวเองเสมอ แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 54 21:56:03 จากคุณ : ขงเบ้งพเนจร เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 21:55:18

ความคิดเห็นที่ 38 ตอบตามที่เห็นครับ จริงครับ บางคนไม่ต้องรอถึง 40 หรอครับ ต่อให้มีความรู้เยอะ แต่ไม่เข้าแผนงานและแนวทางของบริษัทก็ถูกบีบแล้วครับ แต่คงไม่เป็นแบบนี้ทุกบริษัทหรอกมั้ง แต่เท่าที่เห็น ยิ่งบริษัทใหญ่ ยิ่งน่ากลัวครับ ย้ำ ตามที่เห็นนะครับ จากคุณ : ^~~--BeeR_ChimarO--~~^ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 23:27:55

ความคิดเห็นที่ 39 สรุปคือ จริง จากคุณ : fete เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 54 00:59:37

ความคิดเห็นที่ 40 อย่างงี้ต้อง "โหวตด้วยคน" อยากรู้จังว่าเป็นบริษัทอะไรบ้าง หลังไมค์กันได้นะ จากคุณ : กิ๊กก็อก (mai_064) เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 54 01:02:18

ความคิดเห็นที่ 41 ความเห็น 8  "เพราะเนื้อที่ไม่มีมากพอสำหรับทำพิพิธภัณฑ์ " เป็นคำที่ค่อนข้างแรงนะครับ ^_^ จากคุณ : นายแว่นธรรมดา เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 54 07:45:37

ความคิดเห็นที่ 42 ทุกคนจะคิดว่าตัวเองเก่ง ฉลาด ขยัน ความเป็นจริงต้องให้คนอื่นตัดสิน การบีบให้ออกก็เป็นการตัดสินอย่างนึง พ่อผมทำงานจนอายุ 60 บริษัทขอให้อยู่ต่ออีกห้าปี เพราะหาคนแทนไม่ได้ สรุปเกษียณ 65 พอหลุดออกมาได้บริษัทขอจ้างด้วยตำแหน่งที่ปรึกษา เงินเดือนห้าหมื่น ไม่ต้องเข้าที่ทำงาน มีปัญหาจริงๆ จะเรียก ปีนี้อายุ 70 ยังต้องเข้าบริษัทบ้างเดือนละครั้งสองครั้ง จากคุณ : เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 54 11:04:10

ความคิดเห็นที่ 43 บริษัทผม มีเจ้านายใหญ่ ตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป ทำงานมา 25 ปี อยู่ตั้งแต่สร้างโรงงาน วันดี คืนดี โดน ฝรั่ง สั่งให้ เกษียร ตัวเอง ตอนอายุ 49ปี (โดนบังคับ) แล้วจ้าง ฝรั่งด้วยกัน มาคุมโรงงาน เมืองไทย ทั้งทั้งที่ มีผลงานมากมาย สงสารแกจัง แต่ บริษัทก็ให้เงิน เยอะอยู่ครับ จากคุณ : หฟ (sansu) เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 54 11:33:35

ความคิดเห็นที่ 44 คนรู้จักก็ถูกจ้างออกได้เงินสัก 3 ล้าน ยังพอตั้งตัวได้อยู่ครับ จากคุณ : Christian Chang เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 54 15:55:42

ความคิดเห็นที่ 45 คิดว่าจริงนะคะ แต่ตัวเองก็ไม่เคยคิดจะเป็นลูกจ้างไปจนห้าสิบ หกสิบอ่ะค่ะ คงเก็บเงินสักก้อนไปทำอะไรที่เป็นของตัวเอง อยากเป็นเจ้านายบ้าง เป็นลูกน้องมานานแล้ว จากคุณ : nong_ao เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 54 16:16:29

ความคิดเห็นที่ 46 ทำไมโรงงานที่ผมทำงาน แผนกผม(Engineer) ทำไมมีแต่พวกอายุ 30-45 ฟระ แล้วเรา หลงมาอยู่ตรงนี้ได้ไง งง แต่ก็ทำไปก่อน ดีกว่าตกงาน เพราะเพิ่งจบมา จริงๆๆ ก็มี Engineer ญ คนนึง ทำไป 2 เดือน ย้ายไปที่อื่นแล้ว ถามเค้า เค้าบอกว่า มี Manager คนนึง ขี้หื่น ชอบแต๊ะอั๋ง เวงเลย เรากะจะจีบซะหน่อย อิอิ จากคุณ : อะเซเดเฮ้ เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 54 19:19:15 A:124.121.72.103 X: TicketID:274987

ความคิดเห็นที่ 47 เมื่อไหร่ที่มีการลดต้นทุน ประเด็นlayoffคนอายุ40จะเข้ามาทันที จากคุณ : su_k3430 เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 54 21:49:22

