 |
กระทู้นี้จงใจจะ Deceive to discriminate รึปล่าวฮ่ะ? เราว่าเรื่องนี้มัน Drama มาโดยตลอด เราว่ามันก็เป็นแค่ Standardization of Academic หรือปล่าว? ที่มีสถาบันการศึกษาแห่งใดแห่งได้สร้างให้สังคมได้รับรู้ยอมรับมาอย่างช้านานมากกว่า ส่วนผู้เรียนที่เข้าไปศึกษาผลลัพธุ์ในท้ายที่สุดหลังจบปี 4 คุณจะมี Skill Set หรือว่า Competency ยังไงอันนี้มันขึ้นอยู่กับ Common Sense ของแต่ละคนมากกว่าว่าจะ Drive ตัวเองไปทางไหน มี Inspiration ยังไงแล้วจึงเก็บเกี่ยวเอาสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามันเป็น Advantage กับตัวเองอ่ะมา Valuation ตัวเองอีกทีมั้งนะในความคิดเราอ่ะ
แต่ยอมรับเลยว่า สังคมที่มีทั้ง Motif และ touchstone ที่เป็น System มากกว่า อย่าง ม.รัฐ (จุฬาลงกรณ์ฯ, ธรรมศาสตร์, เกษตรศาสตร์) มันจะ arouse คนในสังคมนั้นให้ Alert เพราะมนุษย์เรามีพฤติกรรมการเลียนแบบอยู่แล้ว และอีกอย่าง มนุษย์เราอยากได้รับการยอมรับจากสังคมกันทุกๆ คน ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งครับ มันจึงเป็นเรื่องปกติ ที่คนในสังคมนั้นจะ Drive ตัวเองไปยืนอยู่บนจุดสูงๆ ได้ไม่อยาก เรามีเพื่อนจากม.ที่ว่านี้เยอะอ่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนในสังคมที่ laxation มากกว่า อย่าง ราชภัฏ, รามคำแหง หรือว่าม.เอกชน จะหาคนที่มี Inspiration ในการใช้ชีวิตไม่ได้ แต่ % น้อยกว่า เพราะไม่ว่าจะด้วยความที่มัน Flexible มากเกินไป หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ ทุกอย่างมันอยู่ที่ความคิดของตัวเราเองทั้งหมดแหละนะ
เราเองก็จบราชภัฏมาเหมือนกัน ตอนนี้อายุ 22แล้ว ประสบการณ์ทำงาน 1ปีที่ผ่านมาเจอมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะจุฬาลงกรณ์, ธรรมศาสตร์, เกษตรศาสตร์, รามคำแหง, ราชภัฏเองก็ด้วย เพื่อนผมเองก็มีเยอะ จากสถาบันที่ว่ามานี้ เราคงเป็นคนที่โชคดีที่ไม่เจอเรื่องการดูถูกรึปล่าว? แต่เพื่อนเราน่ารักนะส่วนใหญ่ ไม่เคยคุยกันไม่รู้เรื่องนะ โดยเฉพาะในเรื่องวิชาการที่ต้องคุยกันเนี้ยะ เราเองชอบนะ เวลาอยู่กับเพื่อนประเภทที่ Alert เนี้ยะ เวลานั่งคุยกันมีสาระดี แบ่งปันประสบการณ์ความรับผิดชอบ แล้วก็เอามาประเมินกันกับเพื่อนในกลุ่มว่าใครเป็นไง ใครโดนไรมาบ้าง
ถ้าในท้ายที่สุดเรียนจบมาไม่ว่าจะม.ไหนก็แล้ว แล้วยังต้องดิ้นรนไปเป็นลูกจ้างเค้าเนี้ยะ สำหรับเราเราว่าเราก็เหมือนกับสินค้าถูกป่ะ เพราะเราต้องนำเสนอให้เค้ารับเราเข้าทำงานอ่ะ (อันนี้เราไม่พูดถึงเด็กเส้น หรือว่ามี Connection แรงมาอยู่แล้วนะ อันนั้นถือเป็นผลพลอยได้ที่คนเราจะมีก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่มีก็ไม่เห็นเป็นไรเหมือนกัน) ม.ที่จบมาก็อาจเหมือน Package อ่ะ แต่ในท้ายที่สุดสินค้าจะดีหรือว่าไม่ดี มันก็จะรู้เมื่อตอนที่เราอุปโภค หรือว่าบริโภคมันแล้วถูกป่ะ (เห้ยอันนี้ความคิดเปรียบเทียบนะไม่ได้จริงจัง กลัวเด่วจะมีพวกรู้มากเอาหลัก ISO ต่อสถาบันการศึกษามายกให้เราอ่านอีกว่า ระบบ ISO ต่อสถาบันการศึกษาเค้าไม่เปรียบนักศึกษาว่าเป็น "สินค้า" กันหรอกนะ งู้นงี้งั้น ซึ่งเออข้อนี้เรารู้แล้วแหละ แต่อยากเปรียบเทียบ เข้าใจป่ะ?)
ถ้ายัง Care สายตาคนอื่นว่าเค้าจะมองเรายังไงถ้าเราไม่ได้จบม.รัฐดังๆมา เราว่าลองหันมา Care ความรู้สึกตัวเองก่อนดีมั้ย? ว่าเราจะเอาสายตาคนอื่นมาปิดกั้นความสามารถเราทำไม? ทำให้เราท้อแท้ทำไม? ไม่รู้ดิ เราก็เป็นคนที่ Care เรื่องพวกนี้นะถ้าเราโดน แต่ถ้าเราเอาเวลาไปเพิ่ม Capability ให้ตัวเองจนเป็นที่ยอมรับจะดีกว่ามั้ยอ่ะ (ถ้าอยากเป็นที่ยอมรับอ่ะนะ)
ส่วนเรื่องการชื่นชมนี้เราไม่ได้ชื่นชมเพราะรู้ว่าสถาบันไหนดัง ไม่ดังนะ เราชื่นชมเรื่องการวางตัวเวลาได้พบเจอมากกว่า มันเป็น First Impression อ่ะอันนี้ต้องยอมรับ ซึ่งเราว่าของพวกนี้ไม่ว่าจะจบม.ไหนมามันก็สร้างให้ตัวเองได้จริงป่ะ? เราเคยเห็น Slip เงินเดือนของพี่คนนึงอ่ะ พี่แกเรียนอยู่ม.แห่งหนึ่งไม่ดังด้วย แล้วก็ไม่จบ แต่ขอโทษเหอะ ทำงานขายประกันปิดยอดทีเป็นลาน เงินเดือน 8,000 ต่ำกว่าทุกอาชีพก็จริง แต่ Commission บางเดือน 200,000 บาทอ่ะ เยอะกว่าพวกผู้บริหารบางคนอีก เคยถามว่า Drive ของพี่คืออะไรเนี้ยะ ทำไมถึงกระเหี้ยนกระหือรือทำยอดได้เยอะขนาดนี้ พี่แกตอบสั้นๆง่ายๆและได้ใจความว่า "อยากมีเหมือนชาวบ้าน" เห็นป่ะว่า เรื่องแบบนี้ในท้ายที่สุดอ่ะ มันขึ้นอยู่กับ Inspiration และ endeavour ของแต่ละคนจริงๆ ขอบอกเหอะ
จากคุณ |
:
NOLOGO
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ก.พ. 54 00:51:41
A:180.180.6.152 X: TicketID:305451
|
|
|
|
 |