ความคิดเห็นที่ 1 สนใจ ๛ ว่ามันอยู่ตรงไหนของแป้นพิมพ์นะ หายังไม่เจอ เป็นสัญลักษณ์พิเศษหรือเปล่า เอ.. นอกเรื่องแล้วสิ เด็กสมัยนี้ก็คือเด็กสมัยนี้ เด็กสมัยนั้นก็โตๆกันแล้วไม่เหมือนเด็กสมัยนี้ แล้วคงไม่เหมือนเด็กสมัยโน้น จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 12:41:30

ความคิดเห็นที่ 2 คนแก่สมัยนี้มักคิดว่าตัวเองถูกเสมอ เหมือนสมัยโน้นป่าวครับ จากคุณ : เด็กขงเบ้ง เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 13:18:30

ความคิดเห็นที่ 3 บอกแล้ว คนแก่ หัวรั้น ดื้อด้าน ชอบคิดว่าตัวเองรู้เยอะกว่าเด็ก จริง ๆ นะ จากคุณ : jaminonez เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 13:38:42

ความคิดเห็นที่ 4 เคยทำงานกับเด็กรุ่นใหม่มาหลายคน เจอทั้งแบบดีและไม่ดี จริง ๆ แล้วมันเป็นที่ตัวคน ไม่ได้เป็นที่ทั้งหมด จะเหมารวมหมดไม่ได้ แต่ลองมองกลับกันดูไหม ว่าถ้าเราต้องการคนเก่งมาร่วมงาน เราต้องทำอย่างไรคนเก่งถึงมาอยู่กับเรา ไม่ใช่ต้องการคนเก่งเงินเดือน 10K อ้างเหตุผลว่าฐานเงินเดือนให้เด็กจบใหม่ได้แค่นี้ ใครเขาจะมาอยู่ด้วย คุณก็จะได้คนที่องค์กรอื่นไม่เอาแล้วมาอยู่ด้วยเท่านั้น จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:03:51

ความคิดเห็นที่ 5 ผมไม่ค่อบชอบกระทู้แนวนี้เลย จริงๆคนเราส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ทุกยุคทุกสมัยนั่นแหละครับ ข้าราชการเช้าชามเย็นชาม ชาวบ้านจับกลุ่มนินทากัน อวดเงินเดือน อวดทรัพย์สิน ทัศนคติเห็นด้วยกับการโกงกิน ใช้เส้นสาย บ้างก็กินเหล้าเมามายตอนกลางวันแสกๆ ETC. เหล่านี้ส่วนมากก็ผู้ใหญ่กันทั้งนั้นแหละครับ คนดีๆ ทำงานเก่งๆ ขยันอดทน คือคนส่วนน้อย มันเป็นแบบนี้มาทุกยุคทุกสมัย และสิ่งเหล่านั้นมันก็เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของคนๆนั้นไปเอง เพียงแต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป แนวคิดและวิธีการทำงานของคนเรามันย่อมเปลี่ยน มันหมดยุคของการทำงานแบบควายๆแล้วครับ ทั้งนายจ้าง และ ลูกจ้าง เองก็ต้องปรับตัวกันทั้งสองฝ่าย จากคุณ : มาริโอ้ บาโลเตลลี่ เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:32:52 A:61.19.66.193 X: TicketID:300093

ความคิดเห็นที่ 6 ๛ เออ สวยดี แหะแหะ จากคุณ : รักหนักแน่น เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:34:06

ความคิดเห็นที่ 7 ๛ ๛ ๛ ๛ ๛ ๛ ๛ ๛ ๛ ๛ ๛ test test เออ สวยดีแฮะ จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 15:33:09

ความคิดเห็นที่ 8 คุยกับคนอายุ 60 ปี สมัยผมดีมาก สมัยผมไม่มีอย่างนี้หรอก คุยกับคนอายุ 40 ปี สมัยผมดีมาก  สมัยผมก็ไม่มีอย่างนี้หรอก คุยกับคนอายุ 30 ปี สมัยผมดีมาก  สมัยผมไม่มีอย่างนี้เหมือนกัน คุยกับคนอายุเริ่มทำงาน สมัยผมดีมาก ใครๆก็คิดว่าสมัยตัวเองดีที่สุด จากคุณ : ตาชิโบ เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 15:36:19

ความคิดเห็นที่ 9 == ซ้ำค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 54 15:41:51 จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 15:40:52

ความคิดเห็นที่ 10 เซ็งกับ มายาคติ เรื่อง ''เด็กสมัยนี้''  เหมือนกัน จากคุณ : ศุกร์เล็งลัคนา เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 18:18:00

ความคิดเห็นที่ 11 เอาบทความดีๆ มาฝากค่ะ http://www.dmc.tv/pages/top_of_week/Gen-Y.html เราว่าคนแต่ละยุคก็มีดี-เสียต่างกันไป แต่นั่นก็ทำให้โลกสมดุลไม่ใช่เหรอ? ลองจินตนาการดูถ้าบุคลากรทุกคนในองค์กรคุณมีนิสัยเหมือนกันหมดรับรองบริษัทเจ๊งแน่ๆ จากคุณ : องค์หญิงเอ๋อ เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 20:30:36

