ทำตามหน้าที่เราปรกติครับ
รูปแบบที่ควรจะเป็นที่สุดคือหัวหน้างานแจ้งพนักงานว่าไม่ผ่านทดลองงาน"เพราะอะไร" แล้วค่อยแจ้งให้พนักงานมาพบ HR เพื่อรับฟังสิทธิประโยชน์ต่างๆ ถ้าองค์กรคุณหัวหน้างานไม่ทำหน้าที่นี้แต่ส่งให้ HR เลยก็รับมาคุยแทนให้ก่อนครับ เรื่องเปลี่ยนแปลงองค์กรไว้ว่ากันทีหลัง
คุยถึงพฤติกรรมที่เป็นปัญหา อย่าไปเจาะที่ตัวบุคคลล่ะนะครับ เช่น เรื่องของการมาสาย เรื่องการกลับก่อนเวลางาน คุยให้ชัดว่าพฤติกรรมของเขาขัดต่อระเบียบบริษัทข้อไหน "อย่าไปโจมตีตัวบุคคลเพราะจะทำให้เขารู้สึกต่อต้าน"
ต่อจากนั้นแนะนำว่าหลังจากนี้ควรจะทำอะไรต่อไป สิทธิประโยชน์ต่างๆที่ได้รับมีอะไรบ้าง ทำหนังสือรับรองการทำงานให้เขาให้เรียบร้อย เสร็จแล้วให้เก็บของกลับบ้านทันทีโดย HR เดินไปส่งครับ
____
การเดินไปส่งนั้นใช้กับทุกเคสที่มีปัญหาแล้วบริษัทให้ออก มีเป้าหมายคือ
1. การได้พูดคุยกับพนักงาน ได้รับทราบปัญหาที่ทำให้เขามีพฤติกรรมแบบนี้ หลายเคสผมพบว่าพนักงานเปิดใจและเล่าอะไรให้ฟังมากขึ้นมากกว่าการคุยกันในห้องครับ
บางครั้งอาจจะเป็นสาเหตุจริงๆของปัญหาที่เขาไม่สะดวกจะพูดในห้องหรือพนักงานอาจจะเล่าความกังวลใจของเขาให้เราฟัง แบบนี้เราสามารถรับฟังและให้คำแนะนำเขาได้ บางครั้งเราอาจจะได้ข้อมูลการประพฤติผิดของคนอื่นด้วย เช่นเรื่องลักลอบเสพยาหรือเป็นเจ้ามือพนันฟุตบอล พนักงานแฉเพราะอารมณ์จะเอาคืน แบบนี้ก็มีครับ
2. ป้องกันพนักงานย้อนกลับไปก่อเรื่องในบริษัท ดูให้แน่ใจว่าพนักงานขึ้นรถกลับบ้านไปแล้วแจ้งรปภ.ให้ทราบว่าพนักงานคนดังกล่าวไม่ผ่านการทดลองงาน ถ้าจะเข้าบริษัทมาให้ทำเรื่องเข้าตามปกติแต่ให้แจ้งให้เราทราบ
เคสนี้ถ้าพลาดไปอาจจะเกิดเหตุพนักงานย้อนกลับมาทำร้ายผู้บังคับบัญชาคนที่ให้เขาไม่ผ่านทดลองงานครับ
เหมือนจะฮา แต่ถ้าเกิดเหตุจริงๆไม่ฮานะครับ ที่เก่าผมเคยมีเคสสื่อสารหลุดเคสนึง ไม่ได้ส่งจนถึงนอกบริษัท ผลลัพธ์คือพนักงานย้อนกลับมาทำร้ายหัวหน้างานในออฟฟิศ จากจะให้ออกได้ค่าชดเชยเป็นต้องเลิกจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยแทน แบบนี้เสียทุกฝ่ายครับ
____
เพื่อนคุณอนาคตต้องเจออะไรอีกเยอะครับ ผมเองเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว ตัวผมเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์สูงเท่าไหร่แต่ก็อาศัยได้หัวหน้าเก่าสอนมาน่ะครับ
มีใครเป็นhrบ้างคะ เคยมีใครให้พนักงงานไม่ผ่านโปรบ้าง