ความคิดเห็นที่ 48 พวกแบงค์ มีความเป็นไปได้สูงค่ะ จริงแต่แล้วแต่บริษํทนะคะ อย่างบ.ที่เราเคยทำ ปลดเยอะมากเลยค่ะ ตอนปี 48 ร้อยกว่าคน ปีนี้ สี่ร้อยคน ที่รับรู้มา แต่พ่อเราจะเกษียณปีหน้าแล้ว เงินเดือนก็พอตัว ขอลาออกก็ไม่ให้ออกค่ะ แต่บางคน เค้าก็ไล่ออก เชื่อไหม พ่อเรานี่ล่ะ เป็นครูสอน excel เราเอง พ่อเราเป็นแบบอย่างการทำงานที่ดีแก่เราเลยค่ะ จากคุณ : .. เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 54 23:05:32 A:192.168.100.104 X:58.8.124.204 TicketID:109417

ความคิดเห็นที่ 49 อยู่ที่คนมากกว่า ทำตัวไม่มีคุณค่าอายุ 25 ก็โดนบีบออกเหมือนกัน ระบบเอกชนยึิดหลักการที่ว่า ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ไม่ใช่ ระบบอุปภัมป์ในราชการที่ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร จากคุณ : Peet Reloaded เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 54 00:12:46

ความคิดเห็นที่ 50 ดูประสบการณ์ของแต่ละคน แล้วหันมาดูออฟฟิศตัวเอง ทำไมพนักงานอายุต่ำกว่า 40 มันน้อยจังฟระ (ประมาณ10คน) ส่วนที่ต่ำกว่า 30 มีผมคนเดียว หรือที่นี้เป็นบริษัทยกเว้นหว่า 555+ จากคุณ : killerboy เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 54 16:15:07

ความคิดเห็นที่ 51 มีบ้างเป็นธรรมดา บริษัทบางที่หวังผลประกอบการอย่างเดียวไม่ได้คิดจริงจังกับคนสักเท่าไหร่ จากคุณ : Subject เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 07:48:51

ความคิดเห็นที่ 52 ไม่จริงเสมอไป ตามหลักง่าย ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ถ้าเราสร้างงานได้ไม่เท่ากับสิ่งที่เค้าจ้าง ก็ออก 40 ไม่ใช่ตัวเลขที่จะโดนให้ออก 40 เงินเดือน 20,000 พอใจที่ 20,000 ทำงานแล้วบริษัทก็พอใจ แบบนี้อยู่ยาว 40 เงินเดือน 300,000 หาเงินไม่ได้จะจ้างไว้ทำพระแสงอะไร หรือแม้แต่ 30,000 ก็เหอะ ถ้าทำอะไรไม่ได้ ก็ออกไปเช่นกัน ประเด็นมันอยู่ที่ว่า 40 หลายคนไปถึงขั้นผู้บริหารหรือเงินเดือนหลายหมื่นแล้วต่างหาก คนกลุ่มนี้จึงโดนเพ่งเล็งหากประสิทธิภาพการทำงานดักดาน จากคุณ : TurnTheLightOn เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 11:22:12

ความคิดเห็นที่ 53 เราว่าคนอยู่ภาคเอกชนได้นานนอกจากต้องเก่งจริง แล้วก็ต้องรอบคอบ พ่อเราเป็นวิศวกรบริษัทเอกชน อยู่ยืนยาวจนเกษียณแล้วบริษัทก็ยังขอจ้างต่อตามแต่เวลาที่จะเข้ามาดูงานให้ได้ ถึงไม่เก่งคอมเลยเหมือนเด็กๆรุ่นใหม่ แต่เรื่องการใช้สมองการออกแบบพ่อก็ยังเก่งกว่า แล้วก็ใช้คนที่เก่งในด้านที่พ่อไม่เชี่ยวชาญให้ทำงานได้ในส่วนที่ขาด เรื่องรอบคอบสำคัญ เพราะยิ่งสูงยิ่งหนาว ทำอะไรต้องมีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่งั้นจะโดนแทงข้างหลัง ฉึก ฉึก ได้ จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 11:24:12

ความคิดเห็นที่ 54 จริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ครับ แต่ไม่ทุกบริษัท ยังไงผลกำไรขาดทุนต้องมาก่อน บริษัทต้องรอด และมีกำไร จากคุณ : thongchai9309 เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 12:24:35

ความคิดเห็นที่ 55 จริงค่ะ ถ้าความสามารถในการทำงานของคุณไม่เพิ่มขึ้นตามอายุ เพราะเมื่อทำงานผ่านไปหลายปี อายุมากขึ้น เงินเดือนก็มากขึ้น บริษัทฯย่อมคาดหวังความสามารถในการทำงานที่เพิ่มขึ้นด้วย แต่ถ้าคุณย่ำอยู่กับที่ ไม่พัฒนาตนเอง โดนเชิญออกแน่ค่ะ (บริษัทเราจ้างออกเลยค่ะ) จากคุณ : wanvisa เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 14:52:33