ความคิดเห็นที่ 12 รุ่นเก่าๆบางคนก็ไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับรุ่นหลังๆเท่าไหร่หรอก เราเห็นทุกเมื่อเชื่อวัน  วันดีคืนดีแกว่งปากหา zone เพื่อนร่วมงาน พอบ่อยเข้าๆเพื่อนร่วมงานรุ่นลูกทนไม่ไหว เลยจัดหนักไปซักดอกสองดอกเพื่อให้เค้าสงบปากสงบคำ ก็ดั้นนนนน....หาว่า "เด็กสมัยนี้" ไม่มีมารยาท ก้าวร้าวกับผู้ใหญ่ ทั้งที่ป้าแกทำงานก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร  ใครดีใครเด่นกว่าก็จับผิดว่าวันๆเค้าทำไรแล้วก็คอยไปโพทนาให้แผนกอื่นฟัง งานไหนจะนำพาให้ตัวเองทำงานลำบากก็จะปฏิเสธไม่ก็โบ้ยลงคนอื่นโน่นนนนน... ประจบเอาใจนายทั้งวี่วัน เสิร์ฟขนมนมเนยให้  พอมีคนอื่นเค้าซื้อของมาแล้วแบ่งนายก็ไปว่าเค้าว่าเลียแข้งเลียขาอีก  แน๊~~ เวลางานก็แว่บออกไปข้างนอกนานๆ  เปิดเวบ เล่นเกม อวดมั่งอวดมีแข่งกับโต๊ะข้างๆ พอถึงเวลาปรับเงินเดือนรู้ว่าคนอื่นได้ปรับเยอะก็โวยวายว่าทำไมตัวเองไม่ได้มั่ง เราก็เอออออ...... "ผู้ใหญ่สมัยนี้" เนาะ   น่าเคารพมากกกก....ทำตัวอย่างงี้ ดีนะที่เจ้านายเราไม่เป็นแบบป้ามหาภัยนี่  ไม่งั้นไม่อยากจะนึกว่าตัวเองจะเป็นสภาพยังไง (ขอบ่นหน่อยเหอะ  เห็นมันทุกวัน...อิอิ) แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 54 21:50:27 แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 54 21:45:58 จากคุณ : น้องม้าเป๊ะ เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 21:43:52

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าจะพูดกันเรื่อง "เด็กสมัยนี้" กับ "ผู้ใหญ่สมัยนี้" ก็คงเถียงกันไม่จบหรอกค่ะ เพราะ "ผู้ใหญ่สมัยนี้" ก็เก็บกดมาจากคำว่า "เด็กสมัยนี้" จาก "ผู้ใหญ่สมัยโน้น" เหมือนกัน ก็ต้องทำความเข้าใจว่าโลกมันก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเกิดจากปัจจัยใดก็ตาม เพราะในไม่ช้า "เด็กสมัยนี้" ก็ต้องไปบ่นแบบเดียวกันกับ "เด็กสมัยหน้า" อีกเหมือนกันนั่นแหละ เป็นอย่างงี้ไปทุกยุคทุกสมัย ไม่จบไม่สิ้นหรอก จากคุณ : Birl Gig เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 22:20:39

ความคิดเห็นที่ 14 อืมม์ จขกท ทิ้งช่วงไปเลยนะครับ  เดี่ยวนี้ไม่ใครจะโพสต์ถี่เท่าไร   เสียดายนะครับ สมัยก่อนยังมีคุณเลขาฯ เขียนเรื่องให้อ่านบ่อยๆ ผมก็ติดคำว่าสมัยนี้  สมัยก่อน  แหะๆๆ เคยเปิดประเด็นเรื่อง Generation ในกระทู้นึง  ตั้งข้อสงสัยว่านิสัยบางอย่างน่าจะเป็นลักษณะร่วมของ Generation  มีคนมาต่อประเด็นว่าด้วยเรื่อง Gen Y   เท่านั้นล่ะ  มาม่าสุกเลยเชียว จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 22:52:44

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับคนที่ยังกำ้กึ่งความเป็นจูเนียร์กับซีเนียร์อย่างเรา เราเบื่อคำว่า "เด็กสมัยนี้..." กับ "เด็กใหม่ไฟแรง" มากเลยรู้สึกว่าคนพูดดูถูกทั้งตัวเองและบุคคลผู้นั้นไปพร้อมๆกัน ไม่ชอบเลย แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 54 01:31:15 จากคุณ : 24 frame per second เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 54 01:27:47

ความคิดเห็นที่ 16 ผมก็เห็นด้วยครับ ผมเห็นหลายๆครั้งครับ ที่บางคนชอบที่จะเหมารวม โดยเอาสิ่งที่พบกับตัวเอง หรือบางที่แค่อาจจะได้ยินคนอื่นพูดมา ฟังมาเท่านั้นเอง ไม่ใช่คำว่าแค่เด็กสมัยนี้หรอกครับ รวมไปถึงคำว่าราชการและอื่นๆด้วย เพราะทุกๆที่มีทั้งขาวและดำรวมทั้งเทาปนๆกันไป คนที่ตั้งใจ คนทำดีก็มีเยอะครับ จากคุณ : ko_oasis เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 54 06:35:20

ความคิดเห็นที่ 17 #16  แต่ก็แปลกนะครับ  กระทู้ถล่มราชการในนี้ก็บ่อย   ไม่ค่อยมีใครมาสวนกระแส   ต่างกับองค์กรอื่น  ส่วนเรื่องคำว่าเด็กสมัยนี้ ม่ามาประจำ ขอเดาว่าเด็กสมัยนี้  ที่ว่าน่าจะ 18-25 นะครับ  ช่วงเวลาเริ่มจบและทำงาน จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 54 07:44:50

ความคิดเห็นที่ 18 เด็กสมัยนี้นะ ทำไมมันขาว มันอึ๋ม ผมยาว ตาโต กันอย่างนี้นะ ตอนสมัยผมไม่เห็นมีอย่างนี้มั่งเลย จากคุณ : อยากได้ยินแบบนี้บ้าง (basicball) เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 54 09:53:26

ความคิดเห็นที่ 19 เอ้าฮาาา กระทู้มีสาระครับ ขอสนับสนุน ไม่ใช่วันๆดีแต่ถามว่า เงินเดือน2ล้านๆบาทเยอะยังครับ อยากครองโลกทำไงดี จากคุณ : lARtZnolASt เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 54 10:10:38

