ความคิดเห็นที่ 1 ความฝันของเราคือ อยากนอนหลับบนสนามหญ้า ตอนที่ฝนพึ่งตกเสร็จใหม่ๆ ตลอดคืน แต่แบบ.. เล็งดูแล้ว ไม่มีทางไหนจะทำได้นอกจากซื้อบ้านตัวเอง ก็เลยตั้งใจว่าจะซื้อบ้านก่อน30 เอามีสนามหญ้าเล็กๆ ทำสนามหญ้าให้สวย แล้วก็ไปนอน เอิ่ม.. คงเย็น หอมหญ้า หอมฝน แล้วตื่นมาเป็นหวัด ปอดบวม ซึ่งบ้ามาก จะเป็นไปได้อย่างไง แต่มันก็เป็นแรงบันดาลใจที่ดีในการเก็บเงิน ไม่ก็ได้นอนนะ แต่เป็นในหลุม 555 จากคุณ : หวานใจนายโหด เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 01:34:58

ความคิดเห็นที่ 2 ซื้อได้แล้วก่อน 30 แต่แล้วไง หนี้ก้อนโต อยู่ก็ไม่ค่อยได้อยู่ เก็บตังค์ไว้ดีกว่านะ จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 08:22:07 A:116.212.182.65 X: TicketID:305268

ความคิดเห็นที่ 3 เปลี่ยนบริษัทมาเยอะน่ะค่ะ 5 บริษัท  แต่ก็บรรลุเป้าหมายได้ตามที่วางไว้ ยินดีด้วยค่ะ แอบเข้ามาอ่าน แบบตาเป็นไฟนิดๆ  อิอิ จากคุณ : pikky (noppamart007) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 09:22:01

ความคิดเห็นที่ 4 ช่วงอายุ 21-25 เรียนจบใหม่ๆ ถึงตอนทำงานต้นๆ งานประจำตั้งแต่เรียน คือ "กุ๊ำก" โรงแรมห้าดาวครับ 1. ตั้งเป้าหมายแรกคือ ต้องได้บรรจุในโรงแรมห้าดาวเท่านั้น - ผล กว่าจะได้บรรจุ เลือดตาแทบกระเด็นครับ เรียนจบก็ช้า เพราะมัวแต่ทำงาน แถมเพื่อนๆก็ได้บรรจุงานโรงแรมไปหมดแล้ว แต่ผมใช้เวลาอีกตั้งเกือบ 2 ปี ถึงจะได้บรรจุ แต่ก็มีภาษีดีกว่าเพื่อนๆในรุ่นมาก เพราะเป็นโรงแรมที่ดีที่สุด 2. ตั้งเป้าหมายว่า อายุ 28 ต้องได้เป็น Demi Chef ในโรงแรมห้าดาวอีกเช่นกัน - ผล ผมทำได้ตั้งแต่อาุยุ 25 ครับ... ช่วงอายุ 25- 29 (ปัจจุบัน) 1. ต้องเป็น Chef de Partie ก่อนอายุ 30 และ ต้องได้เป็น Sous Chef ก่อนอายุ 35 - ผล อายุ 27 ปี ได้เป็น Chef de Partie อายุ 28 ได้เป็น Sous Chef ปัจจุบัน อายุ 29 ได้เป็น Senior Sous Chef ทุกอย่างเกินคาดหวังไว้เยอะครับ 2. อายุ 45 อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ต้องเป็นบ้านที่มีพื้นที่ในการขุดบ่อปลาคาร์พขนาดลึก 2 เมตรด้วย... 3. อันนี้พึ่งตั้งใจได้ไม่นานนี้เองครับ ตอนนี้ผู้หญิงคนนึง ที่ทำให้ผู้ชายอย่างผมได้เปลี่ยนแปลงไปเยอะครับ ถึงแม้ว่าเวลาของผมกับเธอผ่านมายังไม่ถึง 2 เดือน แต่ก็ทำให้ผมรุ้สึกอะไรมากมาย ผมตั้งใจว่าจะเก็บเงินไว้เพื่ออนาคต "ของเรา" ครับ ตั้งใจว่าไม่เกิน 2.5 ปี เพราะถึงเวลาของคุณเธอแล้วครับ(เธออายุมากกว่าผม) "หยุดๆ หยุดชีวิต หยุดกับคนนี้ แม้ว่าจะเจออะไรดีๆสักแค่ไหน" จากคุณ : เอเจ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 09:27:16

ความคิดเห็นที่ 5 ฝันของผมอยากย้ายออกมาอยู่เองคนเดียว อยากมีคอนโดซักห้องเป็นของตัวเอง และอยากได้เงินเดือน 30,000 ซึ่งตอนนี้ผม 30 เต็มพอดี ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างมีหมดแล้วครับ ตอนนี้ก็เลยใช้ชีวิตสบาย ๆ ไม่ต้องดิ้นรน จะเหลือก็แค่ผ่อนห้องไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมด ซึ่งก็คงไม่ต่ำกว่า 10 ปี กว่าจะหมด แต่โดยรวมถือว่าผมมีทุกอย่างที่อยากได้แล้วครับ จากคุณ : เนจิ แห่ง โคโนหะ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 09:28:05

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ค่อยฝันเท่าไหร่อ่ะค่ะเรื่อง งาน เรื่องเงินเดือน ตอนนี้อายุ 26 เงินเดือน 19,000 ก็พอกินพอใช้ มีรถกระป๋อง เก่าๆ 1 คัน ผ่อนเดือนละ 5 พันกว่าๆ เหลืออีก 22เดือน จะเป็นไทค่ะ หนี้อื่นไม่มี ไม่มีบัตรเครดิตอะไรทั้งสิ้น เงินเดือนที่เหลือ+โบนัสก็เก็บแล้วไปช่วยพ่อซื้อที่ดินเพิ่มเติมจากบ้านหลังเดิมที่มีอยู่ที่ราชบุรีทำงานมา 4 ปี ตอนนี้ซื้อที่ได้ 3 ไร่แล้ว ที่ต่างจังหวัดไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ เก็บตังค์ซื้อเงินสดได้ ไม่ต้องผ่อน ปีใหม่นี้จะซื้อเพิ่มอีกไร่ ทำโรงเห็ดเพาะเห็ดฟางกับเห็ดนางฟ้า ตอนนี้มี 4 โรงค่ะ มีรายได้เสริมนิดๆหน่อยให้พ่อเก็บให้พ่อขาย ช่วยพ่อหาตลาด กะจะไปเรียนปลูกฝักน้ำเพิ่มเพราะใช้พื้นที่ไม่เยอะมาก พอ 30 ก็จะออกจากงาน ไปขายเห็ด ปลูกผักขาย เลี้ยงไก่ขายไข่ ทำบ่อหลังบ้านเลี้ยงปลานิล หรือปลาช่อน แล้วคิดว่าจะซื้อเครื่องสีข้าว รับสีข้าวชาวนาแถวบ้านสักเครื่องถ้าพอจะมีตังค์เหลือ เบื่อชีวิตสาวออฟฟิศแล้วค่ะ กำลังจะเรียนจบ ป. โท รัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เดือนตุลาคมนี้ แต่ชอบชีวิตเกษตรกรมากกว่า จากคุณ : Bunny (Bunny_jaja) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 09:29:46

ความคิดเห็นที่ 7 อายุ 30 กว่าแล้ว  ผ่อนบ้าน ผ่อนรถหมดแล้ว  ลาออกมาทำกิจการของตัวเองเมื่อสองปีก่อน ตอนนี้เจ๊งไปแล้ว แต่ยังเหลืออีกก้อน กำลังหางานทำ ความฝันคือ จะหาเงินอีกก้อน แล้วเริ่มทำธุรกิจของตัวเองอีกครั้ง  คือบังเิอิญไปเคยเห็นตัวเลขกำไร และรายจ่ายส่วนเงินเดือนพนักงานขององค์กร เห็นแล้วมันเจ็บจี๊ด กำไรตั้งเยอะ แต่จ่ายพนักงานแค่เนี่ย  แต่ก็เข้าใจล่ะว่า ลงทุนมันก็ต้องได้กำไร แล้วได้มาจะเอาไปให้คนอื่นทำไม เก็บไว้ให้ลูกหลานดีกว่า   เพราะอย่างนั้นเราจึงต้องหาทางลงทุนเองไง จากคุณ : Galaxy Force เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 09:48:02

ความคิดเห็นที่ 8 มัณฑนากร 33 ปีอย่างผมตอนนี้เงินเดือน 25-35k มีjobพิเศษอีกบ้างบางจังหวะ........ค้นพบตัวเองได้มา 2 ปีมานี้ว่าที่สุดแล้วเราอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย นั่งเขียนรูปมีแกลลอรี่เล็กๆเป็นของตัวเองขายงานให้ฝรั่ง และเปิดสอนศิลปะให้เด็กไปในตัว มีเวลาว่างๆขี่มอเตอร์ไซด์เทียวรอบเมือง เช้า-เย็นรับส่งลูกไป รร. แล้วให้เมียขายกาแฟสดหน้าร้านเราเอง~............... กะว่ามีเงินเดือนใช้รวมกับเมียซัก 2 หมื่นไม่มีหนี้รัยมากมายก็สุขสุดๆแล้วสำหรับผม~ ขอเวลาไปตามฝันนี้อีกไม่เกิน 2 ปีครับ...ผมจะต้องเอาตัวเองออกไปจากกรุงเทพฯให้ได้ สุดท้ายจากนี้ไปขอใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดครับ~~ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 54 10:05:26 จากคุณ : คุณชาย ALONSO เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 10:04:11

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนนี้มีครบทุกอย่างแล้วค่ะ  บ้าน,รถ,แต่งงาน,ลูกหนึ่งคน(สามีอีกหนึ่ง)อุอุ,จบปริญญาโทและได้เงินเดือนตามที่หวังเอาไว้แล้ว แต่เป้าหมายตอนนี้ก็คือ จะต้องผ่อนบ้าน,รถ ที่มีอยู่ให้หมดให้ได้ภายในห้าปี ให้ได้ค่ะ ^ ^ จากคุณ : Redtape เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 10:07:51

