ความคิดเห็นที่ 1 ที่เขียนมาทั้งหมดนี่ ไม่ได้มองว่าเป็นปัญหา แต่อยากจะเตือนน้องๆ และเพื่อนๆ ทุกคนว่า จะทำอะไรก็รับฟังคนอื่นบ้างค่ะ อย่ายัดเยียดให้เขามากนัก ถ้า present ครั้งหนึ่งแล้วไม่สนใจซื้อ ก็แปลว่าเขาได้ข้อมูลแล้ว ถ้าเขาสนใจเมื่อไหร่ก็คงจะติดต่อคุณเอง อย่าไปตื๊อให้มาก สิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินกี่ล้าน กี่สิบล้านนั่น คือมิตรภาพค่ะ อีกอย่าง สำหรับคนที่ยังเรียนอยู่ อย่าเพิ่งไปทิ้งการเรียนเลยค่ะ ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นอย่างบิลล์ เกตส์ หรือสตีฟ จ็อบส์ พวกลาออกจากมหาลัยกลางคันเพื่อมาทำตามฝันแล้วไม่ได้ดี มีถมไป รู้จักคิดนอกกรอบ แต่ต้องยอมรับกรอบบ้าง ไม่อย่างนั้น กว่าจะรู้ตัวอาจจะกรอบทั้งกระเป๋าสตางค์ แถมพอเลิก คนรอบๆ ตัวที่รำคาญมานานอาจจะเตรียมซ้ำเติม ถ้าคุณมีเงินจ่ายได้ และไม่มีอะไรที่ดีกว่านั้นให้ทำ จะซื้อของแพงๆ ใช้ก็ใช้ไปเลยค่ะ แต่ถ้ายังมีภาระอยู่ เอาเวลาไปดูแลคุณพ่อคุณแม่หรือคนที่คุณต้องดูแลดีกว่ามั้ย เคยเห็นบางคนทำขายตรง บ้านช่องไม่ค่อยกลับ บอกว่าจะรอเป็นระดับนั้นระดับนี้ แล้วจะพาพ่อแม่ไปต่างประเทศ พ่อแม่ไม่ใช่ยาคูลท์ รีบกตัญญูก่อนหมดอายุ (โนส อุดมบอกไว้) เราไม่รู้หรอกว่าวันที่เราบอกว่า "สำเร็จ" นั้น ท่านยังมีเรี่ยวแรงหรือชีวิตจะไปต่างประเทศด้วยหรือเปล่า บางทีสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ ไม่ใช่ไปอเมริกา แคนาดา ยุโรป เกาหลี แต่อาจจะเป็นการได้ทำกับข้าวให้คุณกินสักมื้อ อ้อมกอด รอยยิ้ม การที่มีคุณไปนั่งฟังเรื่องที่พวกท่านเล่า หรือเล่าเรื่องขำๆ ที่ทำงานให้ฟัง หรือแม้แต่ปรับทุกข์ให้ท่านฟังค่ะ เพิ่มเติมค่ะ ต้องบอกก่อนว่า จขกท. ไม่ได้รังเกียจขายตรงจนเป็นไส้เดือนกิ้งกือ แต่จขกท. รังเกียจวิธีการที่พวกขายตรงจำนวนมากใช้ เพื่อดึงดูดคน เข้าไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อวิธีการนั้น ถูกนำมาใช้กับเด็กมัธยมหรือเด็กมหาวิทยาลัยซึ่งยังอ่อนต่อโลก ขี้เกรงใจ และขาดประสบการณ์ เด็กเหล่านี้ถูกปลูกฝังทัศนคติให้คล้อยตามได้ง่ายๆ เวลาเชื่อ บางทีเชื่อฝังหัว แล้วพออายุมากขึ้นมันเปลี่ยนไม่ทัน มีน้องที่จขกท. รู้จักคนหนึ่ง ตัดสินใจไม่ไปเรียนต่อต่างประเทศ เพื่อมาทำขายตรงนี่ ซึ่งบอกตามตรงจขกท. เสียดายแทนเป็นอย่างยิ่ง และได้พยายามเตือนแล้ว แต่เมื่อน้องเขาไม่ฟัง จขกท. ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของน้อง ถึงได้บอกว่า รอเก็บซากวันที่เขารู้สึกตัว แต่ในกรณีน้องคนนี้ จขกท. คิดว่าคงไม่อะไรมาก อย่างดีก็จะเสียเวลาไปหลายปีและได้บทเรียน เพราะว่าครอบครัวน้องเขามีธุรกิจส่วนตัว เป็นบริษัทใหญ่พอสมควร เมื่อคิดได้แล้ว ไปเรียนต่อ ก็ยังพอมีเวลากลับมารับช่วงงานที่บ้านได้ทัน ไม่ได้เสียโอกาสมาก ถือว่าซื้อประสบการณ์ เด็กที่มาจากครอบครัวฐานะดีพวกนี้ ถูกล่อให้หลงได้ง่าย ประกอบกับผู้ปกครองก็มีกำลังซื้อสินค้าราคาแพง และบางทีก็ไปขอให้ญาติๆ ซึ่งก็มีกำลังซื้อเช่นกันช่วย ในช่วงแรกๆ ผู้ปกครองหรือญาติๆ มักจะรู้สึกดีใจที่ลูกหลาน รู้จักคิดทำงานแทนที่จะเที่ยวเตร่อย่างเดียว ก็มักจะช่วยซื้อกันไป เด็กก็เห็นยอด เห็นรายได้เข้ามา พลอยมีกำลังใจ ถ้าสิ่งที่ตามมาคือ ทัศนคติที่ปลูกฝังให้แอนตี้การศึกษาในระบบ เห็นว่าไม่จำเป็นต้องเรียน ทำงานประจำหรือทำธุรกิจอะไรก็ได้ และทัศนคติดูถูกคนอื่น เช่น "พี่ทำงานมากี่ปี เงินเดือนกี่หมื่น กี่แสนบาท มาทำธุรกิจ... ไม่กี่ปี พี่มีรายได้เป็นล้าน ต่อให้พี่ทำงานประจำจนเกษียณ ก็ไม่ได้เท่านี้" หรือ "พี่ทำงานหนักนะ พี่เก่งด้วย แต่พี่ไปไม่ถูกทาง ยังไงก็ไม่มีวันรวย ไม่มี passive income" คิมสงสัยว่า passive income ยังไง เห็นพอเป็นตำแหน่งนั้น ก็อยากได้ตำแหน่งต่อไป ต่อไปเรื่อยๆ ต้องเข้าอบรม สัมนานั่นนี่โน่น คิมไม่รู้สิ คิมไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัว หรือกับเพื่อน ก็ไม่อยากแบบที่ทำงานไปด้วย คิมรู้สึกว่าที่บอกว่าไปประเทศโน้น ประเทศนี้ ประเทศนั้น กับบริษัท... คิมว่าเหมือนไป business trip มากกว่าไปเที่ยว หันซ้ายหันขวาเจอแต่เพลงปลุกใจ ถ้าเป็นคิม ขอไปเอง แบกเป้ไปดีกว่า อาหารหรูหราห้าดาวอะไร คิมก็เดินเข้าไปกินเองได้ อยากไปเที่ยวไหนก็ไป สบายใจ บางคนกลายเป็นพวกดูถูกคนอื่น คิดว่าคนอื่นโง่ที่รู้ไม่เท่าทันตัว อธิบายแล้ว ชี้ทางสว่างให้แล้ว ไม่เข้าใจ แล้วในความเป็นเด็กก็กลบเกลื่อนไม่เป็น คิดอะไรแสดงออกมาแบบนั้น กลายเป็นที่รังเกียจของเพื่อนๆ และผู้ใหญ่รอบข้างไป คิมสงสารเด็กๆ พวกนี้ มากกว่ารังเกียจหรือโมโห แต่อย่างที่บอก เตือนเท่าที่เตือนได้ เตือนมากไปก็ทะเลาะกัน คนเราย่อมมีสิทธิตัดสินใจชีวิตของตัวเอง อ่านๆ มาหลายคคห. บอกว่าสมัครเพราะเกรงใจ คิมเป็นคนจะว่าไม่เกรงใจใครก็ไม่ใช่ คิมเพียงแต่คิดว่า ถ้าเราไม่สนใจซื้อ เราเห็นไม่เป็นประโยชน์ หรือไม่สมราคาเราก็ไม่ซื้อ เพราะถ้าเขาไม่เกรงใจเรา เมื่อเราปฏิเสธ ทำไมเราต้องไปเกรงใจเขาด้วย ถ้าเป็นผู้มีพระคุณหรือญาติผู้ใหญ่ แล้วคิมอยู่ในฐานะพอจะ afford ได้ คิมก็อาจจะโอเคสักครั้งสองครั้ง (จนถึงปัจจุบันยังไม่มีผู้มีพระคุณหรือญาติผู้ใหญ่คนไหน มาบังคับขายอะไรคิม ฮ่าๆๆ) แต่ถ้าเป็นเพื่อน เป็นน้อง อย่าคิดว่าฉันจะเกรงใจแก ถ้าแกไม่เกรงใจชั้น LOL ไม่ถึงกับด่ากลับ แต่ขอโทษที ไม่ซื้อค่ะ น้องๆ ที่ได้มาอ่านกระทู้นี้ ถ้ามีคนมาเสนอขายแล้วมันเกินกำลัง หรือไม่อยากซื้อ ไม่อยากสมัคร บอกเลยค่ะ ไม่สนใจ ถ้าเขายังตื๊อต่อ บอกเลยว่าขอตัวก่อนนะ พอดีไม่สะดวก มีธุระ จะไปดูหญ้าที่หน้าบ้านงอก นับจำนวนดาวบนฟ้า หรืออะไรก็ว่าไป :) หรือบอกแค่ว่า ขอตัวก่อนนะ ติดธุระ ไม่ต้องอธิบายเหตุผล แล้วถ้าโทรมาอีก ก็ปฏิเสธไม่สะดวกคุย สักสี่ห้่าครั้ง ฝ่ายนั้นจะรู้เอง เขาจะไปหา target ที่สะดวกกว่าและขี้เกรงใจมากกว่าต่อไป แต่ถ้ามีน้องคนใดทำอยู่สนใจจะทำ อยากบอกว่า ถ้าคุณเป็นคนชอบขาย มีเพื่อนหรือญาติที่ฐานะดี และซื้อของพวกนี้ใช้อยู่แล้ว เช่น กินรังนก อาหารบำรุง หรือวิตามินราคาแพง จะขายก็ได้ แต่อย่าไปบังคับใครซื้อ หรือถ้าชวนแล้วไม่สนใจ ก็รักษามิตรภาพไว้ ธุรกิจไม่ใช่ทุกอย่าง วันนึงที่คุณขาหัก คุณอาจจะอยากมีเพื่อนมาเยี่ยม ที่เขาสนใจเพียงแค่ว่า เจ็บมากไหม ไม่ใช่ ประสิทธิภาพของยาบำรุง อันยอดเยี่ยมที่คุณเจี๊ยะเข้าไป ช่วยให้หายเร็วแค่ไหน เพื่อจะได้เอาไปโฆษณาสรรพคุณต่อไป เพื่อนที่ไม่มีผลประโยชน์ทางธุรกิจเกี่ยวข้องกัน เป็นเพื่อนแท้จริงๆ ค่ะ มีไว้ มีค่ากว่าสิ่งใด อาชีพ คนกวาดถนน คนขับรถเมล์ ตำรวจ คุณครู พนักงานธนาคาร ช่างซ่อมรถยนต์ แม่ค้าขายข้าวแกง แม้จะทำเงินได้ไม่มากเท่าระดับตรีทูต โคตะระเพชรอะไร แต่ก็จำเป็นต่อสังคมค่ะ เขามี contribution อย่างอื่นให้สังคม ไม่ใช่แค่เงินอย่างเดียว อาชีพเซลล์ก็ดีเหมือนกัน มี contribution ให้สังคมได้เหมือนกัน แต่ไม่ได้ดีไปกว่าอาชีพอื่นๆ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 13:36:46 จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 12:37:18

