 |
Q: ต้องการทำธุรกิจ นำเข้า ส่งออก ไทย-จีน จะเริ่มต้นอย่างไรดีครับ - สินค้าที่ต้องการนำเข้าคืออะไร หาพิกัดอัตราศุลกากรก็จะรู้ว่าต้องเสียภาษีกี่เปอร์เซ็นต์ - ถ้าอยากได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า ก็ต้องได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ ดูรายละเอียดที่ www.boi.go.th - การยกเว้นภาษีนำเข้าอีกทางหนึ่งก็คือ Certifcate of Origin ซึ่งข้อตกลงไทย-จีน น่าจะเป็น "FORM E" ดูรายละเอียดที่ www.thaifta.com
Q: ภาษา - ที่บริษัทใช้ภาษาอังกฤษ ติดต่อทางอีเมล์ 95% โทรศัพท์ 5%แต่ถ้ามีคนพูดภาษาจีนได้จะดีมาก ที่บริษัทเจ้านายเป็นสิงคโปร์ ถ้าเกิดปัญหาซับซ้อนจริงถึงจะให้ช่วยพูดให้ (ทางโทรศัพท์) ซึ่งเกิดน้อยมากๆ
Q: อัตราแลกเปลี่ยน - ที่บริษัทใช้ AUD เพราะซื้อขายหลักๆ 3 ประเทศ คือ ไทย-ออสเตรเลีย-จีน
Q: การโอนเงิน ซื้อ-ขาย - TT Payment เครดิต 45 วัน หลังจากวันที่ส่งออกสินค้า (วันเรือออก) ซึ่งจะแสดงในใบขนสินค้าขาออก - เปิด LC
Q: สถานที่ซื้อ-ขาย ทั้งที่ ไทย-จีน - ไม่เข้าใจคำถามเท่าไหร่ เอาเป็นว่า ที่บริษัทของเรา ถ้าต้องการสินค้าอะไร แผนกจัดซื้อต่างประเทศจะเป็นคนหา Supplier ที่ต่างประเทศ ซึ่งในการซื้อสินค้าก็จะมีการเสนอราคา เงื่อนไขการชำระเงิน การจัดส่งสินค้าทางเรือหรือทางทะเล ต้องกำหนดด้วยว่าใครจะเป็นผู้จ่ายค่าจัดส่งสินค้า ถ้าผู้ซื้อเป็นผู้จ่าย ผู้ซื้อก็หาForwarder หรือตัวแทนรับส่งสินค้าให้ไปรับสินค้ากับผู้ขาย เช่น
ถ้า Inco Term เป็น Exwork คือ ผู้ซื้อสั่งให้ Forwarder ไปรับสินค้าที่โรงงานของผู้ขายแล้วนำสินค้ามาส่งให้ถึงบริษัทผู้ซื้อเลย (ผู้ซื้อเป็นคนจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งค่าขนส่งจากโรงงานผู้ขายถึงท่าเรือ ค่า Freight ค่าประกัน ค่าพิธีการศุลกากร(จ่ายให้ชิปปิ้ง) ค่าขนส่งจากท่าเรือปลายทางถึงโรงงานผู้ซื้อ เป็นต้น
Q: ชิบปิ้งไหนดี - Forwarder แต่ละเจ้าเขาจะมีชิปปิ้งของเขาเอง แต่ที่บริษัทเราจะมีชิปปิ้งคู่ใจทำงานกันมาสิบกว่าปี ก็จะใช้เจ้านี้เจ้าเดียว เพราะให้คำปรึกษาดีมากๆ เคยมีครั้งนึงเจ้านายอยากจะเปลี่ยนชิปปิ้ง ก็เลยลองใช้เจ้าใหม่ ปรากฏว่าปัญหาเยอะมากๆ เจอปัญหากับเจ้าหน้าที่ศุลกากรนิดหน่อยแต่ไม่สามารถเคลียร์ได้ ต้องเดือดร้อนเจ้าเก่าให้ไปจัดการให้เหมือนเดิม สรุปแล้วก็หนีกันไม่พ้น 555 ส่วนตัวเราคิดว่าคนที่คุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรดีอยู่แล้วจะมีภาษีดีกว่ามือใหม่ แต่ก็เห็นใจชิปปิ้งเจ้าใหม่ๆ เหมือนกันนะ
เคยเจอเคสหนึ่งนำเข้าสินค้าจากจีนชิ้นส่วนทำด้วยเหล็ก ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ชิปปิ้งเจ้าใหม่ลงพิกัดอัตราศุลกากรผิด ถูกเจ้าพนักงานจับข้อหาสำแดงพิกัดเป็นเท็จ ทำเอาวุ่นวายกันไปหลายเดือน บริษัทโดนปรับไปหลายล้าน จากนั้นก็เข็ดกันไปอีกนาน ชิปปิ้งเก่าบอกว่าชิปเม้นท์จากจีนจะโดนเพ่งเล็งเป็นพิเศษอยู่แล้ว ต้องเซียนจริงๆ ถึงจะไม่มีปัญหา (อันนี้คอนเฟิร์ม) เพราะจากการโดนจับชิปเม้นท์นั้น ศุลกาการเข้าตรวจที่บริษัทละเอียดยิบ ทั้งเอกสารทั้งสินค้า ปล. ถ้ารู้จักคนใหญ่คนโตได้ก็ดี จะหลุดง่ายขึ้น
Q: ราคาค่าขนส่งต่อกิโล - ต้องดูสินค้าว่าเป็นอะไรด้วย ผลิตจากอะไร แพ็คเกจแบบไหน - การขอราคาจาก Forwarder เราต้องแจ้ง กว้างxยาวxสูง ของแพ็คเกจ จำนวน กี่กล่อง เขาจะเสนอราคาให้ - LCL shipment คือส่งออกแบบไม่เต็มตู้ ส่งลังเดียวก็มี - FCL shipment คือส่งออกแบบเต็มตู้คอนเทนเนอร์ มีหลายขนาด ทั้ง 20, 40DC, 40HC ราคาก็แตกต่างกันไปแล้วแต่สายเรือ เช่นส่งออกตู้ 20 ไป Shanghai Port (เซี่ยงไฮ้) ราคา Freight ตอนนี้อยู่ที่ 230-250 USD ต่อตู้ ไม่รวมค่าหัวลาก ค่าเดินพิธีการศุลกากร ค่าประกันภัย(ถ้ามี)
- ถ้าเป็น Wooden Case ก็ได้ Fumigate ก่อนเรือออก 24 ชม. ประเทศจีนมีข้อกำหนดห้ามนำไม้เข้าประเทศเขา ดังนั้น ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องนำลังไม้ที่แพ็คเสร็จแล้วไปอบรมควัน ซึ่งเรียกว่า Fumigate นั่นเอง แล้วต้องส่ง Fumigate Certificate ไปพร้อมๆ กับ Original Invoice, Packing List, B/L, C/O, Insurance เพื่อให้ปลายทางเคลียร์สินค้าได้
ปล. เนื่องจากรายละเอียดปลีกย่อยเยอะ และการส่งออก-นำเข้าก็แตกต่างกันพอสมควร จขกท. ทิ้งอีเมล์ไว้ได้ไหมคะ เอาไว้วันจันทร์จะส่งไฟล์สอนงานโลจิสติกส์ไปให้ พอดีทำไว้สอนงานน้องๆ ในออฟฟิตน่ะค่ะ
จากคุณ |
:
เกลือหวานมะขามขม
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ก.พ. 54 12:40:04
|
|
|
|
 |