ความคิดเห็นที่ 1 ผมก็ชอบกินหมูสะเต๊ะ ลองทำดูสิครับ ยินดีเป็นหมูทดลอง จริงๆอยากกินฟรี เห็นรูปก็น้ำลายไหลแล้ว อ้อ...ลองขายหมูสะเต๊ะเสาร์อาทิตย์ วันอื่นทำงาน office ได้มั้ง จากคุณ : แอบมาเชียร์อยากกินหมูสะเต๊ะ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 21:58:59

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณค่ะ   กด Like 100 ที เล้ยยยยย   ^_____^ จากคุณ : Virtual Machine เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 22:10:01

ความคิดเห็นที่ 3 พึ่งลาออกจากงานประจำมาเป็นแม่ค้าตลาดนัดค่ะ อายุแตะสามสิบค่ะ ทำงานมาสองปี เงินเดือนสองหมื่นปลายๆ ตอนนี้เป็นแม่ค้าตลาดนัดได้เกือบสิบวัน เหนื่อยค่ะ ขายของไม่ได้ วิ่งหาล๊อคเสียบขายของที่ตลาดนัดทุกวัน แต่ยังไม่้ท้อ เพราะตัดสินใจออกมาแล้ว ขอสู้สักพักก่อน หากวันไหนไม่ไหว ไม่เหลือทุนเมื่อไหร่ อาจกลับไปทำงานประจำค่ะ ลืมบอกเจ้าของกระทู้้ไปเลย มัวแต่เล่าเรื่องตัวเอง หากตัดสินใจแล้วก็ทำแบบที่ตัวเองมีความสุขเถอะค่ะ เราออกจากงานประจำเพราะไม่ชอบสังคมออฟฟิศเหมือนกัน เราเองก็เป็นคนไม่ค่อยพูดค่ะ วันๆทำแต่งานของตัวเอง เหมือนหุ่นยนต์ไปวันๆ ออกมาแล้วช่วงอาทิตย์ที่สองจะเริ่มเคว้งค่ะ แต่พยายามหาอะไรทำ บางวันขายของไม่ได้ค่าที่ ค่าไฟ ที่เสียไปเลย แต่ก็ยังไม่ท้อค่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 54 22:24:12 แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 54 22:20:56 จากคุณ : Travelholic Girl เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 22:17:07

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ สู้ๆค่ะ มีอะไรอยากแชร์เล่าให้เราฟังมั่งนะคะ ^___^ จากคุณ : Virtual Machine เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 22:21:41

ความคิดเห็นที่ 5 ชอบกินหมูสะเต๊ะเหมือนกัน   เห็นรูปของคุณคนที่1 แล้ว อยากกินมากกกกกค่าา ชอบก็ลองทำวันเสาร์ อาทิตย์ิซิคะ ลองดูก่อนว่าไหวแล้วชอบไหม เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : norimaki เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 22:41:52

ความคิดเห็นที่ 6 ชอบกินเหมือนกันครับ จากคุณ : ชนินทร์ธร เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 22:52:38

ความคิดเห็นที่ 7 Follow your heart, and you'll never go wrong จากคุณ : Piano Player เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 23:05:59

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ต้องกลัวไม่ต้องอาย ดีซะอีกที่คุณกล้า กล้าที่จะออกจากงาน   อยากทำอยากคิดอะไรตอนนี้ทำเลยครับ   เรากำหนดเองได้ แต่ต้องอดทนหน่อย โอกาสและลู่ทางมีเสมอ ค้าขายไม่มีทางตัน  พยายามคิดในสิ่งที่เราชอบก่อนน่ะ  หรืออะไรที่เค้าขายกันดีๆ ก็ลองไปดูของจริงสถานที่จริงก่อน ว่าเราทำได้ไหม   หาทำเลดีๆ สถานที่ราชการขายอะไร , โรงเรียนขายอะไร , มหาวิทยาลัยขายอะไร , ออฟฟิศจะขายอะไรดี ,  โรงงานขายอะไร  คิดให้เยอะทำการบ้านให้มากๆ แล้วจะสนุกกับมัน   หรือไม่ก็เปิดร้านตามห้างหรือร้านค้าใต้หอพักนักศึกษาก็ได้ ขายของตามเน็ตฯก็ได้น่ะ..... โอ๊ย... เยอะไปไหมเนี้ย.. คืออยากจะแนะนำ ที่พิมพ์มาจากประสบการณ์จริง ออฟฟิศ,โรงงาน,โรงเรียน,มหาวิทยาลัย,สถานที่ราชการ,รัฐวิสาหกิจ,ตลาดนัดตอนเย็น เราเข้าขายมาหมดแล้ว รับจากสำเพ็ง,โรงเกลือ,เมืองจีนก็ไป ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตเองแล้วครับ แต่ทำเองขายเอง กำไรไม่ต้องบอก(เต็มๆ) ขายส่งบางนิดหน่อย ไม่มีใครทำอะไรอย่างเดียวแล้วประสบความสำเร็จ  เดี๋ยวประสบการณ์จะบอกเราเอง  ขอให้โชคดี และมีความสุขในสิ่งที่เราทำ จากคุณ : kop (kajak) เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 23:13:58