ความคิดเห็นที่ 20 ยุคสมัยเปลี่ยนไป พฤติกรรมคนก็เปลี่ยนไป เป็นธรรมดา การที่คนยุคหนึ่ง จะหยิบยกเอาข้อดีของยุคหนึ่ง(ในภาพรวมมา) มากล่าวถึงกว่าดีกว่า ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร ในอีกทางคนยุคใหม่ก็มีข้อดีบ้างอย่าง ที่คนในยุคเก่า ๆ ไม่มีเช่นเดียวกัน อย่างคนสูงอายุหน่อยให้มาแตะคอมฯ นี่รวม ๆ แล้วแทบไม่กระดิก แต่ยุคใหม่นี่ สบาย ๆ อย่าง #18 ยกมา ถ้าคุณดูการแต่งกายของน.ศ.ยุคน้ เทียบกับเมื่อ 15 ปีก่อนในภาพรวมแล้ว มันต่างกันแน่นอนครับ หรือถ้าย้อนไปซัก 150 ปี ที่เสื้อผ้าเป็นของราคาแพงก็จะได้อีกมุมหนึ่ง หรืออย่างวงข้าราชการนั้น ถ้าย้อนไปก่อนหน้า 20 ปี up พฤติกรรมที่แสดงกับประชาชนชาวบ้านธรรมดา ในภาพรวมก็จะแย่กว่ายุคนี้ครับ จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 54 10:42:37

ความคิดเห็นที่ 21 เคยได้ยินป่าวเห็นมาจากเว็ปแถวนี้ "โตแต่สังขาร  สันดานเหมือนเด็ก" โครตชอบเลยอ่ะ จากคุณ : nattasak@mrc เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 54 13:35:45

ความคิดเห็นที่ 22 #17 ขอตอบหน่อยครับ เอาเป็นว่าถ้าเข้าใจเหมือนกันว่า ทุกๆที่ทุกๆแบบมีทั้งคนแย่และคนดีรวมๆกันไป ไม่ว่าจะเป็นคนสมัยไหน ไปจนกระทั้งที่ทำงานแบบไหน เช่นคำว่าคนสมัยนี้กับราชการและอื่นๆ ผมว่ามันมีความแตกต่างกันในประเภทอยู่แล้วครับแต่ก็มีความเหมือนที่ทำให้ปรากฎเป็นสัจธรรมว่า ทุกๆที่มีคนหลายประเภทรวมๆกัน ก็น่าจะเข้าใจได้เหมือนกัน ไม่สามารถเหมารวมว่าจะเป็นแบบใดแบบหนึ่งได้อย่างเดียวครับ โดยใช้สิ่งที่ได้พบมา หรือบางทีอาจจะแค่ฟังมา ได้ยินมาเท่านั้นเอง ยังไงก็ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ จากคุณ : ko_oasis เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 54 16:50:19

ความคิดเห็นที่ 23 อยู่ทีว่าใคร คนไหน สามารถที่จะเปิดตัวเองเรียนรู้สิ่งที่ควรจะได้รับมากน้อยแค่ไหนครับ บางคนอาจจะรู้ อาจจะมีข้อโต้แย้งอยู่ในใจ แต่ว่าไม่พูด ไม่แสดงออก หลายคนอาจมองว่า สอนง่าย เข้าใจง่าย แต่ถ้าไม่เปิดโอกาสให้เค้าพูดเลย บางครั้งคนที่พูดให้เค้าฟังอย่างเดียว อาจไม่รู้ถึงปัญหา และอาจไม่รู้ถึงวิธีการอันแตกต่างครับ... อันนี้พูดรวมๆกับทุกเพศทุกวัยครับ... จากคุณ : เอเจ เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 54 16:51:40

ความคิดเห็นที่ 24 คห.1 กดยังไงลืมไปแล้ว ไม่แน่ใจว่า alt+149 รึเปล่า ส่วนความหมายและวีธีใช้ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3 จากคุณ : Bassism เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 54 22:11:09

ความคิดเห็นที่ 25 ขออนุญาตเข้ามาร่วมด้วยครับในฐานะที่ถูกพาดพิงนิดหน่อย55 ผมเป็นคนตั้งกระทู้ที่ถูกแตกประเด็นมาเป็นกระทู้นี้ครับ ขอตอบท่าน#2และ#3หน่อยนะครับ เด็กขงเบ้ง : อาจจะมีและคิดว่ายังมีครับแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน55 ลองกลับไปอ่านทู้ที่ผมตั้งไว้และผมตอบไว้ในช่วงความเห็นท้ายๆครับ jaminonez : อย่าไปคิดแบบนั้นเลยครับ ขอตอบเฉพาะส่วนตัวผมนะครับ ถ้าคุณคิดว่าคนแก่หัวดื้อ หัวรั้นคิดว่ารู้เยอะเนี่ย ไม่ใช่แค่รุ่นผมหรอกครับรุ่นคุณเองหรือรุ่นไหนก็เป็น และผมคิดว่าตัวคุณก็เป็นนะ  หัวดื้อ หัวรั้นเนี่ยเกิดจากสิ่งที่เราผ่านพบเจอมาก่อนคนรุ่นคุณไงละครับ เพราะเราเคยโดนมาก่อนแล้ว เคยเจ็บปวดมาก่อนคุณแล้วมันยังจำได้ครับเมื่อมาเจอสถานะการณ์เดียวกัน คนแก่อย่างผมก็รู้แล้วว่ามันจะจบลงยังไง แต่คนรุ่นคุณยังไม่เคยเจอเราก็เลยค้านไว้รั้งไว้ด้วยความหวังดีเพราะไม่อยากให้คุณต้องมาประสบเหตุแบบเรา อาจจะด้วยคุณไม่เคยเจอนี่แหละพอคนแก่อย่างเราค้านไว้ คุณก็บอกว่าเราดื้อบ้างรั้นบ้าง ส่วนตัวผมถ้าเด็กรุ่นหลังแสดงเหตุผลที่ดี ผมฟังนะเปิดใจกว้างๆให้เลยครับถ้าอยากจะลอง ผมโอเลยแต่ก็จะเตือนเขาไว้เหมือนกันว่าคุณอาจจะเจอเหตุการณ์1-2-3นี่ต้องเตรียมวิธีแก้ไขอย่างไรให้มันผ่านพ้นไปได้ ส่วนเรื่องที่บอกว่า คิดว่ารู้เยอะกว่าเนี่ย ก็ต้องขอตอบแบบนี้ครับ ส่วนตัวผมเนี่ยถ้าถามว่ารู้เยอะไปกว่าเด็กรุ่นหลังมั้ย คำตอบคือไม่แน่นอนครับ เพราะความรู้สมัยผมกับสมัยนี้เนี่ยต่างกันมากมายยกเว้นก็แต่ว่าวิชาพื้นฐานที่เรียนกันมาตั้งแต่เด็กยันมหา'ลัยนี่แหละที่ผมเห็นว่าไม่ค่อยเปลี่ยนมากนักอันนี้พูดถึงในแง่เนื้อหาหรือทฤษฎีนะครับ ส่วนวิชาความรู้นอกตำรานี่ ยอมรับครับอีกทั้งเทคโนโลยีอีกล่ะ รุ่นผมตามไม่ทันครับต้องยอมรับแต่ที่คุณบอกว่าคนแก่มักชอบคิดว่ารู้เยอะเนี่ย น่าจะเป็นเรื่องของประสบการณ์มากกว่านะครับ จากคุณ : ร้าวราน..ใน..ร้าวฉาน เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 09:33:13