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเองก็โดนตื้อให้ซื้อโน่น ซื้อนี้ เข้าเป็นสมาชิก ผมไม่ชอบครับ ระบบนี้ ผมอยากใช้อะไร อยากซื้ออะไร ผมซื้อเลย ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรให้มันมากนัก ขอให้ตรงตามฟังก์ชั่นการใช้งานก็พอ เช่น ผมจะใช้ผงซักฟอกแล้วกัน ผมอยากใช้นาโน หรือมีน้ำยาปรับผ้านุ่ม ผมก็เดินไปซื้อตามห้างมาใช้ ในราคาที่รับได้ แต่มีบางยี่ห้อ เห็นราคาแล้ว ซื้อไม่ลงจริงๆ จากคุณ : napatn เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 12:43:55

ความคิดเห็นที่ 3 คุณ napatn เห็นด้วยค่ะ เป็นคนชอบเลือกของที่ตัวเองจะใช้  (จริงๆ ที่ใช้อยู่ก็เดิมๆ ละนะ) แต่อย่างพวกยาสระผม ครีมอาบน้ำ โลชั้่น คิมก็จะมีกลิ่นที่ชอบ คิมใช้ Skin Food ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องสำอางค์เกาหลี เพราะฉะนั้น ของที่พวกขายตรงเขาขาย ก็ไม่ตรงใจคิมอยู่แล้ว ผงซักฟอกก็มีที่ชอบใจ น้ำยาปรับผ้านุ่มก็มีที่ชอบใจ ชอบไปเดินซื้อของมากกว่าค่ะ เลือกได้ตามใจเรา ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น ไม่ต้องไปรอรับเงินคืน จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 13:06:23

ความคิดเห็นที่ 4 เข้ามาดูเฉยๆครับ จากคุณ : RAORUE เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 13:34:58

ความคิดเห็นที่ 5 มันเยอะไปจริงๆ ทุกอาทิตย์เกือบเลยนะ จะมีกระทู้ทำนองบ่นประมาณนี้ เราว่า คนแบบนี้เยอะไปแล้วค่ะ ตอนนี้เพื่อนๆเริ่มรู้ว่าเรา แอนตี้ เลยไม่ค่อยมาชวนแล้ว แต่ยังมีการแท๊กบ้าง บางครั้ง รำคาญพวก tag อ่ะค่ะ ในเฟซ บางคนนี่สมัครเฟซมาใหม่ เพื่อการนี้ หรือ พวกส่งในเมล์นี่รำคาญกว่าๆๆๆ มากๆๆ ตอนนี้กำลังหางานทำอยู่ด้วยค่ะ พวกนี้ชอบตั้ง subject แบบ ..ตอบรับเรื่องสมัครงาน.. ผลการสัมภาษณ์งาน.... นัดสัมภาษณ์งาน.... โปรโมตบริษัท.... ข่าวเรื่องสมัครงาน.... ตอนนี้กำลังหางานอยู่ เซ็งมากกกเลย จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 14:01:29

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ RAORUE สวัสดีค่ะ คุณหมูหวานน้ำกะทิ ใช่ค่ะ ใน FB เต็มไปหมดเลย น่าเบื่อเป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 14:05:25

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับคุณ จขกท ครับ ทั้งหมดที่เขียนมาเลยครับ ยึดติดกับเงิน เอาเงินเป็นสรณะ...คิดว่าเงินคือความสุข เงินเป็นเพียงสิ่งที่จะนำเอาความสุขที่อยู่รอบๆ มันตามมา หากแต่หาใช่ความสุขไม่ จากคุณ : annakin (amnakim) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 15:09:39

ความคิดเห็นที่ 8 "เตือนเท่าที่จะเตือนได้ นอกจากนั้น ก็รอเก็บซาก วันที่น้องมันรู้ตัวค่ะ " "สิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินกี่ล้าน กี่สิบล้านนั่น คือมิตรภาพค่ะ " ถูกต้องนะคร้าบบบบ 555 ทุำกคนต้องเคยสัมผัสประสบการณ์กับธุรกิจขายตรงอยู่แล้ว ไม่ทำเอง ก็เพื่อน ญาติ บลาๆ ทำแล้วสำเร็จก็ทำต่อ ทำแล้วไม่สำเร็จก็ดันทุรังกันไป จนมันเริ่มเดือดร้อนตัวเอง เดือดร้อนคนรอบข้างนั่นแหละ ถึงจะหยุดแล้วหันกลับมามอง ตอนนั้นทำไปได้ยังไง? จากคุณ : Panda Tabo เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 15:23:11

ความคิดเห็นที่ 9 มัวเมามาเยอะ หลายยี่ห้อ หลายวิธี ฮึกเหิมสุดๆเวลาอยู่ในห้องประชุม เค้าถึงต้องมีประชุมกันบ่อยๆไง ป้องกันดาวน์ไลน์แผ่วปลาย เลยต้องกระตุ้นกันตลอด มาถึงตอนที่รู้ตัว ได้มองสิ่งรอบตัว พิจารณาสิ่งต่างๆแล้วพบว่า ตอนนั้น"เงิน"มันเข้าตาจริงๆ จิตใจมันบอดสนิทด้วยคำว่า"เงิน"ล้วนๆ มันเหมือนเค้าจะกล่อมเราให้ฝังใจว่า ชีวิตเมิงต้องอยู่ด้วยเงิน เงิน เงิน และก็เงิน เห้อ..นึกถึงตอนนั้นแล้วขำๆดี สมัยไปทำแอมเวย์ ตอนเค้าโม้เครื่องกรองน้ำ ผมแย๊บๆไปว่า ถ้ามันกรองฉี่มาเป็นน้ำแล้วพี่กล้ากิน ผมจะซื้อเลย จากคุณ : Moonui เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 17:36:52

ความคิดเห็นที่ 10 อยากอ่านหนังสือเล่มที่ จขกท แปลจังเลย มีชื่อไทยว่าอะไรเหรอ จะได้ไปหามาอ่าน จากคุณ : Canossa เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 19:04:02

ความคิดเห็นที่ 11 โอย เคยเจอแบบว่า เพื่อนก่าไม่ได้เจอกันมาสิบปี พอเจอกันเนี่ย  เสนอเลย อยากมีชีวิตที่ดีมั๊ย อยากไปเที่ยวเมืองนอกทุกปีมั๊ย เสียมู้ดเลย  ไม่ได้เจอกันนานดันมาชวนคุยเรื่องนี้ จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 19:30:29

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นพี่ ๆ แถวที่ทำงานเพ้อฝันมาจะสิบปีแหละว่าจะได้ไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ไม่เห็นได้ไปสักที เพราะทำแล้วไม่เห็นจะได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากเอาเงินมาต่อยอดไปแต่ละเดือน แถมไม่มีเวลาดูแลครอบครัว ไม่มีเวลาดูแลลูก ๆ บางคนเงินเดือนสี่ห้าหมื่น ถ้าเก็บเงินป่านนี้คงได้ไปเที่ยว ต่างประเทศหลายรอบแล้ว แต่นี่เอามาลงทุนทำขายตรง เห็นแต่กลบ ๆ ไปเรื่อย ไม่เห็นจะเคยได้กลับมาเป็นก้อนจริงจังอะไร วัน ๆ เพ้อฝันแต่จะสบายจะรวย เราเบื่อ ๆ เลยด่าไปเลยว่า "ลาออกจากงานไปทำเลยสิ" แต่ไม่เห็นจะมีใคร กล้าลาออก แล้วยังจะมีหน้ามาบอกว่าที่ทำนั่นมั่นคงกว่างานประจำอีก จากคุณ : Two ways เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 21:12:22

