ความคิดเห็นที่ 1 พี่เค้าบอกว่า ....ไม่มีทุนค่ะ      ถ้าทุกคนคิดคำตอบได้แค่นี้ นะค่ะ ........มันจะจบกระบวนการหมดเลย ไม่มีการลงทุนต่อ   มาดูกันว่า พี่เค้าทำอย่างไรต่อ หลังจากที่นั่งลงคุยกันสักแป๊บ ได้ขอมูลคร่าว ๆ แบบนี้  ลองอ่าน ตารางดูนะค่ะ   ว่า กำไร  1 แสนกว่า ได้มา แบบนี้ [เพราะถ้าพิมพ์คงหลายหน้า] จากคุณ : makotojung เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 15:14:42

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าทุกคนเห็น gap ของกำหนดการจ่ายเงินแล้ว คงนึกออกว่า ทำไม พี่อาโปว ถึงจับเสือมือเปล่า   Trick :   CREDIT TERM เงินออก [กำหนดจ่าย]  ดึงให้ช้า ยาวนานที่สุด เท่าที่จะทำได้ เงินเข้า [กำหนดรับ]  เร่งให้เร็วสุด 7 วัน 10 วัน ยิ่งดี จากคุณ : makotojung เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 15:15:45

ความคิดเห็นที่ 3 เราแนะนำ อาโปว ต่อว่า การให้โรงพิมพ์ขึ้นแบบตัวอย่าง หรืองานสักชิ้น พี่ไม่จำเป็น ต้องใช้เงินสดเลย การเจรจาต่อรอง จะทำให้พี่ได้สินค้ามาโดยไม่ต้องออกเงินก่อน ภาษาจัดซื้อ เรียกว่า CREDIT TERM   เช่น สินค้านี้เป็นสินค้าส่งห้าง และร้านค้าใหญ่  ที่มียอดสั่งซื้อจองไว้แล้ว ขอ Credit Term สัก 60 วัน ได้ไหมครับ [60 วันหลังจากส่งของให้เรา ถึงจะจ่ายตังค์โรงพิมพ์] ในฐานะโรงพิมพ์ เค้าก็เห็นอนาคตว่า จะมีเงินมาจ่ายอยู่แล้ว รอได้นิดหน่อยก็ต้องรอ ดีกว่า งานหลุดมือไป   พอทำตัวอย่างสินค้าแล้ว  step ต่อไป คือ ตะลุย แผนกจัดซื้อ ทุกที่ ที่อยากวางขาย มาดูผัง คร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ จากคุณ : makotojung เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 15:29:51

ความคิดเห็นที่ 4 ข้อมูลในการเจรจา กับ จัดซื้อทั่วไป ที่ต้องเตรียมให้พร้อมเลย 1.     ส่วนลดให้เค้าได้เท่าไหร่ !! คำถามที่ basic มากมาย แต่บางคนก้ออ้ำ ๆ อึ้ง แล้วยังถามกลับว่า แล้วคุณอยากได้เท่าไหร่  Do : *ผมให้ได้  25% เต็มที่ครับ *Standard GP ที่นี่ รับได้ กี่ % ครับ [ถ้าเค้าบอกมา ก้อคิดในใจเทียบกับส่วนลดที่เรากำหนดไว้แล้ว]   จัดซื้อ แต่ละคน เค้าจะมี KPI อยู่ค่ะ ว่าซื้อของให้ได้ GP Standard [ส่วนลดจากผู้มาฝากของขาย] ณ จุดเท่าไหร่ กรณีพิเศษ ที่เป็นสินค้าพิเศษ มอบเงินให้มูลนิธิ หรือ ทำบุญอะไรต่าง ๆ  จัดซื้อจะรับได้ หากส่วนลดไม่เป็นไปตามเกณฑ์ [ลดได้น้อย] แต่องค์กรได้หน้า   DON’T : ห้ามถามกลับว่า ...คุณอยากได้ส่วนลดเท่าไหร่ หรือ คุณพอใจที่ส่วนลดเท่าไหร่ เพราะ จัดซื้อ ต้องการส่วนลดที่มากที่สุด บางที่อาจจะมากกว่าที่คุณจะให้ได้ด้วยซ้ำ จะยอมขายขาดทุนหรอจ้ะ จากคุณ : makotojung เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 15:38:37