ความคิดเห็นที่ 10 ส่วนเรา เดินตามทางที่พ่อแม่กำหนดไว้ทุกอย่าง ทำตัวดีมาโดยตลอด โดยไม่ได้อึดอัดใจอะไร เพราะเค้าลำบากเพื่อเรา ตอบแทนแค่นี้เรื่องเล็ก ตอนนี้ 32 แล้ว พ่อแม่ สร้างบ้าน ซื้อรถ ปลูกบ้านเช่าห้องแถว ไว้ให้กินยามแก่ ตอบแทนที่ลูก ๆ ตามใจ เราก็แค่เก็บเงินจากเงินเดือนอย่างเดียว ใช้บางส่วนเที่ยวในที่ที่อยากไป ทุก ๆ ปี แค่เก็บเงินตามเป้าหมายไว้ใช้ยามแก่ เที่ยวไทยได้เรื่อย ๆ เที่ยงเมืองนอกปีละ 2 ครั้ง จากคุณ : If not you who? เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 10:32:31

ความคิดเห็นที่ 11 อยากถาม คุณ เอเจ ค่ะ ( ถ้าได้เข้ามาอ่านอีกที) ชื่อ chef ทั้งหลายที่เขียนมาอ่ะค่ะ มีหน้าที่ทำอะไร ยังงัยบ้างค่ะ เอาเป้นความรุ้ค่ะ ขอบคุณนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนไปถึงฝั่งฝันเร็วๆค่ะ ของตัวเองยังไม่ได้เริ่มเลยค่ะ มัวแต่เรียนๆๆ เฮ้อ ไม่รุ้คิดถูกหรือผิดเนี่ย จากคุณ : เด็กงมงาย เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 10:44:51

ความคิดเห็นที่ 12 เฮ้ออออ  ออกจากพันทิป ทำงานต่อดีฝ่า จากคุณ : ไอ้หนุ่มลูกทุ่ง เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 10:51:40

ความคิดเห็นที่ 13 อายุเท่าเจ้าของกระทู้ เรียนจบได้ทุนไปเรียนต่อที่ประเทศแห่งหนึ่ง หนึ่งปี จบกลับมา ทำงานสายภาษาเงินเดือนสตาร์ด ที่ 22,000 ทำได้สักพักไม่ค่อยชอบเลยลาออก ไปทำอีกที่หนึ่งแต่ปรากฎ เหมือนหนีเสือปะจรเข้ ไม่ชอบหนักกว่าเลยทำไม่ถึงผ่านโปรก็ขอออก แล้วบริษัทต่อมาก็เลยขอไปที่ 32,000 ในขณะที่ตัวเองอายุ 23 ปี ทำได้งานประมาณสองปี เก็บเงินเดือนละหมื่นบวกกับโบนัส เลยตัดสินใจเอาเงินทั้งหมดไปเรียนที่ออสเตรเลีย โดยมามี้ให้ตัง สมทบมาสองหมื่นกลัวลูกสาวอดตาย รวมกับเงินตัวเอง 60,000 บาท พกไปตายเอาดาบหน้าที่ออสโดยไม่ขอที่บ้านเลย (เงินเก็บทั้งหมดจ่าย ค่าเรียนและค่าอื่นไปหมดแล้ว) อยู่ได้ประมาณปีหน่อยๆ วีซ่าหมดเลยกลับมาหางานทำเมื่อต้นปีที่แล้ว ตอนแรกได้อยู่เกือบสี่หมื่น (รวมโอที) แต่ทำได้แป้ปเดียวก็ลาออกอีกแล้ว เนื่องจากค้นพบว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า เพราะกลับมา เลิกกับแฟนและงานอยู่ต่างจังหวัดไกลเพื่อนกลับมา อยู่ห้องคนเดียว มีเงินเก็บเยอะ แต่ไม่มีความสุข วันศุกร์ต้องให้แม่ ขับรถกลับมารับทุกอาทิตย์ ฟุ้งซ่าานมาก งานก็กดดัน เพื่อนที่บริษัท ก็เข้าไม่ได้ สุดท้ายลาออก และมาทำงานที่ปัจจุบันเปลี่ยนแนวงานมาทำแบบอื่น เงินเดือนน้อยลงห้าหกพัน แต่มีความสุขขึ้นเยอะมาก และตอนนี้ซื้อคอนโดในย่านไม่กลางกรุงแต่เดินทาง สะดวก เป้าหมายของตัวเอง ตอนนี้สับสนยังไม่ค่อยมีจุดหมายเท่าไหร่ เพราะจริงๆเป็นคนที่ชอบทำตามใจตัวเองมากคือชอบเที่ยว ชอบไปดูชีวิตผู้คนเรื่องราว จึงอยากกลับไปต่างประเทศอีกครั้ง เรื่องเรียนโทคงยังไม่เพราะเจอคนรอบตัวที่เรียนโททั้งในประเทศ และต่างประเทศ บางคนตกงาน บางคนก็ยังทำตำแหน่งเดิมๆ รอสิ้นปีนี้ ถ้าเก็บเงินได้อีกก้อน จะนั่งถามตัวเองอีกครั้งว่าอยากทำอะไร ถ้าอยากไปต่างประเทศคงเก็บเงินแล้วไปอีกรอบ แต่ถ้าตัดสินใจว่าชีวิตนี้จะอยู่เมืองไทย คงทำงานประจำที่นี้ แล้วเอาเงินเก็บไปเริ่มทำธุรกิจ (ตอนนี้ก็มองๆไว้หลายอย่างที่เราพอทำได้) แล้วถ้าทำธุรกิจไปรอด ก็อยากเอาเงินไปเที่ยว(อีกละ) เลี้ยงดูแม่ ของเราออกจะไร้สาระนะคะ มีแต่เที่ยวๆ แต่เราก็ถามตัวเองหลายครั้งว่า เรามีความสุขกับการไปเที่ยว ถึงขนาดจะเบนเข็มไปทำงานไกด์หลายครั้ง แต่ก็ก็คิดว่าถ้าไปเริ้มตอนนี้น่าจะยากแล้ว เลยทำงานแบบนีไปแล้วหา โอกาสเที่ยวดีกว่า จริงๆถ้าตัวเองไม่ไปต่างประเทศอาจจะมีเงินเก็บหลายแสนแล้ว ณ ตอนนี แถมเพื่อนๆที่เมื่อก่อนเงินเดือนอาจสตาร์ดน้อยกว่า แต่เค้าก็ไต่ระดับขึ้นมาตอนนี้ เงินเดือนมากกว่าเราไปแล้วแถมตำแหน่ง ก็ดีกว่า แต่ก็ไม่เคยเสียใจเมื่อมองกลับหลังไป อาจยาวสักหน่อย แต่เป้าหมายเราที่เคยฝันไว้ ตอนเรียนหนังสือ ในการไปเรียนหรืออยู่ต่างประเทศเป็นปี นี้เป็นความฝันที่ไม่น่าเป็นไปได้ มากๆ แต่เรากลับทำมันได้ ด้วยตัวเราเอง ก็มาไกลเกินฝันสุดๆแล้วคะ จากคุณ : ManeKi^NeKo เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 13:15:41

ความคิดเห็นที่ 14 หนุกดีๆ มาแชร์ด้วยค่ะ เป้า: อายุ 25 ต้องได้มากกว่า 30k ผล: ได้มาแบบฟลุ๊คๆ ที่แรกเริ่มต้นที่ 14k ทำไปสองปีถึงได้ 24k จากนั้นย้ายบริษัท ได้ 40k แบบว่าฝรั่งที่เป็นหัวหน้าอยากได้เรามาทำงาน HR เลยขัดใจไม่ได้ โชคดีไป เป้า: อายุ 30 ต้องได้มากกว่า 50k ผล: พอได้เงินมาง่ายจากช่วงอายุเริ่มต้นทำงานจนถึง 25ปี ก็เลยโลภมาก พออายุ 27 ก็ได้ 50k ตามเป้า ความโลภเข้าครอบงำเลยเปิดบริษัทเอง จากนั้นชีวิตก็ขึ้นๆลงๆบ้าๆบอๆค่ะ บางเดือนได้เป็นล้าน บางเดือนเป็นศูนย์ ตอนนี้ว่างจัด เลยเรียนโท ถลุงบุญเก่า อีกปีหนึ่งถึงจะเรียนจบ ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ไม่ว่ายังไงจะไม่กลับไปใช้ชีวิตมนุษย์เงินเดือนอีก นอกเสียจากจะจำเป็นจริงๆ T_T  ช่วงนี้เลยทำทุกอย่างที่ขวางหน้า... จนสัปดาห์ที่แล้วค่ะ ได้เรียนรู้อย่างหนักเรื่องหนึ่งคือ งานและเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดค่ะ การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าต่างหาก  เราหลับในรถคว่ำค่ะ รถซ่อมสองเดือน คู่กรณีมาถามว่ามีของดีอะไร เพราะรถพังยับเยินค่ะ   วันที่เรารู้สึกตัว เราโทรไปหาแม่ ขอโทษแม่ที่เราไม่รู้จักพักผ่อน ขอโทษที่เราใช้ชีวิตแบบไม่รักตัวเองแบบนี้ สุดท้ายชีวิตก็ไม่มีอะไรนอกจากความตายและคนที่อยู่ข้างหลัง ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีสติค่ะ...มีสติก็มีสตังค์นะคะ :) จากคุณ : i - C a t เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 13:30:53

ความคิดเห็นที่ 15 เป้าหมายอายุ 30 ตือ มีรายได้ต่อเดือน เดือนละ 100k T_T จากคุณ : Nodz เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 13:33:44

