ความคิดเห็นที่ 1 คนที่มีล็อกขายประจำเขาจะยอมจ่ายครับ อาจต่อรองได้ 2-3 หมื่น เพราะไม่งั้นพวกนี้มันจะมาตามรังควาน หรือคุณหาตำรวจหาทหารที่ยศพันตำรวจโทขึ้นไปมาเคลียร์(ซึ่งคุณก็ต้องจ่ายให้ไอ้ตำรวจที่มาเคลียร์ให้อยู่ดี) แต่ถ้าคุณไม่มีที่ขายประจำจะลองสู้กันสักตั้งก็ได้ คุณเพียงแต่อ้างว่าเอาของตัวเองที่เหลือใช้มาวางเล่นๆ ในล็อก ถ้าเขาอ้างว่าเขาซื้อไปก็ให้เขาแสดงใบเสร็จหรือโชว์คลิป ถ้าไม่มีก็แปลว่าไม่มีพยาน ถ้าเขาอ้างว่าซื้อจากคุณไปก็ให้คุณแจ้งความว่าเขาลักทรัพย์ การหยิบสินค้าอื่นๆ ไปก็ถือเป็นการลักทรัพย์ให้แจ้งความจับคนที่ถือเอาไป และถ่ายรูปตำรวจคนนั้นไว้ บอกว่าถ้าไม่มาเคลียร์เรื่องจะเข้ากรม เรื่องจะถึงศาลปกครอง ตำรวจน่ะตัวดี มันรู้ว่าตัวมันผิด และมันมีโอกาสโดนเล่นงานได้ง่ายที่สุด แต่เป็นเพราะประชาชนไม่กล้าเอาเรื่อง เป็นกำลังใจให้ครับ คุณทำถูกแล้วที่ไม่ตามไปในทันที จากคุณ : ยินดีให้คำปรึกษา เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 09:56:29 A:124.122.97.109 X: TicketID:301933

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณมาก ๆ นะคะ เราไป search หาชื่อ ณัฐวัตร สิงห์ทอง ก้อเจอกรณีที่มันไปหลอกจับ แม่ค้าตามตลาดนัดรายอื่นอีกเหมือนกันค่ะ ตอนพวกมันมาที่ร้าน ชุดแรกเมื่อปลายปี มาตอนมืดแล้วค่ะ แต่ครั้งนั้น เราไม่ได้หาข้อมูลเรื่องลิขสิทธิ์ไว้เลย ตามมันไปที่โรงพัก มันพาไปข้าง โรงพัก แล้วก้อทำเป็นคุยโทรศัพท์โน่นนี่ เหมือนผู้กว้างขวางให้เราได้ยิน แถมยังบอกอีกว่า มันกำลังจะไปจับร้านเจ๊เล้ง จะเอาให้ขึ้นหน้าหนึ่งเลย เราก้อพอจะรู้ว่ามันเป็นพวกกินเงินใต้โต๊ะแน่เลย แต่ตอนนั้นไม่มีความรู้ เลยค่ะ กลัวด้วย และอยากให้เรื่องจบไป เพราะต้องกลับบ้านไปหาลูก และไปเก็บของที่ร้าน เลยต้องหยิบยืมเงินคนอื่นจ่ายให้ชุดแรกไปจาก 30,000 เหลือ 7,000 ชุดที่ 2 นี่ เราสังหรณ์ใจ เลยนั่งหาข้อมูลเรื่องลิขสิทธิ์ไว้ตอนเช้า พอไป ถึงร้าน ตอนบ่ายก้อมีคนมาจริง ๆ พูดจาได้ยียวนมาก ๆ ทำหน้าตาเหมือน เราขายยาบ้า หรือฆ่าคนตาย เราถ่ายคลิปไว้ในมือถือหมดเลย เรามีล็อกประจำเลยค่ะ แต่ว่าไม่มีเส้นสายทางไหนเลย ของที่สั่งมาไว้ขาย ก้อยังมีอยู่ แต่ไม่มีทุนสำหรับจะเปลี่ยนอาชีพเลยจริง ๆ ค่ะ ถ้าต้องหยิบยืมเงินมาเพื่อทำอาชีพอื่น เราคงเป็นหนี้ท่วมตัวแน่ ๆ เลยค่ะ แถมเราเอง ก้อไม่มีหนทางที่จะติดต่อ ทหาร หรือตำรวจยศใหญ่ ๆ โต ๆ เลยค่ะ แบบนี้เราควรต้องเลิกอาชีพค้าขายใช่มั้ยคะ จากคุณ : จน เครียด กินข้าว เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 10:17:59 A:124.120.200.37 X: TicketID:173598