ความคิดเห็นที่ 56 จริงครับ อย่าไปหวังจะใช้ชีวิตบั้นปลายกับ บ เอกชนเลยครับ ถ้าไม่ใชู่ลูกหลานญาติมิตรของผู้บริหาร ถ้าย่างสามสิบห้าก็ให้มองหาอะไรที่มั่นคงโดยที่ไม่ต้องเป็นลูกจ้างได้แล้วครับ ยิ่งอายุงานเยอะเงินเดือนยิ่งต้องจ่ายแพง เทคโนโลยีข่าวสารอะไรหลาย ๆ อย่างมันวิ่งไวมาก ถ้ามัวแต่ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม รอเงินขึ้นรอโบนัสปลายปี แต่ถ้าทำเงินเข้าองค์กรได้ไม่ดีมากหรือแย่ลงก็มีผลแน่นอนครับ เอาเงินเดือนพนักงานเก่า ๆ คนเดียวสี่ห้าหมื่นไปจ้างเด็กจบใหม่ไฟแรงได้ตั้งหลายคน แต่ถ้าเราพัฒนาตน ทำกำไร ลดต้นทุน หรือมีผลงานที่เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม ก็จะช่วยชะลอสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ได้ครับ ทางที่ดีที่สุด พัฒนาตัวเองเสมอ หาอะไรที่มั่นคงๆ ทำ ปั้นปลายชีวิตจะได้มีความสุขครับ : ) จากคุณ : SuicideJumper เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 16:20:36

ความคิดเห็นที่ 57 เท่าที่ผมเห็นส่วนใหญ่เป็นบริษัทคนไทยจะเยอะ บริษัทฝรั่งก็มีแต่น้อยลง มันขึ้นอยู๋กับวัฒนธรรมการเอาเปรียบและเห็นแก่ได้ของคนบางกลุ่มที่ฝังรากลึกในกลุ่มคนไทยมานาน แต่ของ คห.12 นี่ใช่บริษัทชื่อดังด้านนี้อยู่แล้วชื่อเอาตัวเอไปยกกำลังสองหรือเปล่าครับ จากคุณ : นายสายฟ้า เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 00:14:12

ความคิดเห็นที่ 58 คห.57 - - -> เป็นบริษัทคนไทยค่ะ เหตุผลถูกต้องเลย แต่ไม่ใช่บริษัทเอยกกำลังสองค่ะ,,, Product คนละประเภท ^^ เห็นด้วยกับวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นต่างชาติและไทย 100 % แฟนทำงานในองค์กรต่างชาติมาตลอด ทั้งญี่ปุ่น 100 % และ USA. ที่ให้ความสำคัญกับทรัพยากรมนุษย์มาก การเอาคนออกนี่คือเรื่องใหญ่ !! แต่เมื่อวันหนึ่งจับพลัดจับผลูต้องก้าวมาเติบโตในองค์กรคนไทย ตั้งใจทำงานเพื่อแลกกับค่าตอบแทนตามสัดตามส่วน ก็แฟร์ดี และมีคนทำงานจำนวนหนึ่ง ที่ไม่เคยเกี่ยงงาน ,, เพราะคิดเสมอว่า ประสบการณ์ที่เกิดจากการทำงาน จะสอนให้เราเก่งขึ้น แต่ถ้าคนทำงานต้องมาเจอกับผู้บริหารระดับสูง ที่บริหารงานแบบไม่เห็นความสำคัญของทรัพยากรบุคคล พวก " มือปืนรับจ้าง " หลายๆคนก็ถอดใจค่ะ ต่างคนต่างไปแยกย้ายกัน^^ แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 02:05:58 แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 01:59:42 จากคุณ : ทะเลสีฟ้าจัง เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 01:50:31

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้า จขกท จะเข้ามาในสายการเงิน อยากจะบอกว่าสายงานนี้ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับผลงาน ถ้าอายุ 40 แล้วคุณมีความชำนาญในงานที่จะสร้างรายได้ให้องค์กรได้อยู่ คุณก็ยังเป็นที่ต้องการขององค์กรค่ะ และถ้าคุณเก่งมากพอ คุณอาจจะไม่ต้องทำงานหนักมากเมื่ออายุเลข 4 ก็ได้นะคะ เพราะตอนนั้นคุณอาจจะเห็นช่องทางในการ ให้เงินทำงานแทน จากคุณ : ทะเลสวย น้ำใส เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 12:30:15