ความคิดเห็นที่ 26 ตลกอ่ะ จากคุณ : ไม้กล้า เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 12:50:59

ความคิดเห็นที่ 27 ตอนนี้สุดจะทนกับลูกจ้างเทวดา จากคุณ : goodi poo เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 16:31:16

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องยุคสมัย    คงเถียงกันไม่จบหรอก แต่ละคนก็มีประสบการณืที่ต่างกัน   ต่างกรรรมต่างวาระ สมัยอิฉันก็มีผู้ใหญ่เฮงซวยเยอะแยะ    เยอะพอๆ กับเด็กเวง  นี่แหละ จากคุณ : Piano Player เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 18:53:31

ความคิดเห็นที่ 29 กระทู้เดิมคงต้องใช้คำว่า "คนสมัยนี้" แทน "เด็กสมัยนี้" เพราะความคิดคนที่เปลี่ยนไป คงไม่ใช่แค่รุ่นเด็กๆ คนทำงานโดยทั่วไปมีความอดทนต่ำลงจริงๆ จากคุณ : Take it easy guys เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 23:29:22

ความคิดเห็นที่ 30 วันนี้จะได้อ่าน ข้อความของคุณจูล่ง ไหมเนี้ย --" จากคุณ : หวานใจนายโหด เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 00:16:20

ความคิดเห็นที่ 31 "เด็กสมัยนี้" เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าคุณแก่แล้ว ;) จากคุณ : Roby เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 05:44:54

ความคิดเห็นที่ 32 มีคนเคยกล่าวไว้ว่า " เด็กสมัยนี้หลงใหลแต่ความฟุ่มเฟือย มารยาทเลว ดูถูกผู้มีอำนาจ ขาดความเคารพผู้ใหญ่ และชอบพูดคุยเรื่องไร้ สาระ แทนที่จะออกกำลังให้แข็งแรง ชอบวางอำนาจบาตรใหญ่ แทนที่จะคอยปรนนิบัติรับใช้ในบ้าน ไม่ลุกขึ้นแสดงความเคารพเมื่อผู้ อาวุโสเดินเข้ามาในบ้าน โต้เถียงพ่อแม่ พูดคุยอย่างไม่เกรงใจต่อหน้าแขก หยิบฉวยกินแต่ของดีๆ บนโต๊ะอาหาร นั่ง ไขว่ห้าง และ ข่มขู่คุกคามครู " คุณจำได้หรือไม่ว่าใครพูด... คำ พูดข้างบนนี้ผู้กล่าวคือ "โสเครติส" นักปรัชญากรีก ซึ่งมีชีวิตอยู่ใน ช่วง 469-399 ปีก่อน คริสตศักราช...นานมาแล้ว... ........................................................................................ จาก  เด็กสมัยนี้  คุณจะกลายเป็นผู้ใหญ่สมัยหน้า จากคุณ : จอบบ้อน เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 09:29:30