ความคิดเห็นที่ 3 ขอดูใบมอบอำนาจ เลยครับ ว่า กลุ่มนั้นเป็นได้รับมอบอำนาจมาหรือเปล่า เพราะเทสเตอร์ ปกติจะ ซีลว่า ห้ามจำหน่าย พวกหัวหมอ จะอาศัยจุดนี้เล่นงานคนที่เอามาขายโดยการแอบอ้างว่าเป็นตัวแทนครับ ถ้าเขามาต้องแกล้งชวนคุยแล้วอัดเสียง ถ้าขอใบมอบอำนาจ แล้วไม่มีก็แจ้งความกลับข้อหากรรโชกทรัพย์ได้เลย เท่าที่อ่านของคุณ จขกท. สงสัยครับว่ากลุ่มคนที่มา ไปแจ้งความกับตำรวจให้จับคุณข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์หรือยังครับ จากคุณ : นายสบายสบาย เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 10:23:15

ความคิดเห็นที่ 4 พวกนั้นแจ้งว่า ได้รับมอบอำนาจมาค่ะ บอกว่ามาจับเรื่องลิขสิทธิ์ พอเรา ถามว่า ของแท้เนี่ย จับลิขสิทธิ์ได้ด้วยเหรอ มันก้อบอกว่า ก้อเป็นของแถม ห้ามจำหน่ายเอามาขายก้อผิด พอเราขอดูเอกสาร มันก้อเอาแฟ้มมาให้ดู ซึ่งกลุ่มแรกที่หลอกกินเงินเราไปเมื่อปีที่แล้ว ก้อมีเอกสารแบบนี้แหละค่ะ สุดท้ายก้อหลอกลวง เราถามว่า มาให้เราไป สน. มีเอกสารเรียกตัวหรือเปล่า ผู้ชายคนหนึ่งบอกว่า เป็นความผิดซึ่งหน้า ต้องไปได้แล้วอย่าโยกโย้ เด๋วจะเป็นเรื่องใหญ่ เรา บอกว่า ซึ่งหน้ายังงัย เค้าบอกว่า เมื่อวานนี้ให้ผู้หญิงมาล่อซื้อแล้ว ได้มา ซองหนึ่ง แล้วก้อหยิบให้เราดู เราบอกว่า เราได้ของแถมมา แล้วมาขาย ผิดตรงไหน ขายถูก ๆ พวกนั้นก้อกดดันเรามาก คนที่แสดงตัวเป็นตำรวจ เราขอดูบัตร เพราะใส่ชุดนอกมา ยื่นบัตรให้เราดู บนบัตรระบุ CBI หรืออะไร นี่แหละค่ะ เราจดชื่อไว้ แต่สุดท้าย พวกนั้นเอาเอกสารแผ่นนั้นไป เราเลย จำชื่อไม่ได้ เราเดาว่า พวกนั้นน่าจะแจ้งความไว้ก่อนแล้ว ว่าจะมาจับกุมที่ร้าน แต่เราไม่ ทราบรายละเอียดค่ะ เพราะพอพวกนั้นกลับไป ตำรวจท้องที่มาไม่ถึงครึ่ง ชั่วโมง ให้เราไปโรงพัก กลุ่มแรกที่ได้เงินเราไป มันก้อถ่ายเอกสารใบบันทึกประจำวันให้เรามาค่ะ ระบุชื่อเรา จำนวนเงิน แต่ว่าชื่อของมันเป็นลายเซนต์ มองไม่ออกว่าชื่ออะไร แต่กลุ่มแรกนี่ สามารถนำ notebook กับเครื่อง print มาเสียบไฟทำงาน พิมพ์ใบให้เราลงนามบนโรงพักได้เลย เราเลยคิดว่าเราคงผิดจริง เพราะ ตำรวจเหมือนรู้จักพวกมัน และก้อไม่ว่าเรื่องมันนั่งทำงานบนโรงพัก แต่กลุ่มหลังเมื่อวานนี้ เราถ่ายคลิปไว้หมดเลยค่ะ เราจะทำอะไรมันได้บ้างคะ เราหาเช้ากินค่ำจริง ๆ แต่พวกนี้มันหาหลอกคนแบบง่าย ๆ เกินไป จากคุณ : จน เครียด กินข้าว เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 10:38:35 A:124.120.200.37 X: TicketID:173598