ความคิดเห็นที่ 60 มีทั้งจริงและไม่จริงค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมองค์กรและตัวคุณเองด้วย ถ้าทำตัวให้มีคุณค่าพอสำหรับองค์กร ยังไงเค้าก็ต้องเอาคุณไว้ค่ะ โรงงานของบ้านเราเอง คนเก่าแก่ที่อยู่กัน ไม่ใช่เพราะเก่าแก่มาแต่รุ่นพ่อแม่ แต่เค้ารู้เกือบทุกปัญหา และสามารถให้คำแนะนำแก้ไขให้เราได้ เราก็ต้องถนอมไว้ค่ะ แต่แก่แบบอยู่นาน ไม่คิดจะพัฒนา ทำตัวรู้มากไปวัน ๆ ก็หาทางทำให้ออกก็มีเหมือนกัน จากคุณ : saturn_eyes เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 15:10:38

ความคิดเห็นที่ 61 จริงครับ บริษัทที่พ่อผมยอมทิ้งอนาคตอันรุ่งเรือง ออกมาช่วยอากงสร้างบริษัทนี้เองกับมือครับ อยู่ย่าน เพชรบุรีตัดใหม่ แต่ไม่บอกนะครับ สมัยก่อน คนจีนที่มาสร้างเนื้อสร้างตัวในไทยจะมีลูกเยอะ แล้วพ่อผมก็ลูกคนโตครับ เรียนไม่จบ ป.ตรี เพราะต้องออกมาทำงานเลี้ยงน้องๆ แบ่งเบาภาระอากง ก็ได้ทำงานที่นึงตอนนั้นยังไม่ดัง หน้าที่การงานกำลังไปได้สวย แต่แล้วก็ต้องออกมาช่วยอากงสร้างบริษัทขึ้นมาครับ มีผู้ชายอีกคนมาร่วมด้วย ก็ต้องช่วยค้ำประกันอะไรต่างๆให้ จนบริษัทอยู่รอดมาได้ แต่สุดท้ายด้วยความไว้ใจ ถูกหักหลังโดยผู้ชายอีกคนยึดบริษัทไปต่อหน้าต่อตา อากงเป็นแค่ผู้ถือหุ้น พ่อผมกลายเป็นเซลล์ ต้องเรียกไอนั่นว่า ผู้จัดการ แล้วผู้จัดการก็รับคนตัวเองมาคนนึง เป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคล ตอนผมเด็กๆก็ดูไม่มีอะไร แต่พอผมโตขึ้นมานี่ถึงได้รู้ว่า พนักงานรุ่นเดียวกับพ่อผมถูก หัวหน้าฝ่ายบุคคลกลั่นแกล้งจนต้องลาออกไปเกือบหมดแล้ว เหลือไม่ถึง 5 คน (ขอใช้แทนหัวหน้าฝ่ายบุคคลว่า หัวเค แล้วกันครับ) หัวเคก็จะรับคนของตัวเอง คนใหม่ๆเข้ามาทำแทนคนเก่าที่ออกไป พ่อผมโดนแกล้งมาตั้งแต่อายุ 40 แล้วหล่ะครับ ตอนนั้นผมก็ เพิ่งเกิดมั้ง แต่พอ 55 ก็หนักข้อเรื่อยๆ กลั่นแกล้งสารพัดทั้งใส่ร้ายป้ายสี เอาดีใส่ตัว เอาชั่-ใส่คนอื่น หาเรื่องได้ทุกอย่าง ง่าวงนอนก็ฟ้องผู้จัดการ เข้าบริษัทสายก็ปรับ 500 บาท รถสะอาดก็เอาไปฟ้องว่าสกปรก แกล้งทุกอย่างจนเหลือพ่อผมคนเดียวที่อยู่มาตั้งแต่รุ่นแรก และอยู่สู้ทนกะมันมาตลอด คอยด่ากะมัน ตอนนี้ คนเกลียด หัวเค ทั้งบริษัท ยกเว้นลูกน้องของเขาเอง แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเขาคือหัวหน้าฝ่ายบุคคล และ ต่อให้ฟ้องผู้จัดการให้ตาย ผู้จัดการก็ไม่ยอมทำอะไร เพราะ ผู้จัดการทำงานไม่เป็น แต่ยิ่งใหญ่ รวย ได้เพราะโกงบริษัทไป และ หัวเค เป็นคนหางาน หาลูกค้าให้ เวลาหัวเคใส่ร้ายพ่อผม พ่อผมก็ไปวีนท้าให้ชี้แจง มันเถียงไม่ได้ก็หนี ผู้จัดการก็ทำเงียบ ไม่ว่าอะไรมัน .. ตอนนี้พ่อผมเกษียณแล้วครับ 60 ปี ทำงานตั้งแต่ตั้งบริษัทจนออกมา ก็อยู่แค่ตำแหน่งเซลล์ครับ เพราะไม่ได้จบ ป.ตรี และ ถูกกลั่นแกล้ง มันน่าเจ็บใจมาก ส่วนหัวเคทำไมถึงต้องเขี่ยคนที่ขวางทางออกแล้วเอาคนเข้ามาแทนหรือครับ มันเอาไว้ใช้งานเหมือนมันเป็นนายพล มี พลทหาร ใช้งานตามบ้านอย่างนั้นเลยครับ ไม่ได้พูดผิด ไม่ได้ใส่ร้าย ทุกคนในบริษัทรู้หมดครับ ขอโทษที่เล่ามายืดยาวครับ มันอัดอั้นที่ทำอะไรไม่ได้ ยังเคยคิดจะไปฟาดหน้ามันซ้ำ แต่สรุปเลยสั้นๆว่า บริษัทที่พ่อผมเพิ่งเกษียณออกมา จะถูกกดดัน กลั่นแกล้ง ให้ออกตอน 40 ครับ แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 18:38:38 จากคุณ : ปลาวัวตัวอวบอัด เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 18:37:14