ความคิดเห็นที่ 13 แอบบอกได้ไหมค่ะว่า ช่วงนี้เมล์แบบนี้ก็หาย ๆ ไปเยอะใน inbox ว่าแต่พอบอกแบบนี้แล้ว จะโดนกระหน่ำอีกหรือเปล่าไม่รู้ อ๋อ... ชอบตรงประโยคของ จขกท. จังเลย จะทำอะไรก็รับฟังคนอื่นบ้างค่ะ อย่ายัดเยียดให้เขามากนัก ถ้า present ครั้งหนึ่งแล้วไม่สนใจซื้อ ก็แปลว่าเขาได้ข้อมูลแล้ว ถ้าเขาสนใจเมื่อไหร่ก็คงจะติดต่อคุณเอง อย่าไปตื๊อให้มาก สิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินกี่ล้าน กี่สิบล้านนั่น คือมิตรภาพค่ะ เมื่อ 2-3 ปีก่อนต้องปิดมือถือไปเลยอ่ะ เบื่อมาก จากคุณ : ืำnelumbo (nelumbo) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 21:58:06

ความคิดเห็นที่ 14 ตอบคุณ amnakim โดนค่ะ โดน ยึดเงินเป็นสรณะจริงๆ ตอบคุณ Panda Tabo มันเป็นวัฎจักรค่ะ กว่าจะรู้ตัวเนอะ ตอบคุณ Moonui ที่โบสถ์สอนว่า เงินอยู่ที่มือได้ค่ะ แต่อยู่ที่ใจไม่ได้ แต่ก็นะ เป็นประสบการณ์ค่ะ พอคิดได้ ก็จะรู้ตัว ตอบ คุณ Canossa อยู่ในระหว่างแปลค่ะ กำลังคิดจะตั้งชื่อว่าสถิติ:-)ค่ะ แต่ต้องถามท่านบก. ก่อนว่าอนุมัติหรือไม่ ฮ่าๆๆ ต้องรอสักหน่อยค่ะ จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 23:17:33

ความคิดเห็นที่ 15 เอ่อ คำที่ขาดหายไปถูกกรองคือคำว่าสะตอเบอแหลค่ะ แต่แบบไทยเดิมนะ จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 23:18:12

ความคิดเห็นที่ 16 เวลาเจอพวกขายตรงขายฝันพูดแล้วก็ตลกนะ จะประสบความสำเร็จได้เป็นแสนเป็นล้าน ได้ไปเที่ยว ชีวิตมีอิสระด้านการเงิน จะเกษียณตัวเองตอนอายุเท่านั้นเท่านี้ ชีวิตตามความฝัน มันพิลึกเพราะเราก็เคยทำขายตรงช่วงนึง แต่โดยมากใช้เองและไม่หาดาวน์ไลน์ ซื้อใช้เพราะชอบสินค้าบางอย่าง เรื่องระบบขายตรงก็พอเข้าใจเพราะคนใกล้ตัวเคยทำ จากระบบทั้งหมดนี่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้เด็กสิบแปดมีรถสปอร์ตขับ ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็เถอะ อิสระทางการเงินมันเป็นไปไม่ได้ ยังไงก็ต้องรักษายอด หาดาวน์ไลน์ แล้วดาวน์ไลน์สิบคนจะมีสักหนึ่งคนที่ทำอย่างจริงจัง นอกนั้นก็สมัครเพราะเกรงใจบ้าง ทำเล่นๆบ้าง เรื่องจะหลอกคนไปฟัง หรือขายสินค้าที่ราคากับความจำเป็นมันไปไม่ได้กับเศรษฐกิจแบบนี้ เบื่อพวกอัพไลน์เจ้าเล่ห์ที่ชอบบอกว่าไม่ใช่งานขาย เป็นการทำธุรกิจ หลักการตลาดเพี้ยนๆที่ลอกมาแบบผิดๆจากหนังสือHow to ที่มันทำไม่ได้ในชีวิตจริง นอกจากคุณจะไม่ต้องการเพื่อนหรือสังคมอื่นนอกเหนือจากลูกทีม จากคุณ : นางเอกหนังไทย เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 23:19:37

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบ คุณ Ter @ AFC มันเป็นสูตรสำเร็จค่ะ บางทีก็อยากบอกว่า ไม่อยากไปเมืองนอก อยากได้เพื่อนหรือน้องคนเดิมกลับมามากกว่า ตอบ คุณ Two ways โห เป็นสิบปีแต่ไม่เลิก นับถือๆ ค่ะ ตอบ คุณ nelumbo หวังว่ายังไม่มีใครไปกระหน่ำ inbox นะคะ ฮ่าๆๆ กลั่นจากความรู้สึกน่ะค่ะ สงสารน้องๆ เค้าด้วย ยังเด็ก ไม่รู้คิด เจอกระตุ้นเข้าไป ก็ทนกันไม่ไหว จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 23:20:34

ความคิดเห็นที่ 18 เราเลิกคุยกับเพื่อนไป 3 ปีเพราะมันคุยแต่เรื่องนี้ ล่าสุดมีไม่คุยไป 2 เอมสตาร์อะไรซักอย่าง บอกตรงๆเราไม่ว่า แต่นี้เจือกหลอกให้ไป โกรธ ตอนหลังรู้แกว โทรมาชวนไปทำธุรกิจ จะรู้ทันที 555 แต่แฟนเก่าเราทำแอมเวย์นะเป็นเพชรสถาปนาบ้าไรไม่รู้ทั้งบ้าน รู้แต่เดือนนึงรับไม่ต่ำกว่า 500K มีเซ็นเตอร์เป็นของตัวเอง เราว่ามันเหมือนลัทธิอะไรซักอย่าง เดินไปไหมมีแต่คนขอจับมือ -_-" จากคุณ : Keep Discovering เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 15:44:48

ความคิดเห็นที่ 19 เคยเจอ โทรมาหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานมากกก บอกว่ามีสิ่งดีๆจะมานำเสนอ  หลังจากนั้นเราก็ตัดบทเลิกคุย และเลิกคบด้วย เว้นแต่ว่ามันจะเลิกทำงานนี้แล้ว จากคุณ : สดใสซาบซ่า เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 16:17:16

ความคิดเห็นที่ 20 โดน มาเหมือนกันเลย เสียเพื่อนไปแล้ว 5 คน แอ 3 เอ 1 ว 1 เสียดาย และเสียใจ เพื่อนเก่าดีดี  ทั้งนั้น มุกเหมือนที่บอกข้างบนทุกคน ปลง จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 16:59:25

ความคิดเห็นที่ 21 เหอๆๆ เราเคยตัดสินใจถอยห่างจากคนที่ดูๆกันอยู่เพราะเค้าไปบ้าขายตรงนี่แหละ วันๆคุยแต่เรื่องนี้เหมือนเพ้อฝัน ขนาดเราเปลี่ยนหัวข้อแล้วยังวกกลับมาได้  แถมยังเกลี้ยกล่อมให้เราสมัครด้วย เราก็ไม่ชอบขายตรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายให้ลาขาด ปัจจุบันก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าเค้าเลิกทำหรือยัง แต่ไม่เอาดีกว่า... โทรไปหากลัวโดนเกลี้ยกล่อมให้ซื้อของอะ จากคุณ : สายไหมสีส้ม เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 17:56:34

ความคิดเห็นที่ 22 ผมเจอบ่อยมาก สุดจะรำคาญ แต่ก็ไม่อยากไปทำลายฝันของใคร ก็นั่งพยักหน้าหงึกๆ ไป ท้ายสุดก็ต้องปฎิเสธไปทุกราย บางรายก็จบได้ด้วยดี บางรายดันมากระแนะกระแหนเราอีก ล่าสุด น้องผู้ชายรู้จักกันผ่านๆ มาเสนอแบบจัดหนัก พอเราทำท่าปฎิเสธ ก็เหวี่ยงใส่ หาว่าไม่รู้จักความก้าวหน้า มั่นคง ฯลฯ มาบอกให้เราไปอ่านหนังสือ บรรดา พ่อพาลูกรวย ล​ูกพาพ่อรวย พ่อลูกกอดคอกันรวยแต่... แหม! อยากจะซื้อหนังสือ "เสียดาย คนอ่านไม่ได้ตาย" ให้คุณน้องได้อ่านเสียจริงๆ เฮ้อ! ให้น้อง จากคุณ : มานี มีนา พาตา ไปดูปู เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 19:01:12

ความคิดเห็นที่ 23 คนรวยจริงๆ เขาต้องคิดหรือทำอะไรที่เป็นของตัวเองครับ ไอ้ประเภทขายฝัน ยืมจมูกคนอื่นหายใจ ทำนาบนหลังคน ไงก็ไม่ยิ่งใหญ่ครับ จากคุณ : หางแหลม เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 19:17:28

ความคิดเห็นที่ 24 เจอพวกนี้ผมมักจะถามว่า อัตราส่วนคนที่ประสบความสำเร็จแบบที่คุณว่ากับคนที่ล้มเหลว เลิกกลางคัน หรือกำลังจะไปถึงจุดนั้น มีกี่คน แล้วคนที่ประสบความสำเร็จ ใช้เวลานานเท่าไหร่ มี downline กี่คน จากคุณ : M style เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 21:14:48