ความคิดเห็นที่ 5 พวกนั้นมีใบมอบอำนาจค่ะ แต่เราไม่ได้อ่านละเอียดว่ามีหมดอายุมั้ย หรือมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง แต่จำชื่อได้ ว่าเคยไปหลอกจับแม่ค้าตามตลาดนัดเพราะเปิดอ่านเจอ ในกระทู้ต่าง ๆ พอเราทักว่า หนูจำชื่อพี่ได้นะ เค้าก้อถามว่า จำได้จากไหน เราบอกว่า ที่พี่จับแม่ค้าตามตลาดนัด เห็นมีลงในกระทู้ทางเน็ตอ่ะ ผู้ชายที่บอกว่า เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ก้อเลยเงียบ ๆ ไม่พูดมากเหมือนทีแรก เลยค่ะ จากคุณ : จน เครียด กินข้าว เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 10:41:22 A:124.120.200.37 X: TicketID:173598

ความคิดเห็นที่ 6 แนะนำให้สวนกลับค่ะ แจ้งความกลับทั้ง ตำรวจ และผู้รับมอบอำนาจ ปรึกษาทนาย  ว่าเค้าผิดข้อหาไหนบ้าง สำคัญว่า คุณกล้าหรือเปล่า สู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม คดีของคุณก็ส่วนของคุณ  ของมันก็ส่วนของมัน ต่างกรรมต่างวาระ  คนละคดี  ทุกคนที่ทำผิดต้องรับโทษทางกฏหมาย แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 54 12:15:13 จากคุณ : lafleur007 เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 12:11:29

ความคิดเห็นที่ 7 คืองี้นะ ไอ้ที่คุณทำอยู่ก็ผิดกฏหมาย และที่เขากำลังทำกับคุณอยู่ก็อาจจะผิดกฏหมายหรือถูกกฏหมาย ถามจริงๆ จะอยู่กับเรื่องแบบนี้ให้ปวดหัวทำไม เคยโดนแล้วนี่นา ก็น่าจะพอได้แล้วนะ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 12:16:18