ความคิดเห็นที่ 9 ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ^^ "ทำงานประจำได้เงินก็จริง แต่ความสุขกับการได้ทำสิ่งที่เรารักมันต่างกันมาก ตายไปก็มีเหรียญเดียวเท่านั้น ความสุขที่มีอยู่ขณะมีชีวิตนั่นหละ สำคัญที่สุด คว้ามันไว้นะคะ" ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : TJ_jatingja เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 23:23:15

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านแต่ละความเห็น น้ำตาจะไหล ซึ้งจัง >___< ขอบคุณมากๆนะคะ  เราประสบการณ์ยังน้อย  เจอปัญหาไรนิดหน่อยก็แทบจะทรุดแล้ว แอบเข้ามาห้องนี้ทุกวันแต่ไม่ค่อยจะกล้าตั้งกระทู้เลย กลัวคนว่าไร้สาระ 555+ ขอบคุณจากใจค่ะ จากคุณ : Virtual Machine เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 23:26:12

ความคิดเห็นที่ 11 ลอง พิสูจน์ ตัวเองช่วงวันว่างของเราเช่นเสาร์อาทิตย์ก่อนค่ะ ถ้าทำได้ก็ออกมาทำเลยค่ะครอบครัวควรจะยอมรับว่าเราทำได้ ทำแล้วมีความสุข แต่ถ้าท้อก่อนก็ทำงาน office ต่อไป แต่อาจจะเปลี่ยนสถานที่ จากประสบการณ์ ทำงานมา 3-4 ที่ วัฒนธรรมแต่ละที่ไม่เหมือนกันค่ะ แล้วแต่เพื่อนร่วมงานบางที่่เงียบ ๆ พูดน้อยก็เป็นการดีเสียอีกค่ะ จากคุณ : jura_air เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 23:32:08

ความคิดเห็นที่ 12 เหมือนความเห็น 11 ครับ ลองดูก่อน ช่วงลองก็อย่าไปหวังกับยอดขายมากนัก แต่ลองดูว่าเราพร้อมกับการทำงานหนักๆ แบบนี้ไหวไหม เพราะบางคนวาดฝันไว้หรู แต่มาทำจริงจะรู้ว่าลำบากมาก ทั้งการเตรียมอาหาร ขายเสร็จต้องเก็บของ และปัญหาสารพัดทั้งลูกจ้าง ลูกค้าเรื่องมาก และสุดท้ายเมื่อรู้ว่าทำได้ และชอบจริงๆ ด่านหินคือรายได้ เพราะขายอาหารคือเรื่องของรสชาติและฝีมือ บางรายอาจต้องรอหลายเดือนหลายปีจนมีลูกค้าประจำ อีกอย่างถ้าจะออกมาทำเต็มตัว ผมแนะนำให้มีเงินเก็บพอควร เพราะอาจเป็นเงินสำรองยามธุรกิจหมูสะเต๊ะไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง ต้องมีเงินพอยีดอายุธุรกิจ อย่างที่บอกต้องรอหลายเดือนหลายปีจนมีลูกค้าประจำ ช่วงแรกรายจ่ายอาจไม่พอรายได้ เพราะคำนวณค่าใช้จ่ายไม่ถูก ซื้อของเกินของขาด ทำให้มีกำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง ไม่มีบ้าง จ่ายเบี้ยใบ้รายทางบ้าง แต่ค่าใช้จ่ายต้องจ่ายทุกวัน ทุกเดือน ดังนั้นถ้ารักจะสู้เพราะชอบ ก็ต้องมีเงินทุนไว้บ้างให้ธุรกิจเดินได้หลายเดือนหลายปี และอีกส่วนเป็นเงินสำรองไว้ยามเจ็บป่วยครับ ขอให้โชคดี จากคุณ : Special Theory of Relativity เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 23:46:44