ความคิดเห็นที่ 16 ฝันเล็กๆ ของคนเดี่ยวโดด - ตอนเรียน จบม.6 ขอให้ เอน สะท้าน ติด ขอให้ เัรียนจบ ผลลัพธ์ ติดเกษตร ทางด้าน บริหาร จัดการ  รั้ว นนทรี จบ ด้วย เเหะๆ  ฝันที่เป็นจริง - พอเีีรียน จบ ก็ พยายามหา งานทำ แต่ก็ยัง ค้น หา งาน ที่ ใจรัก ไม่มี สักอย่าง ผลลัพธ์ ทำงานที่ ป้า หาให้  แต่ 6 เดือน  ทำงาน แบบ กาหยอง กาเเหยง - ฝัน ว่า อยากไป ต่างประเืทศ ผลลัพธ์  อเมริกา มาเลเซีย  และ ปัจจุบัน สิงคโปร์ - ฝัน ว่า อยาก เรียนต่อ และ อยากมี งาน ทำ บ้าง( อายุ 24) จาปีนไป 25 เดือน 8 ของปีนี้ ผลลัพธ์ เรียน อนุปริญญา NUS   เรียนพิเศษ British council Napier Road. ส่วนงาน เริ่ม ทำ เอา จริง เอาจัง หลัง จาก ที่ ว่าง เสตทเม้น ----  5,0000 บาท ไทย เเต่ละ เ้ดืิอนใช้หมดเกลี้ยง - ฝัน ว่า ไม่อยากมีรถ ไม่อยากมีหนี้ ไปๆมาๆ ไปรับหนี้ มา ตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัย ผลลัพธ์  ได้ อิเเก่ มา คันนึง ซิตี้  เหลือหนี้ 1 แสน บวกกะ ค่าใช้หนี้ คู่ กรณี 5 หมื่น ทั้ง หมด มีหนี้ แสนห้า (ปีหนี้ หนี้หมด เตรียมจุดพลุ) - ฝัน ว่า อยาก รวย บ้างอะ ไร บ้าง ผลลัพธ์ ยังฝัน โคตรๆ อยู่ค่ะ  มีเงินติดตัว 2 พัน 55+ - ตอนนี้ อายุ จะ เข้า 25 ขวบ แล้ว คิดว่า อีก 3 ปี ข้างหน้า จะทำความฝันโดยการกู้เงิน 2 ล้าน บาม  มา ทำ ธุรกิจ  ส่วนตัว ค่ะ ผลที่มีตอนนี้  ยัง กาหยองกาเเหยง อยู่ เลย แต่ กำลังวาง business plan. ภายในปีหน้า คงจะเสร็จสมบูรณ์   - พ่อ ไม่สบาย อม่า ก็ ไม่ สบาย เงินทุนจึงไม่มี อิอิ ผลลัพธ์ ก็ ต้องให้เงิน ทั้ง 2 ท่าน ตลอด ไม่คิดอยากซื้อบ้าน ซื้อ รถ ใหม่ แล้ว ไม่อยากมีภาระ เพิ่ม ส่วนเรื่อง เรียน ปริญญาโท  กำลัง ตัดสินใจ เรียน ที่ พระจอม บาง มด สาขาโลจิสติกส์ ผล กำลัง หาข้อมูล หาเวลา คนไม่เกิน ภายใน 3 ปีนี้ เช่นกัน มอง อนาคต  ของตัว เองว่า ก่อน จะ 28 ปี บริบูรณ์ รากฐาน ธุรกิจ ส่วนตัว ของตัวเองจะต้อง ไปได้สวย ไม่ต้อง เลิศเลอ ขอแค่พอเพียง มีกิน พอละค่ะ เรา กำลังเป็น เสาหลัก ของครอบครัว จึงจำเป็นต้องสร้าง ฐาน ให้แข็งแรง คิดและเครียด แต่พยายามจะไม่ย่อท้อ  ถึงจะท้อแท้  ต้องมีสักวันที่เป็นวันของเรา แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 54 14:19:23 จากคุณ : ความสุขของคนโดดเดี่ยว เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 14:14:37

ความคิดเห็นที่ 17 1. ช่วงอายุ 20- 32 ฝันอยากได้เมียดีๆ ซักคน มีหลานให้แม่อุ้มอีกซักคน   ผล : โสด   จากคุณ : King Bamboo เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:10:51

ความคิดเห็นที่ 18 เป้าหมายตอนนี้ อยากทำบุญให้เยอะๆๆๆ ไม่ได้ตั้งเป้าว่าอยากได้โน่นได้นี่ แต่โอกาสดีๆๆๆ + เงิน ก็มาหาเราเอง ซะงั้น จากคุณ : สู้ด้วยบุญ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 16:09:11 A:124.121.59.224 X: TicketID:284772

ความคิดเห็นที่ 19 จะบอกว่าไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรมากมาย เห็นคนอื่นมีจุดหมายก็อยากดูบ้าง เผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้น เริ่มเป้าหมายตอนนี้ ก่อนอายุ 30ปี (ทำงานมา2ปีแล้ว) [1] เงินเดือน 30,000 บาท (อันนี้ท่าจะยากอยู่) [2] มีคอนโดเป็นของตัวเอง ไม่อยากมีรถ [3] เรียนจบ ป.โท (ตอนนี้เหลือ Thesis) [4] ชีวิตคู่อ่ะครับ (ถ้ามันหาได้อ่ะนะ) [5] ทำงานในบริษัทที่มั่งคง (กว่านี้) และจะอยู่นานๆ เลยครับ ว่าแล้วก็กลับไปทำฝันให้เป็นจริงก่อนดีกว่า จากคุณ : Mr.Quiet เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 09:50:33

ความคิดเห็นที่ 20 1. มีคอนโดของตัวเองตอนอายุ 25   สรุป: ซื้อได้ด้วยเงินสดตอนอายุ 25 ปี กับอีก 10 เดือน 2. มีเงินเก็บสองล้านบาทภายในอายุ 30   สถานะปัจจุบัน: กำลังลุ้นอยู่ปลายปีนี้ ปัจจุบันอายุ 29 กว่าๆ อีกหนึ่งแสนกว่าบาทจะครบตามเป้าหมาย   ยังไม่แน่ใจว่าจะเก็บได้ภายในปลายปีไหม เพราะเที่ยว ช้อป ค่าใช้จ่ายเยอะเหลือเกินปีนี้ ปรนเปรอตัวเองมากเกินไป 3. มีเงินเก็บ 10-12 ล้านบาท ในช่วงอายุ 40-45 ปี และเป็นอิสระทางการเงิน จากการบริหารเงินลงทุนเอง จะได้กลับไปใช้ชีวิตในเมืองไทยอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว ไปท่องเที่ยวตามใจอยาก เลิกเครียดเรื่องความมั่นคงในชีวิตซะที   สถานะปัจจุบัน: ยังคงอีกยาวไกลกว่าจะถึงเป้าหมาย จากคุณ : ชอบตื่นสาย (ชอบตื่นสาย) เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 14:29:13

ความคิดเห็นที่ 21 อยากให้ใจอิ่ม มีความพอให้ได้ัสักวันหนึ่งครับ จากคุณ : kikirara เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 20:59:10

ความคิดเห็นที่ 22 เป้าของพี่ดูยิ่งใหญ่มาก แต่เป้าของผมคือ หางานให้ได้ภายในเดือนหน้า เพิ่งจบใหม่ครับ เดือนหน้าก็จบเต็มตัวแล้ว ส่ง Thesis เรียบร้อย จากคุณ : Gusbell ครับผม เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 22:14:33

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบเป้าหมายแบบ จขกท จังครับ ดุไม่เวอร์จนเกินไป แล้วดูไม่น้อยจนน่าสงสัย ตอนนี้ ผม 26 แระ เป้าหมายแตกต่างไปคือ ผ่อนรถให้พ่อแม่ ส่วนเราใช้รถคันเก่าไป เงินเดือนตอนนี้ พอๆกับ จขกท ตอน 26 แหละครับ แต่ผมโชคดี ที่เรียนจบมาได้ เรียนจบวิศวะ เงินเลยดีกว่าสายอาชีพอื่นนิดหน่อย กว่าจะจบก็ อายุเกือบๆ 25 แล้ว ตอนเรียนมหาลัยขี้เกียดไปหน่อย อายุ 24 ยังนัวๆกับโปรเจคอยู่เลยครับ เรียนได้ F มั่ง ดรอปมั่ง ขอยึดแนวทาง จขกท ครับ จากคุณ : อ่ะนะ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 01:39:12 A:124.121.75.51 X: TicketID:307626

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่เคยมีเป้าหมายอะไรกับเค้าเลย ตั้งแต่สมัยเรียน คิดไม่เป็น คิดไม่ได้ ชอบเล่นมากกว่าเรียนอะ รู้สึกว่าเรียนแล้วมันน่าเบื่อ แต่ก็ถูไถจนจบมหาลัยได้นะ จบมาก็ไม่รู้จะทำงานอะไร เรียนเกี่ยวกับภาษามา เกรดก็ห่วย ดีว่าเป็นคนที่ชอบคิด แล้วก็เริ่มจริงจังกับชีวิต ถีบตัวเองจนได้มาเป็น ครีเอทีฟ โฆษณา อาชีพที่เคยใฝ่ฝันไว้ ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำงาน ในเอเจนซี่ชื่อดัง มีสาขาหลายประเทศแบบนี้มาก่อน วางเป้าหมายไว้ว่า อีก 10 ปี (ตอนนั้นเพิ่งเริ่มทำงานตอน 24 -_-') จะต้องมีเงินเดือนให้ถึง 100,000 ให้ได้ ไปถึงจุดนั้นได้ จะแต่งงาน มีครอบครัวซักที มาถึงครึ่งทาง ทำงานมา 6 ปี ออกจากที่เก่า ย้ายไปที่ใหม่ ได้เงินเดือน 50,000 ความฝันเริ่มจะเป็นจริงละ อีก 4 ปี ถ้าจริงจังมากกว่านี้อีกนิด เงินเดือน เดือนละแสน ไม่น่ายาก ทำงานที่ใหม่ไปได้ 4 เดือน หัวหน้ามาบอกว่า "ไม่ผ่านทดลองงาน 4 เดือน นะ" . . . มึนเลย เจือกมาบอกตอนกรูขับรถอยู่ด้วย แหม่ เข้าใจหาจังหวะบอก รู้งี้เสยเข้าตูดสิบล้อซะก็ดี 555 นั่งมึนกับชีวิตอยู่ อาทิตย์นึงได้มั้ง รถก็ยังผ่อนไม่หมด หนี้บัตรเครดิตก็เพียบ ตอนแรกก็ว่าจะไปเป็นครีเอทีฟโฆษณาที่อื่นต่อ แต่มีความรู้สึกอย่างนึงว่า ตอนที่เป็นครีเอทีฟโฆษณา ชอบนะ ชอบคิด ชอบคิดอะไรแปลกๆใหม่ๆ แต่ไม่ชอบเวลาที่ต้องเอาไอเดียไปคุยกับหัวหน้าเลยแฮะ หลายอย่างอะ ทั้งกดดัน ทั้งความคาดหวังจากหัวหน้า ก็เลยตัดสินใจ ไม่เอาละ ครีเอทีฟ ออกมาเปิดร้านอาหารดีกว่า ขอลองลุยกับธุรกิจที่อยากทำดูดีกว่า ความสามารถในการทำอาหาร ทำขนม ก็พอมีบ้าง ในขณะที่ยังมีแรง ขอลองลุยดูก่อนดีกว่า ทุ่มทั้งใจ ใส่ทั้งตัวจริงๆกับร้านอาหารเล็กๆร้านนี้ เดิมพันด้วยรถที่ยังผ่อนไม่หมด ถ้าร้านเจ๊ง ต้องขายรถใช้หนี้ แล้วก็คงต้องกลับไปเข้าลูปพนักงานออฟฟิศใหม่ ซึ่งผมคงไม่กลับเข้าไปแล้วอะ เบื่อแล้ว ลองใช้ประสบการณ์ในงานโฆษณา ทำร้านอาหารดู รอดหรือเปล่าไม่รู้ แต่คิดว่าน่าจะไปไหว เพราะวางแผนทุกอย่างค่อนข้างละเอียด รอบคอบ นอกจากช่าง ที่จ้างมาทำเคาเตอร์ครัว แม่ครัว ที่จ้างมาทำอาหารแล้ว ทุกอย่างในร้าน ผมทำเองหมดเลย ดีไซน์ ออกแบบทุกอย่าง เมนูอาหาร กิมมิค PR Plan ทุกๆๆอย่าง  Strategy Marketing คนเดียวหมด ตอนนี้ลงทุนไป 2แสนกว่าละ ไม่รู้กี่เดือนจะคืนทุน จริงๆคำนวณไว้แล้ว แต่ก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเอง บางวัน ถ้าวันไหนพักผ่อนน้อย นอนน้อย จะเริ่มนอย จะชอบคิดอยู่เรื่อยว่า ร้านมันจะมีคนเข้ามั้ยวะเนี่ย สิ่งที่เราคิด ที่เราทำอยู่ มันถูก มันใช่หรือเปล่าวะ นี่เราคิดเอง เออเอง ไปคนเดียวหรือเปล่าวะเนี่ย พอเริ่มท้อ ก็เลยหลับดีกว่า บางทีจะหลับ เจือกหลับไม่ลงอีก คิดมาก คิดวนไปวนมา กลัวเจ๊ง กลัวขายไม่ได้ กลัวๆๆๆไปหมด ต้องรอให้ร่างกายไม่ไหวจริงๆ ถึงจะหลับได้ แต่ตื่นมา ก็มีแรงละนะ เริ่มหยุดนอยได้ อาจจะไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้เท่าไหร่นะ พิมพ์มาซะยาวเลย ฮ่าๆๆ ปล. รูปข้างล่าง นี่คือห้องทำงานผมครับ อีก 2 อาทิตย์จะเปิดละ ^_^' จากคุณ : CHRONO 1981 เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 04:42:10

