ความคิดเห็นที่ 1 (พิมพ์ไว้ก่อนแล้ว ค่อยมา post ไม่งั้น งง กันแน่ๆ ... แห่ะๆๆ) เรื่องราวและความเป็นมา (มหากาพย์ของปังผิง) เริ่มต้นที่ ... ปังผิงได้รับโทรศัพท์ให้ไปสัมภาษณ์งานที่หนึ่ง และตัดสินใจอยู่สักพัก เพราะบริษัทเป็นบริษัทเล็กๆ มีคนทำงานไม่ถึง 5 คน สุดท้ายก็ตัดสินใจย้ายงาน เพราะเห็นว่ารายได้พอๆกับที่ได้อยู่ แต่ว่าใกล้บ้านมากมาย “เอาน่า อย่างน้อยก็แค่เจ๊ง เราก็ตกงานล่ะว่ะ” นั่นคือสิ่งที่ปังผิงบอกกับคนรอบข้าง ณ วันที่ตัดสินใจลาออกจากที่เดิม ปังผิงทำงานให้อยู่ประมาณปีกว่าๆก็เริ่มเห็นลายของเจ้าของบริษัทว่ามีแววขี้โกง ชอบโกหก และหลอกลวง แต่ก็ยังทำอยู่ เพราะงานที่สมัครไว้ ไม่มีที่ไหนเรียกเลย จนเมื่อต้นเดือนธันวาคม วันที่ 1 เป็นวันเงินเดือนออก ปังผิงและพี่ที่ทำงานอีก 1 คน ไม่ได้รับเงินเดือน (ตอนนั้นทั้งออฟฟิศมีแค่ 2 คน และเงินเดือนรวมกันไม่ถึง 1 แสนบาท) เจ้าของบอกว่า จ่ายช้าหน่อยนะเดือนนี้ เพราะไม่มีเงิน (จริงๆแล้วก็เป็นเดือนที่ 2-3 แล้วล่ะ ที่ช้า เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร) นั่นคือวันสุดท้ายที่ได้เจอหน้าเจ้าของคนนั้น !!! จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:37:20

ความคิดเห็นที่ 2 เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ ปังผิงก็ตามเงินเดือนเรื่อยๆ และคำตอบที่ได้เป็นการผัดผ่อนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวได้พรุ่งนี้ มะรืนนี้ หรืออาทิตย์หน้า ... จนวันที่ 15 ก็มี email พร้อมจดหมายบอกว่า จะจ่ายแน่นอนแต่อย่างช้าคือวันสิ้นเดือน ... เดือดร้อนมั้ย เดือดร้อนสิ !!! ระหว่างที่รอปังผิงและพี่แอดมิน ก็เข้าไปทำงานทุกวัน แต่เจ้าของไม่เข้ามาให้เห็นหน้า ทั้งๆที่เค้าก็อาศัยอยู่ที่ออฟฟิศด้วย ปังผิงรู้ว่าเค้าเข้ามาตอนที่เลิกงานแล้วเพราะข้าวของเครื่องใช้ย้ายที่ เพิ่มเติม หรือหายไป ... โทรไปเริ่มไม่รับสาย ส่ง email ไปก็เลือกที่จะตอบกลับ ... ด้วยความกังวลใจก็เริ่มปรึกษาเพื่อนๆ ... แต่ก็คิดว่าให้เวลาเค้าหน่อย สิ้นเดือนนี้แหล่ะ จ่ายมาให้หมดแล้วจะลาออกให้ เพราะคิดว่าเค้าคงอยากให้ออกแล้วล่ะ ... อารมณ์ปิดที่นี่แล้วไปเปิดใหม่ เพราะเค้าอยากทำธุรกิจใหม่ที่ภูเก็ต ในเดือนธันวาคมนี้เอง ทำให้ปังผิงรู้ว่า เค้าไม่ได้เป็นหนี้นิดหน่อย แต่เค้าเป็นหนี้เยอะมาก!! ...เพราะสิ้นปีหลายๆบริษัทก็ส่งจดหมายทวงหนี้มา ... เค้าไม่เคย “คิด” ที่จะจ่ายเงินให้กับ supplier รายไหนเลยที่ผ่านมา !!! จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:40:14