ความคิดเห็นที่ 13 ก็คงต้องเริ่มจากตระเวนกินหลายๆที่ที่เค้าว่าอร่อยอะครับ ลองซื้อผงสำเร็จรูปแบบซองมาลองทำกินก่อนครับว่ารสชาดเป็นอย่างไรบ้าง ค่อยปรุงเพิ่มเติมให้เป็นรสชาดที่เราต้องการ พอได้ที่ ก็ให้หาองค์ประกอบมาค่อยๆผสมเองครับ พวกผงไม่ค่อยมีอะไรมากครับหาส่วนประกอบผงทำหมูสะเต๊ะได้จากตามกูเกิ้ลครับ ส่วนอุปกรณ์ ถ้าอยู่ในกรุงเทพ พวกรถเข็นก็ข้างๆกรมขนส่งทางบกตรงจตุจักรครับ พวกอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ รวมถึงพวกเนย ผมชอบไปซื้อร้านตรงข้ามบิ๊กซีสะพานควายครับ เป็นร้านตึกแถว 1ล็อค เวลไปต้องมีของไว้ในใจนะครับ เพราะคนเยอะ และเจ้าของร้านมักจะไม่สนใจ แต่ผมชอบเดินดูของเรื่อยๆไม่ต้องวาวุ่นวายกับเราดีอยากรู้อะไรค่อยถาม ถ้าขายดีๆก็พัฒนาเป็นทำขนมปังปอนด์เองเลยครับ แต่ใช้เวลาในการทำนานน่าดู จากคุณ : ClasS_X เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 00:00:47

ความคิดเห็นที่ 14 comment ที่ login ทาง มือถือ เราให้ กีบไม่ได้ ให้กีบในใจแล้วกันนะคะ ^___^ จากคุณ : Virtual Machine เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 00:12:51

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกับคห.11ค่ะ  ลองออกมาทำดูก่อนเวลาว่างว่าทำไหวไหม ถ้าไหวค่อยออกมาเต็มตัวดีกว่าค่ะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 03:19:52

ความคิดเห็นที่ 16 ทำตามความฝันดีนะครับ แต่ต้องวางแผนมากๆๆ หน่อย แถมต้องเตรียมรับมือจากแรงเสียดทาน ที่ตอนนี้เกิดขึ้นแล้วในครอบครัวแล้ว ถ้าลาออกมาจริงๆ จะมีแรงเสียดทานจากสัีงคมรอบข้างด้วย ลองทำเสาร์ อาทิตย์ไปก่อนก็ได้ จะได้รู้ว่าเราชอบจริงๆ หรือป่าว อ้อ ลองหาหนังสือเรื่อง "การลาออกครั้งสุดท้าย" ของ ภาณุมาศ ทองธนากุล มาอ่านด้วยก็ดีครับ คนเขียนเขาไม่อยากทำงาน office เลยวางแผน (อยู่หลายปี) ที่จะลาออกมา ด้วยเงินเก็บหลักแสนครับ อยู่บ้านเฉยๆ (ที่จริงมีรายได้จากการเขียนหนังสือกับลงทุนหุ้น) หนังสือหายากหน่อย ขาดตลาด ผมต้องสั่งจองที่ซีเอ็ด เพิ่งอ่านจบตะกี้ เอาใจช่วยนะครับ ปล. ผมว่าเข็นรถเข็นมันเหนื่อยไปหรือปล่าว เช่าร้านเอาดีกว่าไหม จากคุณ : Neo118 เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 03:22:20

ความคิดเห็นที่ 17 เงินเดือนเยอะอยู่นะครับ เข้าใจว่าไม่สบายใจและไม่มีความสุขในการทำงาน ผมเองก็เบื่องานมาก ๆ ไม่อยากทำเลย แต่ออกไม่ได้ครับ มีหนี้อยู่กับบริษัทที่ทำ และก็ไม่มีทุนไปทำเริ่มใหม่ด้วย ตอนนี้เลยอดทนไปก่อน ผมขอเสนอความคิดส่วนตัวนะครับ มี 2 แนวทางใหญ่ คือ 1. ทำงานเดิมต่อ แล้วทำหมูสะเต๊ะเสริมในวันหยุด หรือ จากเวลาทำงาน แน่นอนครับ วิธีนี้เหนื่อย อาจจะไม่ได้พัก แต่ก็ปลอดภัยที่สุดครับ ลองเริ่มขายจากเล็ก ๆก่อน ขายดีและพร้อมเมื่อไหร่ค่อยออกจากงานครับ ทำงานอยู่มีเงินมีสวัสดิการใช้เนี่ยสบายใจกว่านะครับ 2. ออกจากงานเลยด้วยใจแน่วแน่ว่าจะทำธุรกิจส่วนตัว ...แต่เท่าที่ผมอ่านความเห็นเจ้าของกระทู้แล้ว ผมคิดว่า เจ้าของกระทู้คงไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ ไม่งั้นคงไม่มาโพสถามความเห็นของเพื่อน ๆในนี้ ผมเลยอยากเสนอทางเลือกที่ 3 คือ พัฒนาตัวเองครับ ลองเปิดตัวเปิดหัวใจของตัวเองครับ ลองเข้าหาผู้อื่นหรือเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศ ตอนแรกอาจอยากหน่อยครับ แต่ลองๆ ดูครับ อาจเริ่มจากการตามเพื่อนไปทานข้าวด้วยกัน ตกเย็นชวนไปออกกำลังกายหรือชอปปิ้ง เมื่อปฏิบัติไปเรื่อย ๆแล้วก็จะดีเองครับ เวลาเราทำงานเราจะรู้สึกว่าเราทำงานกับเพื่อน เรื่องไม่ดีของคนอื่นอยากไปใส่ใจครับ สนใจแต่ในด้านดีของเค้า ไม่ต้องนินทาใคร พูดน้อย พูดดี และพูดเพราะ มีแต่คนรักครับผม ไม่แน่นะครับเพื่อน ๆในออฟฟิศที่คุณทำงานอยู่ด้วยนั้นเค้าอาจจะมีสูตรเด็ดหมูสะเต๊ะอยู่ก็ได้นะครับ ลองดูนะครับผม จากคุณ : อยากให้คุณมีความสุข (โอ้โหเฮะคุง) เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 08:54:24