ความคิดเห็นที่ 25 จริงๆอยากแอบโฆษณาในกระทู้นี้เหมือนกันว่าร้านอยู่ไหน แต่ไม่บอกดีกว่า อาย เผื่อบางคนมาเห็น ผมชอบหลับในร้านด้วย เตียงผ้าใบสีขาวลายๆนั่นอะ ร้อยกว่าบาทซื้อจากโลตัส ที่ประจำเลย ทำร้านเหนื่อยๆ เพลียๆก็มาหลับซักชั่วโมง สองชั่วโมง คนเดินผ่านไปมา ก็เขินๆเหมือนกันนะ รอบร้านเป็นกระจกหมด แอร์ก็ยังไม่ได้ติด กะว่าให้ใกล้เปิดร้านแบบสุดๆๆก่อนค่อยซื้อแอร์ ว่าจะใช้บ้ตรเครดิตซื้อ ถ้ารีบซื้อตอนนี้ เดี๋ยวมันตัดยอด ให้มันไปตัดเดือนหน้านู่น ทนร้อนเอาหน่อย (แต่ไม่หน่อยเลยครับ คือช่วงเที่ยงถึง บ่าย 3 อยู่ในร้านเกิน 20 นาทีไม่ได้อะ มีพัดลม 2 ตัว ไม่ได้ช่วยเลย ร้อนมากกกกกกกกกกกก ร้านที่เช่า ก็ไม่ได้วางฉนวนกันร้อนให้ด้วย -_-' ร้อนแบบ เตาอบจริงๆนะ เคยแต่ทำงานห้องแอร์มาตลอด อยู่ออฟฟิศต้องใส่เสื้อกันหนาว) เวลาอยู่ที่ร้านนี่ ต้องถอดเสื้อแล้วใช้พัดลมเป่าอะ เขินคนแถวนั้นเหมือนกัน แต่เป็นคนขี้ร้อนมากๆ ก็เลยช่างมัน ถือซะว่าโชว์พุงไปละกัน 5555 ปล. ใครเดาถูกว่าร้านผมอยู่ที่ไหน ทันทีที่ร้านเปิด ผมให้บัตรทานอาหารฟรี 100.- เลยเอ้า ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : CHRONO 1981 เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 04:51:51

ความคิดเห็นที่ 26 การตั้งเป้าหมายในชีวิตเป็นสิ่งที่ดีนะครับทำให้เรามีความทะเยอทะยานมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็เหมือนกับเป็นการสนองตัณหาของตัวเองไม่มีที่สิ้นสุด ผมว่าหันมาดูแลพ่อแม่  ดูแลตัวเองกันมั่งครับ หาอะไรที่เรารักเราชอบ ใช้ชีวิตแบบมีสุนทรียภาพกันบ้างดีกว่าครับ ไม่ใช่เป็นเครื่องจักรหาเงินแล้วไม่มีความสุขในการใช้เเงิน จากคุณ : เอ (kanfire) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 09:19:29

ความคิดเห็นที่ 27 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 54 16:31:45 จากคุณ : อย่ามาแอ๊บแบ๊ว เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 09:49:13

ความคิดเห็นที่ 28 เปลี่ยนงานเยอะจังครับ จากคุณ : เขียนบน iPhone (bushino) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 09:56:51

ความคิดเห็นที่ 29 เริ่มต้น ที่หมื่นกว่าๆ ตอนนี้ก็หมื่นกว่า ๆ แต่ได้ รถ 1 คัน + ที่ดิน อีก 1 แล้วให้แฟน ไปทำธุรกิจ เกือบ ๆ 3 แสน ร้านต้นไม้บวกกระถางปูนเปลือยนะค่ะ ตอนนี้เงินหมด บ่ จี้ละแต่ก็จะเก็บใหม่ เริ่มต้นใหม่ ..เครื่องสำอางกับเสื้อผ้าไม่ค่อยได้ซื้อ แต่เรื่องรับประทาน ขอของอร่อยนิ๊ดนึง ทำงานบริษัท มีชุดแบบฟอร์ม เหมือนชุดนางพยาบาลเลย ชุดขาวกันทั้งโรงงาน... เลยไม่เปลืองเสื้อผ้าที่ต้องใส่ค่ะ ยกเว้นเสื้อผ้าใส่ไปเที่ยวนาน ๆ ซื้อที จุดหมายต่อไปคือ เก็บตังค์ ปลูกบ้าน น่ะจ๊ะ จากคุณ : <<< พบไม้งามเมื่อขวานบิ่น >>> เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 10:12:43

ความคิดเห็นที่ 30 ชีวิตไม่หวือหวาครับ, ผมทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยตามอาชีพ อายุ 23 ปี เงินเดือน 20000-30000 บาท/เดือน (งานรัฐบาล) ก็ใช้เงินเดือนละ 10000 บาท แต่ไม่ได้ซื้อรถหรือบ้าน เพราะ ยังพักอยู่กับครอบครัวที่ต่างจังหวัด อายุ 27 ปี เงินเดือน 30000-50000 บาท/เดือน (รัฐบาลอีกเหมือนเดิม ^^) ใช้เงินเพิ่มอีกหน่อย 15000-20000 บาท/เดือน เพราะอยู่กรุงเทพฯ, ก็ยังไม่ซื้อรถ หรือบ้านเหมือนเดิม เพราะขี้เกียจเป็นหนี้ ปัจจุบัน อายุ 30 ปี เงินเดือน 300000-600000 บาท/เดือน (คราวนี้ทำงานเอกชนแล้วครับ lol, ทำงานมาได้ 2 ปี ครับ), ซื้อ คอนโดฯ มา 1 ห้องกลางเมือง ราคา 7 ล้านกว่าๆ (ซื้อบ้านจะดีกว่าไหมเนี่ย -_-, แต่ก็ตามประสาคนโสดไม่มีภาระ ล่ะครับ ^^) แต่ก็ยังไม่มีรถเหมือนเดิม เพราะขี้เกียจดูแล , มีเงินเก็บก็ช่วยพ่อแม่ผ่อนบ้านด้วย, ผ่อนคอนโดฯ ตัวเองด้วย คิดว่า 2-3 ปีก็คงหมด เพราะ ก็ยังใช้เงิน 15000-20000 บาท/เดือน เหมือนเดิม, ที่เหลือเก็บหมด -_- ; จากประสบการณ์ส่วนตัว ตั้งแต่เรียนและทำงานมานะครับ ในการที่จะประสพความสำเร็จนั้น เริ่มจาก 1. มีความกล้า และท้าทาย ความสามารถตัวเองอยู่เสมอ :- สาขาที่ผมเรียนเป็นสาขาที่ผมไม่ถนัด แต่ผมบอกตัวเองว่า ถ้าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้, ส่วนช่วงสัมภาษณ์งาน ที่ทำงานต้องการคนมีประสบการณ์ 5 ปี ขึ้นไป แต่ผมก็ยังลองไปสัมภาษณ์ เนื่องจากผมคิดว่าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเรามีความรู้ ความสามารถ และความมั่นใจ ก็ควรมีความกล้าที่จะท้าทายความสามารถดู ^^ , ทำให้ผมได้งานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน 2. ท้อได้แต่อย่าถอย :- มีหลายครั้งที่ผมท้อ ในช่วงที่เรียน เนื่องจากผมเลือกเรียนในสาขาที่ผมไม่ถนัด จึงต้องพยายาม มากกว่าคนอื่น, แต่ช่วงที่ผมรู้สึกท้อ ผมจะถามตัวเองทุกครั้งว่าทำดีที่สุดหรือยัง ถ้ายัง คุณไมม่มีสิทธิ์ท้อ เพราะคุณจะหยุดสู้ได้ต่อเมื่อคุณทำเต็มที่แล้ว และไม่สามารถทำให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ได้ 3. มีความรับผิดชอบ :- ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ในการทำงาน เพราะการที่จะทำให้ผลงานออกมาดี คุณต้องมีความรับผิดชอบ และ เคารพในเนื่องานที่ตัวเองทำอยู่ 4. พัฒนาศักยภาพเมื่อมีโอกาส :- งานทุกงานย่อมมีการแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะเอกชน ดังนั้นนอกจากคุณทำงานในหน้าที่แล้ว ถ้ามีโอกาสคุณต้องสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ และพัฒนาศักยภาพตัวเองอยู่เสมอ 5. สุดท้ายก็...ปล่อยวาง ^^ :- เรื่องนี้ก็สำคัญครับ เพราะอย่าลืมว่าโลกไม่ได้หมุนรอบตัวคุณ บางครั้งคุณก็ต้องปล่อยตัวไปตามกระแส (ยกเว้นว่าถ้าคุณแกร่งพอ คุณก็อาจปรับกระแสได้ แต่แนะนำให้อยู่หลังฉากครับ ^-^) เพราะถ้าเมื่อไหร่ คุณหวังแล้วไม่ได้ตามที่หวัง ถ้าคุณไม่รู้จักปล่อยวาง และปรับตัวจะทำให้คุณไม่มีความสุขกับงานที่ทำ และถ้าทำงานแล้วไม่มีความสุข คุณก็ไม่มีทางทำงานให้ดีได้หรอกครับ -_- PS. ปัจจุบันนี้ หลังจากทำงานเต็มตัวเข้าปีที่ 2 ก็ยังไม่มีจุดหมายแน่นอนครับ อาจจะเรียนต่ออีก ถ้ามีโอกาส, แล้วก็พยายามหลบหลีก พ่อ แม่ที่พยายามจะจับแต่งงานให้ได้เพราะ อยากอุ้มหลานครับ (เนื่องจากเป็นลูกชายคนโต T^T), แต่ผมขอเป็นพ่อพวงมาลัยไปก่อนอีกซัก 4-5 ปีนะครับ ^_^ ; เกือบลืม ในกรณีที่เป็นชายโสดอย่างผม(+หน้าตาดีเล็กน้อย อิอิ ^^) การวางตัวในที่ทำงานก็สำคัญครับ เพราะถ้ามีปัญหาเรื่องผู้หญิงเข้ามา รับประกันว่าคุณจะปวดหัวได้ไม่รู้จบเลย (ผู้หญิงเดี๋ยวนี้บางคนไม่ต้องรอผู้ชายเริ่มครับ แต่รับประกันว่าชีวิตจริง คุณอาจเจอคนทอดสะพานคอนกรีตเสริมใยเหล็ก ชนิด drama ในละครชิดซ้ายเลยครับ -_-) ยอมรับว่าเป็นปัญหาที่ผมแก้ไม่ตกจนถึงทุกวันนี้ เพราะไม่ว่าทำงานที่ไหน วางตัวยังไง ก็มีเรื่องผู้หญิงเข้ามาให้ผมปวดหัวได้ตลอด ถ้าใครมีคำแนะนำดีๆ รบกวนแนะนำผมทีก็จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ T^T จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (ณ ปัจจุยัน ^^) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 10:25:00 A:203.150.206.90 X: TicketID:315462

