PANTIP.COM : B10143980 มีเหตุผลใดบ้างที่เปิดกิจการแล้วเจ๊ง ทั้งๆที่ วางแผนมาเป็นปีๆ. [การบริหารจัดการ]

ความคิดเห็นที่ 7

เท่าที่เจอมา...

เจ้าของหัวคิดสมัยใหม่ โดยใช้สโลแกน "ให้เงินทำงานแทนคุณ" แต่ทั้งนี้พื้นฐานของธุรกิจก็ไม่แน่น รู้ก็ไม่รอบทั้งหมดของธุรกิจ แต่จ้างให้คนอื่นมาทำงานให้ มาบริหารงานให้ สรุป ธุรกิจไปไม่รอดเพราะว่าเจ้าของกิจการไม่ได้มาลงมือทำด้วยตนเอง ตัดสินใจไม่ตรงประเด็นทั้งๆที่ธุรกิจน่าจะไปได้ดี...

เชื่อมั่นในสินค้า แต่โลภอยากได้มากๆ มีสินค้าตัวหนึ่งซึ่งต้นทุนประมาณ 50 กว่าบาท แต่ขายกับกลุ่มเป้าหมาย B+ ขึ้นไป ขายชิ้นหนึ่งก็ 2-3 พันบาท ให้กำไลชิ้นละ 500 บาทก็ขายได้แล้ว แต่อันนี้ กลับไปคิดว่า เขาคิดค้น ดังนั้นเขาควรจะได้มากกว่าคนขาย ซึ่งคนขายต้องติดตั้งอุปกรณ์นี้ด้วย อีกทั้งยังต้องเชียร์สินค้าอีก แต่กลับให้เขา 100-200 บาท ที่เหลือตัวเองจะเอาเสียทั้งหมด แล้วใครอยากจะขายให้ ปัญหาอันนี้คือ ในเมื่อต้องพึ่งคนกลาง ทำไมไม่ทำให้คนกลางพึงพอใจกับตัวเลข แล้วเขาจะขายให้คุณเอง สินค้าตัวนี้ก็เลยต้องพับกลับไป ทั้งๆที่เป็นอุปกรณ์ที่ดีมาก และ สามารถป้องกันการสูญเสียเงินจำนวนมากได้ด้วยหากติดตั้ง...

การทำธุรกิจที่อยากทำ กับ ครอบครัว บางครั้งการรับผิดชอบต่อครอบครัวก็ทำให้ธุรกิจที่ทำไม่สามารถเดินต่อได้ ผมพบคนหนึ่งเขาต้องเลี้ยงลูกเอาเวลาไปเลี้ยง และ รับส่งลูก พอให้เขาไปติดต่อหาลูกค้า ก็บอกว่าไม่ทัน ต้องไปรับลูก หรือบางทีก็เหนื่อยขอนอนก่อน ทั้งนี้ การที่เจ้าของกิจการขาด ฉันทะ และ วิริยะ ในการเป็นเจ้าของกิจการ แค่นี้ก็ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าไปไม่รอด ก็ต้องขายเครื่องมือออกไป อันนี้ก็น่าเสียดาย

มีท่านหนึ่งทำธุรกิจที่เป็นของเหลือใช้ เขาเรียกสินค้าของเขาว่า "ขยะ" ทำให้เขามองว่า เป็นงานต่ำต้อย จึงไม่มีแรงจูงใจในการทำต่อ มีคนสั่งมาก็ทำไป ที่อยู่ได้เพราะมีลูกค้าประจำไม่อย่างนั้นไปไม่รอดแล้ว นี่ก็จะขายโรงงานแล้ว