ความคิดเห็นที่ 18 กับดักของคนที่มีการศึกษาดี  ครอบครัวดีพร้อม  เกิดมาไม่เคยลำบากในการหาเงินมากินมาใช้   ความลำบากอย่างเดียวที่เคยมีคือ  อ่านหนังสือ  เรียนๆให้ดีที่สุด   เวลามาทำธุรกิจส่วนตัว  ในตอนเริ่มต้นแบบไม่มีอะไรเลย  แถมพ่อแแม่ไม่ยอรับ  คนรอบข้างจะว่าคุณบ้า  คิดอะไรโง่ๆ  อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว   คนอื่นเค้าก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ   ความลำบากที่สุดในตอนแรกของคุณ  คือ  คุณจะอดทนกับเสียงคนด่ารอบข้สงได้มั๊ย   มันยากตรงการถอดหัวโขนของตัวเองออก  แล้วทำตัว low profile ลง   ใครไม่เคยถูกเลี้ยงดูมาแบบนี้จะหาว่า  กระแดะจัง   แต่มันเป็นเรื่องจริงที่คุณเองต้องเรียนรู้ เราเคยเป็นแบบนี้มาก่อนแล้วรู้ว่า  การปั้นงานจากอากาศ  จากสิ่งที่ใครๆก็รุมด่า   ความยากจริงๆมันไม่ใช่อยูู่ที่การจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในเร็ววัน   แต่ความยากมันอยู่ที่  คุณจะยอมรับตัวเองกับความล้มเหลวได้มั๊ย   เมื่อถึงเวลาที่คุณเจอเหตุการณ์แบบว่า  กูก็เก่ง  ทำไมมันไม่เป็นแบบที่กูคิดว่ะ  แล้วคนรอบข้างคุณก็จะมาถล่มซ้ำเติมว่า   เห็นม่ะ  อยู่ดีไม่ว่าดี  พวกเฟ้อฝัน  คุณจะทนได้มั๊ย คุณจะอดทนรอ  จนกว่าวันที่มันจะสำเร็จ  หรือจะม้วนเสื่อไปซะก่อน ความยากมันคือ ตัวคุณเอง จากคุณ : tjlove เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 09:18:37

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นกำลังใจให้ค่ะเพราะเข้าใจความรู้สึกทุกอย่างเพราะเป็นอยู่กับตัวเองเลย เพิ่งตัดสินใจออกจากงานและเปิดร้านได้ สิบวัน ขายได้บ้างไม่ได้ กำไรยังไม่เห็นเลย ที่บ้านก็ไม่มีใครเห็นด้วยเสียดายความรู้ที่เรียนมา เงินเดือนที่เคยได้ แต่ไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตัวเรา จากคุณ : chalinick เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 11:25:19

ความคิดเห็นที่ 20 เงินเดือนเดิมถือว่าสูงอยู่เหมือนกันนะคะ ถ้าอยากออกมา เพราะอยากลองสู้ ทำในสิ่งที่ชอบดู ไม่มีภาระ ไม่กังวลเรื่องรายได้ ก็ลุยเลยค่ะ แต่ถ้าหวังรายได้มากขึ้น 50,000/เดือน สำหรับธุรกิจเล็กๆ ยากเหมือนกันนะคะ ลองคิดคร่าวๆดู รายได้เดิม ตกวันละ 1,700 บาท หมูสะเต๊ะ สมมติขาย 3บาท กำไร 2บาท/ไม้ (เรากะคร่าวๆนะคะ ไม่รู้กำไรจริงๆ) ต้องขายได้วันละ 850 ไม้เชียวนะคะ เยอะอยู่เหมือนกัน เราว่าลองขายเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์ดูก่อน จะได้ประเมินได้ถูก ว่าถ้าออกมาขายเต็มตัว จะอยู่ได้มั้ย จากคุณ : ~AZZEZORIE~ เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 13:14:17