ความคิดเห็นที่ 33 โอววว … เด็กสมัยนี้  แร๊งงงง จริงๆ (ฮา)   ... อ่านเจอ #30 ของ คุณหวานใจจอมโหด ... เหมือนโดนบีบบังคับให้ต้องเขียน (ฮา)  ... ขอโทษครับ งานแยะนิดนึง ... เลยไม่ได้เข้ามาแชร์กัน ...งั้นขออนุญาต เขียนสดๆ ไม่ได้เรียบเรียง อาจจะอ่านยาก และวกวนหน่อยนะครับ ^_^ เข้าเรื่องดีกว่า …ก่อนอื่นขออนุญาตให้เครดิต จขกท. ที่ผมแตกประเด็นมา (คุณร้าวราน..ใน..ร้าวฉาน)          ผมเห็นด้วยกับหลายท่านนะครับในประเด็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงไปของยุคสมัย แต่มันมีความเหมือนในความต่าง ในแต่ละยุคแต่ละสมัย ในความเห็นของผม 1. ในความเหมือนคือ ทุกยุค ทุกสมัย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ล้วนมีปะปน ทั้งพฤติกรรมที่พึงประสงค์ และไม่พึงประสงค์ (ของสังคม) 2. ในความต่างคือ สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ สภาพแวดล้อมทางสังคม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี ฯลฯ          ดังนั้นการที่ผู้ใหญ่ นัยนี้ คือผู้ที่เกิดมาก่อน หากจะขึ้นต้นด้วยคำว่า “เด็กสมัยนี้” ในประโยคหรือเนื้อหา ที่มีทิศทางไปในทางที่ท่านไม่ชอบนัก โดยคิดที่จะให้ เด็ก ซึ่งนัยนี้ก็คือผู้ที่เกิดมาทีหลังทำตัวเหมือนท่านในสมัยอายุเท่ากัน … ซึ่งก็ไม่ผิดครับ อาจจะด้วยความปรารถนาดี หรือด้วยเหตุผลใดก็ตาม          แต่ท่านอาจมองข้ามความต่างของยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป          เด็กสมัยนี้ก็ต้องมีทักษะและความคิดที่เหมาะสมกับสมัยของเขา …          สิ่งที่ผู้ใหญ่ทำได้ คือ การสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ และการฝึกฝนทักษะ ผมคิดว่า ผู้ใหญ่ควรเป็นที่ปรึกษา เป็นผู้แนะแนว มากกว่าที่จะเป็นผู้แนะนำ นะครับ โดยใช้เรื่องของการจูงใจ          สิ่งสำคัญที่ควรจะต้องให้เด็กได้พัฒนา คือ ความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการ  ซึ่งต้องทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เสริมสร้างการแสดงออก ให้กำลังใจ  ให้เด็กได้คิดและจินตนาการเอง ข้อสำคัญต้องให้เขาอธิบายให้ฟังด้วยว่า สิ่งที่เขาคิดและจินตนาการนั้นคืออะไร เป็นการฝึกให้รวบรวมความคิดอย่างเป็นระบบ และฝึกอธิบายให้เหตุผลไปในตัว โดยเราเองเป็นเสมือนพี่เลี้ยงเนื่องจาก เราอาบน้ำร้อนมาก่อน ( ภาษาสมัยเรา … ^_^ )          เช่นบางอย่างที่เด็กคิดไม่เหมือนเรา แล้วเราชัวร์ว่าเดินแนวนี้ตกเหวแน่ๆ อาจขึ้นต้นด้วยคำถามว่า  "ถ้าเผื่อว่า" เช่น ถ้าเผื่อว่า น้อง อยากรวย แล้วไม่ทำงานหนักจะรวยได้อย่างไร? ถ้าเผื่อว่า น้องอยากเก่ง แล้วไม่ขยันเรียน ไม่ขยัยฝึกฝนทักษะ จะเก่งได้อย่างไร ? ไม่แน่นะครับ … เราอาจจะได้รับคำตอบ ของช่องทางรวย ช่องทางเก่ง แบบใหม่ๆ ที่ต่างจากยุคสมัยเขาเราก็เป็นได้ … ^_^ >> เช่น … อยากรวย ไม่ต้อง Work Hard แต่ Work Smart ก็รวยได้ … คำตอบแบบนี้ก็ต้องลงรายละเอียกกันหล่ะ ที่ว่า Work Smart หน่ะ เป็นแบบไหน?? หรือ อยากรวย ไม่ต้อง ทำงานหนัก แต่ ขายยาบ้าก็รวยได้ << อันนี้ก็ต้องติ๊งต่างกันหล่ะว่าถูกตำรวจจับ จะเป็นอย่างไร ? ฯลฯ         การใช้เครื่องมือต่างๆมาช่วย เช่นการฝึกอบรม การให้งานสอนงาน หรือแม้แต่การแนะนำหนังสือน่าอ่านก็จะช่วยฝึกการสร้างสรรค์ การมีสมาธิ และความคิดที่เป็นระบบได้ นะครับ จะช่วยให้มีความอดทน และมีศีลธรรมที่ดี รู้ผิด รู้ชอบ รู้ชั่ว รู้ดี เพื่อให้เขาเติบโตเป็นคนดีของสังคม เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ และเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันจิตวิญญาณของเขา          เด็กทุกคนไม่ได้โชคดีเท่ากัน ผู้ใหญ่จึงต้องช่วยกันหยิบยื่นโอกาสให้กับเด็กบางคน โดย โอกาสที่สำคัญที่สุดคือ "ความรู้" ซึ่งนอกจากการเรียนในห้องเรียนแล้ว ยังมีการเรียนรู้จากชีวิต เรียนเพื่อให้ฉลาด เรียนเพื่อให้รู้ถึงความแตกต่าง  ฯลฯ เพื่อ รับไม้ต่อจากเรา เติบโต เป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นพี่เลี้ยง เป็นที่ปรึกษา ให้กับเด็กรุ่นต่อไป … เป็นเพียงอีกหนึ่งความเห็นนะครับ … จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 09:32:28

ความคิดเห็นที่ 34 ^^^^^^^^ ^^^^^^^^ เยี่ยมครับ เห็นด้วยเลยละ จากคุณ : ร้าวราน..ใน..ร้าวฉาน เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 10:49:40

ความคิดเห็นที่ 35 เด็กสมัยนี้เกิดขึ้นมาได้.....เพราะผู้ใหญ่สมัยนี้.........จริงเปล่า ถ้าไม่มีคนรุ่นเก่า..........จะมีคนรุ่นใหม่มั้ย........ จากคุณ : แพรวซ่าส์ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 13:27:23

ความคิดเห็นที่ 36 สวัสดีครับ คุณ ร้าวราน..ใน..ร้าวฉาน ยินดีที่คุณไม่เคืองนะครับ ... รู้สึกเกรงใจเหมือนกัน ถ้าพลาดพลั้งไปขออภัยด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 54 10:29:06 จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 20:58:24

ความคิดเห็นที่ 37 พี่เอ แต่เหมียวว่าเด็กสมัยนี้ขี้เกียจ และติดนิสัยทำอะไรเองไม่เป็น เพราะถูกเทคโนโลยีสปอยล์ copy & paste กันจนเคยชิน assign งานอะไรไปก็ตาม จะต้องถามกลับมาว่า "พี่มีตัวอย่างมั้ยครับ" จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 22:49:15

ความคิดเห็นที่ 38 ตอบ#36 คุณดีอาร์ (๛จูล่ง๛) ผมเปิดกว้างครับ เพราะเมื่อเราตั้งกระทู้ขึ้นมาก็ต้องเปิดใจกว้างรับฟังทุกความเห็นอะไรที่เรามองมุมแคบเราก็จะได้มุมมองอื่น ทำให้เราพัฒนาทางความคิดได้กว้างมากขึ้น คนรุ่นผมก็ไม่ใช่จะดีไปทั้งหมดหรอกครับ อันที่จริงก็ไม่ต่างกันสุดโต่งหรอกครับ เพียงแต่ที่ผมเจอมาและที่เห็นๆจากเพื่อนฝูงที่ทำธุรกิจกันมาก็มักจะบ่นๆให้ฟังเสมอเรื่องปัญหาอย่างที่ผมพบเจอแล้วก็มาตั้งเป็นทู้บ่นนั่นแหละครับ แต่โดยส่วนตัวผมเองผมอ่านทุกความเห็นและน้อมรับฟังเพื่อเอาไปแก้ไขในสิ่งที่ผมบกพร่องด้วยเหมือนกันแม้บางความเห็นนี่เดาเอาจากที่อ่านบางคนผมว่ารุ่นลูกรุ่นหลานผมเลยนะแต่ก็รับเอาความคิดเห็นที่มีเหตุมีผลมาปรับปรุงตัวเองครับ เพียงขอให้เสนอกันอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่เอาความมันความสะใจก็โอแล้วครับ ขอบคุณนะครับที่ช่วยเป็นกระจกเงาให้ผม จากคุณ : ร้าวราน..ใน..ร้าวฉาน เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 10:55:58