ความคิดเห็นที่ 3 เพื่อน ๆ ปังผิงคิดว่า “เฮ้ยแก เค้าไม่มีเงินหรือเปล่า” ... “เค้าไม่มีรายได้ไม่ใช่เหรอ” ... ปังผิงตอบไปว่า “ไม่ เค้ามีเงิน” เพราะที่ผ่านมาเค้าสั่งของใหม่ๆเข้ามาในบริษัทตลอด มูลค่าเป็นแสนเป็นล้าน เค้าจะไม่รู้เลยเหรอว่าเงินเค้ามีแค่ไหน ... อีกอย่างเค้าก็ยังใช้จ่ายฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย และยังลงทุนอะไรในสิ่งที่ไม่ควรเยอะแยะ ... แม้ว่าปังผิงจะเตือนเค้าโดยหน้าที่ก็แล้ว โดยมนุษยธรรมก็แล้ว โดยความเห็นแก่ตัวกลัวตกงานก็แล้ว เค้าก็ยังคงมีพฤติกรรมเช่นนั้นอยู่ ... และที่สำคัญ เค้ากำลังจะไปเปิดธุรกิจใหม่ที่ภูเก็ต ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เค้าจะไม่มีเงิน วันที่ 30 ก่อนสิ้นเดือนที่เค้าสัญญาว่าจะจ่ายเงิน เค้าให้เพื่อนสนิทโทรมาบอกว่า เงินยังไม่ได้นะ ได้อาทิตย์แรกของเดือนถัดมา. ... อ้าวเฮ้ย .. พวกแกทำไมทำแบบนี้ล่ะ ชั้นไปนั่งทำงานให้ไม่ได้ทำให้ฟรีๆหรือการกุศลนะโว้ย ... โทรหาทนายทันทีว่าเอาแน่ เพราะมั่นใจว่าเค้าไม่จ่ายแน่นอน จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:41:54

ความคิดเห็นที่ 4 ระหว่างนี้ก็พยายามติดต่อไป แต่ก็หายหรือไม่ก็ส่ง sms มาบอกว่า จะจ่ายนะ แต่ไม่บอกว่าเมื่อไหร่ จี๊ดใจมากอ่ะ ... (ในทางกฎหมาย นี่คือการกระทำเพื่อป้องกันความผิด กรณีเพิกเฉยการจ่ายเงินเดือน ... เจตนาจะจ่าย แต่ไม่จ่ายมีไรป่ะ) นอกจากเรื่องเงินเดือน ปิดบริษัทหนีแล้ว ปังผิงพบว่า เค้าแจ้งประกันสังคมว่าปังผิงเพิ่งเข้างานต้นปี 2553 ทั้งๆที่เข้ามาทำงานตั้งนานแล้ว เค้าหักเงินประกันสังคมปังผิงแต่ไม่นำจ่าย คิดว่าภาษีที่หักไปด้วยก็คงไม่ได้เอาไปจ่ายให้ เรื่องทั้งหมด ยังไม่จบนะคะ รอเค้าจ่ายเงินตามคำสั่งศาล, ต่อสู้กับประกันสังคมและสรรพากร ... มหากาพย์กันเลยทีเดียว .... ณ วันนี้คือกำหนดที่เค้าจะต้องจ่ายเงินงวดแรก ... แต่ ณ เวลานี้ เค้ายังไม่จ่าย ... ถ้าเค้าเบี้ยวล่ะ เรื่องยาวแน่ ๆ ... ปังผิงสู้ตาย ... ไม่ยอมให้ฝรั่งหน้าไหน มาทำปังผิงเป็นแบบนี้แน่นอน ... ถ้าวันนั้น เค้าเดินเอาเงินที่ค้างไว้มาให้ แล้วบังคับให้ลาออก ความจี๊ดใจ คงน้อยกว่านี้หลายเท่า ... แต่การที่เค้าทำแบบนี้ มันส่อแววเจตนาโกงกันเห็นๆ ... ชิชิชิ จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:43:37