ความคิดเห็นที่ 21 อันดับแรกของการเปลี่ยนแปลง คือ ยอมรับได้ไม๊ที่รายได้คุณจะไม่เหมือนเดิมในช่วงแรกๆ หลายๆ คนมักจะตกหลุมพรางตรงนี้ตลอด - - จากคุณ : เจ้านายตัวเอง เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 13:21:53

ความคิดเห็นที่ 22 ออกมาทำในสิ่งที่ชอบมันก็ดีอยู่หรอกนะครับ แต่ประเด็นสำคัญคือ เมื่อคุณลาออกจากงานประจำ มาทำใน "สิ่งที่ชอบ" แล้ว มันจะไม่ใช่ "สิ่งที่ชอบ" เพียงอย่างเดียวอีกต่อไปนะครับ มันจะกลายเป็น "สิ่งที่ต้องรับผิดชอบ" ต่างหาก คุณชอบทานหมูสะเต๊ะ แต่แน่ใจหรือครับว่าทำไปนาน ๆ จะไม่เบื่อ แน่ใจรึเปล่าครับว่าก่อนจะออกมาทำเนี่ย รู้หมดแล้วว่าจะต้องทำอย่างไหร ปัญหามีอะไรบ้าง หลาย ๆ คนออกมาทำใน "สิ่งที่ชอบ" โดยสนใจแค่ว่า ก็ชอบ ก็อยากทำ ... แล้วสุดท้ายก็พังไม่เป็นท่า เพราะไม่มีการเตรียมการ ไม่มีแผนรองรับ ไม่มีความเชี่ยวชาญ ... มีแต่ "ความชอบ" ระวังนะครับ "สิ่งที่ชอบ" ที่คุณว่า ... ถ้าทำไปนาน ๆ ต้องรับผิดชอบไปนาน ๆ มันอาจจะกลายเป็น "สิ่งที่น่าเบื่อ" ก็เป็นไปได้ ไม่ได้มาออกความเห็นสกัดดาวรุ่งแต่อย่างใดนะครับ แค่อยากให้คุณมองอีกด้านหนึ่งของเหรียญบ้าง ก่อนจะทำอะไร มองปัญหา มองอุปสรรคให้เยอะ ๆ ถ้าคุณเห็นทางแก้ไข ถ้าคุณเห็นทางออก คุณก็จะมีแผนเตรียมการรองรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ แล้วคุณก็จะประสบความสำเร็จ รีบออกมาก็ดีครับ ก่อนที่ต้นทุนการออกมาทำธุรกิจของคุณ (เงินเดือน) จะสูงมากไปกว่านี้ เพราะถ้าคุณเงินเดือนสูงเกินไปแล้ว ... การจะออกมาเริ่มต้นทำอะไรซักอย่าง แล้วเริ่มรับเงินน้อย ๆ มันก็จะไม่ใช่แค่คุณอาจจะรู้สึกว่าคิดผิด แต่ว่าคุณก็จะต้องทนกับคำพูด คำวิจารณ์ของคนรอบข้างเป็นทวีคูณ นี่ยังไม่น้ำสหบาทาที่จะมาซ้ำเติมคุณด้วยคำพูดกินใจที่ว่า "ก็บอกแล้ววววว" นะครับ จนกว่าจะถึงวันที่คุณจะประสบความสำเร็จนั่นแหละ คุณเข้มแข็งพอทนได้รึเปล่า จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 14:05:15

ความคิดเห็นที่ 23 สิ่งที่คิดมาตลอด ถ้าจะทำธุรกิจของตัวเอง เกิดเจ็บป่วยขึ้นมา เอาเงินไหนจ่าย จะตื่นไปขายของไหวไหม ไม่ขายสัก 2-3 วัน รายได้ขาดไปเท่าไหร่ พนักงานประจำ ดีตรงที่สวัสดิการ ประกันสุขภาพ โบนัส นี้แหละ หลายคนแย่งเข้าราชการ ไม่ใช่หาเงินไม่ได้ แต่ค่ารักษาพยาบาลตัวเองและพ่อแม่ เบิกค่าเทอมลูก ฯลฯ สุดท้ายก็แล้วแต่ว่าใครจะมองมุมไหน เพราะอาชีพของบ้านเมืองเรา มันเยอะแยะมากมาก เหมือนเฟืองที่ขับเคลื่อนต่อไป สู้ๆ จากคุณ : Christian Chang เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 14:32:38