ความคิดเห็นที่ 62 มันขึ้นอยู่กับมุมมอง และ ทัศนคติครับ แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 19:12:16 จากคุณ : auraball เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 19:01:09

ความคิดเห็นที่ 63 ความจริงมันโหดร้ายเน๊อะ จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 19:03:44

ความคิดเห็นที่ 64 เป็นอย่างนี้นี่เอง !! ไปนั่งทานข้าวแถว ๆ สาทร มีพนักงานบริษัทหนุ่มสาวมาทานเยอะแยะไปหมด ไม่เคยเห็นพวกอายุมากเลย   คิดสงสัยอยู่ในใจว่า พนักงานบริษัทมีแต่พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ  แล้วถ้าพวกเค้าแก่ตัวลง บริษัทจะจ้างหรือเปล่านะ ถ้าเลิกจ้างแล้ว พวกเค้าจะไปทำอาชีพอะไรกัน อืม..... จากคุณ : พี่น้องผองเพื่อน (พี่น้องผองเพื่อน) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 21:51:51

ความคิดเห็นที่ 65 ถ้าบอกว่าไม่จริง ผมก็คงโกหกคุณ หรือปลอบให้มีกำลังใจเท่านั้นเอง โลกแห่งความเป็นจริงมันโหดร้ายนัก ไม่ว่าคุณจะทำเพื่อบริษัทมากเพียงไรทุ่มเทมากเพียงไร เมื่อใดที่เงินเดือนคุณมันไม่สอดคล้องกับความสามารถหรือผลงานแล้วล่ะก้อ เตรียมตัวเก็บของครับ เจ้านายเก่าที่เห็นความทุ่มเทของคุณอาจจะเห็นใจคุณ แต่ถ้าเปลี่ยนเจ้านายใหม่ ความทุ่มเทที่ผ่านมามันก็ไร้ความหมาย มันต้องเป็นแบบนี้ครับ มิเช่นนั้นผลเสียจะตกอยู่กับบริษัทเอง บริษัทมันจะเสื่อมลงตามคนนั่นแหละครับ ปล แต่สี่สิบมันเร็วไปมั้งครับ ช่วงนี้กำลังพีคๆ ทั้งประสบการณ์ คุณวุฒิ วัยวุฒิเลย แถมร่างกายยังแข็งแรงอยู่ ถ้าห้าสิบกว่าๆ ค่อยว่าไปอย่าง จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 22:02:31

ความคิดเห็นที่ 66 ผมว่ามันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 2 อย่าง สิ่งที่เราควบคุมได้ เช่น ความสามารถ นิสัย และสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น การถูกอิจฉา การอยากให้คนตัวเองขึ้น และอื่นๆ เคยเจอมาเยอะครับ ดูจากความคิดเห็นด้านบนๆก็ได้ครับ คนที่มีความสามารถ แต่ไม่เป็นที่ต้องการ หรือพอหมดประโยชน์ก็ทิ้ง มีเยอะครับ จากคุณ : ko_oasis เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 00:27:29

ความคิดเห็นที่ 67 ลองมองในแง่ดีดูแล้วกันค่ะ การจ้างพนักงานเก่งๆออกจากงานตอน 40 จริงๆแล้วเป็นกุศลบายของพวกเจ้าของบริษัทค่ะ......... เพราะท่านเจ้าของบริษัทอยากให้โอกาสคนเก่งไปเปิดธุรกิจเป็นของตัวเอง จึงต้องเชิญให้ออกพร้อมแถมเงินให้อีกกี่เดือนก็ว่าไป...... เพราะถ้าไม่งั้น คนเก่งๆก็ต้องมาอุดอู้อยู่กับในบริษัท ไม่เจริญก้าวหน้าไปไหนซะที...... จะตัดสินใจเปิดธุรกิจเป็นของตัวเองก็ไม่กล้า กลัวโน่นกลัวนี่ เขาเลยช่วยคุณตัดสินใจซะเลย.......... คิดแบบนี้ได้ไหมค่ะ ^^ จากคุณ : itims เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 01:21:26