ความคิดเห็นที่ 31 ชีวิตไม่หวือหวาครับ, ผมทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยตามอาชีพ อายุ 23 ปี เงินเดือน 20000-30000 บาท/เดือน (งานรัฐบาล) ก็ใช้เงินเดือนละ 10000 บาท แต่ไม่ได้ซื้อรถหรือบ้าน เพราะ ยังพักอยู่กับครอบครัวที่ต่างจังหวัด อายุ 27 ปี เงินเดือน 30000-50000 บาท/เดือน (รัฐบาลอีกเหมือนเดิม ^^) ใช้เงินเพิ่มอีกหน่อย 15000-20000 บาท/เดือน เพราะอยู่กรุงเทพฯ, ก็ยังไม่ซื้อรถ หรือบ้านเหมือนเดิม เพราะขี้เกียจเป็นหนี้ ปัจจุบัน อายุ 30 ปี เงินเดือน 300000-600000 บาท/เดือน (คราวนี้ทำงานเอกชนแล้วครับ lol, ทำงานมาได้ 2 ปี ครับ), ซื้อ คอนโดฯ มา 1 ห้องกลางเมือง ราคา 7 ล้านกว่าๆ (ซื้อบ้านจะดีกว่าไหมเนี่ย -_-, แต่ก็ตามประสาคนโสดไม่มีภาระ ล่ะครับ ^^) แต่ก็ยังไม่มีรถเหมือนเดิม เพราะขี้เกียจดูแล , มีเงินเก็บก็ช่วยพ่อแม่ผ่อนบ้านด้วย, ผ่อนคอนโดฯ ตัวเองด้วย คิดว่า 2-3 ปีก็คงหมด เพราะ ก็ยังใช้เงิน 15000-20000 บาท/เดือน เหมือนเดิม, ที่เหลือเก็บหมด -_- ; จากประสบการณ์ส่วนตัว ตั้งแต่เรียนและทำงานมานะครับ ในการที่จะประสพความสำเร็จนั้น เริ่มจาก 1. มีความกล้า และท้าทาย ความสามารถตัวเองอยู่เสมอ :- สาขาที่ผมเรียนเป็นสาขาที่ผมไม่ถนัด แต่ผมบอกตัวเองว่า ถ้าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้, ส่วนช่วงสัมภาษณ์งาน ที่ทำงานต้องการคนมีประสบการณ์ 5 ปี ขึ้นไป แต่ผมก็ยังลองไปสัมภาษณ์ เนื่องจากผมคิดว่าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเรามีความรู้ ความสามารถ และความมั่นใจ ก็ควรมีความกล้าที่จะท้าทายความสามารถดู ^^ , ทำให้ผมได้งานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน 2. ท้อได้แต่อย่าถอย :- มีหลายครั้งที่ผมท้อ ในช่วงที่เรียน เนื่องจากผมเลือกเรียนในสาขาที่ผมไม่ถนัด จึงต้องพยายาม มากกว่าคนอื่น, แต่ช่วงที่ผมรู้สึกท้อ ผมจะถามตัวเองทุกครั้งว่าทำดีที่สุดหรือยัง ถ้ายัง คุณไมม่มีสิทธิ์ท้อ เพราะคุณจะหยุดสู้ได้ต่อเมื่อคุณทำเต็มที่แล้ว และไม่สามารถทำให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ได้ 3. มีความรับผิดชอบ :- ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ในการทำงาน เพราะการที่จะทำให้ผลงานออกมาดี คุณต้องมีความรับผิดชอบ และ เคารพในเนื่องานที่ตัวเองทำอยู่ 4. พัฒนาศักยภาพเมื่อมีโอกาส :- งานทุกงานย่อมมีการแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะเอกชน ดังนั้นนอกจากคุณทำงานในหน้าที่แล้ว ถ้ามีโอกาสคุณต้องสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ และพัฒนาศักยภาพตัวเองอยู่เสมอ 5. สุดท้ายก็...ปล่อยวาง ^^ :- เรื่องนี้ก็สำคัญครับ เพราะอย่าลืมว่าโลกไม่ได้หมุนรอบตัวคุณ บางครั้งคุณก็ต้องปล่อยตัวไปตามกระแส (ยกเว้นว่าถ้าคุณแกร่งพอ ก็อาจใช้กลยุธ ปรับกระแสได้ แต่แนะนำว่าควรทำหลังฉากครับ ^_^) เพราะถ้าเมื่อไหร่ คุณหวังแล้วไม่ได้ตามที่หวัง ถ้าคุณไม่รู้จักปล่อยวาง และปรับตัวจะทำให้คุณไม่มีความสุขกับงานที่ทำ และถ้าทำงานแล้วไม่มีความสุข คุณก็ไม่มีทางทำงานให้ดีได้หรอกครับ -_- PS. ปัจจุบันนี้ หลังจากทำงานเต็มตัวเข้าปีที่ 2 ก็ยังไม่มีจุดหมายแน่นอนครับ อาจจะเรียนต่ออีก ถ้ามีโอกาส, แล้วก็พยายามหลบหลีก พ่อ แม่ที่พยายามจะจับแต่งงานให้ได้เพราะ อยากอุ้มหลานครับ (เนื่องจากเป็นลูกชายคนโต T^T), แต่ผมขอเป็นพ่อพวงมาลัยไปก่อนอีกซัก 4-5 ปีนะครับ ^_^ ; เกือบลืม ในกรณีที่เป็นชายโสดอย่างผม(+หน้าตาดีเล็กน้อย อิอิ ^^) การวางตัวในที่ทำงานก็สำคัญครับ เพราะถ้ามีปัญหาเรื่องผู้หญิงเข้ามา รับประกันว่าคุณจะปวดหัวได้ไม่รู้จบเลย (ผู้หญิงเดี๋ยวนี้บางคนไม่ต้องรอผู้ชายเริ่มครับ แต่รับประกันว่าชีวิตจริง คุณอาจเจอคนทอดสะพานคอนกรีตเสริมใยเหล็ก ชนิด drama ในละครชิดซ้ายเลยครับ -_-) ยอมรับว่าเป็นปัญหาที่ผมแก้ไม่ตกจนถึงทุกวันนี้ เพราะไม่ว่าทำงานที่ไหน ก็มีผู้หญิงเข้า มาให้ผมปวดหัวได้ตลอด ถ้าใครมีคำแนะนำดีๆ รบกวนแนะนำผมทีก็จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ T^T จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (ณ ปัจจุบัน) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 10:27:29 A:203.150.206.90 X: TicketID:315462

ความคิดเห็นที่ 32 ผมเลยมาเยอะแล้ว ครับ ผมอยากจะไปตั้งต้นชีวิต ใหม่ที่ CANADA ครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 10:52:02

ความคิดเห็นที่ 33 อายุใกล้จะสามสิบแล้วครับ แต่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรเลย ไม่อยากจะคิดน่ะครับ ^^ จากคุณ : ตี๋ หมี่เกี๊ยว เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 12:46:17

ความคิดเห็นที่ 34 26  ยังไม่ถึง 15000 เลย ไมได้กันเยอะแท้ๆๆ จากคุณ : คห.1บอกรักฉันที เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 14:46:14

ความคิดเห็นที่ 35 คห.ที่ 31  บอกผู้หญิงไปว่าผมเป็นเกย์ เป็นหมันไรงี้ ได้ไหมคะ จากคุณ : If not you who? เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 15:23:28

