ความคิดเห็นที่ 1 เราว่าก็จริงของลูก ถ้าเราไม่พร้อมมีทุกอย่างให้ลูก เราจะไม่มีลูกเด็ดขาด จากคุณ : maewfoo (maewfoo) เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 20:20:04

ความคิดเห็นที่ 2 บอกว่าได้ แต่มีเงื่อนไขดังนี้ 1. ห้ามกลับบ้านหลัง 6 โมงเย็น เพราะเป็นคำสั่งของพ่อกับแม่ 2. เรียนต้องได้เกรด 4.00 ห้ามขาด 3. ห้ามกินเหล้า สูบบุหรี่ ข้องแวะกับสิ่งเสพติดทุกประเภท ห้ามเที่ยวกลางคืน ห้ามมีแฟน จนกว่าจะเรียนจบ และทำงานเลี้ยงตัวเองได้ 4. เชื่อฟังคำพุดของพ่อกับแม่ทุกกรณี ห้ามดื้อ ห้ามซน โต้แย้งได้ ถ้ามีเหตุผล ถ้าทำได้ตามนี้ก็โอเค จากคุณ : gus9642 เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 20:29:07

ความคิดเห็นที่ 3 เตะติดข้างฝาเลย เป็นลูกพูดจากับพ่อแม่แบบนี้ได้งัย จากคุณ : นางหนูลูกแม่ เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 20:34:58

ความคิดเห็นที่ 4 แนวคิดนี้อย่างกับอาจารย์ฝรั่งเราเลย พูดมาได้ว่าแม่อยากมีเซ็กส์เอง แม่ก็ต้องรับผิดชอบชีวิตลูกทุกอย่าง ไอบ้า แทนที่มันจะคิดว่าพ่อแม่กว่าจะเลี้ยงมันจนโตมา ถ้าลูกพูดงี้พ่อแม่ควรจะพูดว่า "รู้งี้เอาขี้เถ้ายัดปากตั้งแต่เด็กสะก็ดี" จากคุณ : Fernnise (Fernnise) เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 20:40:05

ความคิดเห็นที่ 5 ต้องตีความคำว่า "รับผิดชอบ" ก่อนครับ ซื้อของแพงๆให้นี้เรียกว่ารับผิดชอบหรือเปล่าอันนี้ผมว่า ไม่น่าจะใช่ จากคุณ : รูปหล่อ_พ่อคนดี เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 20:46:15

ความคิดเห็นที่ 6 ยาวววววววว ถ้าลูกพูดแบบนี้  เรื่องยาวแน่ ๆ จากคุณ : สามทับหนึ่ง เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 20:48:15

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าลูกพูดแบบนี้น่ะ ผมว่าเด็กมันน่าจะไม่มีหัวคิดน่ะ จะเอาก็ให้ได้แต่ถ้าพูดแบบนี้ไม่ให้เด็ดขาด จากคุณ : Che_Eng เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 20:56:10

ความคิดเห็นที่ 8 ก็บอกเด็กไป ถ้าอยากมีวัตถุพวกนี้ต้องไปทำงานหาเงินมาซื้อเองหรือเก็บจากเงินค่าขนมเอาเองคะ ให้ลองไปทำpart timeดูบ้างค่ะเขาจะได้รู้ค่าของเงิน บางทีเราอาจจะเลี้ยงเขาจนสบายเกินไป อยากได้อะไรก็มาแบมือขอพ่อแม่อย่างเดียว เฮ้อ...วัยรุ่นสมัยนี้ จากคุณ : mo-ke mo-ke เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 21:02:34

