ถึงแม้ว่าปัจจุบันเว็บ Ctrip จะยังคงรั้งตำแหน่งพี่เบิ้มในวงการจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบินในจีนด้วย ส่วนแบ่งการตลาดเกือบ 50% แต่ภัยคุกคามจากคู่แข่งรอบด้านก็บีบล้อมเข้ามาจนรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ เหมือนกัน

Qunar.com (去哪儿网) และ Kuxun.cn (酷讯网) ซึ่งเป็นเว็บรุ่นน้องในวงการ แต่มีรูปแบบแตกต่างจาก Ctrip คือไม่ได้เป็นผู้ให้บริการจองโรงแรมเอง แต่จะเป็นผู้ให้บริการค้นหาข้อมูลบริการต่าง ๆ เกี่ยวกับการเดินทาง และให้ใช้งานเว็บโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เน้นเรื่องการให้ลูกค้าสามารถติดต่อจองห้องพักกับโรงแรมโดยตรง และหารายได้เข้าเว็บด้วยการขายโฆษณาเป็นหลัก

ด้วยรูปแบบธุรกิจที่แตกต่างกันนี้ ทำให้เกิดการเปรียบเทียบ และภาพพจน์ของเว็บ Ctrip ก็ถูกมองว่าเป็นเหมือนขาใหญ่ที่รีดเอาผลประโยชน์จากโรงแรมในนามของค่า นายหน้า

นอกจากนี้ บรรดาเครือโรงแรมใหญ่ ๆ ที่มีสาขาจำนวนมากก็เริ่มพัฒนาความสามารถในการขายห้องพักด้วยตนเองโดยตรงมาก ขึ้น มีบางส่วนที่ถอนตัวออกจากเว็บ Ctrip แล้ว และยังคงมีการถอนตัวออกมาอยู่เรื่อย ๆ ทำให้เว็บ Ctrip มีห้องพักให้จองน้อยลง

ภัยคุกคามที่ทำให้ Ctrip ปวดหัวมากที่สุด เห็นจะเป็นเว็บสามประสานจากค่าย Expedia คือ เว็บ Elong.com (艺龙), Kuxun.cn และ Daodao.com (到到网) นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ Ctrip เริ่มรู้สึกว่าเว็บ Elong.com เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว

เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น ผมขอสรุปภาพรวมสั้น ๆ เกี่ยวกับเว็บต่าง ๆ ที่ได้กล่าวถึงไปแล้วเสียก่อน ดังนี้

ทำไม Ctrip ต้องทำเว็บ Lvping.com ขึ้นมา

จากแหล่งข้อมูลที่ผมนำมาเรียบเรียงเป็นบทความนี้ เขามองว่ารูปแบบธุรกิจของคู่แข่งรายใหม่กำลังจะทำให้ตลาดเปลี่ยนไป คือ แทนที่จะเป็นตัวแทนรับจองโรงแรมเสียเอง เว็บรุ่นใหม่กลับพยายามที่จะเป็นช่องทางแรกของการหาข้อมูลเกี่ยวกับการ เดินทางมากกว่า

ตัวอย่างเว็บแบบ Qunar.com และ Kuxun.cn นั้น เขาประกาศชัดเจนว่าไม่ทำธุรกิจรับจองโรงแรมเอง เป้าหมายหลักของเว็บคือการเป็นแหล่งค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง ซึ่งจะพยายามแสดงผลการค้นหาที่เป็นกลางและถูกต้องครบถ้วนที่สุด เพื่อช่วยให้ผู้ที่กำลังวางแผนเดินทางสามารถประหยัดเวลา ไม่ต้องไล่เช็คราคาจากเว็บตัวแทนรับจองต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่มากมายหลายร้อยเว็บในขณะนี้ ส่วนรายได้ของเว็บจะมาจากการขายโฆษณาเท่านั้น

พูดง่าย ๆ ก็คือ เว็บรูปแบบนี้พยายามจะเป็นอย่าง Google หรือ Baidu แต่เฉพาะในเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวเท่านั้น

ในแง่ของผู้บริโภค เว็บค้นหาเฉพาะทางฟังดูสมเหตุสมผลดี เพราะการค้นหาใน Search engine ธรรมดาแล้วต้องไล่เช็คราคาและเงื่อนไขของเว็บตัวแทนรับจองหลาย ๆ เว็บเพื่อเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ เป็นงานที่สิ้นเปลืองเวลาอย่างมาก หากเว็บค้นหาเฉพาะทางสามารถให้ผลการค้นหาที่ครบถ้วนและถูกต้องได้จริงตามที่ ประกาศไว้ ทำไมเราจะไม่ใช้บริการล่ะ