ความคิดเห็นที่ 36 ; ขอบอกเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมของตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครับ (ต่อยอดจาก คห.ที่ 30) , ขอท้าวความตั้งแต่สมัยเรียนนะครับ เนื่องจากผมเป็นคนหน้าตาดีพอสมควร ตอนเรียนมหาลัย ก็มีน้องๆ ตั้งแฟนคลับให้ แต่ผมก็ไม่สนใจ ใครดีกับผม ผมก็ดีด้วย แต่ผมดีกับทุกคนเท่าๆ กัน ไม่ได้ให้ความสนใจใครเป็นพิเศษ , แต่หลายๆ ครั้ง (เกือบทุกครั้ง) เวลาที่ผมสนิทกับรุ่นน้อง หรือเพื่อนผู้หญิงคนไหน ทุกคนที่ผมสนิทด้วย หรือคุยเล่นๆ แบบเป็นกันเองด้วย จะคิดกับผมมากกว่าคำว่ารุ่นพี่ หรือเพื่อนทุกครั้ง ขนาดผมเคยพูดให้รุ่นน้องผู้หญิงฟังขำๆ ว่าใครสนิทกับผมแล้ว จะคิดกับผมเกินกว่าคำว่าเพื่อนทุกครั้ง สุดท้ายรุ่นน้องคนที่ว่า ก็ยังคิดกับผมเกินคำว่าเพื่อนอีก และยังแซวผมที่เล่นทีจริงว่า ถ้าผมจะแต่งงานต้องรอให้เขาหาแฟนให้ได้ และแต่งไปก่อนผมถึงแต่งได้ (ตอนนี้เขาก็แต่งไปแล้วครับ ^^) ทำเอาในปัจจุบันนี้ ผมยังต้องวางตัวห่างๆ และทำตัวเป็นคนนิ่งๆ ไม่คุย หรือหยอกล้อกับลูกน้องผู้หญิง หรือเพื่อนหญิงคนอื่นๆ ที่อายุใกล้ๆ กันในที่ทำงานเลย -_-, จนมีหลายๆ คนบอกว่าผมดูเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง, แต่ถึงขนาดนี้แล้ว ก็ยังมีผู้หญิงเริ่มรุกผมก่อนเป็นช่วงๆ -_- ; จนผมทำงานที่ปัจจุบัน มีรุ่นพี่ผู้หญิงเพื่อนร่วมงาน ก็มีครอบครัวแล้วนะครับ มาคุยกับผม (เนื่องจากเพื่อนรุ่นผมคนนึง เคยทำงานกับเขามาก่อน) ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่กล้าตีซี้กับผมมาก เพราะที่ทำงานผมจะวางบุคลิกค่อนข้างนิ่ง และจริงจังเวลาทำงาน, ด้วยนิสัยผมถ้าใครคุย หรือขอคำปรึกษา ผมจะไม่ค่อยปฏิเสธ ถ้าใครดี ผมก็ดีด้วย, เค้าก็มาขอคำปรึกษาแล้วก็เล่าเรื่องปัญหาครอบครัว ผมก็ให้คำแนะนำ และแก้ไขไปตามสมควร แต่ถ้าเค้าชวนไปเที่ยว ถ้าไม่ไปกันหลายๆ คน ผมก็ไม่ไป เพราะคิดว่ามันอาจมีปัญหาตามหลังได้, เค้าก็ย้ำเสมอว่า เค้าไม่คิดอะไรเกินเลย แต่ผมมองมุมที่ว่าบางครั้งเราก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย เพราะคนในสังคมหลายๆ คนเขาไม่ได้คิดเหมือนกันหมด , จนวันหนึ่งก็เกิดเรื่องจนได้ เพราะมีลูกน้องผมที่เป็นสาวโสดพูดจาค่อนข้างแรงใส่รุ่นพี่คนนี้ ตอนที่คุยกับผม, โดยส่วนตัว ผมก็คิดว่าเขาใช้คำพูดไม่เหมาะสม แต่ผมไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่, แต่หลังจากนั้น เรื่องไม่จบ เพราะรุ่นพี่คนนี้ไปเถียงกับลูกน้องผมอีกทีหลังเนื่องจากโกรธ กิริยาที่ลูกน้องผมพูด แล้วรุ่นพี่ก็เอาเรื่องที่ทะเลาะกับลูกน้องผมไปเล่าให้แฟนของเค้าฟัง เรื่องเลยไปถึงฝ่่ายบุคคล ก็เป็นเรื่องเป็นราวกันไป , แล้วรุ่นพี่ก็มาบอกผมว่า ลูกน้องผมต้องคิดกับผมมากกว่าเจ้านาย กับลูกน้องแน่ ผมต้องระวังการวางตัวด้วย -_-, ผมก็ไม่ได้เถียงอะไร แต่ก็บอกไปว่าแค่นี้ ไอ้บุคลิกที่ทำอยู่ที่ทำงาน พวกเด็กๆ ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาพูดเล่นหัวด้วยแล้ว แค่ผมมองดุๆ หน่อย เขาก็จะวิ่งหนีผมกันหมดแล้ว, แต่ผมก็บอกเขาไปตรงๆ ว่าผมก็ยังต้องสนิท และพูดคุยกับลูกน้องทุกคนเหมือนๆ เดิม เพราะยังต้องสร้าง bonding ในการทำงานด้วย ; สุดท้ายจากเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ก็เล่นเอาผมงงๆ ว่าตูก็อยู่ของตูดีๆ ดันมีคนทะเลาะกัน แล้วเอาผมไปเป็นชนวนอีก, ขนาดพยายามป้องกันเต็มที่แล้ว ก็ยังเกิดเรื่อง แต่ก็ทำใจครับ เพราะเคยเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องปวดหัวจากเรื่องผู้หญิงมาหลายรอบแล้ว T^T PS. แต่ตลอดการทำงานที่ผ่านมาผมไม่เคยถูกว่า หรือถูกตำหนิเรื่องความสัมพันธ์เรื่องชายหญิงในที่ทำงาน หรือเคยเสียประวัติด้านนี้มาก่อนนะครับ จะมีก็แต่เรื่องปวดหัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ; ผมเลยอยากขอความเห็นครับ :- 1. ผมยังควรคุยกับรุ่นพี่เหมือนเดิมมั้ยครับ หรือควรวางระยะห่างมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้อีกในอนาคต ? 2. การให้ลูกน้องโทรศัพท์ ปรึกษาเรื่องงาน นอกเวลางาน เป็นการให้ความสนิทสนมเกินควรกับลูกน้องมั้ยครับ ? (รุ่นพี่ comment ว่า ถ้าเราคุยกับลูกน้อง นอกเวลางาน จะทำให้เขาคิดเกินกว่าเพื่อนร่วมงานได้; แต่ผมขอยืนยันว่าผมคุยเฉพาะเรื่องงานที่จำเป็น และถ้าไม่เร่งด่วน ผมก็จะบอกตรงๆ รอคุยในเวลางาน หรือในที่ประชุมครับ) 3. การวางตัวในที่ทำงานขนาดไหนที่เรียกว่าใกล้ชิดเกินไป หรือขนาดไหนที่เรียกว่าทำตัวห่างเหินเกินไปครับ ? (ถ้ายกตัวอย่างให้ได้จะเป็นพระคุณมากครับ ^^) จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (ณ ปัจจุบัน) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 15:43:14 A:58.8.26.205 X: TicketID:315462

ความคิดเห็นที่ 37 เราไม่มีเป้าหมายทางโลกล่ะ ไม่ชอบวางแผนระยะยาว เพราะอนาคตมันไม่แน่นอนจริง ๆ ไม่ค่อยอยากได้อยากมีเหมือนคนอื่น ใครจะว่าไงก็ช่างล่ะ ไม่สน ทำแค่ปัจจุบันให้ดี แค่นี้เรารูสึกพอใจแล้ว ตอนนี้ก็รู้สึกเบาดี แม้ไม่ร่ำรวย ไม่ได้มีของแพง ๆ รถอะไรก็ไม่มี แต่เราพอใจกับมันดี ขึ้นรถเมล์ แท็กซี่ รถไฟฟ้า ได้ออกกำลังกายดี ที่สำคัญได้เรียนธรรมะของพระพุทธเจ้า อันนี้พอใจที่สุดแล้ว ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายอีกแล้ว แบบว่ามันอิ่มไง จากคุณ : N'Wan เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 20:59:06

ความคิดเห็นที่ 38 อิฉันไม่เคยมีเป้าหมายอะไรใด ๆ ในชีวิตเลย.. ทุกอย่างเป็นไปตามจังหวะชีวิต เลือก + ทำสิ่งที่ดีที่สุดในขณะนั้น คว้าโอกาสตามที่จังหวะชีวิตส่งมา.. เจ้านายดึง น้อง ๆ ดัน.. มาจนขึ้นไปเรื่อย ๆ  เรื่อย ๆ เรื่อย ๆ ... อิฉันแค่อยากอยู่อย่างมีความสุข ไม่ต้องแก่งแย่งแข่งขันกับใครเท่านั้นเอง.. จากคุณ : คนดีผีคุ้ม เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 23:24:37

ความคิดเห็นที่ 39 ถึงคุณ หนุ่มเมืองกรุง (ณ ปัจจุบัน)  ... ก็หาแฟนเป็นตัวเป็นตนสักคน หาผู้หญิงดีๆ นิสัยดีๆ แล้วก็แต่งงานซะ พวกผู้หญิงที่มาเกาะแกะคงหายไปเอง...มั้ง จากคุณ : ชินน่ามอนดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 00:27:25

ความคิดเห็นที่ 40 ตอนจบใหม่ๆ อยากรวยก่อน30 ตอนนี้28 รายได้ต่อเืดือนเกือบแสนแล้วครับ มาไกลมาก มีรถ มีบ้านของตัวเอง  ตอนนี้เป็นทุกข์มากเพราะอยากเปลี่ยนรถ(อีกแล้ว) ความไฝ่ฝันคืออยากรู้จักคำว่าพอครับ จากคุณ : Yoojang เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 00:29:33

ความคิดเห็นที่ 41 - ปีหน้า เรียนให้จบ - ผ่อนรถให้หมด ภายใน 3 ปี - มีเงินเก็บ 1 ล้านก่อน 25 (ตอนแรก 30 ตอนนี้ขอลดลงมาหน่อย ทำไม่ได้ก็เพิ่มไปตามเดิม ฮาาา) - ทำธุรกิจส่วนตัวให้สำเร็จก่อน 30 - อายุ 30-40 มีเงินมาทำบ้านใหม่ (บ้าน 2 หลังติด อยากเอารวมกัน) - พัฒนาจากเพื่อนเป็นแฟน จากแฟนเป็นคู่ชีวิต (อันนี้ลำบากที่สุดแล้ว) จากคุณ : kisschup เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 00:47:05

