Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ถ้าคุณรู้จัก แล้วคุณจะรักและเข้าใจอาชีพ “รับราชการ” มากยิ่งขึ้นครับ ตอนที่ 1 ติดต่อทีมงาน

บทความข้างต้นถ่ายทอดขึ้นจากประสบการณ์ในระยเวลาสั้นๆ ของผู้เขียน เรื่องราวต่างๆล้วนแล้วแต่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริงกับผู้เขียน ซึ่งอาจมีการพาดพึงถึงบุคคลหรือหน่วยงานอยู่บ้าง แต่จะพยายามให้มีผลกระทบในเชิงลบน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บทความนี้อาจไม่ตรงใจ หรือสร้างความไม่พึงพอใจให้แก่ผู้อ่านในส่วนใด ผู้เขียนยินดีรับข้อวิพากษ์ดังกล่าวไว้ทั้งหมด ตลอดจนยินดีรับฟังความคิดดเห็นต่างๆ ที่อาจจะมีขึ้นทั้งที่เหมือนและแตกต่าง บนพื้นฐานของเหตุและผลครับ


จุดเริ่มต้นของผมกับอาชีพ “รับราชการ”


ผมเกิดและเติบโตในยุคที่ค่านิยมของคำว่า “สิบพ่อค้าไม่เท่าหนึ่งพระยาเลี้ยง” ได้เปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร ในขณะที่บัณฑิตจบใหม่ส่วนใหญ่มุ่งเน้นงานในภาคเอกชนหรือริเริ่มการเป็นผู้ประกอบการตั้งแต่อายุยังน้อย

แต่สำหรับผมแล้ว ผมเติบโตมากับความคาดหวังของครอบครัวพอสมควร กรอบต่างๆที่ถูกวางตลอดจนขีดเส้นไว้คงไม่ต่างกับครอบครัวอื่นๆ ที่หวังจะเห็นผมในชุดกาวน์พร้อมสเตรทโตสโคป แต่ผมเองก็มีความรู้สึกขัดแย้งในใจพอสมควรกับฝันของผมครับ


ท้ายที่สุดผมกับครอบครับพบกันครึ่งทาง และนั่นคือจุดที่ผมเริ่มเข้าใกล้อาชีพนี้เป็นครั้งแรก ผมเลือกรับทุนของหน่วยงานราชการตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนปลาย เพียงแค่ความหวังลึกๆ ในการกลับมาประกอบอาชีพอาจารย์ในระดับอุดมศึกษาที่ผมรัก  

ทุกอย่างดูเหมือนกำลังจะไปได้ดี ถ้าผมไม่รู้สึกว่า สารเคมีต่างๆ ปิเปต ขวดรูปชมพู่ แผงวงจรไฟฟ้า จานเพาะเชื้อ เรื่อยไปจนถึงชุดคำสั่งทางคณิตศาสตร์ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของผม ผมตัดสินใจลาออกและเดินจากเส้นทางสายนั้นมาเงียบๆ ก่อนจะเปลี่ยนมาสอบเข้าระดับอุดมศึกษาอีกครั้งในสายศิลป์แทน


ผมเริ่มต้นชีวิตนิสิตในคณะที่ใครๆ ส่วนใหญ่ จบไปก็ต้องไปทำงานในภาคเอกชน มีเงินเดือนสูงๆ ผมเองก็เคยแอบๆคิดอย่างนั้นเช่นกัน ถ้าไม่บังเอิญว่าในปีสุดท้าย หน่วยงานของกระทรวงหนึ่งจะมีการแข่งขันตอบปัญหาในรับอุดมศึกษา ซึ่งก็จะเชิญนิสิตนักศึกษา ในคณะที่ผมเรียนจากทั่วประเทศมาแข่งขันกัน

คณะของผมก็ตั้งใจจะส่งที่หนึ่งคณะเข้าแข่งขัน แต่เผอิญว่าที่หนึ่งคณะติดธุระไปเคปทาวน์กับครอบครัว หวยก็เลยมาออกที่ที่สองของคณะซึ่งอาจารย์ท่านเล็งเห็นแล้วว่าผมคงจะยกเลิกตั๋วไปปีนังได้ง่ายกว่าการยกเลิกตั๋วไปเคปทาวน์ครับ