ความคิดเห็นที่ 9 ผมจะบอกว่า ถ้าผมเป็นพ่อเป็นแม่จะรับผิดชอบ ในขอบเขตที่เป็นสากลนิยม กล่าวคือ ปัจจัยสี่ ซึ่งเป็นพื้นฐาน ที่อยู่อาศัย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค เสริมด้วย การศึกษา นอกเหนือจากนั้นผมให้เท่าที่ฐานะจะอำนวย และอยู่ในขอบเขตที่สมเหตุสมผล - ขอ iPhone ผมก็จะถามว่าแล้ว Nokia 1661 ติดต่อสื่อสารไม่ได้หรือ การ chat การคุยแบบเห็นหน้ากันจำเป็นกับชีวิตหรือไม่ ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ผมให้ เพราะจำเป็นกับการเรียน - ขอ รถยนต์ ระบบขนส่งมวลชน จากบ้านไปโรงเรียน ลำบากเกินไปหรือไม่ บางคน 3-4 ต่อเค้าก็ไปกันได้ ยกเว้นซอยที่บ้านมันลึก มันเปลี่ยวจริงๆ ยิ่งถ้าให้เหตุผลว่า "ใครๆ เขาก็มีกัน" ผมไม่รับฟังเด็ดขาด ถ้าลูกๆ มีเหตุผล (ต้องดีพอนะครับ) ผมจะไม่ขัดข้องเลย จากคุณ : nungning เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 21:36:23

ความคิดเห็นที่ 10 มันอยู่ที่การเลี้ยงดูตอนเด็ก ถ้้าเลี้ยงมาอย่างดี จะไม่มีทางที่มันจะมาทวงถามคำถามแบบนี้ จากคุณ : Rookies (SuperClass) เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 21:41:24

ความคิดเห็นที่ 11 แหม ถ้าลูกไม่อยากเกิด ก็ไม่น่าไปแย่งสเปิร์มตัวอื่นปฏิสนธินะ จากคุณ : comeDD เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 22:02:33

ความคิดเห็นที่ 12 โทษพ่อแม่ ที่ไม่รู้จักอบรมลูกให้มีสำนึก แสดงว่า พ่อแม่ ปรนเปรอลูก เกรงใจลูก จนทำให้ ลูกกล้าพูดแบบนี้กับพ่อแม่ได้   แต่ไม่เคยสอนให้รู้จักถูกผิด แค่ แปลคำว่า รับผิดชอบในกรณีนี้ ยังแปลผิดทั้งพ่อแม่ลูกเลย จากคุณ : วีทีอาร์ เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 22:02:37

ความคิดเห็นที่ 13 ตบสักสี่ห้าฉาด ถ้าเมิงขอไปเรียนพิเศษจะไม่ว่าสักคำ กรูยังใช้3310อยู่เลยลูกเวร จากคุณ : แมงปอซ่า เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 22:32:43

ความคิดเห็นที่ 14 เบิร์ดกระโหลกสักสองทีแล้วเลี้ยงใอติม ปล. ขำ #11 จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 22:54:27

ความคิดเห็นที่ 15 เอาเข้าจริงๆเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก ในทางกลับกัน พวกที่ทำให้เด็กเกิดมา แล้วหวังให้เด็กมันเทิดทูน เคารพ บูชา แล้วเลี้ยงตัวพวกเขาตอนแก่...เอาอะไรมาคิดนี่ เด็กที่เกิดมา ไม่ได้ร้องขอที่จะเกิดมา หากไม่มั่นใจว่าจะให้ชีวิตที่ดีกับเขาไม่ได้ จะทำให้เกิดมาทำไม เรื่องแบบนี้ฝรั่งก้าวหน้ากว่าเรา พวกเขามีกฏหมายรองรับว่าเขาต้องดูแลลูกจนอายุ18ปีเท่านั้น เกินกว่านี้ เชิญออกไปจากบ้าน เผชิญโลกของตัวเอง มีลูกเพราะอยากเลี้ยง อายุเกินก็จบ ไม่ต้องรับผิดชอบต่อ...convenientจริงๆ จากคุณ : Schweissnaht (Schweissnaht) เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:25:07