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณสำหรับ กีบ เอ๊ย กีฟ ค่ะ เล่าต่อน่ะค่ะ   2. term การขาย  มาเล่าก่อนว่า การขายของห้าง หรือร้านสะดวกซื้อ มี 2 แบบ   1.ขาย CREDIT +  จำนวนวันจ่ายเงิน     เช่น     CREDIT 45 วัน CREDIT คำนี้ หมายถึง ขายขาด     <= จำให้ขึ้นใจ หายนะจะไม่เกิด กับคำนี้ 45  วัน    หมายถึง   ห้างจะจ่ายตังค์คุณ เมื่อส่งของครบ 45 วันแล้ว ทำไมถึงบอกว่า หายนะ จะไม่เกิด กับการขายของ แบบ Credit  [ขายขาด] เพราะความรับผิดชอบเรื่องขายได้ ขายไม่ได้ ทั้งหมดอยู่กับ ห้างละ ไม่อยู่ที่เรา  ส่งของปุ๊บ รอรับตังค์ทั้งก้อนเข้าบัญชีเลย   2. ขาย Consign +  จำนวนวันจ่ายเงิน   เช่น     Consign +  45 วัน Consign  คำนี้ หมายถึง ฝากขาย     การฝากของขาย กับห้าง ด้วย credit term 45 วัน หมายถึง การรับผิดชอบ stock ของสินค้า ยังอยู่กับผู้ฝากขาย  เอาของไปส่ง รอถึง 45 วัน เช็คยอด ของเหลือในระบบ ขายได้เท่าไหร่ รับตังค์เท่านั้น ทยอยรับตังค์ ไปเรื่อย ๆ ตามจำนวน  ที่ขายได้แต่ละเดือน หากขายไปนาน ๆ แล้ว ขายไม่ค่อยได้ แล้ว ทางจัดซื้อมีอำนาจ ที่จะขอคืนสินค้าคุณทั้งหมด ที่เหลืออยู่ เพราะแบกเอาไว้ ก็ขายไม่ได้ [nonmove item] เค้าเอาที่วางของ ไว้สำหรับของใหม่ ๆ ดีกว่า   **ความหายนะ จะเกิดเมื่อสินค้าคุณเกิดแป๊ก ขายไม่ได้ อยู่ในห้าง 3 เดือน ขายไม่ได้เลย เค้าก้อจะเอาคืนคุณทั้งหมด ได้ง่าย ๆ ดังนั้น**   DO  สำหรับ ผู้ฝากขาย :  สินค้าผมขายแบบ CREDIT ครับ ขอเงินจ่ายตรงตาม term ที่ตกลงกันไว้ด้วยนะครับ บลาๆๆ DON’t สำหรับ ผู้ฝากขาย :  สินค้าผมขายแบบ Consign ครับ / ไม่เป็นไร เอาไปวางขายดูก่อนครับ เผื่อลูกค้าชอบ [ของซื้อของขาย มีการลงทุน ห้ามพูดแบบนี้เด็ดขาด] จากคุณ : makotojung เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 15:51:13

ความคิดเห็นที่ 6 3. RETURN  - มีผลต่อการฝากขายแบบ consign กรณี ขายขาด – Credit   :  จบข่าว เราไม่รับคืน นอกจากชำรุด หรือหลุดบางหน้า [หนังสือ] เราจะเปลี่ยนคืนให้ แต่ต้องไม่เกิน 5% ของยอดสั่งซื้อ  ต้องยืนคำขาดหรือมีในสัญญาแบบนี้เลยนะคะ ไม่งั้น มันจะกลับมาหาเราภายหลัง   ผลที่มีต่อ consign – การฝากขาย เราสามารถกำหนดได้ว่า เราขอ return กี่ % เช่น ขอยกตัวอย่างสินค้าที่มี อายุ ในตัวมันเอง  เช่น ปฎิทิน  กรณี ที่คุณขาย ปฎิทิน ให้ห้าง  เค้าจะกำหนดให้ return [คืนได้] 100% เพราะหลัง ก.พ. จะขายไม่ได้ละ   period วางขายปฎิทิน  :  25 ตุลาคม – 25 มกราคม หลังจากนั้น มี 2 step Step 1 ปลาย มกรา – กุมภา   ทั้งเดือน ทำ promotion ลด  ตั้งแต่ 50 % - 90%   Step 2 ถ้าลดสูงสุด 90% แล้วปฎิทินยังเหลือ คุณก้อต้องรับกลับบ้านไป กรณีที่ลดมาก ๆ แล้วขายขาดทุน  คุณเองต้อง support ส่วนที่ห้างขาดทุน ให้ ห้างด้วย   คราวนี้ เห็นแล้วสยองหรือยัง กับ การปล่อยให้ RETURN  100% จากคุณ : makotojung เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 16:04:11