ความคิดเห็นที่ 39 อ้าว...ตั้งใจจะเอาไปวางกระทู้โน้น  เปิดอ่านพร้อมๆ กัน  ตอนเอามาวางดันมาวางกระทู้นี้ซะได้ ^^" Generation Y, Gen Y หรือ Why Generation  คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2523 – 2533 อายุ 19 – 28 ปี     ในปี พ.ศ. 2553  คาดว่ามีประชากรไทยอยู่ในกลุ่มอายุ Gen Y  ประมาณ 10 ล้านคน  คิดเป็นประมาณ 16 %  ของประชากรทั้งหมด (NationalMaster, 2553 : ออนไลน์)             Gen Y  คือประชากรกลุ่มที่เกิดหลัง Extraordinary Generation  หรือ Generation X, Gen X   พวกเขาเกิดในช่วงเวลาที่บ้านเมืองสงบสุข  และเติบโตมาในยุคของการเปลี่ยนแปลงอย่างมากของสภาพแวด ล้อมทางสังคม  เศรษฐกิจและการเมือง รวมทั้งเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า   เป็นวัยที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน  มีลักษณะนิสัยชอบแสดงออก  มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบและไม่ชอบเงื่อนไข     Gen Y เป็นคนทันสมัย ไม่ตกยุค และมักเบื่อง่าย      พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ทันโลก ทันเทคโนโลยี   สามารถใช้อุปกรณ์และเครื่องมือทันสมัย  อาทิ  ไอโฟน ไอพอด โน๊ตบุ๊ก และกล้องดิจิตอลได้คล่องแคล่ว     คนกลุ่มนี้ จึงมีบุคลิกลักษณะด้านหนึ่งที่ค่อนข้างหวือหวา ตามสมัยนิยม พ่วงติดมากับความเก่งกล้าในการแสดงออกและกล้าที่จะคิด     นับเป็นผู้บริโภคที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่นมีความเป็นตัวของ   (ชัชวาล,  2553 : ออนไลน์)     Gen Y  หมักหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง ติดเพื่อน ชอบทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน  เสียงดัง  มองโลกในแง่ดี    เป็นกลุ่มประชากรที่นักการตลาดทั่วโลกคาดว่าจะมีอิทธิพลสูงในโลกปัจจุบัน          ผู้เชี่ยวชาญการวิจัยลักษณะของคนแต่ละรุ่นชี้ว่า Gen Y ซึ่งกำลังเข้าสู่วัยทำงาน นับเป็นคนวัยทำงานที่ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่อย่างดีที่สุดในประวัติ ศาสตร์ของโลก (เสาวนีย์  พิสิฐานุสรณ์, 2550 : ออนไลน์)     คนรุ่นวัยนี้มีศักยภาพสูงมากในการเรียนรู้ มากกว่าคนรุ่นใดๆ ที่ผ่านมา   Gen Y  มีพลังในตัวเองมาก และมักคิดนอกกรอบ  พวกเขามักมีความคิดที่แปลกแหวกแนวและมีความมั่นใจในตัวเองค่อนข้างสูง    ความสามารถของ Gene Y ไม่ว่าจะเป็นในนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านต่างๆ ทั้งเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ล้วนเป็นความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในโลกยุคไร้พรมแดนเช่นใน ปัจจุบัน     ชาว Gen Y  ส่วนใหญ่มักมีความสามารถในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่หลากหลาย สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและพร้อมพัฒนาตนเองอยู่เสมอ (Gang-Y.com, 2553 : ออนไลน์)          ด้านการศึกษาของ Gen Y ที่ผ่านมาจะพบว่าพวกเขาได้รับการศึกษาที่ค่อนสูง  และอยู่ในสถานศึกษาที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นของตัวเองมากขึ้น   โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับแนวทางการเรียนรู้ของ Gen X      พวกเขาจะกล้าแสดงออกในขณะเดียวกันก็รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น     Gen Y สามารถเรียนรู้ได้ดีกับคนกลุ่ม Baby Boomers โดยเฉพาะถ้าความสัมพันธ์ไม่ได้เป็นแบบทางการมากนัก   หาก คน Gen B ให้โอกาสปรึกษาหรือพูดคุย  และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์    ก็อาจทำให้การเรียนรู้ของคน Gen Y  มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ (อภิวุฒิ  พิมลแสงสุริยา, 2553 : ออนไลน์) แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 54 11:17:07 จากคุณ : ตะขบเขียว เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 11:14:15