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเข้าใจครับว่าเด็กชอบเปรีัยบเทียบตัวเองกับคนอื่น อยากมีเหมือนคนอื่น แต่เด็กไทยยังด้อยเรื่องการเข้าใจชีัวิต การรับผิดชอบตัวเอง สิ่งนี้ผมว่าเราควรนำมาใช้กับโลกปัจจุบัน เด็กมหาลัย ในวัย 18-20 เดี๋ยวนี้ต้องรู้จักทำงานหารายได้ให้ตัวเองได้แล้ว เป็นผมจะสอนให้เขารู้จักหารายได้ตั้งแต่เขายังเรียนเขาจะได้นำรายได้ของเขาไปบริหารชีวิตของเขา และเขาจะได้เรียนรู้ว่าเขาควรจะจัดการการเงินของเขาอย่างไร ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับผู้ใหญ่ที่ชอบคิดว่าต้องหาสิ่งต่างๆ มาป้อนให้กับลูกเพื่อให้ลูกดูทัดเีทียมกับคนอื่น เรื่องนี้บางคนคิดว่าเป็นเรื่องของการให้ต้นทุนทางสังคมกับลูกเพื่อปูทางให้สามารถมีคอนเนคชันในสังคมได้ แต่สำหรับหลายคนผมว่าถ้าไม่เข้าใจจริงๆ แล้วเป็นการลงทุนที่อาจสูญเปล่า และอาจทำลายลูกก็ได้ ของบางอย่างจะให้ต้องดูความรับผิดชอบความเป็นผู้ใหญ่ของเด็กด้วย แม้ตนเองมีกำลังจะให้ก็ตาม ผู้ใหญ่ควรส่ิงเสริมลูกให้ค้นหาความภูมิใจในความสามารถหรือความดีในตัวของเขามาอวดต่างหาก ไม่ใช่ส่งเสริมให้เด็กเอาของพวกนี้มาอวดกัน เด็กไทยจึงมักจะมีค่านิยมแบบนี้ติดตัวมา เพราะผู้ใหญ่สนับสนุน ผมคิดว่าถ้าเราสนิทกับลูก ลูกก็จะรู้ว่าเราเป็นคนอย่างไร ถ้าเราเคยให้เขามาเสมอๆ โดยไม่สอนให้เขารู้จักเหตุผล หรือเงื่อนไขที่เขาควรจะได้ เช่นต้องทำคะแนนให้ดี ต้องประพฤติตัวให้ดี หรือแม้เขาทำดีแล้ว เขาจะมีสิ่งนั้นไว้เพื่อใช้ประโยชน์อะไร อะไรคือความคุ้มค่า เด็กก็จะถามคำถามแบบนี้ออกมาไ้ด้ง่ายๆ โดยอาจจะไม่ได้คิดอะไรมาก่อน แต่ถ้าเราเป็นคนที่ตั้งคำถาม ตั้งเงื่อนไข และให้เด็กเรียนรู้ที่จะตอบคำถาม และใช้ความพยามเพื่อจะได้มา ถ้าเด็กจะถามคำถามแบบนี้กับเราผมคิดว่าเขาคงต้องคิดก่อนว่าจะถามคำถามแบบนี้กับเราดีมั๊ย และถ้าถามเขาต้องตอบอะไรกับเราบ้าง แต่อย่างกรณีนี้ให้เหตุผลแล้วยังไม่ฟัง เพราะเขาไม่ใช้เหตุผล ด้วยความที่เขาอยากได้ เขาจึงพยายามใช้คำพูดเพื่อจะกดดัน (เด็กมันฉลาด) ก็ต้องยืนยันจุดยืีนของเราให้ชัด ถ้าเขาไม่ฟังก็ช่วยอะไรไม่ได้ แต่เขาจะรู้ว่าที่เขาไม่ควรได้เพราะอะไร และถ้าเขาจะได้มาเขาต้องทำอย่างไร ผู้ใหญ่ก็ต้องรู้จักพอประมาณก่อน ต้องยอมรับว่าเราให้ลูกได้แค่ไหนด้วย ถ้าบางอย่างถ้ามันเกินตัวเราจนเกินไป ก็ไม่ต้องไปซีเรียสกับมันว่าจะต้องหามาให้ได้ ถ้าเราไม่ประมาณตนเด็กก็จะเลียนแบบเรา ถ้าเรารู้จักพอประมาณเด็กจะรู้ว่านั่นเป็นขอบเขตที่เขาต้องยอมรับให้ได้ ในประเด็นนี้เด็กเข้าใจเรื่องความรับผิดชอบของพ่อแม่ผิดด้วย คือ พ่อแม่เกิดมาไม่ได้เพื่อต้องให้ทุกอย่างที่เขาต้องการแก่เขา พ่อแม่ทุกคนไม่ได้มีลูกเพื่อให้ลูกเป็นราชา แต่ในวัยรุ่นเป็นวัยที่เขาอาจจะเข้าใจอะไรผิดแบบนี้ได้เป็นเรื่องธรรมดา ต้องให้เขาเผชิญกับโลกแห่งความจริงก่อนแล้วเขาจะนึกได้ถึงสิ่งที่เราสอนเขา ผมถึงคิดว่าพ่อแม่น่าจะฝึกลูกในวัยแบบนี้ให้รู้จักรับผิดชอบงานบางอย่างที่เขาทำเอง งานไซด์ไลน์ระหว่างเรียน เดี๋ยวนี้มีช่องทางเยอะครับเช่นเด็กที่เขียนโปรแกรมได้ อาจจะรับเขียนเกมส์ เขียนเว็บ เด็กที่ชอบถ่ายรูป อาจจะรับจ้างถ่ายรูป เด็กที่ชอบวาดรูป อาจจะเพนท์เสื้อขายตลาดนัด ชอบแฟชั่นก็หาเสื้อไปขาย อาจจะเป็นพนักงานร้านอาหาร งานกิจกรรมโรงเรียนก็สำคัญนะครับเป็นไปได้ควรสนับสนุนให้ทำเพราะเป็นการฝึกการทำงานร่วมกับคนอื่น การมีวินัย การแบ่งเวลา และยังได้ทำในสิ่งที่ต้วเขาเองชอบด้วย งานจะช่วยสอนเด็กให้เข้าใจหลากหลายเรื่อง และทำให้เด็กเรียนอย่างมีเป้าหมายด้วย จากคุณ : misterquestion (misterquestion) เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:50:20