ความคิดเห็นที่ 7 4. REBATE   คำว่า REBATE  คือการคืนทุน   มี 2 อย่าง จะเล่าให้อ่าน   4.1 .REBATE ให้บริษัท ทำในสัญญาซื้อ ขาย ไปเลย  เช่น    หากห้าง ทำการซื้อสินค้าและขายได้ ถึง 1 ล้านบาท  เรายินดี ให้ rebate ณ  วันสิ้นปี ที่ 5% เป็นการคืนกำไร ให้กับห้าง ที่ช่วยผลักดันยอดขายของเรา และทำได้ตามสัญญาจริง หากทำไม่ได้ ก็เฉย ๆ  กันไป   4.2 REBATE -  กับ จัดซื้อ   คุณเคยได้ยินกันบ้างละ พวกอยากได้เงินพิเศษกว่าเงินเดือน  หรือเงินใต้โต๊ะ นั่งแหละ  สัญญากับเค้าไปเลย ว่า..ถ้าสั่งถึง  1 ล้าน จะได้เงินพิเศษ เข้าบัญชี อันนี้ ก็แล้วแต่จะตกลง ที่เล่าให้รู้กันแบบนี่ เพราะเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ ที่เห็นมาแล้ว ว่า พวกจัดซื้อห้าง ซื้อบ้านเดี่ยว เงินสด น่ะมีเยอะ หุหุ  ปล. ไม่เกี่ยวกับ จขกท. นะ เพราะทุกวันนี้ หนี้สินยังล้นพ้น  เล่าให้ฟังจ้ะ  เพราะเพื่อนที่ทำงานด้วยกันได้เงินพิเศษจาก supplier ทุกเดือน   หากนักการเมืองยังโกงกิน ก้อเป็นปกติ ที่คุณจะเจอพวกเรียกร้องค่าออก PO บ้าง Win -  Win  ท่องไว้ คำนี้ เราได้ PO หมายถึง กำไรก้อนโต   ให้ได้ ก็ให้ ถ้าไม่ใหญ่โต เกินจริง ว่าม่ะ จากคุณ : makotojung เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 16:17:29

ความคิดเห็นที่ 8 4. REBATE   คำว่า REBATE  คือการคืนทุน   มี 2 อย่าง จะเล่าให้อ่าน   4.1 .REBATE ให้บริษัท ทำในสัญญาซื้อ ขาย ไปเลย  เช่น    หากห้าง ทำการซื้อสินค้าและขายได้ ถึง 1 ล้านบาท  เรายินดี ให้ rebate ณ  วันสิ้นปี ที่ 5% เป็นการคืนกำไร ให้กับห้าง ที่ช่วยผลักดันยอดขายของเรา และทำได้ตามสัญญาจริง หากทำไม่ได้ ก็เฉย ๆ  กันไป   4.2 REBATE -  กับ จัดซื้อ   คุณเคยได้ยินกันบ้างละ พวกอยากได้เงินพิเศษกว่าเงินเดือน  หรือเงินใต้โต๊ะ นั่งแหละ  สัญญากับเค้าไปเลย ว่า..ถ้าสั่งถึง  1 ล้าน จะได้เงินพิเศษ เข้าบัญชี อันนี้ ก็แล้วแต่จะตกลง ที่เล่าให้รู้กันแบบนี่ เพราะเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ ที่เห็นมาแล้ว ว่า พวกจัดซื้อห้าง ซื้อบ้านเดี่ยว เงินสด น่ะมีเยอะ หุหุ  ปล. ไม่เกี่ยวกับ จขกท. นะ เพราะทุกวันนี้ หนี้สินยังล้นพ้น  เล่าให้ฟังจ้ะ  เพราะเพื่อนที่ทำงานด้วยกันได้เงินพิเศษจาก supplier ทุกเดือน   หากนักการเมืองยังโกงกิน ก้อเป็นปกติ ที่คุณจะเจอพวกเรียกร้องค่าออก PO บ้าง Win -  Win  ท่องไว้ คำนี้ เราได้ PO หมายถึง กำไรก้อนโต   ให้ได้ ก็ให้ ถ้าไม่ใหญ่โต เกินจริง ว่าม่ะ จากคุณ : makotojung เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 16:27:30