ความคิดเห็นที่ 40 ในด้านการทำงาน   คน Gen Y    ต้องการความชัดเจนในการทำงานว่าสิ่งที่ทำมีผลต่อตนเองและต่อหน่วย งานอย่างไร  เป็นกลุ่มคนที่ต้องการเรียนรู้ในประสบการณ์ที่หลากหลาย  ต้องการประสบการณ์ และการเรียนรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา (พสุ  เดชะรินทร์, 2552)    พวกเขามีความสามารถในการทำงานหลายด้านที่เกี่ยวกับการนวัตกรรมใหม่ๆ  คอมพิวเตอร์  เทคโนโลยีสารสนเทศ  และสื่ออีกหลายประเภท    อีกทั้งยังมีความสามารถในการทำงานหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน  มีความคิดสร้างสรรค์  มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง  สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลง  ต้องการทำงานที่มีความก้าวหน้า  สามารถแสดงความคิดเห็นและบริหารจัดการด้วยตนเอง ทั้งในเรื่องเวลาและสถานที่  ให้ความสำคัญต่อสัมพันธภาพที่ดีในการทำงาน  (ทิพวัลย์ สินนิธิถาวร, 2553 : ออนไลน์)    กลุ่ม Gen Y เป็นกลุ่มที่นำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดความสะดวกสบายให้กับตนเอง และด้วยเทคโนโลยีเขาจึงมองว่า เขาสามารถทำงานที่ไหน หรือตอนไหนก็ได้ โดยเมื่อถึงกำหนดเขาก็จะสามารถส่งงานได้ตามเวลา ดังนั้นองค์กรที่ต้องการดึงดูดคน Gen Y มาทำงานด้วยหากสามารถเข้าใจถึงอุปนิสัยของพวกเขาจะสามารถดึงศักยภาพต่างๆ เหล่านี้มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ    กลุ่มคน Gen Y เชื่อว่าการประสบความสำเร็จในชีวิตจะเกิดขึ้นต้องทำงานหนัก ทำให้มีการแต่งงานช้าลงจะสังเกตได้ว่าคน Gen Y  น้อยมากที่แต่งงานก่อนอายุ 30 ปี     และหากมีแฟนแล้วแฟนเป็นอุปสรรคกับงาน พวกเขาจะเลิกกับแฟนและเลือกงาน            อย่างไรก็ดี อีกด้านหนึ่งของคน Gen Y คือ ความเชื่อมั่นในตนเองสูง และการแสดงความคิดเห็นของตนเองอย่างอิสระ   บางทีก็ทำให้ผู้ร่วมงานรู้สึกอึดอัดได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่มีบุคลิกภาพและค่านิยมที่ต่างกันในแต่ละ รุ่นอย่างสังคมไทย   Gen Y มักอึดอัดเมื่อความคิดเห็นของพวกเขาไม่ได้รับการยอมรับจากหัวหน้างาน   Gen Y จะพอใจอย่างมากถ้าสามารถเลือกเวลาทำงานตามความสะดวกของตนเอง  หรือทำงานจากสถานที่อื่นได้ เช่น  ที่บ้าน  หรือนอกสถานที่ทำงาน  โดยยึดผลงานตามกำหนดเวลา     สิ่งที่พวกเขาไม่ชอบอย่างมาก คือ ระเบียบวินัยที่มากเกินไป  เช่น ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างทำงาน  ห้ามใช้คอมพิวเตอร์ในเรื่องส่วนตัว ฯลฯ    Gen Y บางคนสามารถลาออกจากงานทันทีโดยไม่คำนึงถึงปัญหาเรื่องการตกงาน       Y เขาสารสนเทศ พิวเตอร์  การสูง้าที่ด้านการงานและมีกำลังด้านการเงินในการบริโภคสินค้าอย่างเต็มตัว  และกำลังจะก้าวเข้าสู่ การงาจากการศึกษาเรื่อง “ความคาดหวังต่อการทำงาน”  (รัชฎา  อสิสนธิสกุล, 2549)    พบว่า คน Gen Y  ต้องการลักษณะงานที่สร้างสรรค์และท้าทาย เหมาะสมกับความสามารถ มีโอกาสก้าวหน้าในการทำงาน และมีสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อนร่วมงานและเจ้านาย      พวกเขายึดหลักความสบายใจในการทำงานสำคัญกว่ารายได้หรือตำแหน่งงาน     นอกจากนี้ Gen Y ยังต้องการทำงานที่พวกเขาได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ มีค่าจ้างและสวัสดิการที่เหมาะสม และมีความยืดหยุ่นในการทำงานทั้งในเรื่องเวลาและสถานที่ทำงาน     หากถามหาถึงความจงรักภักดีต่อองค์กร    ความภักดีต่อบริษัทของ Gen Y จะอยู่ในอันดับท้ายสุด    พวกเขาให้ความสำคัญมากที่สุดคือ ครอบครัว รองลงไปคือ กลุ่มเพื่อน  เพื่อนร่วมงาน และตัวของพวกเขาเอง      Gen Y ยอมรับว่าพวกเขาไม่จงรักภักดีกับองค์กรแต่จงรักกับวิชาชีพ      ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์   คูเปอร์ส  (วรัญญา  ศรีเสวก, 2553 : ออนไลน์)  สำรวจกลุ่มคน Gen Y ในเอเชียพบว่า   คนรุ่นนี้ต้องการทำงานกับองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม    อีกทั้งพวกเขายังพร้อมที่จะตัดสินใจลาออกจากงาน หากพบว่าบริษัทไม่ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ          Gen Y   มีรสนิยมชอบดูแลตนเองสูง  ชอบแต่งตัว  ต้องการทำงานในแวดวงแฟชั่น  ในองค์กรที่ต้องแต่งตัวไปงานต่างๆ  หรือนอนดึกตื่นสาย    ต้องการองค์กรที่ยืดหยุ่นในเรื่องเวลา และต้องการให้คนมองว่าเขาเป็นผู้ใหญ่     บางครั้งองค์กรปฏิบัติกับคนกลุ่มนี้เป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา   พวกเขาจึงต้องการโอกาสในการพิสูจน์ความสามารถตนเอง และต้องการความสำเร็จในชีวิตอย่างรวดเร็ว  (ผู้จัดการรายสัปดาห์, 2553 : ออนไลน์)     ปัจจัยจูงใจที่สำคัญของคนใน Gen Y อีกประการหนึ่งคือ  การทำงานเป็นทีม    คนเหล่านี้ไม่ชอบที่จะนั่งทำงานอยู่คนเดียวง่ายๆ โดยไม่สุงสิงกับใคร    พวกเขาต้องการที่จะทำงานที่มีโอกาสพูดคุย สังสรรค์กับผู้อื่น และต้องการสถานที่ทำงานที่มีลักษณะเปิดโล่งที่เปิดโอกาสให้สร้างปฏิสัมพันธ์ กับเพื่อนร่วมงาน     คนวัย Gen Y นั้น อยากจะทำงานในสถานที่ที่สามารถเข้าถึงหรือติดต่อเพื่อนร่วมงานและเจ้านายได้ สะดวกตลอดเวลา  (พสุ  เดชะรินทร์, 2552)          สำหรับการวางแผนการตลาดในปัจจุบัน  Gen Y  ไม่ใช่เพียงกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นธรรมดาเท่านั้น  หากแต่พวกเขาเป็นกลุ่มวัยที่กำลังเติบโตเต็มที่และกำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน ที่จะมีกำลังทรัพย์  และก้าวหน้าทางบทบาทหน้าที่ด้านการงานและมีกำลังด้านการเงินในการบริโภค สินค้าอย่างเต็มตัว    พวกเขากำลังจะก้าวเข้าสู่ Great Generation ในช่วงเวลาปัจจุบัน    พฤติกรรมการบริโภคของ Gen Y  ค่อนข้างแตกต่างอย่างชัดเจนจากคน Gen B และ Gen X       กลุ่ม  Gen Y เป็นผู้บริโภคที่ใจร้อน ต้องการเห็นผลสำเร็จทุกอย่างอย่างรวดเร็วเนื่องจากเชื่อในศักยภาพของตนเอง     เหตุผลในการซื้อสินค้าของคน Gen Y ส่วนใหญ่ใช้เหตุผลลูกผสมเป็นส่วนใหญ่ เช่น เลือกเพราะมีความชอบทันสมัย มีสไตล์ ฉะนั้น จะใช้เหตุผลทางอารมณ์ผสมกับเหตุผลเชิงตรรกะที่ตั้งอยู่บนฐานข้อมูล ซึ่งเขาเชื่อถือหลายแหล่ง   พวกเขาจะหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการแต่ละ ชิ้น   อินเตอร์เน็ตจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการค้นคว้าและช่วยในการตัดสินใจเลือก บริโภคของคนกลุ่มนี้พฤติกรรมเด่น Gen Y  มีดังนี้คือ (อรรถสิทธิ์  เหมือนมาตย์, 2551 : ออนไลน์)          1. รักการจับจ่าย แต่ปฏิเสธการ Shopping แบบเดิมๆ แต่แสวงหาการจับจ่ายแบบที่หลากหลายช่องทาง          2. รักความบันเทิง          3. ชื่นชอบสีสันสดใส          4. รักบรรยากาศสนุกสนาน มีชีวิตชีวา          5. มีพฤติกรรมแบบการทำงาน หรือทำกิจกรรมต่างๆภายในเวลาเดียวกัน (Multi-tasking)          6. ดูทีวีและฟังวิทยุน้อยลง  แต่ไปเพิ่มที่การสื่อสารแบบไร้สาย และการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต          7. มีความจงรักภักดีต่อตราสินค้า (Brand Loyalty)  ต่ำกว่าทุก Generation          8. ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี  แต่กลับรู้สึกท้าทายและมองการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในแง่บวก ที่มา www.sara-dd.com/index.php?option=com_content&view=article&id=235:why-generation-generation-y-gen-y-&catid=25:the-project&Itemid=72 จากคุณ : ตะขบเขียว เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 11:14:33