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยกับ mo ke-mo ke ครับ เขาจะได้เห็นคุณค่าของเงินด้วย ค่อยพูดค่อยๆจากันกับลูกดีกว่าครับ แกคงไปรับอะไรแปลกๆมา จากคุณ : dsin (dsin) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 00:52:55

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกะความเห็นที่สิบค่ะ จากคุณ : ยูสึยุ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 01:47:14

ความคิดเห็นที่ 19 "ถ้าหนูไม่อยากอยู่ จะไปก็ได้นะลูก" พูดพลางชี้นิ้วไปที่เต้าหู้ใต้ต้นถั่วงอก แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 54 05:34:16 จากคุณ : Greaty O-U!! เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 05:32:12

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นหน้าที่ของแต่ละฝ่ายแต่ละเวลาครับ ถึงลูกจะไม่เรียกร้อง ก็เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ที่จะต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูลูกตามฐานะของตัวเองครับ ส่วนพ่อแม่เมื่อแก่ชราทำงานไม่ไหว และลูกโตมีงานทำ ลูกก็ต้องต้องดูแลพ่อแม่ตามหน้าที่ตามฐานะเช่นเดียวกันครับ จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 08:54:43

ความคิดเห็นที่ 21 พ่อแม่น่าจะลองถามลูกดูนะว่าทำไมคิดแบบนี้ คุณเลี้ยงลูกแบบไหนก็ได้แบบนั้นนะคะ -*- จากคุณ : เจ้านายตัวเอง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 09:06:47

ความคิดเห็นที่ 22 I would say I just wanna enjoy having sex, i didn't force and didn't plan for u to conceive and trouble me with everything afterthat. Or if I can produce u, along the way it's much easier to destroy u, which I didn't choose to and u should be grateful for that จากคุณ : Queen of hearts เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 09:34:47