ความคิดเห็นที่ 8 ติดต่อหาทนายความค่ะ  กิจการที่คุณทำอยู่ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายค่ะ เรื่องพวกนี้ในห้องโต๊ะเครื่องแป้งเคยเห็นเยอะแล้ว   อยากให้แม่ค้ามีทนายความไว้ปรึกษา  แบบไม่ต้องเริ่ดมากก้อได้ค่ะ   ทนายความท้องถิ่นแบบเปิดสำนักงานให้เข้าไปปรึกษาได้ก่อนว่าเค้าจะรับความหรือไม่ เพื่อว่าเวลาเกิดเรื่องกันคุณจะได้โทรหาทนายความ  และให้ทนายช่วยพาไปแจ้งความค่ะ  หนังสือแจ้งความจะได้อ่านดูครบถ้วนมีมูล  ต่อไปพวกนี้มาอีกจะได้บอกว่าครั้งที่แล้วแจ้งความไว้แล้ว  ถ้ายังมาก่อกวนจะดำเนินคดีตามที่แจ้งความไว้  ฯลฯ  เป็นต้น *ความเห็นบนคุณเอาอะไรมาพูดคะว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย  ที่นี่ประเทศไำทยกฎหมายด้านลิขสิทธิ์และด้านทรัพย์สินทางปัญญาของเรารับมาตามหลักการเพื่อคุ้มครองเจ้าของสินค้าและไอเดียเหล่านั้น  สิ่งที่เจ้าของกระทู้ขายถ้าเป็นสินค้าแท้ทั้งหมดจะเอาตำรวจทั้ง สน. มาจับก้อไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้าเพราะว่าไม่ได้มีกฎหมายคุ้มครองผู้นำเข้าสินค้าผูกขาดขายแต่เพียงผู้เดียวแบบอเมริกา  หากเป็นของปลอมย่อมมีมูลความผิดแน่นอน **ยกตัวอย่างเคยมีคนตั้งกระทู้ถามเรื่องการขายตุ๊กตามือสอง  ในเวบบอร์ดของศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ  จนท.ได้ชี้แจงว่า  "การนำตุ๊กตาโดราเอมอนที่เป็นของแท้มาขายไม่เป็นการ ละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากผู้ผลิตสินค้าที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ได้จำหน่ายสินค้าของตนใน ครั้งแรก ได้รับประโยชน์จากราคาสินค้าที่จำหน่ายไปเสร็จสิ้นแล้ว จึงไม่มีสิทธิหวงกันไม่ให้ผู้ซื้อสินค้านำสินค้านั้นออกจำหน่ายอีกต่อไป กล่าวคือ การขายสินค้ามือสองของแท้โดยมิได้กระทำการใดๆ ต่อสินค้าจนเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของเจ้าของลิขสิทธิ์ ไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ แม้การจำหน่ายสินค้ามือสอง เป็นการทำให้งานสร้างสรรค์ถูก “เผยแพร่ต่อสาธารณชน” ตามบทนิยามในมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว แต่สิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการจำหน่ายงานสร้างสรรค์มีอยู่เฉพาะการจำหน่าย ครั้งแรกเท่านั้น ไม่มีอยู่สำหรับการจำหน่ายครั้งต่อไป ดังเช่นการขายสินค้ามือสอง ตามหลักความระงับสิ้นไปในทรัพย์สินทางปัญญา (Principle of Exhaustion of Right) ซึ่งถือว่าสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับผลิตภัณฑ์อันมีสิทธิในทรัพย์สิน ทางปัญญา ได้ระงับสิ้นไป เมื่อมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นั้นในครั้งแรกแล้วเพราะถือว่าเจ้าของสิทธิได้ รับประโยชน์เป็นค่าสิทธิจากตัวผลิตภัณฑ์ที่ได้จำหน่ายไปนั้นแล้ว" ปล.  เบื่อจริงๆ  พวกบริษัทที่นำเข้าเครื่องสำอางเกาหลีมาขายราคาแพงแล้วมาตามจับรายย่อยเนี่ย  ลองสังเกตนะคะพวกบริษัทใหญ่ๆ อย่างเอลก้า หรือ ชิเซโ้ด้  ไม่ทำหรอกค่ะ  ทำไปก้อเสียชื่อเปล่าๆ  ความอาญาก้อไม่มีจะมาขู่กรรโชกอะไรกัน  เพราะสัญญาตัวแทนจำหน่ายเป็นเรื่องระหว่างตัวบริษัทแม่  กับ ตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยค่ะ  ไม่มีการมาผูกขาดถึงคนนอก จากคุณ : Parody เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 15:47:39

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณทุกท่านมากสำหรับข้อมูลนะคะ คุณ Parody เราจะทำความเข้าใจ และทำตามที่แนะนำค่ะ จากคุณ : จน เครียด กินข้าว เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 19:39:36 A:124.120.21.24 X: TicketID:173598

