Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ชีวิตเริ่มถึงจุดเปลี่ยน เรียนรู้การสูญเสียที่เกิดขึ้น ตอนที่ 2 ( คาร์แคร์คนเดิม ) ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B10474856/B10474856.html   ต่อเนื่องน่ะครับ....  
   
  แต่แล้วหลายๆอย่างก็ค่อยๆหมดไปด้วยพิษเศรษกิจในปี 40 ครอบครัวต้องขายทุกอย่างใช้หนี้จนเหลือเงินในครอบครัวแค่หลักแสน กับรถกระบะอีก 2 คัน ” แต่ทุกอย่างมันไม่ได้หายไปเลยทีเดียวครับ มันค่อยๆละลายหายไป
ก็หลายปีอยู่เหมือนกันครับ
   
   คือผมขอท้าวความว่า หลังจากที่ครอบครัวของเรามีครบทุกอย่างแล้ว คุณพ่อก็ยิ่งมุ่งมั่นกับการหาเงิน ทั้งขยายธุรกิจเดิม แต่ยกให้แม่ดูแลแทนอย่างเต็มตัว และตนเองก็เปิดโรงงานใหม่ๆ รวมถึงธุรกิจอื่นอีก ที่คุณพ่อคิดว่าน่าจะได้เงิน  คือคุณพ่อของผมเป็นคนเก่งมากครับ ขยันและอดทนทำงานมาก แต่คุณพ่อกลัวรวยไม่ทันครับ เลยไปกู้เงินมาเยอะมาก แล้วไปคว้านซื้อที่ดิน เพราะคิดว่าจะเกรงกำไรได้ ในที่สุดก็ติดมือครับ เป็นที่ดินรวมๆแล้วนับพันไร่เลยทีเดียว
 
   ตอนนั้นคุณพ่อเริ่มหมุนเงินไม่ทันครับ เลยดึงเงินหมุนไปมาวุ่นวายไปหมด และประกอบกับในช่วงที่คุณพ่อยกโรงงานเดิมให้แม่บริหาร และไปจับธุรกิจตัวใหม่  แต่ผลประกอบการก็ไม่ดีอย่างที่คิดไว้ เลยต้องดึงเงินบริษัทคุณแม่มาหมุน และภายหลังจากนั้น  บริษัทของคุณแม่ก็เริ่มขายสินค้าไม่ดีเหมือนเดิม ยอดค่อยๆตกจากเดือนละเป็นสิบๆล้าน เหลือแค่หลักล้าน  เพราะมีผู้ประกอบการหน้าใหม่เกิดมากขึ้นด้วย ทำให้เกิดการแข่งขันราคากันอย่างรุนแรงมาก
 
 คุณแม่เลยหาทางออก โดยไปเซ้งตึกแถว 3 คูหา ย่านรังสิต เปิดหน้าร้านและของพ่ออีก 3 คูหาติดกัน เป็น 6 คูหา  โดยมีคุณแม่อยู่หน้าร้าน  และคุณพ่อก็ดูงานที่โรงงานต่างจังหวัด ( ช่วงนั้นผมน่าจะอยู่ ม. 1 )
 
  แต่อีกหนึ่งสาเหตุที่คุณแม่ตัดสินใจออกมาอยู่ตึกแถว ก็เพราะ ช่วงนั้นสถานการณ์ในครอบครัวของผมเริ่มรุนแรงมากขึ้น
คุณพ่อก็ยังเดินสายเจ้าชู้มากครับ จากที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย กลายเป็นเอาภรรยาน้อยหน้าใหม่ๆเข้ามาอยู่ในบ้านรวมกับพวกผม และหนักสุดก็เอาเข้านอนในห้องเดียวกับคุณแม่ผม

   ส่วนตัวผมไม่รู้หรอกครับว่าที่ผ่านมาคุณแม่เจ็บขนาดไหน เพราะพวกเราลูกทั้ง 3  โดนส่งเข้าโรงเรียนประจำตั้งแต่ ป. 1 แล้ว  จะมีโอกาสกลับบ้านก็เพียงเทอมละ 1 – 2 ครั้งเท่านั้น  แต่ทุกครั้งที่กลับบ้านช่วงปิดเทอมก็จะเห็นเด็กหน้าใหม่ๆเสมอๆ  ส่วนเหตุผลที่ส่งลูกๆเข้าเรียนที่โรงเรียนประจำก็คงเพราะ อยากให้ลูกรับผิดชอบอะไรเองได้ และประกอบกับ คุณพ่อคุณแม่ทำงานเยอะมาก คงไม่มีเวลาดูแลพวกเรา
 