ความคิดเห็นที่ 68 บริษัทในเมืองไทย รับคนทำงานอายุน้อย ๆ  และเชิญออกเมื่ออายุมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่ น่าจะถนอมไว้เพราะมีประสบการณ์มากกว่าคนที่อายุน้อย ๆ  แต่ที่เมืองนอกบางบริษัทจะจำกัด อายุไม่น้อยกว่า 35 ปี   บางคนเปลี่ยนงานตอนอายุ 40  ยังได้งานดีกว่าเก่าเลย แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 54 03:04:13 จากคุณ : pinpare เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 02:47:26

ความคิดเห็นที่ 69 ผมไม่เชื่อเรื่องการจ้างให้พนักงานเก่งๆออกเมื่ออายุมากกว่า ๔๐ ปี เป็นเรื่องโง่มากที่บริษัทใดจะทำอย่างนั้น (หมายถึงกับพนักงานเก่งๆนะครับ) ถ้าเราเก่งจริง และบริษัทโง่ขนาดนั้นจริงๆ เมื่อเขาเสนอมาก็รับเงินไว้ แล้วออกเถอะครับ ไม่มีประโยชน์ที่จะทำงานกับบริษัทอย่างนั้น ไปหาคนที่เขาเห็นคุณค่าของเราดีกว่า ว่าแต่ว่า เราเก่งจริงหรือเปล่า? ตรงกันข้ามสำหรับพวกไม้ตายซาก พวก "กูแน่" "กูรู้" แล้ว ทั้งหลาย เมื่อทำงานมาสิบยี่สิบปี ยึดติดอยู่กับความรู้และประสบการณ์เก่าๆ ไม่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ บริษัทไหนไม่พยายามพัฒนาพวกเขา หรือกำจัดเมื่อพบว่าพวกเขาเป็นพวก "เละ...ไม่เคยเปลี่ยนแปลง" บริษัทนั้นๆก็ไม่เจริญหรอกครับ ถามตัวเราดีกว่าครับว่า เรามีคุณค่าควรที่องค์กรจะเก็บรักษา เอาไว้หรือไม่? ถ้าคำตอบคือใช่ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรเลยครับ อยู่ต่อไปก็เจริญ ออกไปอยู่ที่อื่นก็เจริญ http://bharot.wordpress.com จากคุณ : bharot (bharot) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 11:21:00

ความคิดเห็นที่ 70 เน้น ย้ำอีกครั้งนะครับว่า ช่วยๆๆ กันกด VOTE ก็ดีนะครับ เพี่อที่ กระทู้จะได้อยู่ได้นานๆ นะครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 12:36:46

ความคิดเห็นที่ 71 พนักงานที่ถูกจ้างออก หรือ ถูกบีบให้ออกตามที่เราเล่านั้น ไม่ใช่เค้าไม่เก่งหรือไม่มีความสามารถเลยนะคะ แต่เกิดจากทัศนคติของการทำงานไม่ตรงกัน ก็ไม่ชอบเลย ผู้บริหารแบบนี้ น่ากลัวมากค่ะ ,, ไม่ได้มองคนที่ผลงาน การขัดแย้งหรือเห็นไม่ตรงกันมีทุกที่ในองค์กรค่ะ แย้งกันเพื่อให้เกิดงาน ,,, แต่นี่ พอเห็นขัดแย้งกลายเป็นโกรธ ถึงขั้นไม่อยากให้อยู่ขัดหูขัดตา นี่ก็เกินไป ,,หลายเคสฟ้องร้อง แต่อีกหลายๆคนอยากจบไปดีๆ ไม่เสียเวลาฟ้องร้อง เอาเวลาไปหางานทำดีกว่า พวก Manager หลายท่านที่ถูกบีบออก ตอนนี้ก็ทำงานในบริษัทข้ามชาติใหญ่โต มั่นคงกันทั้งนั้น ไม่ใช่คนไร้ความสามารถเลยค่ะ ,, เราขำมากกว่า พอทราบว่า หลายท่านได้ทำงานกับบริษัทลูกค้า ซึ่งบริษัทเก่าที่บีบเค้าออกเนี่ย ต้องไปดีลงานด้วย เจอหน้ากันที ถึงกับมีฝ่ายหนึ่งอึ้ง อีกฝ่ายยิ้มรื่นเลย จากคุณ : ทะเลสีฟ้าจัง เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 13:17:00