มีผู้ผลิตรายหนึ่ง เขาผลิตสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งว่าไปแล้วเขาใช้ไม้อย่างดี ใช้วัสดุอื่นๆมาจากญี่ปุ่นอย่างดี ออกแบบอย่างดี แต่แล้ว เขากลับขายสินค้าของเขาไม่ได้เลย คิดเอาไว้ได้ วางโชว์หน้าร้านแต่ขายไม่ออกเลย ทั้งนี้ เนื่องจากราคาที่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับสินค้าลักษณะเดียวกัน เมื่อบอกให้ลดก็ไม่ลด เพราะว่า ตัวเองเอาตัวเองเป็นมาตรฐานว่า เขาต้องการอย่างนี้ ถ้าเขาจะซื้อเขาก็จะหาซื้อสินค้าอย่างนี้ โดยไม่ได้มองว่า ลูกค้าจริงๆต้องการอไร เฟอร์นิเจอร์ตัวนี้มีเอาไว้ทำอะไร เมื่อทำสินค้าก่อนหากลุ่มเป้าหมาย และ หากลุ่มเป้าหมายไม่เจอ ก็ไม่ต้องพูดถึงครับ ก็ต้องหยุดกิจการตัวนี้ไปโดยปริยาย

มีธุรกิจหนึ่ง เขาใช้ความสัมพันธ์ได้งานมา ซึ่งความสัมพันธ์อันนี้จากผู้ใหญ่เอ็ดดูเด็ก กลายมาเป็น เด็กดูเอ็นผู้ใหญ่ มันก็เลยมีปัญหา ผิดศีลข้อ 3 กันไป เมื่อ ผู้ใหญ่หมดบุญจากหน้าที่การงาน ก็ทำให้ธุรกิจของเด็กมีปัญหาตาม เห็นว่าเด็กก็เลิกกันไปกับผู้ใหญ่ แต่ไปเจอผู้ใหญ่อีกท่านที่มีทรัพย์มาก ธุรกิจไม่มีหัวดูแลจริงๆ มีปัญหากับหน่วยงานกลาง อย่างนี้ ก็ึคงปิดอีกในไม่ช้า

ธุรกิจหลายๆธุรกิจที่ทำให้คนอื่นเดือดร้่อน หรือ ทำให้คนอื่นมีทุกข์ เช่น เปิดบาร์ แรกๆก็ขายเหล้า หลังๆมาก็มีผู้หญิงให้บริการ แรกๆก็ไปได้ดี หลังๆมีปัญหาเนื่องจากผู้หญิงทำงานบ้าง เนื่องจากสภาพที่ดูไม่ดีบ้าง เนื่องจากคนเบื่อบ้าง ฯลฯ แต่ัทั้งนี้ เนื่องจากหมดบุญเก่า กรรมเลยส่งผลเข้าแทรก ธุรกิจที่ทำก็เจ๊งติดหนี้ ติดสินกันไป แถมสุขภาพร่างกายของตัวเองก็เอาไม่รอด นี่แค่ชาตินี้เป็นอย่างนี้ เสียชีวิตไป ยังไม่รู้ว่าต้องใช้กรรมอีกนานเท่าไหร่ อันนี้อยากจะขอให้พิจารณาสำหรับคนที่คิดว่าทำผิดศีลแล้วยังสบายดีอยู่ มันดีเฉพาะตอนที่คุณยังมีบุญค้ำเท่านั้น...

สรุปว่า...

แค่ไม่มี อิทธิบาท ๔ ของเจ้าของกิจการ ก็ทำให้ธุรกิจล่มแล้ว
ไม่มีความพึงพอใจ ไม่รักในงานที่ทำ ก็ไปไม่รอด
ไม่มีความพากเพียรที่จะทำ ไม่ขยัน ไม่อดทน ก็ไปไม่รอด
ไม่มีใจจดจ่อกับงาน มัวแต่คิดว่าจ้างคนอื่นมาทำแทน ก็ไปไม่รอด
ไม่มีการวิเคราะห์หาข้อมูลย้อนกลับว่าสินค้าตรงกับกลุ่มเป้าหมายหรือ เปล่า ก็ไปไม่รอด
ธุรกิจที่ผิดศีล มักเปลี่ยนเจ้าของบ่อยๆ

จากคุณ : wbj

เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 15:12:54