ความคิดเห็นที่ 9 5. Other Income  จงจำไว้ ว่า ที่พื้นที่ในห้าง ในร้าน มีราคาเสมอ  ช่วงสินค้าคุณเข้าห้าง ใหม่ ๆ  ก้อจะอยู่ในส่วน New Arrival หากสินค้าไปอยู่ shelf นี้ จุดนี้ วางตรงนี้ แล้วลูกค้าจะสะดุดตาที่สุด เข้าถึงลูกค้ามากที่สุด  ปกติ จะเป็น เคาน์เตอร์ cashier  หรือใกล้ ๆ  ถ้าวาง ตรงนี้ ก็อาจจะต้องจ่ายเพิ่ม 5-10% ของก้อนสินค้า    โปรดทำใจ และกัน GP ไว้เผื่อด้วย ไม่ใช่ ส่วนลดแรกให้ไปแล้ว 60%  + New arrival + 10% เลิกขายกันพอดี ทุนหาย กำไรหด  จำไว้นะ   ลงโฆษณา ในใบปลิว แผ่นพับ แคตตาล็อค  เวบไซค์  อะไรก็แล้วแต่ เกี่ยวกับห้าง จ่ายอีก 5-10% หรือแล้วแต่จะเจรจา แต่เหตุผลร้อยแปดประการ ก็จะตามมา ให้คุณจ่าย   สินค้าคุณเกิดขายดี มากมาย ก็อาจจะถูกดันเป็น Best seller อยู่บนฝาหน้าร้าน หน้าเคาน์เตอร์ cashier    ขายดีแล้ว อย่านึกว่ารอด ..อาจจะจ่ายอีก เพราะทันที่ ที่จัดซื้อสั่งให้หน้าร้าน เอาไปวางเป็น Best seller => ทุกคนก็จะเข้าใจ ว่ามันขายดี น่าอ่าน บางท่าน อาจจะใจป้ำ จ่าย 10,000 บาท ให้ดันสินค้า ไปอยู่ใน Best seller [ปลอม] ได้   เพราะฉะนั้น กัน GP เผื่อด้วย ถ้าจะส่งของลงห้าง   จากคุณ : makotojung เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 16:40:41

ความคิดเห็นที่ 10 จบตอนแรก  ตอน  :   อาโปว ผู้กล้า กับ การออกล่าเสือมือเปล่า ในห้าง เนื่องจาก ต้องกลับบ้านไปเลี้ยงลูก [กะ 5 โมงเย็น – 8 โมงเช้า] เพราะสามี รับเลี้ยง กะ 8 โมงเช้า – 5 โมงเย็น อยู่   ไว้พรุ่งนี้ จะพาเข้าห้างอีก นะจ้ะ ขอไปนอนนึกก่อน ว่ามีค่าอะไรอีกบ้าง ที่ต้องจ่าย จากคุณ : makotojung เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 16:55:13

ความคิดเห็นที่ 11 แบบจ้างโรงพิมพ์เครดิตที่ผมเจอ มากสุด 60 วัน นานกว่านั้นไม่เคยเจอ แต่ที่ร้ายคือเงินฝากวางงวดแรกจะได้ใน 60 วันเหมือนกัน เจ้าใหญ่ๆ เขามีกฎตายตัว ต่อรองยาก ยกเว้นเจ้าเล็กๆ คุยง่ายๆ แต่ความเป็นไปได้น้อยมากที่ของจะขายหมดทั้ง 3 พันชุด ภายในเวลาไม่เกิน 60 วัน และหากฝากวางสะดวกซื้อ เขาคิดค่าแรกเข้า 2-4 หมื่นบาท ฝากวางร้านหนังสือ ถ้าจะโปรโมชั่นเป็นสินค้าแนะนำก็โดนอีก 2-3 หมื่น ชีวิตจริงขอสวดภาวนาให้ได้แบบที่คุณเขียนทุกครั้งเถิด จะมีความสุขมาก จากคุณ : ดรัสชรัส เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 17:45:51 A:183.89.53.184 X: TicketID:309818