ความคิดเห็นที่ 24 ลองทบทวนให้ดีก่อนนะค่ะว่าที่คิดแบบนี้เพราะกำลังอยู่ในภาวะเหนื่อย ท้อ ล้า เซ็ง กับงานหรือเปล่า เพราะเราเชื่อว่าคนที่ทำงานออฟฟิศจำเจกับงานเดิมๆ ทุกวัน มันต้องมีอารมณ์แบบนี้กันทุกคน เพราะเราก็เคยเป็น ^ ^ สำหรับเรา ทางออกที่ดีที่สุดเวลาสมองมึนๆ คิดอะไรไม่ออก สับสน เหนื่อยสุดๆ เราจะชักปลั๊กตัวเอง ออกจากโลกแห่งความวุ่นวาย ไปหาที่พักผ่อนดีๆ อากาศดีๆ กินอาหารอร่อยๆ จนสมองปลอดโปร่ง ร่างกายผ่อนคลาย ใจดีๆ แล้วค่อยกลับมาลุยกันใหม่ การเป็นแม่ค้าดูเหมือนจะง่ายแต่จริงๆ แล้วมันไม่ง่ายนะค่ะ กล้าพูดเพราะเราเคยเป็นแม่ค้ามาก่อน ต้องตื่นเช้า ไปตลาดซื้อหมูมาล้าง มาหั่น มาเสียบไม้ ทำน้ำจิ้ม ซอยแตงกวา ติดเตาปิ้ง ขายไม้ละ 3 บาท อืม....แค่นั่งเสียบหมูเราก็ขอบายแล้วค่ะ วันไหนขายดีก็ดีใจ วันไหนเหลือก็เซ็งไปเพราะเข้าเนื้อ... อยากให้คิดดีๆ นะค่ะ เป็นห่วงจริงๆ ค่ะ จากคุณ : สกุลลัน (สกุลลัน) เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 17:03:47

ความคิดเห็นที่ 25 ลองทำเป็นงาน parttime ก่อนดีใหมค่ะ แบบเสาร์อาทิตย์ อะไรแบบนี้ค่ะ จากคุณ : onearth เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 19:20:59

ความคิดเห็นที่ 26 ก็ดีนะครับหากอึดอัดไม่อยากทำก็ออกมา แต่ว่าอย่าคาดหวังว่าจะได้รายได้เหมือนเงินเดือนนะ....งานค้าขายอาจจะสบายใจแต่เหนื่อยกายมาก อากาศร้อนๆ อยู่หน้าเตาควันกระเจิงทั้งวันหัวเหม็น ผมว่าค่อยๆคิดนะ....แต่หากรู้ว่าจะเจออะไรแล้วใจพร้อมก็เอาตามที่ใจตรงการเลยครับ จากคุณ : thebeatle เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 19:53:57

ความคิดเห็นที่ 27 เป็นกำลังใจให้นะคะ ลองวันหยุด ส-อ ก่อนก็น่าจะดีนะคะ ถ้าลองทำแล้ว คิดว่า สู้ไหว รับมือได้ ก็ลุยต่อเลยคะ จากคุณ : การเดินทางของความรัก เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 22:07:08

ความคิดเห็นที่ 28 สมัยเรียน มหาลัย มีงานคณะ ทำหมูสะเต๊ะขาย (สูตรที่บ้านเพื่อน เพื่อนเป็นคนทำค่ะ) แต่เราช่วยขาย ขายดีมากกกกกกกกกก ค่ะ จากคุณ : Dreams Catcher เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 22:46:09

ความคิดเห็นที่ 29 ทำหมูสะเต๊ะ  สารพัดสีดูสิ  แปลกดี เห็นมีแต่สีเหลือง จากคุณ : อัญชัญสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 23:14:06

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นเค้าทำ หมูสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะ ตับสะเต๊ะกันนะคะ ไม่ทำพวกบาบีคิวไม้ละ 5 บาทบ้างเหรอคะ เราชอบกิน อิอิ เงินเดือน 50K เยอะนะคะ เราว่าลองขายตอนเย็นหรือไม่ก็เสาร์อาทิตย์ก่อนดีกว่ามั้ยคะ ยังไงถ้ายังมีรายรับเข้ามาเดือนละ 50 K นี่ก็ยังดีนะคะ ^^ จากคุณ : riskx_ray เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 23:23:37

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นกำลังใจให้ค่ะ เพราะเป็นแม่ค้าตลาดนัดเหมือนกัน แต่ขายอาหารอิตาเลี่ยน   แรกๆเหนื่อยมากเพราะไม่มีที่ขายแต่พอมีที่ขายมีลูกค้าประจำก็สบายแล้ว (แต่ก็แอบเหนื่อยตอนขนของค่ะ)  เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ จากคุณ : นาจารี (nujjaree.nuj) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 08:32:54

