ไม่ไหวแล้วเจ้านายคนใหม่ขี้เหวี่ยง ขี้วีนมาก แต่ไม่รู้จะย้ายไปอยู่ไหน อึดอัดมากคะ
|
 |
สวัสดีคะ
ขอเป็นกระทู้ระบายความเครียดก่อนไปเจอเจ้านายขี้วีนวันจันทร์
คือ เราเบื่อมากเลยคะ อดทนสูงมาก อีคิวสูงมากอยู่กับเจ้านายคนนี้ ขอระบายหน่อยนะคะ
เราทำงานที่องค์กรนี้ เป็นองค์กรขนาดกลาง เกี่ยวกับส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ เราเป็นเลขากรรมการผู้จัดการใหญ่ ทำงานาได้ 6 ปีแล้ว
ก่อนหน้านี้ 5 ปีที่แล้วเราไม่มีปัญหา เพราะว่ากรรมการคนที่เราทำงานด้วย เป็นเจ้าของ และเป็นพ่อ ของเจ้านายคนใหม่ของเรา
ทีนี้พอเจ้านายคนใหม่ (ลูกเจ้าของบริษัท กรรมการ) เข้ามา เราร่วมงานกับเค้าได้ 1 ปี ชีวิตการทำงานเราวุ่นวายและเหนื่อยมาก ๆๆ เพราะลูกชายเจ้าของบริษัทคนนี้ active มาก และที่สำคัญ ขี้วีนมาก
โดยที่กรรมการ(เจ้านายคนเก่า)ที่เค้าเป็นเจ้าของบริษัทเค้าวางมือ (เกษียณ) โดยที่เค้าไม่มารับรู้อะไรแล้วปล่อยให้อำนาจทั้งหมดอยู่ที่ลูกชายคนเดียวของเค้า
คือจริงๆเจ้านายคนใหม่คนนี้ ก่อนที่เราจะเข้ามาทำงานร่วมกับเค้า
เค้าก็เป็นเด็กวัยรุ่น อายุ 24 ปี เป็นเด็กที่น่ารักมาก ร่าเริง เคารพผู้ใหญ่ เรียนเก่ง ภาษอังกฤษไฟแล้บ เป็นเกย์ที่ดูไม่ออกว่าเป็น ต้องสัมผัสใกล้ชิดถึงรู้ แต่พ่อของเค้าก็ไม่รู้ โดยรวมก่อนมาร่วมงานถือว่า เป็นหนุ่มหล่อ เก่งและอัธยาศัยดี
แต่แล้วหลังจากที่เค้าเรียนจบพอเค้าเข้ามาบริหารงาน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
เดิมทีองค์กรเราเป็นหนี้ธนาคารเยอะมาก คือเห็นงบแล้วแทบคิดในใจว่า ทำกี่ปีถึงจะคืนทุนเนี่ย เพราะว่าองค์กรค่อนข้างรั่วเยอะ และเจ้านายก็โดนพวกลูกน้องเซลขายเก็บเงิน ทุจริตเยอะ
แต่พอผ่านไป 1 ปี พอลูกชายเค้ามาดำเนินธุรกิจ
หนีธนาคารก็หายไปประมาณ 60% ซึ่งเป็นสิ่งที่เราตกใจมากเนื่องจากเราเค้าทำงานแบบแรงๆ
จริงๆเราก็ประทับใจเค้านะ แต่เราก็เหนื่อยกายเหนื่อยใจมาก
คือถ้าตัดเรื่องขี้วีนไป เค้าก็เป็นคนที่เรารักมากคนหนึ่ง เพราะเค้าก็มีน้ำใจมาก
มาเข้าเรื่อง เล่ามาซะยาว
ก็คือ ทุกครั้งเราจะต้องคอยรองรับอารมณ์(สมมติชื่อเจ้านาย A) เช่น
1. เรื่องการทำงาน
คุณ A เค้าเป็นคนที่ทุกอย่างจะต้องรวดเร็ว ถ้าอะไรที่เสร็จไม่ทันใจเค้า เค้าจะด่าแรงๆ โดยที่เค้าไม่เห็นหัวผู้ใหญ่ เค้าเคยด่าผู้ใหญ่ที่เป็น Manager ด้านภาษี อายุ 50 ปีว่า ทำงานแบบนี้ให้เด็กจบพาณิชย์มาทำ ยังคูลกว่าเลย
คือเค้าเป็นคนที่ดูถูกคนที่ไม่เก่งมากๆ โดยที่เรารับไม่ได้ แต่เราต้องทนฟัง