ความคิดเห็นที่ 72 เห็นในกระทู้งานราชการมีเเต่คนด่าราชการ ชมเอกชนตลอดนี่นา ผมจำได้นะ ทำไมกระทู้นี้มีเเต่บ่นเรื่องงานเอกชนกลัวจะถูกไล่ออกกันล่ะครับ ผมว่าคนในกระทู้นี้ส่วนมาก น่าจะถูกไล่ออกนะครับ ทำไมนะเหรอผมจะบอกให้ก็พวกคุณส่วนใหญ่เอาเวลางานมาเล่น เน็ตกันนะสิครับ 555+ ใครเค้าอยากจะเก็บไว้ อิอิ จากคุณ : oh-sama เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 13:23:10

ความคิดเห็นที่ 73 จริงๆ แล้ว การทำงานบริษัท ก็ควรจะหาข้อดีต่างๆ ที่บริษัทให้ เช่น การให้ประสบการณ์แก้ปัญหาต่างๆ การให้เงินเดือน การให้ลองผิดลองถูกโดยไม่ต้องเสี่ยงเรื่องเงิน แต่หากทำงานไปนานๆ ... การเป็นเจ้าของกิจการ หรือ การวางแผนทางการเงิน อาจจะมาช่วยเราได้ เจ้าของกิจการ ก็ไม่ได้สวยหรูเสมอไป แล้วแต่คนเหมือนกัน เห็นๆ ไปตีกับสรรพากรก็มี บางคนก็ขายดีมากจนไม่มีเวลาเที่ยว ซื้อ SLK มาก็จอดไว้ ขี่มอเตอร์ไซต์ไปร้านแทน (รถติด) มันอยู่ที่ตัวคนเราเองแหละ บางคนทำจนวันสุดท้าย ถูกให้ออกพร้อมกับเงินชดเชย ไปใช้ชีวิตกับ บ้านและสวนพร้อมเงินเก็บประมาณ 5-10 ล้าน ... ไม่เห็นจะมีอะไรเดือดร้อน ... มันอยู่ที่ว่า วันนี้คุณวางแผนอะไรบ้างหรือยังเท่านั้นเอง จากคุณ : KENG76 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:30:50

ความคิดเห็นที่ 74 งงคห. 61 ค่ะ ผู้ถือหุ้นนี่ถือหุ้นเท่าไหร่ ทำไมถึงกลัวผู้จัดการ ผู้จัดการนี่เล็กนะถ้าเทียบกับกรรมการ และยิ่งต๊อกต๋อยลงไปอีกเมื่อเทียบกับผู้ถือหุ้น แล้วหัวหน้าฝ่ายบุคคลเล็กกว่าผู้จัดการ สงสัยว่าทำไมต้องกลัวหัวหน้า HR ขนาดนั้นถ้าเป็นผู้ถือหุ้น ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามารถปลดกรรมการได้ด้วยซ้ำไป นอกเสียจากว่าผู้จัดการที่ว่านั่น เป็นผู้ถือหุ้นด้วย และถือหุ้นข้างมาก อันนี้ก็อีกเรื่อง จากคุณ : ToKeI เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:09:07 A:58.11.73.32 X: TicketID:198523

ความคิดเห็นที่ 75 ขอตอบความเห็นบางท่านครับ ถึงแม้คุณจะเก่งแค่ไหน แต่เจ้านายไม่ชอบ เนื่องด้วยเหตุผลนานับประการ เช่น เกินหน้าเกินตา อยากให้พวกตัวเองมาแทน และอื่นๆมันก็ยากครับที่จะอยู่ต่อ หรืออยู่แบบไม่มีความสุข มันไม่ใช่ความเก่งอย่างเดียวแน่นอน แต่คุณเก่งจริงๆ ออกไปยังไงก็มีคนรับคุณอยู่แล้ว คุณแค่ต้องอยู่ถูกที่ถูกเวลาเท่านั้นเอง ผมพูดถึงบริษัทที่คุณทำงาน ณ ปัจจุบันนะครับ มีอยู่แล้วครับ ความกดดัน จากคุณ : ko_oasis เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 18:59:26

ความคิดเห็นที่ 76 ส่วนตัวก็อยากเอาคนไม่ได้เรื่องออกน่ะละ เราจ้างเค้ามาทำงาน ไม่ได้มาให้เงินเค้าเปล่าๆ แต่ก็ทำได้แค่กดดันให้คนๆนั้นทำงานหนักขึ้นให้สมกับเงินเดือน ... จากคุณ : ZERO Initiated เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 02:09:40

ความคิดเห็นที่ 77 จากประสบการณ์ส่วนตัว พี่ที่ บ. เก่า ( บ.ขนส่งทางอากาศยักษ์ใหญ่ของโลก)  กำลังจะโดนจ้างออกหลังทำงานมาเกือบ 10 ปี เพราะเค้ายุบ station ที่ทำประจำอยู่  เปลี่ยนเป็นตำแหน่งอื่น ที่เหนื่อยกว่าและ ความเสี่ยงสูงกว่า ( ตำแหน่งเฉพาะ ที่ต้องใช้ทักษะบางอย่าง) ทีนี้คนที่โดนย้ายทั้งหมดก็เห็นว่าไม่เป็นธรรม เพราะไม่ใช่ตำแหน่งในสายงานเดียวกัน   บ. เลยยื่นข้อเสนอมา ไม่อยากทำ ไม่อยากเสี่ยง ก็เอาไปเลย 10 เดือน จบๆ นี่ล่ะ สังคมมนุษย์เงินเดือน จากคุณ : aui2222 (aui2222) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 12:43:00