ความคิดเห็นที่ 25 อยากรู้ว่าล็อคอิน nanalooktan ยังทำอยู่รึเปล่า ปีที่แล้วมั้ง ใครมาพูดอะไร ก็หาข้อแก้ต่าง ซึ่ง ถ้ายังไม่เลิกจะได้มาแชร์ว่าเป็นยังไงบ้าง จากคุณ : charmander เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 22:14:36

ความคิดเห็นที่ 26 ..สินค้าที่คุณเอามาขาย อย่าแปลกใจทำไมขายได้ เพราะคนที่ซื้อส่วนใหญ่คือ ครอบครัว หรือ เพื่อนคุณ ยอดเงินจากการขายเพิ่ม แต่มิตรภาพของคนที่คุณขายได้มันกำลังเลือนลาง ลองมองคนที่รักเรารอบๆตัวนะครับ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 54 23:48:04 จากคุณ : B_A_N_K เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:46:53

ความคิดเห็นที่ 27 ผมก็เคยโดนเหมือนกันครับ เพื่อนมันโทรมาบอกว่าให้กินน้ำมันรำข้าวของ aim star ช่วยแก้สารพัดโรค ผมฟังแล้วยังอื้งๆ อยู่ พอไม่ทันไรก็เปลี่ยนเรื่องมาบอกว่า สงสารผมที่ยังทำงานประจำอยู่ ในใจนึกๆอยู่อย่างเดียวว่า อึงมาสงสารอะไรกรู ใช้คำว่าสงสารอะครับ เห็นผมเป็นอะไร อย่างน้อยๆผมก็ไม่ได้ขอเค้ากิน พวกหยิ่งยโสพวกนี้เกลียดนัก อยากจะด่ากลับแต่ก็ยังเป็นคนมีสติดีพอ ที่จะไม่พูดลบหลู่ใคร ล่าสุดพอดีเดินไปเจอมัน เห็นว่าพยายามเดินหลบ คุยไปคุยมาก็รู้ว่าไปสัมภาษณ์งานที่ตึกข้างๆกัน นึกในใจแล้วยังขำอยู่ (สะใจมากๆ) จากคุณ : saelor99 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 06:53:16

ความคิดเห็นที่ 28 ตอบ คุณ Keep Discovering คิมว่าคนที่เขาทำได้ก็มีค่ะ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เพื่อนๆ และญาติๆ ระอาเขาหรือเปล่า อยากลองสัมภาษณ์เพื่อนๆ ญาติๆ เขาเหมือนกันค่ะ ว่าโดนมั๊ย แหะๆ ตอบ คุณ สดใสซาบซ่า คุณ เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน คุณ B_A_N_K สงสัยจังว่าเพื่อนๆ พวกนั้นเขาเคยคิดเสียดายเพื่อนกันบ้างรึเปล่านะ เพราะบางคนก็ต้องเลิกคบไป บางคนก็จำใจซื้อเพราะอยากช่วย สงสาร ตัดรำคาญ ว่ากันไป เฮ้อ คุณ สายไหมสีส้ม แรงแฮะ :) แต่ก็นะ ถ้าวันๆ ต้องฟังแต่แบบนี้ก็คงแย่เหมือนกันค่ะ คุณ มานี มีนา พาตา ไปดูปู ลองซื้อให้สักเล่มสิคะ อาจจะทำให้ตื่นขึ้นมาได้บ้าง :) ตอบคุณ หางแหลม คุณ M style อันที่จริง น่าจะมีคนเก็บสถิติสำเร็จกับล้มเหลวบ้าง และทุนที่ลงไปด้วย :) คนทำได้มีจริงๆ แต่น้อย ยาก และถ้ามีทุนทำอย่างอื่นดีกว่า จริงมั้ยคะ คุณ charmander อาจจะเลิกแล้วมั๊งคะ ไม่งั้นน่าจะเข้ามาแล้ว :) คุณ saelor99 ฮ่าๆๆ ซะงั้น ไหนว่าทำงานประจำน่าสงสาร เนอะ จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 09:10:37

ความคิดเห็นที่ 29 ผมโดนเพื่อนโทรมาชวน ก็นั่งฟังไป ไม่อยากปฏิเสธเพราะไม่อยากเสียเพื่อน และสมัครของ เอม......... ไป จน ณ ปัจจุบันผมไม่ได้ทำอะไรเลยเสียไป 300 ค่าสมัคร ยิ่งอ่านยิ่งเข้าใจระบบนี้เลยว่า เีสียเพื่อนถ้าเข้าสู่ระบบนี้นะครับ จากคุณ : noonin555 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 10:20:41

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนเพื่อนทำขายตรง เราบอกห่างกันสักพัก พอเพื่อนเลิกทำเราก็สนิทกันเหมือนเดิม   หลอกให้เราไปฟังขายตรง โดยใช้ความเป็นเพื่อน (เสียความรู้สึกมากนะ) ไม่โกธรแต่จำไม่ลืม จากคุณ : LittleSister เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 10:33:47

ความคิดเห็นที่ 31 พวกนี้มักจะแยกแยะความเกรงใจกับความสนใจไม่ออก พอเราเกรงใจก็ดันนึกว่าเราสนใจ เฮ้อ จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 14:14:58

ความคิดเห็นที่ 32 บอกไป รวยแบบ สบายๆ ก็ ขายหวย ค้ายา เท่านั้นแหละ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 16:56:18

ความคิดเห็นที่ 33 ยังดี อ่ะ เราเจอ อาจารย์ที่สอนตอนอยู่มัธยมต้น อารมณ์ประมาณว่าดีใจสุดๆ คุยกันไปคุยกันมา ขายน้ำผลไม้ เพื่อสุขภาพ ขวดละ 2,500 บาท จำต้องซื้อมา 1 ขวด เพื่อ สุขภาพ และ รักษาน้ำใจอาจารย์ เฮ้อๆ จากคุณ : winnertong เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 17:36:42

ความคิดเห็นที่ 34 ขายตรง ขายไปเรื่อยๆ สุดท้าย หนีไม่พ้น ขายตัว จากคุณ : kaka491 (kaka491) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 17:36:50

ความคิดเห็นที่ 35 เพือนใครที่ทำอยู่ ปล่อยเค้าไปก่อนสักพักค่ะ เพือนเราทำค่ะ เพือนที่รักมาก มันเคยชวนเราหลายๆครั้ง แต่เราไม่เคยโกรธเพือนนะคะ ก็เข้าใจเขา เพือนมันก็เห็นเราปฏิเสธหลายๆครั้งก็เลิกชวนไปเองค่ะ เหมือนเข้าใจกันมากกว่า และทุกวันนี้ก็ยังคบกันปกติ แต่ไม่พูดถึงเรื่องขายของ (เพราะรู้สึกจะเลิกขายไปแล้ว ฮ่าๆๆ) เราว่า ถ้าเป็นเพือนรักเราจริง ปล่อยเค้าไปก่อนสักพักค่ะ แต่อย่าเพิ่งตัดรอนเลยนะ ^^ เดี๋ยวเค้าคนเดิมก็กลับมา จากคุณ : รักหนักแน่น เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 19:57:49

ความคิดเห็นที่ 36 คุณคิมเขียนได้น่าอ่านดีจัง เราคนนึงค่ะ เคยเจอเพือนมาขาย มาชวนไปสมัคร พอไม่สนใจ ไม่คบเราเลย เราก็งงๆ ความผิดเราเหรอ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ของประเภทพวกขายตรง  สินค้าบางอย่างก็ยอมรับว่าใช้ดีจริง เพื่อนเราคนนึง ก็ทำธุรกิจขายตรง แต่ต่างกันตรงที่ว่า ไม่ยัดเยียดสินค้า และไม่ได้กะรวย คือสมัครสมาชิก เพื่อซื้อของได้ส่วนลด อีกครั้งล่าสุดที่เจอ เพื่อนร่วมหอ ไม่ได้สนิทกันเลย  เราก็เอ๊ะใจตั้งแต่แรกแล้ว อยู่ๆมาตีสนิทแบบผิดสังเกตุ  ให้เรานั่งฟัง ดูวิดีโอ พอเราดูจบตามมารยาท เลยขอตัว แต่ไปๆมาๆ ยังไม่พอ มีการดูถูกต่อ ว่า การเรียนมหาวิทยาลัย ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรเลย มาขายตรงรวยเร็วกว่า  บลา บลา บลา ปวดหัวกับคนที่คิดแบบนี้จริงๆ จากคุณ : วันนี้ฉันมีความสุข (IBeNes) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 20:29:29

ความคิดเห็นที่ 37 อยากจะบอกว่า พวกขายตรง"บางคน"นิสัยไม่ดีมากๆ : 1. ชอบดูถูกคนอื่น ที่เค้าทำงานประจำ ว่าน่าสงสาร ไม่มีทางรวย ไม่มีวันลืมตาอ้าปากได้ 2. ชอบหลอกเพื่อนไปฟังบรรยายขายตรง 3. พอเราไม่สมัครสมาชิก ไม่ยอมซื้อสินค้า ไม่ไปฟังบรรยาย ก็หาว่าเราโง่ ไม่อยากได้ดิบได้ดี คนพวกนี้ ไม่สมควรให้เข้าใกล้ เบื่อนิสัยเลวๆ ชอบดูถูก&หลอกลวงคนอื่น จากคุณ : จิน ณ จันทร์ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 20:40:07