ความคิดเห็นที่ 5 รออ่านค่ะ จากคุณ : นิทานกริมม์ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:43:55

ความคิดเห็นที่ 6 ปัญหานี้ ทำให้ปังผิงรู้อะไรมากมาย เกี่ยวกับสิ่งที่เรา “ควรจะ” ทำเมื่อเราเป็นลูกจ้างใครสักคน ปังผิงขอรวบรวมเอาไว้ ณ ที่นี้นะคะ หากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติม เอามาแชร์กันได้นะคะ ++ ก่อนตัดสินใจย้ายงาน ++ ข้อที่ 1 การตรวจสอบประวัติบริษัทให้ดี อย่าเชื่อถือเอกสารจดทะเบียนหรืออะไรก็ตามที่แปะบนผนังออฟฟิศหรือ website ของบริษัท เพราะถ้าไม่ปลอม เกินจริง สร้างภาพ ก็หมดอายุ ให้ติดต่อประกันสังคม, หน่วยงานรัฐบาล หรือคนรู้จัก ว่า บริษัทนี้มีจริงหรือไม่ ทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ ส่งงบการเงินหรือเปล่า ส่งประกันสังคมหรือเปล่า เอกสารทั้งหมด update หรือเปล่า อะำไรก็ได้ที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า บริษัทนี้มีจริง ไม่ตังนังนัง ไม่หลอกลวง... จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:49:52

ความคิดเห็นที่ 7 ข้อที่ 2 อย่าเพิ่งไว้ใจพวกนายจ้างที่ present เก่งๆดีๆ ว่ามีลูกค้ามากมาย ให้ดูที่ผลงานที่ผ่านมาว่าทำอะไร ที่ไหนบ้าง โทรตรวจสอบกับบริษัทที่เค้าอ้างว่าเป็นลูกค้าไปเลย ว่าบริษัทนี้เคยทำงานให้จริงๆหรือเปล่า เพราะตอนปังผิงสัมภาษณ์เค้าบอกว่ามีงาน มีลูกค้ามากมาย ปังผิงเช็คจาก website เค้าก็มี logo บริษัทต่างๆมากมาย แต่จริงๆแล้ว มีอยู่ไม่กี่ราย จับได้ว่าโกหกก็ตอนเข้างานไปแล้วอ่ะค่ะ เค้าบอกตอนที่ปังผิงทำ presentation ให้ว่า ใส่ๆไปเหอะ ใครจะรู้ว่าเราทำจริง หรือไม่ได้ทำ ... เอ่อ เฮ้ย เอาแบบนี้เลยเหรอว่ะ ที่สำคัญมีอยู่ครั้งที่จับได้คาหนังคาเขา ก็คือ present ลูกค้าว่าเคยทำงานให้กับบ. A แล้วทางลูกค้าขอดูรูปงานที่ทำให้บ. A ... เค้าก็รับปากว่าจะส่งมาให้ลูกค้า แต่สุดท้าย รู้มั้ยคะ ว่าทำยังไง Photoshop คร้าบบบบบ ... สุดยอดอ่ะ ... จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:54:06

