ตอบคุณเจ้าของความเห็นที่ #101
"บ้างที่ มันก็อาจจะจริงนะครับ อย่างของผม ก็ได้รับรู้เรื่องนี้มาเหมือนกัน
แต่คนที่ยืนยันว่ารุ่นน้องแย่กว่ารุ่นพี่ นี่คืออาจารย์ครับ
และผลการสอบซ่อมของรุ่นน้องเกือบครึ่งห้อง ซึ่งไม่มีในรุ่นพี่"
อืมมม ต้องลองอ่านความเห็นของผม (#77) ให้ครบและละเอียดครับ
เพราะผมบอกไปแล้วว่าความรู้ในแต่ละยุคมันเปลี่ยนรูปแบบไปพอสมควร
ซึ่งการวัดความรู้จากวิชาพื้นฐานในมหาวิทยาลัยจะไม่สามารถวัดความรู้รูปแบบใหม่พวกนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนัก
แถมไอ้ความรู้รูปแบบใหม่นี้ บางทีก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกสอนในมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
ตัวเลขสถิติทั้งหลายเลยบ่งบอกอย่างเดียวเลยว่าเด็กสมัยนี้แย่ลง
แต่ขอยืนยันในฐานะอาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่งว่า
แม้คะแนนเฉลี่ยของเด็กสมัยใหม่จะน้อยลง เด็กเขียนโปรแกรมกันได้แย่ลง
แต่ผมก็เห็นบางสิ่งที่เกรดเฉลี่ยบอกไม่ได้เช่นกัน บางสิ่งที่พวกเราในอดีตไม่มี
เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้แต่ละยุคมีความพิเศษต่างกันไป
ลองนึกถึงตอนเราเรียนตรีสิครับ
รุ่นพี่เราก็ชอบบ่นแบบนี้กับพวกเรา หรือไม่ก็กับรุ่นน้องของเรา
แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจริง ถ้ากราฟมันตกลงทุกรุ่นจริงๆ
ประเทศไทยเราคงหมดหวังกับอนาคตกันพอดี
แต่ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย
สิ่งที่ผมห่วงในปัจจุบันไม่ใช่เป็นความรู้ที่น้อยไปหรอกครับ
แต่เป็นความรู้ที่มีให้เห็นมากไป กระจัดกระจาย และหาได้ง่ายเกินไปต่างหาก
ซึ่งทำให้เด็กๆ ชินกับการได้อะไรมาอย่างง่ายๆ เพียงค้นหาแป๊บเดียวก็ได้แล้ว
พอการทำการบ้านเปลี่ยนเป็นการค้นหาใน google เด็กๆ ก็ชินกับการค้น ค้น และค้น หลายคนจึงมีปัญหากับการใช้สมองคิด เพราะเขาชินกับการให้ google ค้นคำตอบให้แทน
วันหลังผมจะเอาคำตอบแปลกๆ ของนักศึกษาในรายวิชาของผมมาให้ดูครับ
เนื่องด้วยข้อสอบของผมจะเป็นการแสดงแนวความคิดซะมาก นักศึกษาเลยมีปัญหาเวลาที่จะแสดงความคิดของตัวเองออกมา บางคนมีปัญหาในกระบวนความคิด บางคนมีปัญหาตั้งแต่การเริ่มคิด แต่ 80% จะมีปัญหาในการสื่อสารความคิดของตัวเองออกมา
ซึ่งจัดว่าแปลกนะครับ
เด็กที่อยู่ในยุคของการสื่อสารทันใจ กลับมีปัญหาในการสื่อสารไอเดียของตัวเอง