แค่อยากเป็นเจ้านายตัวเอง...2
|
 |
ตอน. เลือดในกายเรานั้นก็คือพ่อและแม่เราเอง...
แวปแรกที่คิดในตอนนั้นมันไม่มีอะไรเลย....คุณรู้มั๊ยคนที่ฆ่าตัวตายนั้นคงต้องมานั่งอยู่ในสถานะการณ์แบบนี้เฉกเช่นเดียวกับข้าพเจ้า....ปลายมีที่อยู่บนราวนมด้านซ้ายของข้าพเจ้านั้นมันกำลังจะจิ้มทะลุเนื้อเยื่อที่เราไม่ได้สร้างมัน....แต่ที่เป็นเรานั้นมันเกิดจากพ่อกับแม่ของเราต่างหาก...ใช่สิ!!!เราแค่มีหน่าทีดูแลมันให้เติบใหญ่และผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆไปได้ไม่ใช่เหรอ.......ปลายมีดที่กำลังบาดลึกลงไปมันกลับมาลากสติที่อยู่ในด่านสุดท้ายของนครแห่งความมืดมิด ได้โพล่พ้นออกมาได้....ภาพในอดีตที่กำลังย้อนกลับมา ภาพของความเป็นเด็กในช่วงวัยต่างๆ มันสลับสับเปลี่ยนมา....จนทุกอย่างมาหยุดที่หน้าพ่อกับแม่................................................
รอยแดงที่หน้าอกและมีดยาวแปดนิ้วหล่นอยู่บนห้องนั้นไม่มีคราบเลือดอะไร แต่มีดที่หล่นอยู่นั้นมันกลับเต็มไปด้วยความโง่เขลาของข้าพเจ้าเอง....ที่มันเกือบเอาชีวิตของข้าพเจ้าจากครอบครัวที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ พ่อแม่กลับมาสู่ความทรงจำอันมืดบอดของข้าพเจ้าทุกอย่างมันชัดเจน ข้าพเจ้าหยุดร้องไห้และมานั่งคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาว่าอะไร! และทำไม! ที่ข้าพเจ้ามานั่งร้องไห้แบบคนไร้สมองอยู่อย่างนี้......
สติมาปัญญาเกิด.....จริงอย่างที่คำพระท่านว่าไว้ ข้าพเจ้านั่งทบทวนว่าคนเรานั้นเกิดมาก็แสนยาก กว่าจะเป็นผู้เป็นคนได้ในขณะนี้ พ่อแม่ต้องลงทุนลงแรงไปเท่าไหร่ที่จะให้เรามีความรู้ สะสมความดี สอนทุกอย่าง ทำให้ทุกอย่างแบบไม่มีข้อแม้...แล้วเราล่ะทดแทนคุณได้บ้างหรือยัง....แค่กระพี้ยังไม่ได้เลย...แล้วมาทำอะไรแบบนี้....การฆ่าตัวตายนั้นเป็นกรรมที่ยากนักจะล้างได้หากตายไปกรรมทั้งหมดก็จะตกมาอยู่ที่คนทำ.....เนื่องจากเป็นกรรมหนักที่ต้องทำให้พ่อและแม่ต้องเสียน้ำตา......ต่อให้เราตายไปจริงๆในวันนั้น เกิดมากี่ครั้งก็ไม่มีวันชดใช้ได้.....
เชื่อมั๊ยว่าข้าพเจ้าหยุดได้เลย หยุดหมดทุกอย่างร้องไห้ ฟูมฟาย...เสียอย่างเดียวในตอนนั้นหยุดสะอื้นไม่ได้...แต่พยายามแล้..อิอิอิ หลังจากเหตุการณ์วันนั้น เปลี่ยนไปอีกรอบ ทั้งความคิดและจิตใจ แต่เรื่องราวมีปัญหาบ้างในบ้านระหว่างคนที่ป่วยกับคนที่สุขภาพดีนั้นก็ยังมีต่อไป..ข้าพเจ้ากับแม่ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมเพราะข้าพเจ้ามีสติและเริ่มมองอะไรบวกๆบ้าง และก็พยายามคิดว่าเอาน่าสู้ไป...ถ้าไม่ไหวก็พัก......เรื่องนี้พ่อกับแม่ไม่เคยรู้เลย.....