ส่วนกิจการโรงแรม ถ้าเป็นเครือโรงแรมใหญ่ ๆ ก็มีศักยภาพที่จะสร้างเว็บรับจองห้องพักของตัวเองโดยตรงที่มีประสิทธิภาพได้ ไม่จำเป็นต้องไปง้อเว็บตัวแทนรับจองเท่าไหร่ ถ้าเป็นโรงแรมเล็ก ๆ ก็รู้สึกว่าค่านายหน้าของเว็บตัวแทนสูงเกินไป จนทำให้การขายห้องพักผ่านตัวแทนเหลือกำไรน้อยมาก เว็บค้นหาเฉพาะทางจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะไม่ต้องเสียค่านายหน้า ส่วนค่าโฆษณาก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ควบคุมได้ ไม่จำเป็นต้องจ่ายทุกยอดการจองเหมือนค่านายหน้า และการลงโฆษณากับเว็บค้นหาเฉพาะทางก็น่าจะได้ผลดีกว่าลงโฆษณากับ Search engine ทั่วไป เพราะผู้ใช้งานเว็บเป็นลูกค้าเฉพาะกลุ่มอยู่แล้ว

อีกด้านหนึ่งของสมรภูมิตลาดการเดินทางออนไลน์ก็คือ เว็บรีวิวความเห็นแบบ Tripadvisor ซึ่งเป็นรูปแบบที่มีอิทธิพลอย่างมากในการตัดสินใจของผู้เดินทาง เพราะการเขียนรีวิวจากผู้ที่เดินทางเองจริง ๆ นั้นน่าเชื่อถือกว่าเขียนโดยนักวิจารณ์ และจำนวนรีวิวที่มีมากมายก็ช่วยให้ผู้อ่านประเมินความน่าสนใจต่อโรงแรมหรือ สถานที่ท่องเที่ยวได้แม่นยำขึ้น

นักเดินทางจำนวนมากจึงต้องเข้าไปเช็คข้อมูลในเว็บ Tripadvisor ทุกครั้งก่อนการวางแผนเดินทาง

เว็บ Daodao.com เป็นเวอร์ชั่นภาษาจีนของ Tripadvisor.com ซึ่งมีความได้เปรียบตรงฐานข้อมูลเดิมที่สะสมมาก่อนหลายปี เพียงแต่ต้องลงทุนในการแปลเป็นภาษาจีนจำนวนมาก ทั้งฐานข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรมและรีวิวความเห็นต่าง ๆ เว็บ Daodao.com ได้รุกเข้าสู่ตลาดจีนอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็เริ่มมีเว็บจีนรายอื่นเปิดให้มีการเขียนรีวิวเพื่อจะแข่งกับ Daodao.com บ้างแล้ว บางรายก็ประกาศให้รางวัลแก่ผู้ที่เขียนรีวิวด้วย

ถ้าเรามองภาพตลาดโดยรวมที่กำลังก่อรูปขึ้นใหม่นี้ จะเห็นได้ชัดว่ามีพื้นที่การแข่งขันที่สำคัญอยู่ 2 ส่วน ส่วนแรกคือ เครื่องมือค้นหาเฉพาะทาง ซึ่งผู้ใช้งานส่วนใหญ่ต้องการจะหาดีลที่ดีที่สุดเป็นสำคัญ และใช้เวลาน้อยที่สุดในการค้นหา ส่วนที่สองคือ ตลาดข้อมูลความคิดเห็นจากผู้เดินทาง ซึ่งผู้ใช้งานต้องการค้นหาข้อมูลเชิงลึกกว่า เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกสถานที่หรือโรงแรมให้ได้ตรงกับความต้องการมาก ที่สุด

ในทั้งสองตลาดนี้ เว็บใหญ่อย่าง Ctrip ยังไม่มีส่วนเข้าไปเอี่ยวอะไรด้วยเลย เว็บ Lvping.com จึงเป็นความพยายามที่จะเปิดพื้นที่ใหม่ให้แก่บริษัท ไม่เช่นนั้น Ctrip ก็อาจจะถูกคู่แข่งกินส่วนแบ่งตลาดไปจากเว็บจองโรงแรมเรื่อย ๆ