ความคิดเห็นที่ 12 อาโปว ขาย แบบ credit ค่ะ 45 วันได้เงิน  เลยไม่ต้องใช้เวลาในการขาย นาน ได้เงินเร็ว กว่า ครบกำหนดจ่าย 15 วัน ด้วยค่ะ อันนี้เรื่องจริง จากคุณ : makotojung เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 17:55:20

ความคิดเห็นที่ 13 ดีครับได้ความรู้มากอย่างน้อยก้อเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้อีกแง่มุมของหลายอาชีพขอบคุณที่แบ่งปันครับ จากคุณ : ผมชื่อถั่วแปบ เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 19:23:47

ความคิดเห็นที่ 14 สมัยทำงานสนพ. สนพ. เป็นบริษัทย่อย เช่นเดียวกับ โรงพิมพ์เป็นบริษัทย่อย ของบริษัทใหญ่ ทุกอย่างก็แค่เอาเงินเปลี่ยนกระเป๋า ก็ไม่เคยเห็นเขาปล่อย60วันเลยสักครั้ง ยิ่งรายย่อยๆ แต่ดูท่าทางเครดิตดี เช่นปตถ. มาขอพิมพ์เล็กๆ .. ให้ปล่อย60 วัน โห ยากสส์ ค่ะ ถ้าเิดินไปพิมพ์โปสการ์ด ด้วยเครดิต 60 วัน มันจะเป็นไปได้หรือนี่ จากคุณ : หวานใจนายโหด เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 19:27:59

ความคิดเห็นที่ 15 แล้วถ้าCard ขายไม่ได้ใน45วันหล่ะ.....นั่นหล่ะปัญหา จากคุณ : cantare เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 01:31:09

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้ค่ะ จากคุณ : Ashira เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 08:57:37

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ จากคุณ : basicball เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:49:54

ความคิดเห็นที่ 18 แน่ใจเหรอว่าจะขายได้หมด ถ้าไม่หมดทำไง จากคุณ : ฟาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 10:52:11 A:203.148.187.139 X: TicketID:289572

ความคิดเห็นที่ 19 จาก ปสก. ในความเป็นจริงแล้ว โอกาส ที่จะ เหมาะเหม็งที่คุณจะจับเสือ มือเปล่านั้นน้อยมากๆ ส่วนใหญ่ จะโดนเสือกัดตายเสียก่อน สิ่งที่คุณได้มาคือ เครดิต และถ้าขายไม่หมด และคุณไม่เอาเงินไปจ่าย สิ่งที่คุณเสียไปก็คือ เครดิตนั่นเอง ซึ่งสำคัญมาก สำคัญกว่าเงินต้นทุน 5 หมื่นกว่าบาทเสียอีก เพราะในทางการค้า ชื่อเสียงเราจะถึงกันหมด ถ้าเราทำดี ชื่อก็จะหอม ทำอะไรคนก็เชื่อถือ แต่ถ้าเราผิดสัญญา เพียงครั้งเดียว ชื่อเราก็จะเหม็น คลุ้งไปเจ็ดย่านน้ำเช่นกัน จากคุณ : นักแสวงหา เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 11:51:53 A:183.89.157.142 X: TicketID:288860

ความคิดเห็นที่ 20 ผมเชื่อว่า เป็นแค่ความคิดในหัว ที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง ร้านสะดวกซื้อ อะไรของคุณ ถ้า 7/11 มีหลายพันสาขา วางยังไง สาขา ละ 1ชุด เหรอครับ แล้วไหนจะวางห้างอีกละ ไม่สมจริงเลยครับ จากคุณ : paskon เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 18:48:18 A:223.204.123.238 X: TicketID:286711