เวลาผ่านเรื่องราวแย่แบบนั้นมาเกือบขวบปี ชีวิตของคนที่ป่วยแบบนี้ร่างกายไม่มีวันที่จะแข็งแรงได้เหมือนคนปรกติอยู่แล้ว เพราะระบบในร่างกายมันเพี้ยนไปหมด ไตทำงานไม่ได้เลย ไม่ฉี่ กินน้ำไม่ได้มากเหมือนก่อน กินอาหารแบบต้องจำกัดทุกอย่างแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน หลังๆข้าพต้องทนกับสารพัดอาการที่มาอยู่เป็นเพื่อนหลายครั้งเหมือนกันที่เพื่อนใหม่อย่างอาการ น้ำท่วมปอด แวะมาเยี่ยมและเขาก็จัดหนักด้วย....เรียกได้ว่ามาหาทั้งที่ต้องฉลองกันหน่อย ไม่ต้องนอนกันเลย....สนุกสนานกันไป..อาการน้ำท่วมปอดของข้าพเจ้านั้นจะมีอาการจากที่ในตอนนั้นข้าพเจ้าดื่มน้ำเยอะมาจนเกินไปน้ำไม่สามารถระบายออกได้...ที่นี้ไปไหนไม่ได้มันก็จะไปแทรกอยู่ตามกล้ามเนื้อและผิวหนังและที่สำคัญมันจัดงานกันที่ปอดของข้าพเจ้า ฮิ้ว!! อาการนอนราบไม่ได้ ต้องนั่งหลับเพราะถ้านอนหายใจไม่ออก.....ไม่สนุกเลย และที่สำคัญรักษาไม่ได้ด้วยการกินยานะ...ต้องไปฟอกเลือดสถานเดียว....ทำไมนั่นเหรอเพราะการฟอกเลือดในคนป่วยไตวายนั้น นอกจากจะเอาเลือดมาล้างสะอาดด้วยเครื่องไตเทียมแล้ว เครื่องนี้ยังดึงเอาน้ำที่ปนอยู่ในเลือดออกไปด้วย ทำให้เลือดที่ฟอกแล้วมีน้ำที่เรากินดื่มเข้าไปหายไปเกือบหมด... และถ้าวันรุ่งขึ้นไม่ใช่คิวฟอกก็ต้องทนไปหือต้องไปขอลัดคิดเขา...ซึ่งก็ต้องดูแลในดีเลยตรงนี้..หลายอาการที่เป็นนั้น มันทำให้เราดูเหมือนคนที่มาจากดาวนาแม๊คมาก....คือไม่เหมือนคนทั่วไป ดำๆเหลืองๆ แขนก็โดนเข็มเจาะพรุนไปหมด...เดินไปไหนก็มีแต่คนมอง....มองเพราะเราต่างจากเขา มองเพราะเขากำลังคิดว่าเราติดยาหรือเปล่า
. ถ้าถามข้าพเจ้าว่าตอนนั้นเป็นไงความรู้สึก.....คงตอบได้ว่าเฉยๆอยู่ๆไปและคิดว่าสักวันจะเป็นวันของเราที่จะได้เปลี่ยนไตกับเขาบ้าง......แต่เชื่อมั๊ย!!!ว่าความหวังที่มีนั้นน้อยมาก...เราอาจจะเรียกได้ว่าแสงเทียนที่ปลายอุโมงค์.... แต่แล้วทุกอย่างก็กำลังจะมาหลังจากที่ต้องฟอกไตมาเกือบสองปี...และร่างกายกำลังเข้าสู่จุดที่เรียกได้ว่าซากเดินได้....
TO BE CONTINUE...หลังสงกรานต์นะจ๊ะ
แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 54 00:12:08
จากคุณ |
:
daxter
|
เขียนเมื่อ |
:
วันมหาสงกรานต์ 54 00:10:49
|
|
|
|