ความคิดเห็นที่ 38 ^^ เหอๆๆ เคยเจอน้องคนนึงชวนทำ ผมก็บอกว่า พี่เขียนโปรแกรมของพี่ดีแล้วจะไปขายของทำไม น้องเค้าก็บอกว่า ทำไมพี่ไม่เปิดใจ ทำตรงนี้ เดี๋ยวก็ไม่ต้องทำงาน ได้ไปเที่ยว มีเครือข่ายหาเงินให้ ผมก็ถามว่า น้องต้องทำมากี่เดือนแล้ว เค้าก็บอกว่า 3 เดือนกว่า ผมก็ถามต่อว่า แล้วคิดว่าปีหน้า หรือ 6 เดือนถัดไปจะมีเงินเท่าไร เค้าก็บอกว่าถ้าครบปี เค้าจะพยายามทำให้มีรายได้เดือนละแสน ระดับนั้นนี้ ได้ไปเที่ยวนี่นั่น ผมก็ตอบไปว่า งั้นมาแข่งกัน... เวลาผ่านไป ไวเหมือนโกหก 4-5 เดือนถัดมา ลองถามดูว่าน้องมีรายได้เดือนละแสนหรือยัง พี่ทำงานประจำ รับงานนอกไปด้วยนิด ๆ หน่อย ๆ เงินแสนพี่หาได้ภายใน 2-3 เดือน น้องบอกว่าได้เดือนละพันกว่าบาทเอง แถมเสียค่าใช้จ่ายไปมากกว่านั้นหลายเท่า ตอนนี้เลิกทำแล้ว พี่อะเปิดใจเสมอ แต่ทำไมน้องไม่เปิดใจฟังคำเตือนของพี่บ้าง พี่เป็นห่วงน้อง ไม่มีเงินพี่ก็ให้ยืม แล้วทำไมน้องถึงไปเชื่อคนอื่น ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มากกว่าพี่ งิ๊ดดด จากคุณ : เค้าเปล่านะ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 21:27:21

ความคิดเห็นที่ 39 ตอน ปตรี เพื่อนลากไป "เอแวม" เข้าไป center รู้สึกเหมือนโดน force sell จะะเอาใบสมัครให้อยู่ได้ ดีนะถึงเราหัวอ่อน แต่ไม่มีตัง เลยไม่ได้ทำ และคิดว่าเราไม่พร้อม ตอนนั้นก็ anti ไปบ้าง ก็จบๆกันไป ต่อมาตอนจะสามสิบ มีคนพาไปพัง อา-สะ-เต็ม ก็รู้สึกดีสมัครไป แล้วคิดจะทำจริงๆ แต่พอทำไปไม่ถึงสองเดือน เพื่อนๆ และคอบครัว บอกว่าอย่าไปทำเลย จริงๆตอนนั้นน้ำเชี้ยว ไม่ค่อยเชื่อ เลยไประบายที่center พวกพี่ๆเขาก็ดีนะให้กำลังใจปรับทัศนะคติให้กับเรา เราก็รู้ึสึกดีนะ แต่ สุดท้ายเราไม่ได้ทำ เราคิิดว่าไม่เหมาะกับเราอ่ะ เราอาจจะไม่เก่ง พอจะทำงานแบบนี้ อีกอย่างสินค้ามันก็นะ แก้ได้ทุกโรค อุปทาน ชาบูๆ กัน สุดๆ สุดท้ายพอเรามีสติเลยคิดว่ามันเวอร์เกิ้นนน แล้วก็เลิกทำไป เข้าสู่วงจรชีวิต ทำงานปกติต่อไป ก๊ากกกกก เมื่อไหร่จารวย ซักทีหละเรา จากคุณ : Fv เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 22:29:51 A:58.64.111.38 X: TicketID:295959

ความคิดเห็นที่ 40 miss kim ขอแอดเป็นเพื่อน ที่ fb ได้ไหมครับ อยากมีเพื่อนที่มีทรรศนะคติที่ดีแบบนี้จังครับ คล้าย ๆ กัน ของ ผม paul_rev@hotmail.com นะครับ จากคุณ : จบสูงยังโดน เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 05:58:28

ความคิดเห็นที่ 41 ผมพึ่งเข้าฟังงาน UPS ของ Unicity ที่เชียงใหม่ โดยความเต็มใจเพราะเพื่อนรักที่สุดบอกให้เข้าไปฟัง มีการนำคนที่สำเร็จมาบอกผลลัพธ์ที่ตัวเองได้รับ มีคนวิ่งขอจับมือพวกที่สำเร็จ พอเข้าฟังผมบอกตัวเองได้เลยว่าผมขอตั้งใจทำงานเดิมที่ทำอยู่เหมือนเดิม ส่วนเพื่อนของผมก็คงต้องปล่อยให้เขาอยู่ในสิ่งที่เขาเห็นว่าดีไป โดยผมยอมที่จะให้เพื่อนผมบอกว่าเพราะผมไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงถึงไม่มีอิสระภาพทางการเงิน ทำไมไม่มาร่วมงานกับเรา เสียดายที่ธุรกิจแบบนี้เอาความฝันของผู้คนมาเล่น เอาวัตถุ เอาเรื่องเงินมาหลอกล่อ แต่ไม่เคยย้อนกลับไปดูเลยว่าคนที่เขาหันหลังให้เขาเสียอะไรไปบ้าง บอกให้เชื่อฟังอัพไลน์เพราะอัพไลน์คือคนที่จะทำให้สำเร็จ ทำไมครับการเป็นข้าราชการมันแย่มากนักหรือท่านๆ อัพไลน์ถึงบอกว่ายังไงก็ไม่รวย ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้เพื่อนกลับสู่ความเป็นจริงสักที จากคุณ : sjuckrit เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 07:02:50

ความคิดเห็นที่ 42 ... เน้น ย้ำอีกครั้งนะครับว่า ช่วยๆๆ กันกด VOTE ก็ดีนะครับ เพี่อที่ กระทู้จะได้อยู่ได้นานๆ นะครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 10:41:20

ความคิดเห็นที่ 43 ขอถามหน่อยค่ะ มีน้องที่ทำงานเก่าคนหนึ่ง ไปทำงานที่บริษัทขายตรงแห่งหนึ่ง ถามว่าไปทำอะไรบ้าง ทำออฟฟิศ ก็อกๆ แก็กๆ งานเอกสารเรื่อยๆ ทำมาเกือบปีละ ก่อนหน้านี้ก็มีเพื่อนทำอยู่ 2 ปี ไม่ได้ไปขายอะไรนะ เงินเดือน 25,000 เข้าบัญชีทุกเดือน มาชวนให้เราไปทำด้วย แต่เรากลัว อะไรที่มันได้มาง่ายๆ มันน่ากลัว เราก็อยากลองไปดูนะ แบบว่าไปสัมภาษณ์ดูซิ ว่ามันให้เราทำอะไรกันแน่ แต่น้องมันบอกว่า ต้องนัดผจก. นัดยากมาก และไม่ใช่ว่าใครนึกอยาก จะเดินเข้ามาสมัครก็ได้นะ ต้องนัดก่อน ถึงเข้ามาได้..งงหงะ.. วานผู้รู้ช่วยตอบ จากคุณ : ปุ๊กกี้ด็อก เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 11:48:11

ความคิดเห็นที่ 44 งานนี้ คนได้เงินจริง รวยจริงก็มีครับ แต่เป็นส่วนน้อยมาก ๆ #43 ลองถามก่อนสิครับ ว่างานประจำ มีเงินเดือน จ่ายประกันสังคมให้หรือป่าว หักภาษีอะไรอย่างไร สลิปเงินเดือนเป็นยังไง เงินเดือนเข้าธนาคารไหน แค่นี้ก็พอรู้แล้วล่ะครับ ว่างานจริง หรือลากไปขายตรง  ^^ จากคุณ : เค้าเปล่านะ เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 12:48:03

ความคิดเห็นที่ 45 แฟนทำแอมเวย์อยู่ T_T ตอนแรกก็วิเคราะห์ดีอยุ่หรอก ว่าอันไหนดีจริง ไม่ดีจริง... พักหลังๆมาโอ้โห!! แอมเวย์ดีทุกอย่าง ทะเลาะกันรายวัน ผ่านไป 1 ปี ให้เค้าเลือกระหว่างเรากับแอมเวย์ โอ้พระเจ้า !! คุณชายเลือกแอมเวย์!! เหตุผลเพราะมันจะทำให้ชีวิตเค้าดีขึ้น ครอบครัวเค้าสบาย บลาๆๆๆ ตอนนี้ก็เลยห่างกันซักพัก เบื่อที่จะคุย ที่จะทะเลาะ อยู่แบบนี้ดีกว่า เชิญมันป่วยให้พอใจ จะไปได้แค่ไหนกัน อย่างมากก็ตังหมดก็คงเลิกแหละ 555+ จากคุณ : Romantic_zaa เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 15:56:28

ความคิดเห็นที่ 46 ตอนเรียน ป.ตรี ผู้หญิงที่แอบชอบโทรมาคุยด้วย ผมดีใจแทบตาย นึกว่าเขาชอบเรา ที่ไหนได้   ชวนไปทำHerbalife !!!!!   จากคุณ : kunimihero เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 19:43:25

ความคิดเห็นที่ 47 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 21:17:33

ความคิดเห็นที่ 48 เพื่อนสนิทเราก็โดนชักจูงเข้าลัทธิค่ะ (เค้าไม่ชวนเรานะ เพราะเราฮาร์ดคอร์ แบบว่าไม่ทำก็ไม่ทำ ไม่ต้องมาชวน อยู่ได้สบายดีอยู่แล้ว) แต่เค้ามาตามตื๊อเพื่อนสนิทเราอีกกลุ่ม (คือนึกออกมั๊ยคะ สนิททั้งคู่ แต่อยู่คนละกลุ่มกัน) แล้วเพื่อนเราก็พยายามหนีคนนี้สุดชีวิต เพราะคุณเธอตื๊อมากๆเลย เรากลุ้มใจมากอ่ะ จะเสียเพื่อนคนเดียวไม่พอ ลากให้เราเสียเพื่อนไปอีกคน เฮ้ออออ......... จากคุณ : poppiko เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 22:18:22