ความคิดเห็นที่ 23 - "พ่อแม่ทำให้หนูเกิดมา พ่อแม่ต้องรับผิดชอบชีวิตหนูตลอดไป" ถ้าอย่างนี้จะจัดการปัญหากันอย่างไรครับ - ความรับผิดชอบของเราก็คือทำให้ลูกตายไป เกิดมา -----> ตายไป - หมดภาระรับผิดชอบ "ตลอดไป" - หลายคนอาจบอกโหดร้าย แต่ถ้าลูกที่มีความคิดอย่างนี้เข้าสู่สังคม คิดเองแล้วกันว่าเค้าจะสร้างปัญหาให้กับสังคมได้แค่ไหน จากคุณ : -- เลือดเย็น -- เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 10:51:28 A:202.47.107.98 X: TicketID:229073

ความคิดเห็นที่ 24 เด็กที่เกิดมา ไม่ได้ร้องขอที่จะเกิดมา หากไม่มั่นใจว่าจะให้ชีวิตที่ดีกับเด็กเขาไม่ได้ จะทำให้เกิดมาทำไม ละ ครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 10:55:44

ความคิดเห็นที่ 25 ชีวิตที่ดีไม่ได้หมายถึง ไอโฟนและรถยนต์เท่านั้นนะคะ มันหมายถึงความเจริญทางด้านจิตใจและสติปัญญาด้วยไม่ใช่หรอ คนเราเกิดมาได้อะไรตามใจต้องการ แต่ไม่มีศีลธรรม ไม่คำนึงถึงคนอื่น แล้วสังคมจะอยู่ยังไงคะ ถ้าพูดว่าให้สิ่งที่ดีกับลูกไม่ได้ ก็ไม่ควรให้เกิดมา งั้นประเด็นนี้คงวิจารณ์กันอยู่ในเฉพาะ "พวกอยู่ในโลกวัตถุนิยมเท่านั้นล่ะค่ะ" จากคุณ : Fernnise (Fernnise) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 11:34:02

ความคิดเห็นที่ 26 บอกลูกว่า ดันเลือกมาเกิดกับพ่อแม่ที่ให้ทุกอย่างไม่ได้อย่างพวกตรูเอง ต้องรับผิดชอบความซวยของตัวเองทั้งชีวิตด้วยซิ จากคุณ : โคตะคุง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 11:54:16

ความคิดเห็นที่ 27 ปัญหาที่คุณว่ามา มันเกิดเพราะการที่พ่อแม่เลี้ยงมาแบบนั้น ลูกเลยมีพฤติกรรมชอบขอโดยไร้จิตสำนึก และมีข้ออ้างอย่างไร้จิตสำนึก ดั้งนั้นพ่อแม่จึงต้องปวดหัวเนื่องมาจากการเลี้ยงดูของเค้าเอง ผมมีลูกเช่นกัน เน้นนโยบายคุณภาพชีวิต มีให้ครบทุกอย่าง ที่เรียนที่ดีๆ อาหารการกินดีๆ ไม่มีอดอยาก พาไปเที่ยวดีๆ แต่ของเล่นที่ให้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ เพื่อความสุข แต่ไม่ใช่แค่อยาก iPhone4 ผมก็ให้ได้ครับ แต่มันต้องมีเงื่อนไข มันต้องมีเวลา ผมไม่ได้มีเงินทองมากมาย แต่มากพอที่จะให้เค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ ไม่ได้ปฎิเสธของแพงแต่อย่างใด หากเค้าต้องการก็พร้อมจะมอบให้ ขอแค่เค้าทำชีวิตของเค้าได้ดีแล้ว อะไรที่มันไม่สมควรผมจะอธิบายว่าทำไมถึงไม่ให้ หรือทำไมให้ตอนนี้ไม่ได้ เน้นให้ลูกเข้าใจ รู้จักรอ และอดทน ของทุกอย่างมันไม่ได้มาง่ายๆ บนโลกใบนี้ ผลคือ มีงอแงบ้างตามประสาเด็ก แต่เค้าไม่เคยออกอาการรุนแรง ผมเชื่อว่าความรักที่ผมมีให้ และการดูแลในทุกๆ อย่าง เค้าเข้าใจ และเค้าเชื่อในการจัดสรรของผม จากคุณ : TurnTheLightOn เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 11:56:56