เค้าไม่แคร์ว่าคนนั้นจะอายุมากเท่าไร ถ้าทำงานไม่ถูกใจเค้า หรือไม่ถูกต้องเค้าจะเหวี่ยง ด่าสุภาพด้วยคำพูดแรงๆ
เราเคยเตือนเค้าว่า ถ้าทำแบบนี้ บารมีจะไม่มี เค้าก็ไม่แคร์ เพราะเค้าบอกเราว่า ถ้าคนไหนทำงานดี เค้าจะให้ผลตอบแทนที่ดีมากๆ
(ซึ่งเราก็เป็นคนที่ทำงานดีในสายตาเค้า ก็ได้ผลตอบแทนดีจริง แต่เรากดดันมาก)
สรุปคือเค้าด่าแรง และชอบดูถูกคน
เค้าเคยด่าพนักงานสินเชื่อแบงค์ ว่า แนะนำผลิตภัณฑ์แบบนี้ อย่าแนะดีกว่า และเอาเรื่องพนักงานเครดิตอะนาลิส คนนั้นถึงขั้นแรงมาก คือ ไปด่าถึงสาขา
จนหัวหน้าสาขาจะต้องมาขอร้องไว้ (แต่เค้าก็ยังด่าหัวหน้าสาขา เพราะเค้าคิดว่าเค้าเป็นลูกค้าชั้นดีมากๆ แต่ก็จริง)
คือเราก็ต้องไปไหนกับเค้าและทำให้เราอาย และเหนื่อยใจ
แต่คนๆนั้นก็ผิดจริงๆ
2. หากสิ่งที่เค้าสั่งมาช้า หรือไม่ได้ดั่งใจ เค้าจะยกเลิกทันที
คือเราเข้าใจนะคะว่าเป็นเรื่องปกติถ้าได้รับบริการที่ไม่ดี ก็จะต้องมีการยกเลิก
แต่ของเคสเจ้านายคนนี้ คือ เค้ายกเลิกบัตรเครดิตที่ให้บริการเค้าไม่ดีไปประมาณ 3 ธนาคารแถมเจ้าหน้าที่ธนาคารเหล่านั้นโดนด่าไม่เหลือดี
เวลาไปทานอาหาร หากเค้าไม่พอใจกับรสชาติ หรือ บริการ เค้าก็จะเล่นเจ้าของร้าน ด่าจนไม่เหลือดี ซึ่งเราก็กดดันมากๆ
คือ เอาเป็นว่าเรื่องใหญ่ทุกกรณีถ้าผ่านเจ้านายคนนี้
3. เรื่องของพนักงานในองค์กร
เค้าจะกดดันพนักงานทุกคนให้ทำตามขั้นตอนที่เค้าวางไว้
และถ้าพนักงานคนไหนทำผิดแบบ จะเกิดความท้าทายขึ้น
เช่น เซลบางคนบอกว่าจะต้องขายแบบนี้ แต่เจ้านายบอกว่าการขายที่ดีคือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ให้พาลุกค้ารายนั้นไปเที่ยวอ่าง
แต่เซลต้องการโชว์ความสามารถตัวเอง ก็ขัดขืนไม่ฟังเค้า
ต่อมา เจ้านายก็ให้โอกาสและพูดว่า คุณดูนะว่าวิธีใครจะฉลาด เร็ว และได้ผล
สุดท้ายเซลคนนั้นยอดขายก็ไม่ขึ้นก็โดนเจ้านายเล่น ต่อมาเจ้านายเปลี่ยนเซลให้พาลูกค้าคนเดิมไปอ่าง เอาใจลูกค้า จากนั้นยอดขายก็ขึ้นถล่มถลาย
เซลคนนั้นโดนเรียกมาด่าแบบไม่เหลือดี แถมโดนด่าว่า เป็นเซลอายุเท่านี้ให้เด็กอายุ 24 มาด่า
คือเราฟังแล้วยังเจ็บปวดแทนเลยคะ
4. เราเป็นคนรับไม่ได้เรื่องการไม่เห็นหัวผู้ใหญ่
แต่เจ้านายคนนี้ก็ไม่เคยเห็นหัวใครทั้งนั้น แต่ถ้่าคนไหนดี เค้าถึงกับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมให้เป็นของขวัญ
5. เค้าชอบด่าเรื่องรสนิยมเวลาเราหรือลูกน้องเลือกของให้ลูกค้า
เดิมทีทุกงานปีใหม่เรากับทีมงานก็จะเป็นคนเลือกของไปให้ลูกค้า ซึ่งเจ้านายคนเก่า(พ่อของเจ้านายคนใหม่) ก็ไม่เคยติหรือเปลี่ยนหรือว่าอะไรเลย