ความคิดเห็นที่ 49 ขอมาระบายนิดนึง... เพื่อนสมัยมหาลัย ก็มาชวนทำของ เอม ตอนนั้นไม่ค่อยว่าง + สุขภาพกายและจิตแย่ด้วย เลยปัดๆไป หลังจากนั้น 2 เดือน เพื่อนเลิกทำแล้ว คุยกันได้อย่างสบายใจหน่อย เพื่อนให้เหตุผลว่า เจอพี่ upline ไม่ดีด้วย + เหนื่อย ขนาดมัน พูดเก่งแล้วนะเนี่ย มันยังไม่เอาเลย คนสนิทอีกคน ตอนนี้กำลัง "บ้า" อย่างหนักกับโปรตีน... ชวนไป center ทุกอาทิตย์ ชวนไปประชุมตจว.ทุกเดือน ชวนไปดูรูปที่ upline ไปเที่ยวมา >>> คิดในใจ ทำไมต้องไปดูรูปที่เค้าเที่ยวด้วยล่ะ? ไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่แม่ ไม่ใช่เพื่อนอ่ะนะ หัวหน้าพูดอยู่ประโยคนึงว่า เราทำไม่ได้หรอก เพราะเราไม่ยอมทิ้งมิตรภาพของคนรอบข้างไปแน่นอน ฟังแล้วอึ้งๆ เหมือนเค้ารู้ใจเรา ทุกวันนี้เลยต้องปล่อยให้คนสนิทคนนี้ทำต่อไป เรื่องนี้ไม่ต้องพูดกันมาก พูดแล้วต้องทะเลาะกันเกือบรายวัน ความสัมพันธ์เริ่มห่างเหินไป จากคุณ : fungjai เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 22:26:20

ความคิดเห็นที่ 50 เถียงกันไม่มีจบครับ เรื่องอย่างนี้ ขอแนะนำBlogตัวเองนะครับ ลองไปอ่านดูครับมีเรื่องเกี่ยวกับ MLM ในมุมมองจากคนนอก(ที่ศึกษาจากคนใน) ติ-ชมได้ครับตามสบาย จากคุณ : อาเสี่ย (อาเสี่ยรองเท้าแตะ) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 23:50:56

ความคิดเห็นที่ 51 อุ๊ย Mr. Fusion เข้ามาด้วยหล่ะ :) คิมขออนุญาตนอนก่อนนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาเม้นท์และอ่าน พรุ่งนี้จะตอบค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 23:06:11

ความคิดเห็นที่ 52 น้องชายผมหางานไม่ได้ เลยทำซะเลย มันก็ชวนๆผมไปฟัง แต่ก็ปฏิเสธ แต่พอเล่าให้หัวหน้าฟัง หัวหน้าบอกลองมองในแง่ดี ไอ้พวกนี้มันตื๊อเก่ง ลองไปดูเทคนิคการขายพวกมันดูซิ เลยลองไป ความเห็นผม น้องผมมันโง่มาก เงินเก็บไม่ถึงหมื่นและเพิ่งจบ เมิงไม่มีเงิน เมิงยังจะซื้อของเก็บPointบ้าบอไรอีก เมิงไปช่วยขายของให้เขา ทำไมเมิงไม่เหนื่อยทำเองเลยล่ะ ได้ทันทีไม่ต้องเก็บPointบ้าบอ ไม่ต้องหาเครือข่าย เสียเงินค่าเดินทางอีก แทนที่จะเก็บไว้หางาน จนตอนนี้มันเลิกทำไปแล้ว ประสบการณ์ที่เคยไป ถ้าคุณเห็นยิ้มใครสักคน ยิ้มให้คุณแต่ไกลเป็นกลุ่ม พูดได้เลยว่าเป็นกลุ่มขายตรง ความไม่จริงใจมันบอกได้เลย บางคนนี่กินข้าวกับเพื่อนกันอยู่ อยู่ๆก็เอาสเปรย์บ้าบอมาวางบนโต๊ะให้คนงง เพราะมันรู้ว่าจะมีคนถาม ฮามากที่ไม่มีคนถามมัน จนต้องมีอีกคนที่ทำด้วยชงให้ แบบซาร่า จอร์จกันเลยทีเดียว ลองไปแล้วคิดว่าวิธีขายตรงที่ผมได้คือ มัดมือชก จากที่ไปฟังนะ พวกเขาจะพยายามมัดมือชกผม ดีใจที่มาร่วมงานกัน(ยังไม่บอกเลยว่าจะร่วมงานกับเมิง) เอาเบอร์มาซิ(ผมให้ไป รู้ไหมมันเมมชื่อผมว่า Target 5555+เลวจริงๆ) มีธรรมเนียมจับมือบ้าบอให้แน่นแบบนักธุรกิจ เฟคมาก แม้ว่าเขาทำหน้าที่ห่วยแตกแค่ไหนก็ตาม บางคนมาแบบดูแล้วเป็นเซลล์ไม่น่านับถือ เป็นพนักงานก่อสร้างมากกว่า แล้วพูดนิ่งๆ ลอยๆเหมือนคนติดยา ทุกคนปรบมือด้วยความเฟค และยินดีที่เข้ามาเป็นสมาชิก เหอะๆๆ และมีคนนึงที่ผมหมั่นไส้สุดๆ ชื่อ ไอ้ฉุย อ้วน 55555+ ผมยึกยัก ไม่เข้าร่วมกับมัน แต่ไปฟัง 2ครั้ง ให้มันแปลกใจเล่น เมิงไม่สนใจเมิงมาทำไม :-)มองหน้าผม เหมือนหน้าผมไปอยู่ที่เท้า ตามันมองอย่างนั้นจริงๆ เหยียดสุดๆ แบบเมิงไม่มีทางสร้างประโยชน์ให้กูได้ กูก็เลยไม่เฟค และแอนตี้เมิงดีกว่า หารู้ไม่ การขายแม้คุณจะไม่ชอบลูกค้า การแสดงกิริยาที่ไม่น่าพอใจออกมา อาจทำให้การขายของคุณ ลูกค้าไม่ซื้อตั้งแต่วันที่เห็นกิริยาแย่ๆวันนั้น จากคุณ : ยิ้มไว้เมื่อหุ้นลง เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 23:38:24

ความคิดเห็นที่ 53 ขอแชร์บ้าง สมัยเรียนมีเพื่อนคนหนึ่งทำธุรกิจลักษณะนี้เหมือนกัน ซึ่งก็คงทำรายได้มากพอสมควร เพื่อนเลยคิดเหมือนเด็กๆ อีกหลายคนตอนนี้ว่า ไม่ต้องเรียนก็ได้ เอาเวลาไปหาเงินดีกว่า จากเด็กที่เรียนเก่ง เกรดหรู กลายเป็นติดโปร เกือบจะถูกรีไทร์ เพราะไม่สนใจเรียน จนที่บ้านถึงขั้นต้องขอร้องให้เลิกทำ เพื่อให้กลับมาเรียนเหมือนเดิม อยากบอกว่าเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ ที่กำลังคิดว่าไม่เรียนดีกว่า เอาเวลาไปทำงานแทน จริงอยู่แม้ว่างานที่คุณทำจะสร้างรายได้ให้มากมาย แต่อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นการศึกษาย่อมสำคัญกว่า อย่าทิ้งการเรียนเลยนะคะ ปล. อ่านความเห็น 39 แล้วนึกว่าคนใกล้ตัวเรามาตอบเองเลย 55 จากคุณ : arika chun เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 00:11:05

ความคิดเห็นที่ 54 ถ้ามีงานประจำแล้วทำเสริม ได้หรือไม่ได้ไม่รู้แหละ มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร และผมก็มองว่าอย่างน้อยมันก็ยังได้ skill อะไรบางอย่างกลับมานะ ผมไม่ได้ว่ามันดีนะ แต่บางอย่างผมก็ยอมรับว่ามันมีสิ่งที่ในงานประจำไม่สามารถหาได้เหมือนกัน อยากพูดเชิงลึกมากกว่านี้แต่กลัวจะมาดราม่าใส่ผม -*- แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 00:42:18 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 00:40:36 จากคุณ : Deknoi01 เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 00:39:16