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีค่ะ คุณนิทานกริมม์ (มีหนังสือนิทานกริมม์ เล่มใหม่ ยังไม่ได้อ่าน ต้องเอามาอ่านก่อนนอนซะแล้วสิคะ ^-^) ข้อที่ 3 อ่านสัญญาจ้าง ให้ “ละเอียดที่สุด” ทำความเข้าใจ สงสัยให้ถาม แก้ไขหากไม่ตรงตามที่ได้ตกลงกันไว้ อย่ากลัวที่จะถาม อย่ากลัวที่จะทำ เพราะมันจะผูกมัดตัวคุณเอง  หากที่ไหนไม่เต็มใจทำให้ ก็อย่าไปทำงานกับเค้าเลย แค่สัญญาจ้างก็ไม่ซื่อกับเราแล้ว และอย่าลืมที่จะสำเนาเก็บเอาไว้ที่ตัวคุณเองด้วยนะ เนื้อหาหลักๆที่ควรจะมี a. ชื่อ ที่อยู่ บริษัท (ที่อยู่ ต้องมีระบุสถานที่ที่เราทำงานจริงด้วยนะคะ) b. รายได้ หรือผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่คุณได้รับ c. วันเริ่ม (และวันสิ้นสุด หากมี) สัญญา d. บทลงโทษ กรณีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดผิดสัญญา (ต้องมีทั้งส่วนของเราและของเค้านะคะ ไม่ใช่ว่าถ้าเราผิดฝ่ายเดียว เค้ามีสิทธิ์เรียกร้อง พอเค้าผิดเราไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง แบบนี้ไม่ได้นะคะ เสียเปรียบ) e. ลายมือชื่อผู้มีอำนาจของบริษัท (พร้อมประทับตราบริษัท) จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:56:19

ความคิดเห็นที่ 9 สมมตว่าผ่านกระบวนการกลั่นกรอง จนได้เข้าไปทำงานเรียบร้อยแล้ว ++ ระหว่างทำงาน ++ ข้อที่ 1 ให้ตรวจสอบข้อมูลประกันสังคมตลอดระยะเวลาที่เราทำงานว่าทางนายจ้างได้นำส่งประกันสังคมหรือไม่ เช็คได้ที่ www.sso.go.th ลงทะเบียนแล้วจะเช็คได้ว่าเราส่งเท่าไหร่ เมื่อไหร่ หากนายจ้างไม่นำส่งให้แจ้งนายจ้างก่อน หากนายจ้างยังเพิกเฉยก็ติดต่อกับประกันสังคมได้ทันทีที่เบอร์ 1506 ระหว่างนั้นให้หางานใหม่ทันที อย่ารีรอ เพราะกรณีปังผิงบอกเค้าให้ส่ง หักไปแล้วไม่ส่ง แต่เค้าก็ไม่ทำ เราก็ไม่ได้หาข้อมูลอะไรมาก ก็ไม่คิดอ่ะนะว่าจะโกงกัน สุดท้ายก็เป็นแบบนี้เลย จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:00:24

ความคิดเห็นที่ 10 อันนี้ขอ Highlight หน่อย หลาย ๆ ท่านที่ทำงานอยู่อาจคิดว่า “เฮ้ย ไม่เป็นไร เค้าหักเราไปแล้ว เค้าก็เอาไปจ่าย” ... จะบอกว่ามีนายจ้างรายหลายที่เป็นแบบนี้ ... และสำหรับบางท่านที่โดนหักไว้น้อยก็ พึงระวังนะคะ อย่าคิดว่า "ดีจัง ตังโดนหักน้อย" เพราะนั่นแปลว่า นายจ้างแจ้งเงินเดือนคุณน้อยกว่าที่คุณได้ ... เสียหายตอนไหนอ่ะเหรอคะ ... สมมติว่าคุณโดนเลิกจ้าง หรือลาออก แล้วไปขอรับเงินชดเชยกรณีว่างงานกับประกันสังคม ... ประกันสังคมก็จะชดเชย ตามยอดที่คุณส่งเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น จริง ๆ คุณได้เงินเดือน 15,000 บาท (CAP MAX ของประกันสังคม) แต่นายจ้างหักไว้เพียง 500 บาท แทนที่จะเป็น 750 บาท แปลว่านายจ้างแจ้งว่าคุณมีรายได้แค่เพียง 10,000 บาท เท่านั้น เมื่อคุณโดนเลิกจ้าง ... แทนที่คุณจะได้เงินชดเชย 50% ของรายได้ นั่นคือ 7,500 บาท ... แต่คุณจะได้แค่ 5,000 บาท เท่านั้น นะคะ ... เพราะประกันสังคมมีข้อมูลว่าคุณมีรายได้แค่ 10,000 บาท เท่านั้น !!! จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:06:30