ความคิดเห็นที่ 78 เน้น ย้ำอีกครั้งนะครับว่า ช่วยๆๆ กันกด VOTE ก็ดีนะครับ เพี่อที่ กระทู้จะได้อยู่ได้นานๆ นะครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 20:17:37

ความคิดเห็นที่ 79 ของเราอายุ 47 ผู้หญิง เงินเดือน 75000 ทำงานเหมือนได้เงินเดือน 17000 งานหลักยุ่งวุ่นวายกับเรื่องลูกๆ อายุ เกือบ 20 / 17   +คอยตามติดชีวิตลูกๆ + งานการไม่ค่อยทำ วุ่นวายกับเรื่องญาติ + เพื่อน ต้องคอยรับส่งสนามบินเพราะมีเพื่อนไปอยู่ต่างประเทศกับมาไทยบ่อยๆ วันๆ พยายามทำสนุก / คุยขำ สงสารลูกน้องมาก ต้องคอยหัวเราะดังๆ ประจบใส่เพราะเค้าใหญ่ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะออกซะที จากคุณ : JusTT เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 22:00:10

ความคิดเห็นที่ 80 อยากทำด้านการเงินเหรอลองอ่านดูบ้างปะ บล.ชื่อดังย่านสาทร ของ ธ.ชื่อดังหุ้นใหญ่ lay off คนเป็นเรื่องปกติ บางทีหายไปทั้งฝ่ายเลย ผจก.ฝ่ายบุคคลก็โดนด้วย เป็นคนสุดท้าย โหดปะ รอง md ทำงานมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี โดนให้ออกนิ่มๆ อยู่ๆก็หายไปเลย โหดปะ จากคุณ : กร เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 12:49:17 A:124.121.178.55 X: TicketID:288791

ความคิดเห็นที่ 81 จะได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริง จากคุณ : โลมากาไก่ เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 16:39:32

ความคิดเห็นที่ 82 ที่ทำงาน(บมจ.) ส่วนที่เราทำงานอยู่กันยันเกษียณค่ะ (เป็นสิบคนนะ) ไม่มีใครกดดันใดๆทั้งสิ้น ส่วนมากเงินเดือนเป็นแสนทำงานเหมือนเราที่รับเงินเดือนหมื่นกว่าบาทนั่นแหละ บ่นเช้าบ่นเย็นว่าทำงานหนักเหนื่อย ก็จะไม่ให้หนักให้เหนื่อยยังไงคะ บางคนเช้าทำนู่นนี่กว่าจะเริ่มจับงานก็เก้าโมงกว่า พัก 11 โมง ขึ้นบ่ายสอง โทรนัดตีกอล์ฟกะเพื่อน โทรรายงานตัวกับเมีย โทรไปคุยกับหมอ หักลบไปมามีเวลาทำงานจริงๆ แค่ 3-4 ชม. งานมันก็สุม กว่าจะเคลียเสร็จก็เหนื่อย ส่วนวันลาพักร้อนตรงไหนคร่อมวันไม่ได้ลายาว ทุกเทศกาล ไม่เผื่อแผ่ใคร พอถามก็ว่าจะต้องไปไหว้พ่อแม่ ไปบ้านเมีย ไปทอดกฐิน ฯลฯ คงคิดว่าน้องๆไม่มีธุระไม่มีญาติพี่น้องเลยล่ะมั้ง ประเมินดูลักษณะนี้พี่ๆที่อายุเกิน 40 ในที่ทำงานเราราวๆ 80% เป็นแบบนี้หมด และ 100% ไม่เคยถูกกดดันหรือบีบบังคับให้ออกเลยค่ะ จากคุณ : . (LE BALLON) เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 16:51:01

ความคิดเห็นที่ 83 คิดเหมือน 76 อ่าน Jack Welsh CEO GE วิธีตัดเกรดของเขาคือ ABC เอได้เลื่อนตำ่แหน่ง บีได้อยู่ต่อ ซีก็เก็บกระเป๋า ทุกปีระดับผู้บริหารต้องมีซีอย่างน้อยสิบเปอร์เซ็น โหดสุดๆ ถ้าโดนซีเพราะมือไม่ถึงก็โอ แต่ถ้าโดนด้วยการเมืองคงเซ็งไม่น้อย จากคุณ : anchan42 (anchan42) เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 22:18:48