แต่พอมาปีใหม่ปีล่าสุด
เจ้านายคนใหม่ก็เดินและมาพูดเรียกเราเข้าประชุมด่วนกับทีมงานว่า ทำไมรสนิยมการเลือกของขวัญให้ลุกค้าและซัพพลายเออร์ถึงได้ต้องขึ้นสัญญาณฉุกเฉินแบบนี้
เราก็อึ้งและได้แต่พูดว่า ก็เป็นแบบนี้ทุกปี
เค้าก็ตะคอกด่าเราว่า ชีวิตคุณไม่คิดจะพัฒนาอะไรเลยเหรอครับ
ซึ่งเราฟังเราก็อึ้งๆ แต่ก็พยายามจะเข้าใจ
สุดท้ายเค้าเปลี่ยนจากขนมไทยเป็นผ้าไหมบ้าง เป็นบัตรกำนัลโรงแรมบ้าง เป็นชอคโกแลตยี่ห้อดัง เป็นชายุโรป
คือเค้าก็เป็นคนลงมาทำเอง โดยเค้าก็บอกว่า ลูกค้าแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน คุณต้องห้ามซื้อรวม อะไรแบบนี้
คือเราก็ประทับใจ แต่เราก็นอยมาก
6. เรื่องการจับทุจริต
เดิมทีเวลาเจ้านายคนเก่าจับทุจริตได้ ก็คือการตักเตือนหรือไล่ออกโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและยังออกใบหนังสือให้โดยไม่ได้เขียนข้อความไม่ดีลงไป
แต่เจ้านายคนใหม่ จับได้ปุ๊บ ไล่ออก แจ้งตำรวจ ออกหนังสือจดหมายไม่ดี และที่สำคัญ ให้แก้งค์ที่เป็นพวกใต้ดินมีอิทธิพลจัดการถึงบ้าน
น่ากลัวมาก
7. เป็นคนไม่ง้อคน หากขาดคน เค้าทำเองคนเดียว
มีลูกน้องคนหนึ่ง ต้องการบิน business class ไป เยี่ยมลูกค้าที่อังกฤษ
เจ้านายคนก่อน อนุมัติ เพราะเห็นว่าเป็นผู้จัดการ
เจ้านายคนใหม่ บอก ไม่ได้เนื่องจากธุรกิจยังขาดทุน ถ้ากำไรถึงจะให้นั่งเฟิสคลาสเลย เมเนเจอร์คนนั้นก็บอกว่า ถ้าไม่ให้ก็ไม่ไป
เจ้านายคนใหม่บอกว่า โอเค งั้น ลาออกไปพร้อมกับให้ลาออกจริงๆ แม้ว่าลูกน้องคนนั้นจะมาขอบอกว่ายอมนั่งก็ตาม
เด็ดขาดมาก และน่ากลัวมาก
และมีอีกหลายเรื่อง
แต่กับเราเค้าไม่ได้เขี้ยวมาก แต่เค้าก็ทำเรากดดันมาก
แต่ก็สอนเราเยอะเกี่ยวกับการทำงานที่เร่ง ให้ทัน
และเค้ามักพูดว่า
ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ คนเราเกิดมาพร้อมกับความคาดหวัง และความคาดหวังนั้นคือผลตอบแทน
และขอบ่นอีกเรื่อง
เจ้านายเค้าเป็นคนประเภท กับคนอื่นเค้าจะดีมาก ถ้างานดี
ถ้างานแย่เค้าจะร้ายมาก
เราก็ไม่รู้จะลาออกดีมั้ย
เพราะถ้าพูดตรงๆ
เงินดีมาก เราได้กระเป๋าบาลองเชียก้า (ซึ่งเราไม่เคยคิดว่าชาตินี้เราจะได้) เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์
คือผลตอบแทนดี งานพัฒนา แต่น่ากลัวเรื่องความดุ
ขอบคุณที่ให้ระบายคะ
| จากคุณ |
:
cant stand for
|
| เขียนเมื่อ |
:
7 มี.ค. 54 02:51:38
A:58.9.50.22 X: TicketID:308736
|
|
|
| 