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นด้วยกับ คห.10 มันขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู จากคุณ : =Le 29 juin= เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 13:15:26

ความคิดเห็นที่ 29 เหมือนมีลูกบังเกิดเกล้า จากคุณ : silverstein เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 13:30:36

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าพ่อแม่มาถามอย่างนี้ก็เหมือนประจานตัวเองในความล้มเหลวจากการเลี้ยงดูอบรมลูก จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 14:01:04

ความคิดเห็นที่ 31 เรามองแต่ที่เด็กเกินไปรึเปล่าครับ การที่เด็กจะกลายเป็นอย่างนี้ได้ พ่อแม่ก้อเป็นปัจจัยหลักเลยนะครับที่ทำให้เด็กมีความคิดและความกล้าที่จะพูดกับพ่อแม่แบบนี้ได้ จากคุณ : neung_3110 เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 14:13:28

ความคิดเห็นที่ 32 บ้านต้องมีฐานะระดับหนึ่งหล่ะ เด็กมันถึงกล้าพูดแบบนี้ ลองเป็นเด็กชาวบ้านธรรมดาดูสิ ไม่กล้าแม้แต่จะคิด(กลัวโดนไม้เรียวฟาด) จากคุณ : ชาเขียวเข้มๆ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 15:01:40

ความคิดเห็นที่ 33 พ่อแม่ก็ตอบไปเลยครับ "งั้น มรึงก็ไปตายเสีย ไป" หรือ "ก็กรูไม่รู้ว่า เกิดมรึงมา แล้วมรึงจะเป็นอย่างนี้ ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้ กรูไม่เกิดมรึงมาหรอก" แรงมา แรงไป...จบกันพอดี จากคุณ : ว่าไปเรื่อย (phch) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 16:07:12

ความคิดเห็นที่ 34 ลูกต้องรับผิดชอบ ที่ไม่ออกจาก วัฏสงสาร (การเวียนว่ายตายเกิด) เอง จากคุณ : ๛กอล์ฟ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 17:33:55

ความคิดเห็นที่ 35 ของฟุ่มเฟือยจะให้เก็บเงินซื้อเองครับ อยากได้ก็ต้องพยายามครับ ส่วนปัจจัย 4 พื้นฐาน อันนี้รับผิดชอบให้อยู่แล้วครับ จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 18:01:18

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่ได้ตั้งใจวะ ดูแลตัวเองล่ะกัน 5555555+ จากคุณ : Jump.Jr เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 19:41:45

ความคิดเห็นที่ 37 ใครบอกว่าเด็กมันไม่ได้อยากเกิดมา ไม่งั้นคนที่ทำแท้งก็ไม่บาปงั้นซิ สำหรับเรา เราว่ามันก็เป็นหน้าที่แหล่ะ ประมาณว่าพ่อแม่มีหน้าที่เลี้ยงลูกให้มีครบทั้งปัจจัย 4 และการศึกษา ส่วนลูกก็มีหน้าที่เป็นคนดีของพ่อแม่ และสังคม ส่วนการเลี้ยงดูพ่อแม่นั้น เราว่า พ่อแม่ส่วนใหญ่เขาไม่หวังให้ลูกมาเลี้ยงหรอก พวกท่านหวังแค่ลูกไม่ทำชั่ว ก็แค่นั้น จากคุณ : watin เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 22:43:55 A:125.25.76.102 X: TicketID:301772

ความคิดเห็นที่ 38 พูดแบบนี้ มันได้ตายตรงนั้นแน่ๆ จากคุณ : ApFeLsAfTsChOlE เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 02:59:15

ความคิดเห็นที่ 39 พ่อแม่ไม่ได้ทำให้หนูเกิดมา แต่ว่าหนู มี "กรรม" ต้องมาเกิดต่างหากเล่า ฮ่าๆๆๆ  ก็ว่ากันไป...แต่ว่า เลี้ยงลูกแบบป้อนให้เกินไป ก็ไม่ดีเน้อ..อยากได้อะไรก็เอาให้หมดเนี่ย...มันไม่ดีเท่าไหร่ จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 07:16:17