ความคิดเห็นที่ 55 ผมโดนมาเรื่องนี้เยอะมากและแปลกๆก็เยอะ เรียงมาเลย ตอนปี1.. ผมถูกเพื่อนจากม.ปลายด้วยกันมาชวน ทำ" ทางของฉัน" ก็ไม่ได้ทำปฎิเสธไป แต่เพื่อนก็ตื้ออยู่หลายเดือน ผมก็ช่วยซื้อของเมหือนกัน แต่สุดท้ายเพื่อนก็เลิกตื้อ และเลิกทำในายหลัง ตอนปี2....พ่อผมหลงไปทำ"สมุนไพรชีวิต" ซึ่งโดนสปอนมาหนักมาก ขณะที่ท่านส่งผมไปเรียนท่านยังพูดตลอดทาง ให้ผมช่วยทำ ส่งอีเมลไปประชุมอะๆรสารพัดด้วย สุดท้ายก็เลิกเพราะรู้ว่ามันไม่ใช่ เพราะรู้สึกแย่ที่ต้องโกหกคนมาฟังด้วย และเพราะกระบรวนการอีกหลายๆอย่างของมัน ตอนปี3.....เพื่อนอีกคนนึง ในม.เดียวกัน แต่คนละคณะ (จบจากม.ปลายด้วยกัน) เป็นคนนึ่งที่เคยชวนไปทำ ทางของฉัน ด้วย เสนอให้ไปฟัง "ดาวของฉัน" แทน ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากเลย เพราะว่าแม่ป่วยเป้นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว เพื่อนเลยถือโอกาสนี้ สปอน น้ำมันรำข้าว ซะเต็มที่ว่าอาจจะช่วยแม่ผมได้นู้นนี้นั้น จนผมก็ตัดสินใจสมัครไปเพราะน้ำมันรำข้าว ก็ซื้อๆไปให้คุณแม่ทาน ประชุมก็ไม่ฟัง เพื่อนๆ และuplineของเพื่อนโทรมาให้ไปฟังผมก็ไม่ไป จนคุณแม่เสียชีวิต ผมก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งกับมันอีก จนล่าสุด.... ผมนั้งอยู่สตาบั๊คสาขาสยามดิสๆ ซึ่งมีเซ็นเตอร์ของขายตรงชื่อดังเปิดใหม่ ผมนั้งดื่มกาแฟ อ่านหนังสือตามปกติของผม อยู่ๆก็มีพี่ผู้ชายท่านหนึ่งมาชวนคุย ถามว่าชื่ออะไรเรียนทีไ่หน ปีอะไร แล้วก็มาถามเรื่องความฝัน แล้วท่านก็เล่าๆ จนสุดท้ายเข้าเร่องว่า เค้ามีแผนๆนึงให้เราดู เค้าก็เปิดหนังสือ business week ฉบับปี2009 เือนอะไรผมจำไม่ได้ พอเห็นรุปเครือข่ายเป็นโยงใยแล้วผมรู้เลยว่าขายตรงชัว เอามาแชกันนะครับ ไม่ได้อยากโจมตีใคร ตอนนี้ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาทำความฝัน ผมยอมรับว่าอยากรวย แต่ต้องไม่ใช่วิธีขายตรงนะครับ จากคุณ : tubtimkorn เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 03:08:39

ความคิดเห็นที่ 56 ... เน้น ย้ำอีกครั้งนะครับว่า ช่วยๆๆ กันกด VOTE ก็ดีนะครับ เพี่อที่ กระทู้จะได้อยู่ได้นานๆ นะครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:57:11

ความคิดเห็นที่ 57 เพิ่มเติมค่ะ ต้องบอกก่อนว่า จขกท. ไม่ได้รังเกียจขายตรงจนเป็นไส้เดือนกิ้งกือ แต่จขกท. รังเกียจวิธีการที่พวกขายตรงจำนวนมากใช้ เพื่อดึงดูดคน เข้าไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อวิธีการนั้น ถูกนำมาใช้กับเด็กมัธยมหรือเด็กมหาวิทยาลัยซึ่งยังอ่อนต่อโลก ขี้เกรงใจ และขาดประสบการณ์ เด็กเหล่านี้ถูกปลูกฝังทัศนคติให้คล้อยตามได้ง่ายๆ เวลาเชื่อ บางทีเชื่อฝังหัว แล้วพออายุมากขึ้นมันเปลี่ยนไม่ทัน มีน้องที่จขกท. รู้จักคนหนึ่ง ตัดสินใจไม่ไปเรียนต่อต่างประเทศ เพื่อมาทำขายตรงนี่ ซึ่งบอกตามตรงจขกท. เสียดายแทนเป็นอย่างยิ่ง และได้พยายามเตือนแล้ว แต่เมื่อน้องเขาไม่ฟัง จขกท. ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของน้อง ถึงได้บอกว่า รอเก็บซากวันที่เขารู้สึกตัว แต่ในกรณีน้องคนนี้ จขกท. คิดว่าคงไม่อะไรมาก อย่างดีก็จะเสียเวลาไปหลายปีและได้บทเรียน เพราะว่าครอบครัวน้องเขามีธุรกิจส่วนตัว เป็นบริษัทใหญ่พอสมควร เมื่อคิดได้แล้ว ไปเรียนต่อ ก็ยังพอมีเวลากลับมารับช่วงงานที่บ้านได้ทัน ไม่ได้เสียโอกาสมาก ถือว่าซื้อประสบการณ์ เด็กที่มาจากครอบครัวฐานะดีพวกนี้ ถูกล่อให้หลงได้ง่าย ประกอบกับผู้ปกครองก็มีกำลังซื้อสินค้าราคาแพง และบางทีก็ไปขอให้ญาติๆ ซึ่งก็มีกำลังซื้อเช่นกันช่วย ในช่วงแรกๆ ผู้ปกครองหรือญาติๆ มักจะรู้สึกดีใจที่ลูกหลาน รู้จักคิดทำงานแทนที่จะเที่ยวเตร่อย่างเดียว ก็มักจะช่วยซื้อกันไป เด็กก็เห็นยอด เห็นรายได้เข้ามา พลอยมีกำลังใจ ถ้าสิ่งที่ตามมาคือ ทัศนคติที่ปลูกฝังให้แอนตี้การศึกษาในระบบ เห็นว่าไม่จำเป็นต้องเรียน ทำงานประจำหรือทำธุรกิจอะไรก็ได้ และทัศนคติดูถูกคนอื่น เช่น "พี่ทำงานมากี่ปี เงินเดือนกี่หมื่น กี่แสนบาท มาทำธุรกิจ... ไม่กี่ปี พี่มีรายได้เป็นล้าน ต่อให้พี่ทำงานประจำจนเกษียณ ก็ไม่ได้เท่านี้" หรือ "พี่ทำงานหนักนะ พี่เก่งด้วย แต่พี่ไปไม่ถูกทาง ยังไงก็ไม่มีวันรวย ไม่มี passive income" คิมสงสัยว่า passive income ยังไง เห็นพอเป็นตำแหน่งนั้น ก็อยากได้ตำแหน่งต่อไป ต่อไปเรื่อยๆ ต้องเข้าอบรม สัมนานั่นนี่โน่น คิมไม่รู้สิ คิมไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัว หรือกับเพื่อน ก็ไม่อยากแบบที่ทำงานไปด้วย คิมรู้สึกว่าที่บอกว่าไปประเทศโน้น ประเทศนี้ ประเทศนั้น กับบริษัท... คิมว่าเหมือนไป business trip มากกว่าไปเที่ยว หันซ้ายหันขวาเจอแต่เพลงปลุกใจ ถ้าเป็นคิม ขอไปเอง แบกเป้ไปดีกว่า อาหารหรูหราห้าดาวอะไร คิมก็เดินเข้าไปกินเองได้ อยากไปเที่ยวไหนก็ไป สบายใจ บางคนกลายเป็นพวกดูถูกคนอื่น คิดว่าคนอื่นโง่ที่รู้ไม่เท่าทันตัว อธิบายแล้ว ชี้ทางสว่างให้แล้ว ไม่เข้าใจ แล้วในความเป็นเด็กก็กลบเกลื่อนไม่เป็น คิดอะไรแสดงออกมาแบบนั้น กลายเป็นที่รังเกียจของเพื่อนๆ และผู้ใหญ่รอบข้างไป คิมสงสารเด็กๆ พวกนี้ มากกว่ารังเกียจหรือโมโห แต่อย่างที่บอก เตือนเท่าที่เตือนได้ เตือนมากไปก็ทะเลาะกัน คนเราย่อมมีสิทธิตัดสินใจชีวิตของตัวเอง อ่านๆ มาหลายคคห. บอกว่าสมัครเพราะเกรงใจ คิมเป็นคนจะว่าไม่เกรงใจใครก็ไม่ใช่ คิมเพียงแต่คิดว่า ถ้าเราไม่สนใจซื้อ เราเห็นไม่เป็นประโยชน์ หรือไม่สมราคาเราก็ไม่ซื้อ เพราะถ้าเขาไม่เกรงใจเรา เมื่อเราปฏิเสธ ทำไมเราต้องไปเกรงใจเขาด้วย ถ้าเป็นผู้มีพระคุณหรือญาติผู้ใหญ่ แล้วคิมอยู่ในฐานะพอจะ afford ได้ คิมก็อาจจะโอเคสักครั้งสองครั้ง (จนถึงปัจจุบันยังไม่มีผู้มีพระคุณหรือญาติผู้ใหญ่คนไหน มาบังคับขายอะไรคิม ฮ่าๆๆ) แต่ถ้าเป็นเพื่อน เป็นน้อง อย่าคิดว่าฉันจะเกรงใจแก ถ้าแกไม่เกรงใจชั้น LOL ไม่ถึงกับด่ากลับ แต่ขอโทษที ไม่ซื้อค่ะ น้องๆ ที่ได้มาอ่านกระทู้นี้ ถ้ามีคนมาเสนอขายแล้วมันเกินกำลัง หรือไม่อยากซื้อ ไม่อยากสมัคร บอกเลยค่ะ ไม่สนใจ ถ้าเขายังตื๊อต่อ บอกเลยว่าขอตัวก่อนนะ พอดีไม่สะดวก มีธุระ จะไปดูหญ้าที่หน้าบ้านงอก นับจำนวนดาวบนฟ้า หรืออะไรก็ว่าไป :) หรือบอกแค่ว่า ขอตัวก่อนนะ ติดธุระ ไม่ต้องอธิบายเหตุผล แล้วถ้าโทรมาอีก ก็ปฏิเสธไม่สะดวกคุย สักสี่ห้่าครั้ง ฝ่ายนั้นจะรู้เอง เขาจะไปหา target ที่สะดวกกว่าและขี้เกรงใจมากกว่าต่อไป แต่ถ้ามีน้องคนใดทำอยู่สนใจจะทำ อยากบอกว่า ถ้าคุณเป็นคนชอบขาย มีเพื่อนหรือญาติที่ฐานะดี และซื้อของพวกนี้ใช้อยู่แล้ว เช่น กินรังนก อาหารบำรุง หรือวิตามินราคาแพง จะขายก็ได้ แต่อย่าไปบังคับใครซื้อ หรือถ้าชวนแล้วไม่สนใจ ก็รักษามิตรภาพไว้ ธุรกิจไม่ใช่ทุกอย่าง วันนึงที่คุณขาหัก คุณอาจจะอยากมีเพื่อนมาเยี่ยม ที่เขาสนใจเพียงแค่ว่า เจ็บมากไหม ไม่ใช่ ประสิทธิภาพของยาบำรุง อันยอดเยี่ยมที่คุณเจี๊ยะเข้าไป ช่วยให้หายเร็วแค่ไหน เพื่อจะได้เอาไปโฆษณาสรรพคุณต่อไป เพื่อนที่ไม่มีผลประโยชน์ทางธุรกิจเกี่ยวข้องกัน เป็นเพื่อนแท้จริงๆ ค่ะ มีไว้ มีค่ากว่าสิ่งใด อาชีพ คนกวาดถนน คนขับรถเมล์ ตำรวจ คุณครู พนักงานธนาคาร ช่างซ่อมรถยนต์ แม่ค้าขายข้าวแกง แม้จะทำเงินได้ไม่มากเท่าระดับตรีทูต โคตะระเพชรอะไร แต่ก็จำเป็นต่อสังคมค่ะ เขามี contribution อย่างอื่นให้สังคม ไม่ใช่แค่เงินอย่างเดียว อาชีพเซลล์ก็ดีเหมือนกัน มี contribution ให้สังคมได้เหมือนกัน แต่ไม่ได้ดีไปกว่าอาชีพอื่นๆ จากคุณ : Kimberly (Ms. Kim) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 13:36:14