ความคิดเห็นที่ 10 เดิมเราเข้าใจว่าเราผิดเรื่องลิขสิทธิ์ เพราะไปขายของยี่ห้อซ้ำกับที่มี ขายในประเทศไทยค่ะ ขอรบกวนสอบถามตามนี้นะคะ ว่าเราผิดกฎหมาย ข้อใดหรือไม่ เรากลัวว่า เราจะไปดึงดันทั้งที่เราผิด จะกลายเป็นว่าเรา เป็นคนไม่ดีกว่าคนพวกนั้นอีกค่ะ 1.เราขายเทสเตอร์ยี่ห้อที่มี shop ในไทย เช่น ยี่ห้อ skinfood etude โดย สั่งซื้อจากเวปต่าง ๆ แต่ส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารการจ่ายเงินค่ะ เพราะเราจะ โอนเงินผ่านธนาคาร แล้วร้านค้าทางเวป ก้อจะส่งสินค้ามาให้ 2.เราขายเทสเตอร์ยี่ห้อที่ ไม่มี shop ในไทย เรื่องเอกสารการจ่ายเงิน เหมือน ข้อ 1 ค่ะ 3.เราจัดหาสินค้าขนาดไซด์จริง จากทางเวปอีกเช่นเดียวกัน แต่เป็นของแท้ค่ะ มาให้ลูกค้าบ้างตามสั่ง ซึ่งทางเวปเค้าจะหิ้วมาจากเกาหลีค่ะ 4.ร้านเราขายที่ตลาดนัด ไม่มีเอกสารทางการค้าใด ๆ เลยค่ะ ขอรบกวนด้วยนะคะ ช่วยให้ความกระจ่างเราหน่อยค่ะ เราไม่ทราบจะปรึกษาใครดี เพราะคนพวกนี้มาที่ร้าน 2 ครั้ง พูดจาข่มขู่ ยิ่งครั้งแรกที่เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย เรียกเงินเราแบบหน้าด้านมาก แถมยังพูดจาว่า สงสารเลยช่วยเหลือ กลายเป็น บุญคุณกับเราอีก เฮ้ออ ขอบพระคุณมากค่ะ จากคุณ : จน เครียด กินข้าว เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 09:31:21 A:124.122.116.183 X: TicketID:173598

ความคิดเห็นที่ 11 1. เท่าที่ทราบ เครื่องสำอางที่คุณขายบางตัวมีตัวแทนในไทย เพราะฉะนั้นคุณผิดแน่นอน 2. พวกจับลิขสิทธิ์ เขาทำเป็นอาชีพเลย แบรนด์ไหนมาแรง ไม่ว่าสินค้าอะไรเขาจะไปติดต่อกับเจ้าของลิขสิทธิืและช่วยจัดการให้ แต่ค่าปรับทางตัวแทนไม่ค่อยได้เต็มที่หรอก เขาซิกแซกเข้ากระเป๋าพรรคพวกและทีมงาน 3. เขาแจ้งความที่สน. ก่อน และตำรวจรู้จักพวกนี้ดีอยู่แล้ว ผมแนะนำดังนี้ 1. ให้เลิกขายหรือขายสินค้าที่ไม่มีลิขสิทธิ์ในไทยจะดีที่สุด 2. หากยังอยากขายก็ให้โชว์แค่ไม่กี่ชิ้นหรือไม่โชว์เลย แต่พอมีลูกค้าเข้าร้านก็ค่อยแนะนำลูกค้าและหยิบให้ถ้าลูกค้าเอา แต่คุณก็จะไม่สบายใจ ถ้าถูกจับของพวกนี้ยอมความกันได้ซึ่งพวกมาจับเขาอยากได้แบบนี้ที่สุด เพื่อเอาเงินส่วนแบ่ง ถ้าคุณมีเงินก็ให้เขาไป แต่ต่อให้มากที่สุด แต่ถ้าคุณยังขายอีก อีกเดือนก็จะมีคนมาจับอีกไม่ชุดเดิมก็ชุดใหม่ 3. แต่ถ้าไม่จ่ายผมคิดว่าคดีนี้น่าจะไม่ใช่อาญามานานแล้ว(รอคนรู้กฎหมาย)เมื่อก่อนจะอ้างถ้าไม่จ่ายก็ติดคุกก่อนคนจะกลัวเลยยอมจ่าย ถ้าไม่อยากจ่ายก็ให้ยอมรับกับตำรวจ และตำรวจจะส่งเรื่องให้ศาลตัดสินระยะเวลา1-2เดือน แต่ต้องวางเงินหรือหลักทรัพย์เป็นประกัน ถ้าไม่มีเงินประกันอีก เดี๋ยวนี้ก็จะมีบริษัทประกันหลายบริษัทออกเงินให้เราก่อนและเราจ่ายให้เขาเป็นงวด 4. พอศาลตัดสิน ถ้าของน้อยชิ้นเราก็หลุดแน่นอน ศาลมีเมตตากับความผิดครั้งแรก และไม่ต้องเสียค่าปรับอะไรเลยด้วยเสียแค่ค่าประกันเป็นงวดอาจจะหนึ่งพันบาทและบริษัทประกันเขาจะไปเอาเงินคืนกับตำรวจเอง แต่ถ้าถูกจับครั้งที่สองคราวนี้ศาลจะเริ่มปรับแล้ว สุดท้ายถ้าคุณยังอยากขายอีกแต่ไม่อยากถูกจับก็ตกลงกับพวกมาจับว่าจะจ่ายให้รายเดือน เดือนละ1000-2000บาท และพวกเขาก็จะไม่มาจับ ลองหาทีมงานพวกเขาและคุยดู พวกนี้เขาแบ่งหน้าที่กันมีพวกขาโหดกับขาปลอบ ไม่อยากให้ขายของลิขสิทธิ์ แต่เข้าใจครับว่ามันขายดีจริงจึงยอมเสี่ยง จากคุณ : ทิกท้อ (ทิกท้อ) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 22:06:44