ความคิดเห็นที่ 41 คือ คนเรามักจะลืมง่ายครับ เวลาเราพูดเรื่องทำนองนี้ เรามักจะแค่หยิบมาหนึ่งประเด็นแล้วคิดว่า "ในยุคเรามีเรื่องแบบนี้ไหม" แค่นั้นเอง อย่าง "เด็กสมัยนี้บ้าเกาหลี ไม่รู้จักรักชาติ" ก็มักจะลืมไปว่ารุ่นตัวเองบ้า Elvis Presley โคตรๆ เหมือนกัน ไม่มีอะไรดีพร้อม หรือแย่สนิทหรอกครับ เพียงแค่บรรทัดฐานสังคมมันค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เอง ผมเชื่อใน Normal Distribution จากคุณ : Charles Y. เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 21:01:38

ความคิดเห็นที่ 42 "เด็กสมัยโน้น" เท่าที่ผมจำได้ คือเมื่อประมาณปี 2508-2511 นักเรียน ยกพวกชกต่อยตีฟันรันแทง ยิงกันเป็นประจำ ใกล้ๆโรงเรียนของผม มีโรงเรียนที่เป็นอริ คู่อาฆาตกันอยู่สามโรงเรียนคือ รร.ไพศาลศิลป์ (เข้าใจว่าถูกปิดไปแล้ว) หลังจากถูกกระทรวงศึกษาสั่งให้ลดจำนวนนักเรียน ลงทุกปี รร.ช่างกลปทุมวัน รร.ช่างก่อสร้างอุเทนถวาย(ชื่อในขณะนั้น) สองโรงเรียนหลังนี้ต่อมาได้ยกฐานะขึ้นเป็นสถาบันอุดมศึกษา แต่ก็ยังคงมี การทะเลาะวิวาทฆ่าฟันกันต่อเนื่องมาไม่ขาด แม้กระนั้นก็มีศิษย์เก่าที่ดีๆของสถาบันดังกล่าว ก็ออกไปทำมาหากิน ดูแลครอบครัว รับใช้ชาติและสังคมมาแล้วมากมาย  รวมทั้งบางคน ที่เคยไปร่วมการวิวาท แต่ครั้งกระนั้นด้วย เมื่อเติบโตขึ้นก็เปลี่ยนแปลงไป สำหรับผมแล้ว วัยรุ่นสมัยไหนๆก็มีลักษณะบางอย่างร่วมกันอยู่ ไม่แยกว่าเป็น เด็กสมัยนั้น หรือเด็กสมัยนี้หรอกครับ the good old days เป็นเพียงนิยายปรัมปราเท่านั้น ตราบเท่าที่มีปัญหา ผู้ใหญ่บ้าง เด็กบ้าง ก็ช่วยแก้ไขกันไป http://bharot.wordpress.com จากคุณ : BY (bharot) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 54 14:38:23