ความคิดเห็นที่ 32 อยู่ที่ใจ เราว่า จขกท. มีสิ่งที่คิดในใจแล้ว เพียงแค่รอความเห็นจากคนวงนอกเท่านั้น สิ่งที่สำคัญคือ เศรษฐกิจไม่ใช่ช่วงขาขึ้น ราคาสินค้ากำลังจะแพง คนจะตกงานมากขึ้น หันมาแข่งกันทำธุรกิจส่วนตัว ทำเลการค้าจะหายาก ส่วนรองลงมา จะเข้าหน้าร้อนแล้ว ขายดีไปพักนึง หน้าฝน วัดดวงว่าจะต้องหยุดขายวันไหนมั่ง ส่วนสำคัญที่สุด เบื่องานประจำสุด ๆ ไม่อยากตื่นไปทำงานแล้ว ก็ออกเถอะ แต่สำหรับเรายังทำธุรกิจส่วนตัวเป็นงานรองอยู่ คิดเหมือนกันเลยว่าจะทิ้งเงินเดือนไปทำการค้าที่มันกำลังแย่ดีไหม ปล. เขียนเพิ่มเป็นกำลังใจ เราขายเสื้อผ้าอยู่ที่ยูเนี่ยนมอลล์ มีคนที่เขาลาออกจากงานมาขายของเยอะหลายคน บางคนประสบความสำเร็จมากๆ นับเงินไม่ทัน ร้านค้าอย่างกะมีการแจกฟรี ลูกค้าแน่นมาก แต่มีบางส่วนบางคนหน้าตาไม่สบาย อยู่ที่เอาประสบการณ์การตลาดมาใช้ในชีวิตจริง จากคุณ : ตาโต ชั้นเดียว เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 16:33:29

ความคิดเห็นที่ 33 เสียดายเงินเดือนอ่ะครับ.. ผมว่าลองทำแบบส่งถึงที่ office ดูก่อนดีมั้ยครับ?? แบบว่าหาคนทำให้ แล้วก็แพ็คใส่กล่องพร้อมทานส่งถึงบ้าน หรือ office แบบไม่ต้องออกตะเวนขายอ่ะครับ (อาจต้องจ้างคนทำ) เพื่อทดลองตลาด (กันพลาด) แล้วเราก็ทำงานไปก่อน ในระหว่างนี้ก็เก็บเงินๆๆๆๆๆๆ ให้มากๆๆๆๆๆ ถ้าเห็นว่ามันดีเป็นไปได้ก็ค่อยออกมาทำเต็มตัวครับ ถึงแม้มันจะยากแต่ก็น่าลองนะครับ เอาใจช่วยครับ สู้ๆ จากคุณ : นายแว่นธรรมดา เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 16:39:05

ความคิดเห็นที่ 34 เราก็อายุ 30 กว่า ที่ลาออกจากเงินเดือนสูงๆๆ ประมาณ 40k ออกมาค้าขายนะ แต่เราอาศัย connection กับทำเลทำให้ตอนนี้เงินเก็บมากกว่าเงินเดือนที่เคยได้เสียอีก ที่สำคัญคือทำเลนะเราว่า คนเราถ้าได้เงินขายได้ ความเหนือยมันก็หายไปหมดแล้ว ตอนที่เราซื้อรถ finace บอกเราว่าแม่ค้าขายน้ำเต้าหู้ตลาดตรงข้ามร้านเรา เค้าก็กูเหมือนกัน รายได้วันละ 2000 กว่าบาท คิดดู แม่ค้าขายน้ำเต้าหู้นะ เค้าทำได้ ทำไมเราทำไม่ได้ล่ะ แต่ว่าก็อยู่ที่ความอดทนของคนจริงๆๆ ขายของก็ต้องคิดถึงเวลาขาดทุนด้วย ไม่ใช่กำไรอย่างเดียว ยิ่งขายอาหารด้วยแล้ว ถ้าขายไม่หมดก็คือขาดทุนของจริง ๆๆ เลย จากคุณ : I know who am i เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 18:10:05

ความคิดเห็นที่ 35 ได้เงินเดือนละ50,000 ผมว่าคุณน่าจะมีเงินเก็บเยอะอยู่นะครับ ทำไมไม่ลองลงทุนซื้อมาขายไปล่ะครับ หมายถึงต้องลงทุนเช่าร้าน ซื้อของเข้ามาวางในร้าน ผมว่าน่าจะเหนื่อยน้อยกว่าการทำงานทางด้านเป็นผู้ผลิตนะครับ แต่การลงทุนย่อมมีความเสี่ยงไม่ว่าจะทำอะไรย่อมเสี่ยงมากกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือน จากคุณ : bluedimon เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 19:25:54