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่เกี่ยวเลยครับ ที่สินค้าที่มีตัวแทนจำหน่ายในไทย แล้วเราเอามาขายแล้วเราจะผิด ถ้าสินค้าที่ขายเป็นของแท้นะครับ ไม่งั้นพวกเกรมาเก็ต ที่ขายรถยนต์ โครมๆๆๆ ก็โดนจับไปหมดแล้วสิ เคยมีคำตัดสินจากศาลเรื่องนี้แล้วครับ ลองไปคนๆอ่านดู จากคุณ : รูปหล่อ_พ่อคนดี เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 54 21:49:15

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ตอนนี้ ถ้าพวกนี้มาอีก คงต้องได้คุยกันยาวกว่าเดิมหน่อย เดิมเราไม่แน่ใจว่า เราผิดเรื่องอะไร กลัวว่า จะกลายเป็น ทำผิดแล้วยังฝืนทำต่อ เลยคิดจะเลิกซะ เพราะเบื่อกับ การหากินของคนพวกนี้ค่ะ ตอนนี้ก้อกำลังหาข้อมูลเพิ่มเติม ขอบคุณทุกท่านมาก ๆ นะคะ ปล.สินค้าทั้งเทสเตอร์และไซด์จริงที่ร้านเป็นของแท้แน่นอนค่ะ จากคุณ : จน เครียด กินข้าว เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 54 09:26:06 A:124.122.135.182 X: TicketID:173598