ฐานะของเว็บ Lvping.com เป็นเหมือนดาวดวงใหม่ที่ Ctrip จะต้องปั้นให้ติดอยู่บนฟากฟ้าให้ได้ อาศัยฐานสมาชิกและผู้ใช้งานเว็บ Ctrip ที่ยังเข้มแข็งอยู่ จึงทำให้การเปิดตัว Lvping.com ในฐานะเว็บรีวิวความเห็นเกิดขึ้นได้ไม่ยาก แต่สำหรับ Ctrip แล้ว ย่อมไม่ปรารถนาที่จะเป็นพี่เลี้ยงของเว็บ Lvping ตลอดไป แต่หวังจะให้เว็บ Lvping เป็นประตูที่จะนำพาลูกค้ามาใช้บริการจองโรงแรมในเว็บ Ctrip มากกว่า

"Lvping.com เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในระยะยาวของ Ctrip เว็บ Lvping.com จะต้องดำเนินการอย่างเป็นอิสระ และไม่ได้ร่วมมือกับเฉพาะเว็บ Ctrip เท่านั้น ยังจะร่วมมือกับบริษัททัวร์ออนไลน์และธุรกิจท่องเที่ยวอื่น ๆ ด้วย"

เป็นความชัดเจนจากปากคำของซีอีโอของ Ctrip ที่กล่าวไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว

ในหน้าเว็บของ Daodao.com ส่วนที่เป็นลิงค์แนะนำเว็บจองโรงแรมนั้น เราจะเห็นเว็บในกลุ่มของ Expedia หลายเว็บ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่ขณะเดียวกันก็มีเว็บจากค่ายอื่นให้เลือกด้วยเหมือนกัน เช่น Agoda.com และ Booking.com จากค่าย Priceline หรือ HRS จากเยอรมัน รวมไปถึงเว็บจองโรงแรมหน้าใหม่ในจีนอย่าง 17u.cn (同程网) ด้วย

หากเว็บ Lvping ต้องแนะนำเว็บตัวแทนรับจองเจ้าอื่นด้วย จะเกิดการขัดผลประโยชน์กันเองกับเว็บ Ctrip และเว็บตัวแทนอื่น ๆ ที่ Ctrip ไปซื้อกิจการมาด้วยหรือเปล่า และเว็บอื่น ๆ จะมีโอกาสได้ร่วมมือกับเว็บ Lvping มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าเว็บ Lvping จะมีความเป็นอิสระจริงหรือไม่

ต่อให้เว็บ Lvping แยกตัวออกไปจาก Ctrip ได้จริง แต่การจะไปร่วมมือกับ Elong.com ของค่าย Expedia คงเป็นไปได้ยาก ครั้นจะไปร่วมมือกับเว็บน้องใหม่อย่าง 17u.cn ก็เกรงว่าจะกลายเป็นเรื่องชาวนาไปช่วยงูเห่า

หาก Lvping.com จะไปร่วมมือกับโรงแรม ก็ต้องยอมให้โฆษณาของโรงแรมลิงค์ไปสู่หน้าเว็บเพจของโรงแรมเองโดยตรง ไม่ใช่ลิงค์ไปหาหน้าเว็บจองโรงแรมของ Ctrip ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นอุปสรรคของความร่วมมือ เพราะมันขัดกันกับผลประโยชน์ของเว็บ Ctrip อีก

อย่างไรก็ตาม การผลักดันเว็บ Lvping ออกมาเป็นหนทางหนึ่งที่จะแหกฝ่าวงล้อมคู่แข่งออกไปให้ได้ แต่สุดท้ายแล้วเว็บนี้จะมีความเป็นอิสระได้อย่าง Tripadvisor หรือไม่ จะสามารถเป็นเว็บที่สร้างรายได้ได้ด้วยตนเองหรือไม่ กระทั่งจะสามารถมีโอกาสแยกตัวออกไปเพื่อเข้าตลาดหุ้นหรือไม่นั้น เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ เราคงต้องติดตามกันต่อไปครับ

ที่มา ChineseWeb.info

ผมเรียบเรียงบทความนี้อยู่นานมาก กลัวว่าจะอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง อ่านแล้วมีความเห็นอย่างไรกับการเลือกหัวข้อมาเขียนและวิธีการนำเสนอก็ช่วยสะท้อนให้ผมฟังบ้างนะครับ