ความคิดเห็นที่ 36 รับได้ไหมครับกับช่วงแรก จากรายได้เกือน 5 หมื่นมาเป็นรายได้ไม่ถึงหมื่นแน่นอน กว่าจะปรับปรุงสูตรให้เข้าที่เข้าทาง กว่าลูกค้าจะติด ถ้ารับได้ลุยเลยครับ ถ้าไม่ขี้เกียจไม่อดตาย จากคุณ : แชมป์กะน้อง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:58:52

ความคิดเห็นที่ 37 ขอมาให้กำลังใจนะคะ ส่วนตัวมองว่า จขกท.น่าจะทำเป็น part time ก่อน ซึ่งมันจะเหนื่อยและเหนื่อยอยู่แล้วค่ะ (ใครไม่เหนื่อยล่ะเนอะ) เนื่องจาก 50K ไม่ใช่น้อย การที่ครอบครัวไม่พูดด้วย มองมุมกลับบ้าง ก็เพราะครอบครัวเค้าห่วงเรา คิดว่าเราตัดสินใจด้วยอารมณ์หรือเปล่า และการที่คุณจะเปลี่ยนจากพนักงานองค์กรดัง มาขายหมูสะเต๊ะนั้น สำหรับบางคนเค้ารับไม่ได้ (แต่เราประทับใจความตั้งใจคุณนะ) เริ่มด้วยการทำควบคู่ไปกับงานประจำ เพื่อประเมินตลาดและตัวเองก่อนก็ไม่เสียหายนะคะ จากคุณ : หมูห้อย เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 11:19:18

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณทุกๆความเห็นนะคะ ทำให้มุมมองเรากว้างขึ้นเยอะ(มากกกก)เลย ก็ตามนั้นน่ะค่ะ เราเห็นเค้าขายของตามริมฟุตบาทเราก็ว่าน่าจะไม่ลำบากเท่าไหร่ (รึเปล่า) พ่อกับแม่ไม่ได้ร่ำรวยมาจากไหนเลยค่ะ กว่าท่านจะมาถึงจุดนี้ได้ท่านก็เป็นพ่อค้าแม่ค้าตากฝนตากแดดมาก่อน ก็เลยค่อนข้างคัดค้านถ้าเราจะออกมาเป็นอย่างนั้นบ้าง แต่สิ่งที่เค้าไม่เข้าใจคือความอึดอัดที่เราต้องเจอใน office ทุกวัน .... เรา plan เล่นๆ ทุกวันเลยว่าเราจะซื้อของยังไงที่ไหน มาทำยังไง ขายที่ไหน (ยังไม่รู้) แต่ในความเป็นจริงก็คงไม่ง่ายอย่างที่หลายความเห็นบอก .. แต่ที่ตั้งใจแน่ๆคือคงไม่อยากมีครอบครัว และไม่ใช้ชีวิตใน office นานนัก ลู่ทางที่เหลือคือจะเอาเงินไปลงทุนไปทำอะไรได้บ้าง ขายของทางเน็ต หรือ เล่นหุ้น(นิดหน่อย) ระหว่างวันก็ขายของไปเรื่อย เก็บเงินไว้ดูแลตัวเองยามแก่เฒ่า (เริ่มเพ้อเจ้อ 555) ทุกวันนี้ก็นอนคิดอยู่ทุกวันว่าจะทำยังไง เริ่มจะออกไปสัมภาษณ์แม่ค้าบ้างประปราย 555 ขอบคุณนะคะ  จิงๆอายจัง อายุก็เยอะแล้วแต่ยังคิดอะไรเองไม่ได้เลย จากคุณ : Virtual Machine เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 20:25:55

ความคิดเห็นที่ 39 อย่าคิดเยอะ! ทำตามใจคุณเรียกร้องดีกว่าค่ะ แล้วทุกอย่างจะง่าย ไม่ยากอย่างที่คุณคิด มันเหมือนกับคำว่า "ทำงานด้วยใจ" นั่นแหละค่ะ สุดท้ายก็พบความสุข และเงินคือผลตอบแทนที่เราแทบไม่คิดระหว่างทาง อันนี้จริงๆนะ เดือนหน้าเราก็จะออกจากงานเหมือนกัน แต่เราต่างกับคุณที่ว่า เราทำธุรกิจมาก่อนตั้งแต่เรียน พอจบมาลองทำงานบริษัทดู แต่เราไม่ชอบเลย ไม่เวิคสุดๆ ทั้งบรรยากาศ ลักษณะงาน ทุกอย่าง เราเลยคิดว่า เราจะกลับไปต่อยอดสิ่งที่เราเคยทำให้มันเด่นพุ่งปรี๊ดไปเลย สู้ๆนะคะ! จากคุณ : เจ้าหญิงแก้มป๊องป่อง เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 22:06:22