ความคิดเห็นที่ 11 ข้อที่ 2 ให้เก็บ slip เงินเดือนหรือเอกสารรับเงินเดือนไว้ทุกฉบับ (เก็บอย่างน้อย 1 ปี อันนี้เจ้าหน้าที่ประกันสังคมบอกมา) ทั้งนี้ให้มีโลโก้และที่อยู่ของบริษัทด้วย เพราะเป็นการยืนยันในสิ่งที่เราได้รับจริง (อันนี้สำคัญมากๆๆๆๆๆๆ) a. กรณีประกันสังคม ... สามารถนำเอาเอกสารรับเงินไปแจ้งได้ว่า ทางนายจ้างได้หักเงินเราเอาไว้แล้ว ทางประกันสังคมจะเป็นผู้ติดตามเจ้าของบริษัทเอง เรายังคงได้รับสิทธิอยู่ b. กรณีภาษี ... หากทางนายจ้างไม่ยอมออก ทวิ 50 ให้เรา สามารถนำเอกสารรับเงินแนบไปด้วยกันได้ และแจ้งกับทางสรรพากรว่า ทางนายจ้างไม่ออกให้ สรรพากรจะไปตามกับนายจ้างเอง ** ข้อมูลนี้ คือที่ได้มาจาก Internet และ Call Center ... ซึ่งในทางปฏิบัตินั้น กำลังรอผลอยู่ค่ะ ว่าจะเป็นอย่างไร ** จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:07:34

ความคิดเห็นที่ 12 ข้อที่ 3 กรณีที่สถานที่ทำงานอยู่คนละที่กับที่นายจ้างจดทะเบียนประกันสังคมและภาษี ต้องเก็บหลักฐานให้ดี ว่าเราทำงานอยู่ที่นี่จริง เพราะส่งผลมากมายเลยล่ะค่ะ ในกรณีที่ไปติดต่อ 2 ที่นั้น ... เฮ้อ ละเหี่ยใจ ... จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:08:07

ความคิดเห็นที่ 13 ++ หลังจากโดนเลิกจ้าง (หรือเปล่าอ่ะ) ++ กรณีปังผิงต้องติดต่อ 4 ที่ คือ 1. ศาลแรงงาน (ฟ้องเรื่องไม่จ่ายเงินเดือน) >>> จะบอกว่าปังผิงใจดีแค่ไหน ที่ไม่ฟ้องเรียกเงินชดเชย (หลักแสนเลยนะ) ชิชิ แล้วดูเค้าทำกับปังผิงสิ ทางศาลจะมีทนายไว้ให้ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ต้องกังวล ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ศาลแรงงาน สมุทรปราการ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ บริการดีมาก (อย่าถามว่าทำไม ไปที่ศาลเลย ไม่ไปกรมคุ้มครองแรงงานล่ะ เรื่องมันเซ็งอ่ะค่ะ) 2. ประกันสังคม (เรื่องขอนำส่งประกันสังคมเอง, ร้องเรียนที่นายจ้างหักเงินไว้แต่ไม่นำส่งให้ เพื่อรักษาสิทธิ์ของเรา) 3. จัดหางาน (ลงทะเบียนเป็นผู้ว่างงานเพื่อรับสิทธิ์รับเงินชดเชยกรณีว่างงาน) กรณีปังผิงคือเอาคำพิพากษาจากศาลและใบรับเงินเดือน ไปมอบให้เป็นหลักฐาน .... เจ้าหน้าที่แจ้งเพิ่มเติมว่า กรณีนี้ ปังผิงน่าจะให้ทางศาลระบุวันที่เลิกจ้างมาด้วย เพื่อความชัดเจนในการพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือ ... แต่ทั้งนี้ปังผิงรับทราบมาจากศาลแล้วว่าสามารถใช้เอกสารนี้ ในการขอสิทธิ์ ... อันนี้ก็ต้องว่ากันอีกที ว่าจะเป็นอย่างไร ลุ้นกันต่อไป (เจ้าหน้าที่ทางประกันสังคมที่ชลบุรี ให้ความช่วยเหลือดีมากค่ะ ... ทางนั้นเองก็ต้องตามทวงหนี้ ที่ไอ้ฝรั่งนั่น ติดหนี้ประกันสังคมไว้เหมือนกัน) 4. สรรพากร (ขอคัด 50 ทวิ, ร้องเรียนที่นายจ้างหักเงินไว้แต่ไม่นำส่งให้ เพื่อรักษาสิทธิ์ของเรา) อันนี้ต้องดูดีๆนะคะ เพราะว่าถ้านายจ้างจดทะเบียนคนละที่กับที่เราทำงาน เราต้องมีหลักฐานยืนยันว่าที่ทำงานเราอยู่ที่นี่ แต่สุดท้ายแล้วเรื่องทั้งหมดก็ต้องไปๆมาๆ ระหว่าง 2 สาขา แต่ไม่เป็นไรค่ะ สนุกดี ^-^ ก็ต้องลุ้นอีกเหมือนกัน ว่าผลจะออกมาอย่างไร ... ใครพอทราบบ้างว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ในกรณีแบบนี้ ... วานบอกนะคะ ... จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:12:39