   ผมจำได้ว่าวันแรกที่ผมเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนั้น  ผมร้องไห้ดึงเสื้อแม้จนขาด โดยมีพ่อไปดึงก้านม่ะพร้าวมาตีผม เพื่อให้ผมหยุดร้องไห้ แล้วปล่อยแม่กลับบ้าน โดยมีพี่ชายของผมซึ่งอายุห่างกัน 5 ปี ยืนน้ำตาซึมและกอดผมอยู่ทั้ง 2ข้าง
 
  แต่ถึงคุณแม่ของผมจะส่งผมเข้าเรียนในโรงเรียนประจำ แต่คุณแม่ก็หมั่นโทรมาคุยกับผมตลอด และผมก็จะร้องไห้ทุกครั้งเพราะอยากกลับบ้าน  และถ้าคุณแม่มีเวลาปุ๊ป ก็จะให้คนขับรถที่บ้านพามาเยี่ยมผมที่โรงเรียนอยู่บ่อยๆ แต่คุณแม่พาผมกลับบ้านบ่อยๆไม่ได้ เพราะโรงเรียนแห่งนี้มีกฎต้องห้าม
 
  ทุกครั้งที่คุณแม่มาเยี่ยมผม ก็จะอยู่กับผมจนส่งผมเข้านอน แล้วนั่งรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการเดินทาง บางทีคุณแม่อยู่ดึกมากจนถึง 5 ทุ่ม เพราะผมไม่ยอมให้กลับบ้าน  

   เรียกว่าชีวิตตอนนั้น ทุกครั้งที่ผมนั่งรถเข้าโรงเรียน เหมือนเข้าคุกเลยทีเดียวครับ ผมก็จะหาทุกวิถีทางให้ถึงโรงเรียนช้าที่สุด เดี๋ยวปวดฉี่บ้าง เดี๋ยวหิวข้าวบ้าง เดี๋ยวแกล้งปวดท้องปวดหัวอยู่เสมอ แต่คุณแม่ของผมก็อยู่ส่งผมเข้านอนทุกครั้ง
   บางทีก็ส่งไปส่งมา  \เช่นคุณแม่ส่งผมเข้านอนแล้วผมแกล้งหลับตา พอรู้ว่าคุณม่กำลังจะกลับบ้าน ผมก็จะรีบวิ่งตามไปที่รถ แล้วคุณแม่ก็ต้องกลับมาส่งผมขึ้นนอนอีก แต่คุณแม่ผมก็ไม่เคยโมโหใส่สักครั้ง แถมหลายครั้งยังนอนกอดผมจนผมหลับไปจริงๆด้วย และซึ่งบางทีผมวิ่งตามแม่ไม่ทัน ผมก็จะรีบวิ่งขึ้นไปบนชั้น 3 ของโรงเรียน แล้วมองรถแม่ออกไปถึงเข้านอน !
 
   ส่วนคุณพ่อของผมเคยมารับผมแค่เพียงไม่กี่ครั้ง และทุกครั้งก็จะบอกผมว่า “ น้อง...( ชื่อผม ) สวัสดีน้า...ซิลูก” ผมก็ไหว้ทุกครั้ง  ซึ่งขอบอกว่า หน้าแทบไม่เคยซ้ากันเลย
 
  แต่จวนจบวันนี้ผมก็คิดเสมอว่า  6 ปีในโรงเรียนประจำ ผมได้อะไรเยอะมาก ผมเป็นเด็กอดทนครับ อดทนมาก และผมก็จะความคิดความอ่านโตกว่าเด็กทั่วไป ที่สำคัญผมความจำดีมาก เพราะผมโดนฝึกให้ท่องหนังสือทั้งก่อนนอนและก่อนเข้าเรียนในตอนเช้าทุกวัน....

จากคุณ : เก้าอี้สีเทา
เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 16:08:11




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com