 |
คห 10 พวกเรียนจบอักษรมา รู้มั้ยครับว่าพวกนั้นน่ะหางานกันยากแค่ไหน?
เพราะพวกเค้าเรียนภาษาเป็น"หลัก" แต่งานในความเป็นจริงที่อาศัยความสามารถทางภาษาเป็น"หลัก" อย่างล่าม ไกด์ งานโรงแรม นั้นมีน้อยครับ อัตราการแข่งขันเลยสูงมาก
แต่ในโรงงานนั้น เค้าไม่ได้ต้องการคนที่เก่งแต่ภาษาอย่างเดียวครับ โดยเฉพาะโรงงานญี่ปุ่น แต่เค้าต้องการ "บัญชี, วิศวกร, HR, การตลาด ที่พอพูดภาษาญี่ปุ่นได้(พูดกับนายรู้เรื่อง)" ครับ เพราะค่าจ้างล่ามมันแพงและหลายๆเรื่อง เจ้านายพูดผ่านล่ามไม่สะดวก(เช่นเงินเดือน หรือคำสั่งบางอย่าง) ดังนั้นความต้องการพนักงานที่มีภาษาที่สามเป็นความสามารถพิเศษจึงมากกว่า พนักงานเอกภาษาที่ทำอย่างอื่นไม่ได้ ครับ สรุปแล้วมันคนละตลาดกันครับ
ลองคิดในอีกแง่ ถ้าสมมติเราไปเรียนภาษาที่คนเค้าไม่เรียนกันเท่าไหร่ เช่น สเปน โปรตุเกส เวียดนาม บราซิล ฯลฯ เราจะไปทำงานอะไรในไทยได้ครับ? ในเมื่อแทบไม่มีธุรกิจใดๆเข้ามาลงทุนในไทยเลย ครั้นจะไปเป็นครูสอนภาษานั้นก็ไม่มีคนเรียนอีก ตัวเลือกสุดท้ายก็กลายเป็นต้องหาทางดิ้นรนไปทำงานบริษัทต่างชาติ หรือไม่ก็พวกงานสถานภูตแทน (หรือไม่ก็งานโรงแรมบางแห่งที่มีคนชาตินั้นมาเที่ยวมากๆ) ซึ่งหาไม่ง่ายเลย (ปกติแล้วเค้าจะเน้นภาษาอังกฤษแทนมากกว่าสำหรับงานพวกนี้) และปัญหาที่สำคัญที่สุดคือ "เราจะไปเรียนที่ไหนครับ?" สำหรับภาษา จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส เยอรมัน มันหาที่เรียนไม่ยากเพราะ demand เยอะ แต่ถ้าจะเรียน โปรตุเกส สเปน อาหรับนี่ ผมยังไม่เคยเจอที่ไหนเปิดสอนเลยครับ แค่จะหาที่เรียนก็ลากเลือดแล้วกว่าจะเรียนจบคงกระอั่กตายพอดี (ขนาดญี่ปุ่นที่ว่าฮิตๆ จะหาเรียนพิเศษในระดับสูงๆยังยากเลยครับ มีแต่ สถาบันไทย ญี่ปุ่นกับเรียนตัวต่อตัวที่พอจะมี)
สรุปแล้ว ถ้าเราไม่ได้เรียนภาษาที่สามไปเป็นสกิลหลักในการทำงานเหมือนพวกจบอักษรครับ แต่เอาไปเป็นสกิลเสริมในการทำงานแล้ว ภาษาญี่ปุ่นหรือจีน เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าภาษาที่ไม่ค่อยมีบริษัทมาลงทุนในไทยครับ ทั้งในแง่การหาที่เรียนและการหางาน
จากคุณ |
:
Greaty O-U!!
|
เขียนเมื่อ |
:
19 เม.ย. 54 22:43:58
|
|
|
|
 |