ความคิดเห็นที่ 14 การรับความช่วยเหลือกรณีตกงานหรือเลิกจ้าง ... ติดต่อประกันสังคมในพื้นที่ที่สะดวก ทั้งนี้กรณีปังผิงต้องเอาเอกสารรับเงินไปด้วย เพื่อยืนยันว่าสิทธิ์เรายังมีอยู่จริง จริงๆแล้วทางนายจ้างต้องแจ้งด้วยว่าเราได้ลาออกหรือเลิกจ้างเราแล้ว แต่กรณีปังผิง คิดว่าเค้าคงไม่ติดต่อไปหรอก เพราะยังติดเงินประกันสังคมอยู่เลย ... ได้ความอย่างไรจะมาแจ้งให้ทราบอีกที จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:13:10

ความคิดเห็นที่ 15 กรณีเลิกจ้าง แล้วนายจ้างไม่จ่ายเงินชดเชย เบี้ยวเงินเดือน อย่างที่ปังผิงโดน (กรณีอื่น ต้องว่าเป็น กรณีไปอ่ะค่ะ ตรงนี้ขอในส่วนที่ปังผิงเจอก่อนนะคะ) ** หากเกิดกรณีแบบนี้ อย่าเพิ่งโทรไป call center เพราะคุณจะวิตก กังวลใจมากขึ้น เพราะโทรไปแต่ละครั้ง คุณอาจจะได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ... ทางที่ดีให้เดินเข้าไปในหน่วยงานนั้นๆด้วยตัวคุณเอง พร้อมกับหลักฐานทั้งหมดที่คุณมี แล้วคุยกับเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ให้สอบถามชื่อ นามสกุล ของเจ้าหน้าที่คนนั้นๆเอาไว้ด้วย เพราะนอกจากคุณจะตามเรื่องได้ง่ายแล้ว ตรงนี้จะช่วยให้คุณได้รับการบริการที่ดีขึ้นจากเจ้าหน้าที่อีกด้วย (หรือว่าไม่จริง) ... จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:14:11