ความคิดเห็นที่ 42 เพิ่งจบใหม่เงินเดือน 2x,000 บาท ตั้งเป้าไว้ว่า ทำงานสัก 1-2 ปี เรียนต่อ ป.โท เมืองนอก สัก 1 ปี จากนั้นพยายามทำเงินเดือนให้มากกว่า 5x,000 บาท ก่อนอายุ 30 มีธุรกิจส่วนตัวก่อน 35 โดยที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 70,000 บาท/เดือน จากคุณ : ชื่อนี้ไม่มีคนรู้จัก เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 01:10:58

ความคิดเห็นที่ 43 ขอตัวเองมีความสุข และก็ได้ทำเพื่อคนอื่นบ้าง นอกนั้น ช่างมัน ชีวิตมีไวใช้ ขอใช้ให้คุ้มเหอะ นั่งหาเงินงกๆ โดยไม่มีความสุข เสียชาติเกิด จากคุณ : กระต่ายสีส้ม เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 01:14:34

ความคิดเห็นที่ 44 คห 36  ลองไปเสริมกราม  ตัดดั่ง   รับลองไม่มีปัญหาอย่างนี้อีกแน่นอนค่ะ (เขาล้อเล่นนะ)  ^_^ ตอนนี้จบใหม่  เงินเดือน 12000   อยากได้  20000  อีกสามปีข้างหน้า ส่วนเป้าหมายสูงสุด คือ  มีเงินเก็บพอที่จะส่งน้องเรียนจบปริญญาตรี มีเงินส่งแบ่งเบาภาระพ่อ  แม่  ได้บ้าง จากคุณ : benz_sopis เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 03:13:16

ความคิดเห็นที่ 45 ตอนนี้อายุ 31 ครับ เพิ่งทำงานประมาณปีครึ่งครับ และเพิ่งเรียนจบเมื่อสองสามวันที่แล้ว.. เอามาปรับวุฒิคงจะได้เงินราว ๆ สองหมื่นนิด ๆ (จนแฮะ) เป้าหมายคือเป็นศาสตราจารย์ครับ   รอดูสักสิบปี จากคุณ : Fredericko เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 07:49:37

ความคิดเห็นที่ 46 เป้าหมาย คือ มีรายได้เกิน 50k ก่อนอายุ 30 นี่ก็ใกล้ 30 แล้ว ยังไม่ถึง 20k เลย เซ็งเป็ด 555+ สู้กันต่อไป จากคุณ : Orc_cOcOa เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 09:39:34

ความคิดเห็นที่ 47 เป้าหมาย retirement ตอนอายุ 50 มีเงินเก็บพอประมาณ กลับไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัดอย่างสบายใจ ปัจจุบัน 30 นิดหน่อย ตั้งใจจะทำงานไปเรื่อย ๆ กับเที่ยวรอบโลกไปเรื่อย ๆ ทุก ๆ ปี แล้วก็ทำ SEO ประกอบงานประจำไปเรื่อย ๆ ค่ะ จากคุณ : onearth เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 13:32:59

ความคิดเห็นที่ 48 เรามันก็ใกล้จะสามสิบแล้วและจึงตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำหลังจากทนเพียรพยายามทำอยู่ห้าปี แล้วมันมองไม่เห็นอนาคต ความฝันเรามันก็เล็กๆเอง แค่อยากทำธุรกิจเลี้ยงครอบครัว มีชีวิตอย่างสงบในบ้านสวน เราไม่เคยอยากได้บ้านหลังใหญ่ รถราคาแพง เงินนอนอยู่ในแบงค์เป็นล้านๆ ตอนนี้เรากำลังเริ่มสานฝันตัวเองอยู่และหวังว่าอีกไม่นานเราคงจะทำได้ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 14:27:20

ความคิดเห็นที่ 49 เคยฝันว่า จะเกษียณตัวเอง ตอนอายุ 30 เมื่อเวลาผ่านไป โตขึ้น ทำให้พบว่า ฝันนั้นจะทำให้ชีวิตหมดความหมายเมื่อ 30(เพราะไม่ต้องทำอะไร หายใจทิ้งไปวันๆซึ่งส่วนตัวแล้วไม่ชอบเลย) ก็เลยเปล่ยนเป้าหมายใหม่ เป็นแบบเลื่อนลอย ไม่ชัดเจน ก็คือ ทำงานเก็บเงิน เก็บไปเถอะ บ้าน รถ ไม่คิด เพราะว่านั่งรถเมลได้ บ้านอยู่กับพ่อแม่ก็ได้ เก็บเงินสำรองไว้ใช้ยามลำบากน่าจะดีกว่า ปัจจุบัน 25 เป้าหมายคือ บวชครับ ตอนนี้รอ ฤกษ์เท่านั้น หลังจากบวช จะลุยงานให้เต็มที่ วางแผนงานรายปีเอาไว้แล้ว (แล้วก็ miss มาเยอะแล้วด้วย) แต่หลังบวชจะกลับมาลุยปิด task ให้หมด ไม่ต้องฝันไกล แค่วางแผนล่วงหน้ารายปี แล้วทำให้ได้นั้นก็ยากมากแล้วครับ แต่ๆๆๆๆ งานที่ทำ ต้องมีความสุข จึงจะทำครับ และเมื่อมีเวลา(ที่มันไม่มี) ก็ไปออกกำลังกาย ร่างกายจะได้แข็งแรง ผมพูดกับตัวเองบ่อยๆ ชีวิตคนเราต้องการอะไร? มันมีอะไรล้ำลึกอยู่ในคำนี้มากครับ จากคุณ : ออกกำลัง เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 14:28:56

ความคิดเห็นที่ 50 คุณCHRONO 1981  น่าจะตั้งหัวข้อกระทู้ใหม่น่า .......... จะติดตามอ่านว่า ร้านคุณตกแต่งแล้วสวยขนาดไหน ขายดีมั้ย อะไรอย่างเนี้ย  .....               เป็นกำลังใจให้แล้วกันค่ะ ^_^ จากคุณ : อัญชัญสีรุ้ง เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 17:30:53

ความคิดเห็นที่ 51 ช่วงอายุ 21-25 1.หลังเรียนจบ ต้องหางานให้ได้ไวที่สุด บริษัทที่ดีคุยโม้โอ้อวดได้ เงินเยอะๆ ตามสมัย - ผล ... ว่างงาน 1 ปีเต็ม กว่าจะได้งาน ปาเข้าไป 23 เงินเดือนเริ่ม 14000 บาท เป็นบริษัทญี่ปุ่นเล็กๆ ครับ 2.ก่อนอายุ 25 เงินเดือนเราต้องผ่าน 20000 ให้ได้ + อยากได้รถ -ผล ... ได้ขึ้นเงินเดือน 1 ครั้งจาก 15000 เป็นสองหมื่น แต่ยังปุเลงๆ คุณลุง 3 ห่วงคันมรดกอยู่ครับ เอาไปติดแก้สเพิ่มพเพื่อนการประหยัด เริ่มมองอนาคต คุยกับแฟนที่คบกันมา 7 ปีว่าเราจะเริ่มสร้างอนาคตด้วยกันครับ อายุ 25 1. เริ่มหารายได้พิเศษ สร้างหนี้ก้อนใหญ่โดยหุ้นเปิดร้านอาหาร - ผล ... ล้มไม่เป็นท่า ติดหน้าต้องผ่อนคืนป๊าทุกเดือนจนถึงวันนี้ครับซึ่งไม่เยอะเท่าไหร่ แต่นานนนนนนนนนน :P แต่ได้ประสบการณ์มาแบบเต็มๆ ซึ่งถ้าไม่เจ๊งคงไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรตรงไหน ความฝันชีวิตคู่เริ่มเลือนราง อายุ 26-27 1. อยากได้เงินเดือนมากขึ้น มองหาโอกาสย้ายงาน -ผล เข้าสู่องกรณ์เล็กลง จาก 20000 เป็น 27000 แต่ความรักสั่นคลอนอย่างหนัก ด้วยความเครียดและการเอาชนะ ทำทุกอย่าง ทำให้เราสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป 2. มองหางานใหม่หลังจากนั้น ไม่กี่เดือนถัดมา เพราะปรับตัวเข้ากับองค์กาณ์ไม่ได้ ไม่จำกัดเงินเดือน ขแให้พออยู่ได้และได้ใช้ฝีมือ ความสามารถที่ถนัด -ผล ได้งานใหม่ ฐานเงินเดือน+นั่นนี่ 49000 บาท ได้รถใหม่ 1 คันเพราะคุณลุงสามห่วงเริ่มจะเดินไม่ไหวแล้ว เห่ะๆๆ งานได้นี้เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาครับ ได้อยู่บริษัทข้ามชาติระดับโลก ทำงานมีความสุขมาก แต่ ....... คนที่เรารัก เขาไม่ได้อยู่ข้างเราซะแล้ว เพราะเราทำตัวเองเมื่อกลางปีที่แล้วที่ผ่านมา ติดเลี้ยงลูกค้า  เที่ยวเลาจ์ นั่นนี่ ขณะนี้กำลังรับผมกรรมคือความเหงาครับ กำลังจะอายุ 28 ในอีกไม่กี่วัน สิ่งมี่อยากทำใน 1 ปีต่อจากนี้ ............. 1. กลับสู่สภาวะปกติ เป็นลูกที่ดี เป็นพนักงานที่ดี และจะพยายามทำตัวให้เป็นคนดี ถึงแม้เค้าจะไม่ได้อยู่ข้างเราแล้ว แต่ผมก็ยังจะแสดงให้เค้าเห็นต่อไป ในเมื่อเวลาย้อนกลับไม่ได้ ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ เงินไม่ใช้คำตอบของทุกคำถามจริงๆ คิดแล้วน้ำตาซึม .... เฮ้อออ 2. ผมจะพิศูจน์ฝห้เค้าเห็นว่าผมรักเค้าขนาดไหน ถึงแม้มันจะสายเกินไป ก็ไม่เป็นไรครับ สู้โว้ยยยย 3. ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ให้คุ้มกับความคาดหวัง แม้จะเหนื่อย จะท้อ จะกดดัน แต่ผมมีป๊า มีม๊า เป็นกำลังใจอยู่เสมอ และผมมีเธอ เป็นแรงบันดาลใจครับ พูดมาซะเยอะ สรุป ณ ตอนนี้ ความใฝ่ฝันคือ ........ งานผมพร้อมแล้ว .... เหมือนแต่การปรับปรุงตัว ให้เคต้าเห็นว่าเราดีพอสำหรับเค้าครับ จากคุณ : powerpopm เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:52:01