ความคิดเห็นที่ 14 จขกท ครับ ผมพอเข้าใจสถานการณ์ของคุณอยู่ล่ะนะครับ ทั้งนี้มันมีประเด็นหลายๆ ข้อ ที่คุณ จขกท ต้องมองย้อนไปแล้วพยายามศึกษาทำความเข้าใจดีๆ นะครับ ประเด็นแรก คือ คุณขาย สินค้าประเภทเครื่องสำอางค์ ดังนั้น หน่วยงานจะมีหน้าที่รับผิดชอบดุแลจริงๆ ก็คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ตรงนี้คุณอาจมีความผิดฐานนำสินค้าที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน เข้ามาจัดจำหน่ายในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งโอกาสที่จะโดน น้อยมาก ตราบเท่าที่ยังไม่มีใครป่วยเจ็บหรือเสียชีวิต จากการใช้สินค้าที่คุณจำหน่าย ส่วนสินค้าที่อยู่ภายใต้ Brand เดียวกัน ที่มีอยู่ในประเทศไทย ถ้าไม่มี เลขทะเบียนบนสลากผลิตภัณฑ์ คุณก็มีความผิดเช่นกัน แต่ก็อย่างที่บอกครับ โอกาสโดนน้อยมาก อย. เอาเวลาไปไล่จับร้านขายยาที่กระทำผิด หรือ ไปถล่มแหล่งผลิตยาหรือเครื่องสำอางค์ปลอมดีกว่า ประเด็นที่ 2 เรื่องตรา ยี่ห้อ เครื่องหมายการค้า ถ้าว่ากันตาม พรบ. ลิขสิทธิ์  ฉบับแก้ไขล่าสุด กรณีของคุณ(ถ้าเป็นของแท้ทั้งหมดจริง อย่างที่อ้างนะครับ) ไม่มีใครสามารถเอาผิดคุณได้ด้วยเหตุผลของการละเมิดลิขสิทธิ์ครับ ไม่ว่าหน้าไหนก็ทำไม่ได้ โดยเฉพาะตำรวจท้องที่ ไม่อยู่ในข่าย ใดๆ ใน พรบ.ลิขสิทธิ์เลยซักนิด ไปหาอ่านเอาโดยละเอียดได้ที่ เว็บของ กรมทรัพย์สินทางปัญญาครับ แต่ถ้าในเอกสารของเจ้าของลิขสิทธิ์ตรา ยี่ห้อ เครื่องหมายการค้า นั้นระบุ ชัดเจนให้ครอบคลุมถึงสิทธิ์การจัดจำหน่ายหรือแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายด้วย อันนี้คุณจะมีความผิดนะครับ ประเด็นที่ 3 ถ้าจะมีหน่วยงานไหนเอาผิดคุณ ก็ต้องตั้งข้อหา ลักลอบนำเข้าสินค้าที่ยังไม่ได้รับอนุญาต หรือ ไม่มีตราอนุญาต มาจำหน่ายในราชอาณาจักร ส่วนการนำของเทสมาจำหน่าย จะกลายเป็นว่า คุณจำหน่ายสินค้าผิดลักษณะตามเป้าประสงค์ของเจ้าของสิทธ์ ซึ่งอันนี้เขาอาจจะอ้างได้ว่า การกระทำของคุณเป็นการละเมิด หรือ ทำให้เสียภาพลักษณ์ของ ตรา ยี่ห้อ เครื่องหมายการค้า ประเด็นที่ 4 เนื่องจากเป็นลักษณะของบริษัท ผู้รับช่วงสิทธิ์มาดำเนินการกันเอง ซึ่งภาษาในสายเกมและซอฟท์แวร์จะเรียกพวกนี้ว่า "หมาล่าเนื้อ" มีข้อแนะนำให้คุณไปทำเตรียมไว้เลยนะครับ ถ้าคุณเตรียมใจที่จะทำธุรกิจของคุณต่อไป ถ้ามั่นใจว่ายังไงคุณก็ไม่ผิดตามพรบ.ลิขสิทธิ์ และข้อหาที่ถูกตั้งคือ การละเมิดลิขสิทธิ์ ให้คุณสู้คดีไปเลย ยอมโดนจับและประกันตัว แค่คุณต้องเตรียมหลักทรัพย์ไว้ประมาณ 5 หมื่น ถึง 1 แสนบาท และหรือ ไปติดต่อ ขอทำประกันอิสระภาพ กับบริษัทประกันภัย ที่มีบริการนี้เอาไว้เลยครับ เขาจะวิ่งกันพล่านขอประนีประนอมยอมความกับคุณ เพื่อไม่ให้เข้าสู่กระบวนการศาล แต่ถ้าเข้าสู่ชั้นศาลแล้ว คุณอาจจะได้ยกฟ้อง หรือ จ่ายค่าปรับถูกมากๆ (แต่ทำตัวให้จน หน่อยนะครับ ใช้ทนายศาลตั้งไปเลย) พวกนี้เป้นแค่ตัวแทน ไม่ใช่บริษัทแม่เจ้าของ Brand ถ้าเจ้าของ Brand ไม่ลงมาเล่นเอง ยังไงคุณก็มีโอกาสรอดสูง เพราะพวกรับช่วง ฟ้องคุณได้ข้อหาเดียวเท่านั้นคือ ละเมิดลิขสิทธิ์ จากคุณ : Valard เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 54 20:24:29