ความคิดเห็นที่ 16 สุดท้าย ปังผิงอยากจะเน้นย้ำว่า อย่ากลัวที่จะทำเพราะไม่ผิดที่จะทำ เค้าจะบอกหรือไม่ก็ดีกว่าเราไม่โทรไปเช็ค อย่าคิดว่าเค้าจะไม่โกงเรา ให้รู้จักป้องกันตัวเองเอาไว้ กันไว้ดีว่าแก้ นะคะ อย่าคิดว่า ฝรั่ง จะไม่โกง (ฝรั่งมันก็คน ไม่ใ่ช่ผลไม้ เจ้ยยยย อิอิ) เพื่อนปังผิงหลายคน พูดว่า เฮ้ย ทำงานกับฝรั่งเค้าแฟร์ไม่ใช่เหรอ ... กรณีปังผิงคงพิสูจน์แล้วนะคะ (ปังผิงไม่ได้ชื่นชมฝรั่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เจอแบบนี้เข้าไป บอกได้คำเดียวค่ะ ว่าขยักแขยง ฝรั่งไปเลย) ขอให้ทุกคนไม่เจอนายจ้างแบบปังผิงนะคะ .. แต่ถ้าอยากพิสูจน์ ก็ลงไปภูเก็ต แล้วสมัครงานกับเค้าสิคะ ตอนนี้เปิดรับคนจำนวนมากเลยค่ะ .... เหอๆๆๆ (หากมีอะไร update เพิ่มเติม จากประกันสังคมและสรรพากร ปังผิงจะมาเล่าให้ฟังนะคะ) ตอนนี้ขอให้ประกันสังคม ยอมจ่ายเงินชดเชย กรณีว่างงาน ขอให้ไม่มีปัญหากับสรรพากร ... เพราะแค่ตกงาน โดนโกงเงินเดือน ปังผิงก็จะแย่แล้วคร้าบบบบบบ ... จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:17:20

ความคิดเห็นที่ 17 ขอให้ผ่านพ้นไปได้ค่ะ เอาใจช่วย จากคุณ : zz เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:09:02

ความคิดเห็นที่ 18 มีประโยชน์มากค่ะ  ขอชื่นชม โหวตให้ค่ะ จากคุณ : นิทานกริมม์ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:09:07

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจ ^-^ update : เมื่อวานนี้คือกำหนดที่เค้าต้องจ่ายเงินเดือนที่ค้างไว้ งวดแรก ตามที่ยอมความกันในศาล ... แต่ ณ เวลานี้ ยังไม่มียอดเงินโอนเข้า ... ปังผิงคิดว่าเค้าคงอยากให้ปังผิงไปทำเรื่องบังคับคดี เพื่อยึดทรัพย์แน่ๆ เพราะตอนนี้เค้าไม่มีทรัพย์สินของบริษัทจะให้ยึด ... เลยเป็นที่มาของอีกเรื่องที่คุณ ๆ สามารถสังเกตได้ หากทำงานกับบริษัทเล็ก ๆ กระบวนการโกงของเค้าที่ทำกับปังผิง คือ - พยายามไม่เอาทรัพย์สินใด ๆ ลงไว้เป็นชื่อของบริษัท ส่วนใหญ่ซื้อในชื่อตัวเอง หรือซื้อมาไม่เก็บใบเสร็จไว้เป็นค่าใช้จ่ายบริษัท - เอาเงินออกจากบัญชีบริษัทล่วงหน้า ทราบมาว่าตอนนี้ยอดเงินเป็น 0 - ไม่จ่ายเงินเดือน 1 เดือน แต่ยังส่งข้อความว่ามีเจตนาจะจ่าย และเลื่อนไปเรื่อยๆ (เจตนาเพื่อป้องกันความผิดกรณีเพิกเฉยการจ่ายเงินเดือน) - หายหน้า ไม่มาพุดคุย - ปิด office ย้ายของออกโดนไม่บอกล่วงหน้า (ดังนั้นก็ไม่มีของใด ถือว่าเป็นทรัพย์สินของบริษัท) - ปังผิงถามเรื่องจะทำงานที่ไหน ส่ง sms มาบอกว่า ไม่ต้องเข้า office เดี๋ยวจะบอกว่าให้ไปภูเก็ตเมื่อไหร่ (เจตนาเพื่อจะบอกว่า อ๊ะ ชั้นยังไม่ได้เลิืกจ้างเธอนะ) ทั้งหมดนี้สิ่งที่เค้าต้องการคือ กดดันให้ลาออกเอง ---> หากอยากได้เงินก็ไปฟ้องเอา ---> พอถึงศาลก็ต่อรองและยอมจ่าย ---> ถึงเวลาจ่ายไม่จ่ายอยากได้ไปบังคับคดีเอา ---> สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเพราะเ้ค้าไม่มีอะไรให้ยึด ... เนียนดีมั้ยล่ะ ... เหอๆ เงินที่เค้าค้างไว้หลักแสน ... แถมทุกวันนี้ตกงาน ... จะไม่ให้เคืองกันได้อย่างไร ไอ้ฝรั่งอ้วน!!!! ... ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำอย่างไร .... T^T อยากประกาศให้รู้กันทั่วว่าเค้าคนนี้คือใคร ... ไม่อยากให้เจออย่างที่ปังผิงเจอ ... ทำยังไงปังผิงถึงจะไม่โดนฟ้องหมิ่นคะ ... จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 10:29:54