ความคิดเห็นที่ 52 ช่วงอายุ 22-27 ไม่มีเป้าหมายครับ เป็นช่วงแห่งการค้นหาเป้าหมายมากกว่า ทำงานสารพัด และไม่ทำงานก็มีเพราะเหมือน fail จากการทำงานที่ไร้ใจ รายได้มีตั้งแต่ 15000- 40000 กว่าๆ เป็นช่วงที่เคว้งคว้างที่สุด เพราะตอนไม่มีงานก็รู้สึกไม่ดี ตอนมีงานก็รู้สึกไม่ดี ถามว่าชอบอะไรก็ไม่รู้อีก แต่จะว่าไปช่วงชีวิตนี้มันก็ไม่ได้ไร้สาระซะทีเดียว อย่างน้อยการใช้ชีวอตแบบขึ้นๆลงๆ มันก็ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น เพราะทำทุกอย่างตั้งแต่ ทำบริษัทฝรั่งขายทัวร์ ทำเว็บไซต์ ทำถุงผ้าขาย (ได้เป็นล้านเลยนะ หุหุ) เซลล์ขายโฆษณา ช่วงไม่มีงานทำก็ไปเรียนทำอาหาร ทำเครื่องดื่ม ทำสบู่ (อยากค้นหาตัวเอง แต่เหลวหมด 55) สรุปแล้วนี่คือช่วงชีวิตที่ผมเรียกมันว่า "มั่ว" 55 ช่วง 27 -28 (ปัจจุบัน) เริ่มมีเป้าหมายแล้วจ้า มีเจอตัวเองหลังจากขาดทุนหุ้นอย่างหนัก ทำให้สนใจ และรักมันขึ้นมา ผมชอบโลกแห่งการลงทุนแฮะ ความฝันตอนนี้คือการบริหารพอร์ตลงทุนขนาด 8 หลักภายใน อายุ 32 และ 9หลักภายใน 38 ปี การมีความฝันทำให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ได้ง่ายเพราะเหนื่อยน้อยลง ที่จริงแล้วเหนื่อยมากขึ้นด้วยซ้ำ แต่ความรู้สึกเราคือเรากำลังพายเรือโดยที่รู้ว่าจะเข้าฝั่งไหน นี่คือความสบายใจ และกำลังใจในการสู้กับสิ่งที่ดูเป็นไปไม่ได้ พอสบายใจเราก็มีกำลังใจทำงาน ผมก็กลับมาสมัครงานบริษัท เงินเดือนก็มากกว่าเงินเดือนล่าสุดนิดหน่อย (นับว่าโชคดี เพราะไม่ได้ทำงานประจำมาเป็นปีแล้ว) ผมก็พอใจละ ในเรื่องการทำงานประจำนั้นผมเองก็พยายามต่อสู้เพื่อให้ได้ทำในสิ่งที่ชอบ คืองานพัฒนาธุรกิจ ทำอะไรใหม่ๆที่ไม่มีใครเค้าทำ ทั้งๆที่ตอนสมัคร ก็สมัครตำแหน่งอื่น (ตั้งใจ เพราะผมรู้ว่างานที่อยากทำมันไม่มีตำแหน่งเปิด หรืออาจไม่มีในบริษัทด้วยซ้ำ การสมัครงานตำแหน่งอื่น ทำให้เรามีโอกาสได้เข้าไปคุย แหะๆ) ตรงนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะผมไม่ชอบฝืนทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ (อย่าว่าผมนะ ผมถือว่าคนเราถ้าดื้อ แล้วมันดิ้อสุดๆ โลกก็จะยอมให้ตามที่ขอ) อันที่จริง ผมเห็นคนส่วนมากมีเป้าหมายทางการเงินเป็นเรื่องหลัก จะว่าไปผมเองก็มีอย่างที่บอกข้างต้น แถมดูโลภกว่าใครด้วย แต่อยากบอกว่าที่จริงผมไม่ได้มองว่าเงินเป็นสรณะหรอกครับ เพียงแต่ความไฝ่ฝันของผมนั้นมันมีเงินเป็นตัวกำหนดด้วย พูดง่ายๆว่าในโลกลงทุนนั้นถ้าขาดทุน ถ้าพอร์ตไม่โต ก็คือล้มเหลว อันที่จริงผมเองก็ไม่รู้ว่าจะใช้เงินยังไงหรอก เพราะโดยส่วนตัวชอบกินง่ายๆ อยู่ง่ายๆ ผมว่านี่หละความมั่งคั่งที่แท้จริง ปัจจุบันเดือนนึงใช้เงินไม่ถึง 25% ของรายได้ด้วยซ้ำ หลายคนที่กำลังติดกับดักเงิน ผมอยากบอกว่ารวยนั้นดีกว่าจน แต่ความรวยก็ไม่ใช่คำตอบของชีวิตที่มีความสุข และมั่งคั่งหรอกครับ ทำงานให้สนุกแล้วให้เงินเป็นเพียง score ดีกว่า ถ้าตั้งใจทำงานเพื่อเงิน นอกจากไม่มีความสุขแล้ว เผลอๆจะไม่ได้เงินอีก แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 54 00:17:49 จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 00:14:38

ความคิดเห็นที่ 53 อืมนะ...แต่ละคนเงินเดือนสูงๆ ทั้งนั้นครับ ผม 26 แล้ว ทำงานมา 2 ปีครับ เงินเดือนยังแค่ 11000 เองครับ เป็นครูก็งี้แหละครับ แต่โชคดีหน่อย รัฐบาลปรับเงินให้ 8% บวกนู่นนี่นั่น ตุลานี้คงได้ 14000 ครับ ตอนนี้มีรถซิตี้ 1 คัน ไม่อยากมีเลยจริงๆ แต่เพราะต้องเทียวเรียน ป.โท ไกลซักหน่อย เลยต้องถอยรถ ผ่อนเดือนละ 7000 กว่าๆ เหลือใช้เดือนนึงก็ 4000 ก็เหลือนิดๆ เพราะอยู่บ้านนอก งานอดิเรกก็มีีสอนพิเศษ ส่งตัวเองเรียน เท่านี้แหละครับ อนาคต...แต่งงานครับ มีครอบครัวที่อบอุ่น และใช้ชีวิตให้มีความสุขครับ จากคุณ : annakin (amnakim) เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 00:19:37

ความคิดเห็นที่ 54 อายุ 30 หนี้สินบานเบอะ เงินเดือนไม่อยากพูดถึง อนาคตอยากกลับบ้านไปทำนาค่ะ จากคุณ : Haulage เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 00:25:50

ความคิดเห็นที่ 55 . . . เป้าหมายตอนแรก อยากได้เงินเดือนเกิน 100,000 ก่อน 30 แต่ตอนนี้ 33 แล้วก็ยังไม่ถึง ได้แค่เฉียดๆ คิดว่าถ้าย้ายงานอีกทีคงได้ แต่ไม่อยากย้ายแล้ว ที่นี่ก็โอเค เลยจะทำไปก่อน เป้าหมายต่อไปอยากแต่งงานตอนอายุ 36 นี่ก็เหลืออีก 3 ปี ไม่รู้จะทำได้เปล่า แต่จะลองพยายามดูครับ แฟนก็คบมา 4 ปี ดีที่แฟนเด็กกว่า 9 ปี เค้าเลยยังไม่เดือดร้อนมาก จากคุณ : โจ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 03:22:39 A:124.120.201.220 X: TicketID:299019

ความคิดเห็นที่ 56 เป้าหมายของผมคือการมีอิสระภาพทางด้านการเงินและเวลาก่อนอายุ 30 โดยไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือ ทำธุรกิจเครือข่าย MLM - ที่มา : เมื่อ13ปีทีแล้วตอนประมาณปี 40/41 ช่วงฟองสบู่แตก พ่อแม่ถูกฟ้องล้มละลาย เลยตัดสินใจไม่เรียนต่อ ม.4,5,6 โดยมีเหตุผลสำคัญเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของที่บ้าน และอยากจะหาเงินช่วยพ่อ เลยหันหน้าเข้าสู่โหมดทำงานหาประสบการณ์ตั้งแต่อายุ 14-15 เริ่มงานแรกในชีวิตคือการเป็นเด็กปั๊มเงินเดือน 2,800 ปรับเปลี่ยนงานไปเรื่อย เดินทาง ผจญภัยไปทั่ว ใช้ชีวิตตามแต่จังหวะและโอกาสที่เข้ามา และขวนขวายหาและทำมันทุกอย่างอย่างสุดความสามารถ ช่วงเวลาที่สนุกที่สุด คือช่วงวัยรุ่นที่ขาดหายไป แต่แลกกลับมากับอะไรหลายๆอย่างที่ได้มา ตัดภาพมาในวัยใกล้จะ 29 ปี - ผล : ชีวิตในวันนี้ บ้าน 1 หลัง รถยนต์คันเล็กๆ 4 คัน ปราศจากภาระจำนองหรือหนี้สินใดๆในจังหวัดบ้านเกิดอย่างเชียงราย มีกิจการเล็กๆส่วนตัว รวมถึง อสังหา และพอร์ทลงทุนขนาดย่อมๆ ไว้ให้พอเก็บกิน....ทุกวันนี้ ก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุข และ "อิสระดี" ^ ^ จากคุณ : อิสระดี คาเฟ่ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 15:45:49 A:223.204.20.187 X: TicketID:315701

ความคิดเห็นที่ 57 ตอนอายุ 21ปี เริ่มทำงานเป็นเซลส์แมน ตั้งเป้าหมายไว้ ทุกๆ 5 ปี ว่าจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง เป้าหมายเมื่ออายุ 30 มีกิจการและตั้งโรงงานเป็นของตนเอง มีลูกค้าหรือฐานตลาดประมาณซัก 10,000 ราย ทั่วประเทศ มีโกดังและโรงงานให้ลูกค้าเช่าเพื่อเพิ่มรายได้ ซัก 10,000 ตรม. มีสังหาริมทรัพย์ให้ลูกค้าเช่ามูลค่า 10 ล้านบาท/เดือน ตอนนี้ก็ 40 กว่าแล้ว ได้ตามเป้าหมายทุกประการ วิธีทำให้ถึงเป้าหมาย ทำให้สุดความสามารถในทุกๆเรื่อง จากคุณ : pc เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 10:14:56 A:49.48.216.10 X: TicketID:315677

ความคิดเห็นที่ 58 มาลงชื่อ จากคุณ : หวานตาลเฉาะ เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 00:49:54