ความคิดเห็นที่ 40 รับผิดชอบ กับสอยด์มันต่างกัน รับผิดชอบ คือ ทำให้ลูกมีปัจจัยพื้นฐานครบ ถ้าจะบอกว่ามือถือกลายเป็นสิ่งจำเป็นก็ให้ลูกพกเหมาะสมกับฐานะ ความรับผิดชอบ วุฒิภาวะของเขาเหมือนกัน เช่น ถ้าอยู่ม.ต้น จะใช้ไอโฟนมันก็เกินไป เดี๋ยวโดนจี้ โดนปล้น ซวยอีก และการที่พูดกับพ่อแม่แบบนี้ได้ มันบ่งบอกว่าแล้วว่า วุฒิภาวะของด็กคนนี้เหมาะสมกับไอโฟนไหม จากคุณ : สุริยาแก้มป่อง เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 09:40:17

ความคิดเห็นที่ 41 จริงแล้วเราว่ามันอยู่ที่วิถีชีวิต ของพ่อแม่ด้วยน่ะ ถ้าเขาทำให้ลูกเห็นว่าตัวฟุ้งเฟ้อ ลูกก็คงเป็นเช่นนั้นตามกันไป จากคุณ : sugar_brown11 เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 10:30:15

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนเด็ก ๆ ก็เคยพูดอย่างงี้เป๊ะเลยคะ ตอนนั้นพูดไปไม่ได้คิดอะไรเลย แค่อยากจะพูดอะไรก็ได้ที่เจ็บ ๆ แสบ ๆ ให้พ่อแม่รู้สึกผิดที่ไม่ซื้อของให้ แล้วก็โดนแม่สวดยับเลย  พ่อแม่กว่าจะหาเงินมาได้ยากลำบากยังไง เราฟังไปก็น้ำตาตกไป ตอนนี้ทำงานหาเงินได้เอง ไม่เคยขอพ่อแม่สักบาท วันสำึคัญก็ซื้อของให้ท่านด้วย อยากจะบอกว่ามันเป็นวัยของเค้า พอทำงานหาเงินได้จะรู้สึกค่าของเงินเอง จากคุณ : devilwow เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 14:23:00

ความคิดเห็นที่ 43 ความจริงผมก็อยากมีลูกเหมือนกันนะ แต่ด้วยความที่เห็นพ่อแม่สมัยนี้เลี้ยงลูกแล้วมันเหมือนกับ สปอย เกินไป ถึงแม้ว่าเราจะพยายามสอนลูกให้ดีแค่ไหน แต่สังคมที่ลูกต้องไปอยู่นั้นก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นเดียวกัน ไปเจอกลุ่มเพื่อนที่โดนสปอย ก็จะกลายเป็นว่าตัวเองมีปมด้อยที่พ่อแม่ไม่ยอมให้อะไรเท่ากับเด็กคนอื่น อยากมีลูกก็อยากมี กลัวก็กลัว เพราะถ้าหากมีลูกก็จะเป็นรุ่น 3 สำหรับธุรกิจครอบครัว ถ้าเลี้ยงออกมาไม่ดีมีหวังผลาญสมบัติที่อุตส่าห์สร้างกันมาตั้งแต่รุ่นที่แล้วแน่เลย ปล. แต่ก็ยังไม่ได้แต่งงานเลย (^O^) จากคุณ : ขอแจมด้วย (ธุลีดาว) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 15:51:00

ความคิดเห็นที่ 44 เด็กสมัยรู้ถึงไ่ม่ได้พูด แต่ความคิดและ การกระทำมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ครับ อันนั้นแรกก็ต้อง corrective action ถีบเข้าไปที่หน้าแรง ๆ จัดหนัก ๆ ครับ.. ต่อมาก็ต้อง preventive action ใส่ถุงยางครับ ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก.. จากคุณ : GUKD เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 14:40:09