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นเรา  ติดต่อ .38 ให้แล้ว จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 11:05:09

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นใจเจ้าของกระทู้นะครับ และขอเป็นกำลังใจให้ด้วยอีกแรง กรณีของคุณนั้นคล้ายกับกรณีที่ผมกำลังดำเนินการให้กับลูกจ้างสายการบินหนึ่ง ที่กำลังเกิดกรณีเช่นของคุณ จริงอยู่ว่ากระบวนการทางศาลแรงงานสามารถช่วยไกล่เกลี่ยให้ลูกจ้างได้ แต่ผมเองก็ยังหนักใจแทนกลุ่มลูกจ้างว่า แล้วเมื่อผลสรุปออกมาแล้ว เราจะไปตามนายจ้างได้ที่ไหน หรือนายจ้างจะมีเงินจ่ายให้กับเราไหม??? สุดท้ายผมรู้สึกชื่นชมคุณปังผิง ที่ไม่ยอมให้ตัวเองถูกเอารัดเอาปรียบ ในสังคมการใช้แรงงานของบ้านเรานั้น ยังมีกรณีของเจ้าของกระทู้เกิดขึ้นมากมาย และส่วนใหญ่จบลงด้วยการยอมความของลูกจ้าง และเรื่องไม่เข้าสู่กระบวนการทางศาล เมื่อเรื่องจบลง ลูกจ้างหางานใหม่ นายจ้างก็ยังคงลอยนอลอยู่ ดังนั้นเมื่อเราๆซึ่งเป็นผู้ใช้แรงงาน จำเป็นที่ต้องสร้างความแข็งแกร่งโดยเฉพาะเรานั้นมีกฎหมายแรงงานเป็นเครื่องมืออยู่แล้ว จะต้องใช้ให้ถูกทางเพื่อปกป้องสิทธิของตัวเราครับ จากคุณ : ChalkHR เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 11:06:12 A:172.31.13.30 X:180.222.146.132 TicketID:303956

ความคิดเห็นที่ 22 @ คุณก้นกบ ... แห่ะๆ อย่าดีกว่าค่ะ เค้าตาย ปังผิงก็ไม่ได้ตัง แห่ะๆ @ คุณ ChalkHR ... ขอบคุณนะคะ ประเด็นนั้นแหล่ะค่ะ ที่ปังผิงกลัว ... ตามได้แต่เค้าจะไม่ยอมจ่ายอ่ะสิ ... ปังผิงรู้ว่าเค้าอยู่ที่ไหน แต่ไม่รู้จะทำยังไงให้เค้าจ่าย ขนาดศาลสั่งว่าถ้าเค้าจ่ายไม่ตรงกำหนด งวดใด งวดหนึ่ง เค้าต้องจ่ายเพิ่มอีก 20,000 เค้ายังไม่จ่ายเลยอ่ะค่ะ ... งานนี้ปังผิงกลัวชวดเหลือเกิน ... จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 13:11:12

ความคิดเห็นที่ 23 ยกคอมพ์ เครื่องใช้สำนักงานไปชำแหละขายโลด จากคุณ : โจรดอกบ๊วย เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 13:03:08

ความคิดเห็นที่ 24 @ คุณโจรดอกบ๊วย .... เค้าปิดสำนักงานไปด้วยอ่ะสิคะ ไม่มีอะไรให้ไปยึดเลย .... จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 14:04:37