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ สำหรับข้อมูล ดูแล้วสงสัยอาจต้องเลิกอาชีพนี้ซะแล้วมั้งคะ ประเด็นที่ 1 เทสเตอร์ที่ขายไม่น่าจะมีอันตรายใด ๆ ค่ะ เพราะคุณภาพ พอใช้ได้ค่ะ และเป็นของแท้แน่นอน ประเด็นที่ 2 ตามที่บอกว่า แต่ถ้าในเอกสารของเจ้าของลิขสิทธิ์ตรา ยี่ห้อ เครื่องหมายการค้า นั้นระบุ ชัดเจนให้ครอบคลุมถึงสิทธิ์การจัดจำหน่าย หรือแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายด้วย อันนี้คุณจะมีความผิดนะครับ ข้อนี้ เราโทรคุยกับตัวแทนจำหน่ายในไทย เค้าบอกว่า ห้ามขาย เพราะ เราผิดฐานละเมิดเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายหรืออะไรนี่แหละค่ะ คือถึงของ แท้ ก้อผิดที่บริษัทเค้าว่าอย่างนั้นค่ะ เพราะเค้าจดทะเบียนลิขสิทธิ์การ จัดจำหน่ายไว้ว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในเมืองไทยค่ะ ประเด็นที่ 3 เราเอาเทสเตอร์ที่ห้ามจำหน่าย มาวางขาย คงผิดจริงจากที่ เห็นเพียงแต่เราก้อต้องสั่งซื้อมา สามารถจัดหาใบเสร็จได้ แต่ซื้อจากใน ไทยค่ะ ประเด็นที่ 4 เรื่องทำตัวให้จน ไม่ยากเลยค่ะ ไม่ยากจริง ๆ แทบจะไม่ต้อง ทำอะไรเลยค่ะ 555 จนจริง จริงจัง มาก ๆ เลยค่ะ เฮ้อออออ เครียด ตอนนี้เราเหนื่อยใจมาก ๆ ค่ะ ต้องขอโทษที่มาขอความรู้ มาขอคำแนะนำ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าทำผิดแต่เราลงทุนไปแล้ว เราเองก้อไม่มีทุนจะไปหาซื้ออย่าง อื่นมาขายแทนจริง ๆ แต่ตอนนี้เริ่มต้นปีใหม่ด้วยความเศร้ายังงัยก้อไม่รู้ค่ะ กำลังอยู่ระหว่างทบทวนว่า ควรจะเดินหน้าต่อไปอย่างไรดี จากคุณ : จน เครียด กินข้าว เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 54 21:13:37 A:115.87.120.75 X: TicketID:173598

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นกำลังใจให้ คุณ จขกท นะครับ ยังไงถอยหลังมา โพสขาย สินค้าที่เหลืออยู่ ผ่านทาง pantipmarket ไปก่อนก็ดีนะครับ อย่างน้อยๆ ก็น่าจะพอ เก็บทุนกลับขึ้นมาได้บ้าง แล้วค่อยลองๆ มองหาลู่ทางดูอีกที หรือ ถ้าคิดว่าพอมีศักยภาพ กับ connection ดีๆ อยู่บ้าง ก็น่าจะลองทำ งาน freelance ดูก็น่าจะดีนะครับ จากคุณ : Valard เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 12:00:27

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากนะคะ จากใจเลยค่ะ จากคุณ : จน เครียด กินข้าว เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 16:06:05 A:110.168.77.164 X: TicketID:173598

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าไม่ใช่ของปลอม ไม่ผิดกฎหมายครับ เครื่องสำอางไม่ใช่สินค้าควบคุมที่ต้องขึ้นทะเบียนกับอย. ยกเว้นเครื่องสำอางควบคุมพิเศษบางรายการ การที่บ. จดทะเบียนเป็น Authorized Dealer แปลได้แค่ว่า บริษัทได้รับสิทธิในการนำเข้า แสวงหาผลกำไรเต็มที่ และบริษัทแม่จะต้องรับความเสี่ยงในกรณีที่สินค้ามีปัญหา ส่วนกรณีของจขกท. น่าจะเข้าข่าย Grey Market คือสินค้าปรกติทุกประกัน แต่การนำเข้าหรือจัดจำหน่ายไม่ได้ผ่าน Authorized Dealer หากมีปัญหากับผู้ใช้ จขกท. ต้องรับผิดชอบเองครับ ไม่ผิดกฎหมายครับ ยืนยัน ในวงการ IT เราเรียกพวกนี้ว่าหมานำจับ ไม่ต้องไปสนใจคับ ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ด้วย แล้วแจ้งความข้อหาบุกรุก ข่มขู่ ขู่กรรโชกทรัพย์ได้เลยครับ จากคุณ : Epinephrine เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 10:08:51