ผมไปแข่งขันด้วยความเงอะๆงะๆ หนังสืออะไรก็ไม่อ่านไปแม้แต่ตัวเดียว ในรอบคัดเลือกของวันแรก ผมจำได้ว่ารองอธิบดีของกรมนั้นเป็นผู้กล่าวเปิดงาน แล้วมีคำพูดประโยคั้นๆ หนึ่งประโยคที่เป็นเสมือนแรงบันดาลใจหรือแรงขับสำคัญให้ผมหันกลับมาสนใจอาชีพนี้อีกครั้งกับประโยคที่ว่า “ค่านิยมของอาชีพข้าราชการที่ว่า เป็นเจ้าคนนายคนอาจจะไม่ถูกต้องเสียทีเดียวนัก ตรงกันข้าม อาชีพข้าราชการคืออาชีพที่ต้องทำหน้าที่รับใช้ประชาชนมากกว่า”


ผมเห็นด้วยกับคำพูดดังกล่าวโดยไม่มีข้อโต้แย้ง สาเหตุสำคัญคงเป็นเพราะว่า จริงอยู่ที่อาชีพรับราชการตงจะต้องมีความก้าวหน้าเหมือนอาชีพอื่นๆ และจะต้องเป็นไปตามสายงานการบังคับบัญชาไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่เข้าสักวัน

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะได้เป็นหัวหน้าหรือไม่ งานทุกๆวันที่ต้องทำก็เพื่อการพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศ ให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สมกับภาษีทุกบาททุกสตางค์ที่เขาได้จ่ายมาเป็นเงินเดือนและสวัสดิการอื่นๆที่หล่อเลี้ยงระบบครับ


ผมโชคดีที่ผ่านการแข่งขันรอบแรกเพื่อไปแข่งขันในรอบสุดท้ายในวันรุ่งขึ้น วันนี้มีท่านอธิบดีมาเป็นคนกล่าวเปิดงาน ไม่อยากจะบอกเลยว่า อธิบดีในวันนั้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ก็คืออธิบดีซึ่งเป็นเจ้านายของผมในวันนี้ แม้ว่าจะท่านจะหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่งอื่นๆมาแล้วก็ตาม


ขณะที่รองอธิบดีท่านเดิม ท่านเดินดุ่มๆ มาจับไม้จับมือผม พร้อมกับแนะนำตัวว่าเป็นรุ่นพี่ที่คณะซึ่งอายุห่างจากผม 2 รอบ ก่อนจะบอกว่าอยากให้ผมมารับราชการที่นี่ จะไปเรียนโทมาก่อน หรือจะมาขอทุนไปก็ไม่ขัดข้อง วันนั้นผมรู้สึกว่าท่านมาทาบทามผมเร็วเกินไปจนตั้งตัวไม่ติด และผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้ดีไปกว่าการพยักหน้าช้าๆ พร้อมกับตอบรับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่นั่นก็เกินพอแล้วสำหรับสัญญาใจที่มีให้ไว้กับท่าน


การแข่งขันในวันนั้นจบลงที่ผมได้รับรางวัลชนะเลิศ โดยท่านรองท่านเดิมเป็นผู้มอบรางวัล พร้อมกับย้ำประโยคเดิมนั้นอีกครั้ง ถึงเวลานี้ในใจผมเริ่มโน้มเอียงมามากขึ้น พร้อมๆ กับตอบตัวเองในใจว่า ลองดูสักครั้งก็ได้ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย


อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าเสียดายว่า แม้ท่านรองจะได้เป็นอธิบดีในกรมดังกล่าว แต่ท่านก็ได้ย้ายไปเป็นอธิบดีอีกกรมในวันที่ผมบรรจุเข้ารับราชการ และปัจจุบัน ท่านก็ย้ายไปเป็นอธิบดีของอีกกรมหนึ่งตามระบบการหมุนเวียนอธิบดีที่มีเป็นประจำทุกปีของเจ้ากระทรวงที่ผมทำงานอยู่

ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเดินไปบอกท่านเหมือนกันว่า วันนี้ผมทำตามสัญญาของท่านแล้ว สัญญาที่ไม่มีลายลักษณ์อักษร ไม่มีการลงนามใดๆ มีแต่ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันของทั้ง 2 ฝ่ายครับ

จากคุณ : buenos
เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 54 08:37:00




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com