ความคิดเห็นที่ 58 ยังไม่ได้ตอบทุกคคห. นะคะ พอดีจขกท. กลับบ้าน นี่พาคุณแม่มาทำฟัน มานั่งรอในร้านกาแฟ เลยเอาแล็ปท็อปออกมาทำงานรอค่ะ ขอแทรกตอบคุณ ยิ้มไว้เมื่อหุ้นลง หน่อยค่ะ คิมว่าเขา mem ว่า target ก็ดีนะคะ เพราะบางที เวลา mem เบอร์โทรศัพท์ เราก็จำไม่ได้ว่าเป็นสายสัมพันธ์ทางไหน แต่ไม่ค่อยเนียน จะให้ดีใช้ตัวย่อจะดีกว่า คนอ่านไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร เช่น ยิ้มไว้เมื่อหุ้นลง T เปิดดูเองก็รู้ว่า Target แต่คุณจะไม่รู้ตัว LOL คิมทำแบบนี้ประจำ ถ้าลงท้าย Tl ก็คือเพื่อนๆ นักแปล CC คือเพื่อนที่โบสถ์ ถ้าเป็นคนที่ทำงานจะลงท้ายด้วยชื่อย่อของบริษัท สะดวกต่อการจำดีค่ะ แต่ยังไม่เคยลงท้ายใครด้วย T สักที :) เพิ่มเติม ถ้าเป็นคนพิเศษ จะไม่มีอะไรต่อท้ายชื่อ เช่น พ่อ Dad แม่ Mum จบ ไม่มีคำอะไรต่อท้ายค่ะ :) เพื่อนสนิทชื่อ ชุ Chu คุณชายชอบแซวว่า มีชู้เหรอยะ ชู้โทรมา LOL แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 13:42:23 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 13:41:36 จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 13:40:20

ความคิดเห็นที่ 59 อย่างว่าครับ ไม่เนียนด้วยอักษรเต็มและต่อหน้าให้เราเห็นโทรศัพท์ที่กำลังเมม ไม่ปิดบัง จริงใจแปลกๆ 555+ จากคุณ : ยิ้มไว้เมื่อหุ้นลง (ยิ้มไว้เมื่อหุ้นลง) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 18:12:34

ความคิดเห็นที่ 60 กระทู้นี้โดนกับตัวเองมาก เพราะสามีเคยไปมัวเมากับขายตรง เอมดาว อยู่สักพักตอนต้นปี ไม่สนใจใยดีครอบครัว ดิฉันมีลูกเพิ่งคลอดได้ไม่กี่เดือน วันๆ กลับบ้านดึก ของใช้เต็มบ้าน เงินทองเริ่มขาดมือ ดิฉันได้เผชิญปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ลัทธิเอมดาวเข้ามาที่ตัวสามีแบบเรียกว่าหน้ามืดตามัว สุดท้ายคือยื่นคำขาด ว่าคุณจะเลือกอะไร เงินที่อยู่ใน Powerpoint หรือครอบครัว สุดท้ายวันนึงเค้าก็มาบอกว่าเค้าเลือกครอบครัว แล้วเค้าก็ไปหางานทำ ตอนนี้ก็ 4-5 เดือนแล้วที่ครอบครัวเรามีความสุขมากๆ คะ ยกนิ้วให้ Ms. Kim คะ! จากคุณ : samranaun เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 20:20:05

ความคิดเห็นที่ 61 ที่เบื่อมากคือส่งเมล์เข้าในอีเมล์มาเยอะมาก ขี้เกียจจะลบเลย จากคุณ : ผมไม่สนญาติเมียคุณ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 21:02:27

ความคิดเห็นที่ 62 เคยมีเพื่อนเก่าสมัยประถมพาไปฟัง นู.... เหมือนลัทธิอะไรซักอย่าง ฟังไปฮา...ไป เราได้แต่บอกกับเพื่อนว่า คนที่คิดวิธีนี้เก่งเนอะ ใช้ของเค้าแพงก็แพงแล้วก็ยังต้องขายของให้เค้าอีก จากคุณ : cheleery (chelee_ry) เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 13:46:58

ความคิดเห็นที่ 63 ตอบ คุณ noonin555 ค่ะ มีโอกาสเสียเพื่อนได้ แล้วเพื่อนๆ มักจะส่งข่าวกันด้วยสิ เหมือนเป็นโรคติดต่อประมาณนั้นเลย ตอบ LittleSister จำฝังใจเลยนะคะ คุณเพื่อนคงไม่กล้าอีกแล้วละ ตอบ คุณ nisas บางทีเราเลยต้องพูดตรงๆ ค่ะ ตอบคุณ ก้นกบ แต่ขายหวยนี่รวยจริงๆ นะคะ ยาคิมว่าอันตรายมากไป แต่ไม่ทำทั้งสองอย่างค่ะ พ่อสอนว่าเงินทุจริตเลี้ยงลูกไม่เจริญ คุณ winnertong น้ำอะไรคะ แพงมากๆ คุณ kaka491 No comment ค่ะ แรงนะเนี่ย คุณ รักหนักแน่น ถ้าเค้าไม่ได้ตำแหน่ง เค้าจะกลับมาค่ะ แต่ถ้าเค้าได้ตำแหน่ง เค้าจะไปยาว LOL ตอบ คุณ IbeNes ขอบคุณค่ะ : ) จริงๆ ขายตรงไม่ผิดอะไร ถ้าไม่สร้างความรำคาญ หรือดูถูกคนอื่นน่ะค่ะ คิมว่างั้นนะ ตอบคุณ จิน ณ จันทร์ ถูกเป๊ะเลยค่ะ นั่นแหละ ทัศนคติที่คิมไม่อยากให้น้องๆ หรือใครไปรับมา ตอบ คุณ เค้าเปล่านะ อุตส่าห์ใจดีให้เค้ายืมเงินนะคะเนี่ย ใจดีจัง  อิๆ ตอบคุณ Fv ไม่รวยแต่พอเพียงก็โอเคค่ะ ตอบคุณ จบสูงยังโดน ขอ add ไปแล้วนะคะ จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 19:27:56

ความคิดเห็นที่ 64 ตอบคุณ sjuckrit หวังว่าคงอีกไม่นานค่ะ ขอให้เพื่อนกลับมาเป็นเพื่อนรักคนเดิมของคุณเร็วๆ นะคะ ขอบคุณ คุณ okb มากค่ะ ตอบ คุณ ปุ๊กกี้ด็อก งานอะไรนะ ฟังดูแปลกๆ ค่ะ ตอบคุณ เค้าเปล่านะ ค่ะ มีน้อยมากๆ จริงๆ ตอบ คุณ Romantic_zaa ง่า เจอแบบนี้แย่เลยนะคะ หวังว่าคุณแฟนจะกลับมาเป็นคนเดิมในเร็ววันนะคะ คุณ kunimihero เศร้าเนอะ คุณ poppiko น่ากลัวจริง ลัทธิอะไรเนี่ย รุกรานถึงเพื่อนของเพื่อน ตอบ คุณ fungja บอกเพื่อนมั้ยคะ เมื่อไหร่เธอได้ไปเที่ยว ค่อยเอารูปมาให้ชั้นดูละกัน ตอบ คุณ อาเสี่ยรองเท้าแตะ ขอบคุณที่แวะเข้ามาเม้นต์นะคะ ตอบ คุณ arika chun เห็นด้วยเป็นที่สุดกับประโยคนี้ค่ะ “อยากบอกว่าเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ ที่กำลังคิดว่าไม่เรียนดีกว่า เอาเวลาไปทำงานแทน จริงอยู่แม้ว่างานที่คุณทำจะสร้างรายได้ให้มากมาย แต่อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นการศึกษาย่อมสำคัญกว่า อย่าทิ้งการเรียนเลยนะคะ” ตอบ คุณ Deknoi01 กระทู้นี้ยังไม่ค่อยเห็นดราม่าค่ะ : ) ตอบคุณ tubtimkorn ก็ขอให้รวยเร็วๆ ด้วยวิธีที่คุณเลือกนะคะ ; ) ตอบคุณ samranaun ขอบคุณค่ะ และดีใจที่ได้ความสุขกลับมาสักทีนะคะ ขออวยพรให้ลูกแข็งแรงค่ะ : ) ตอบ คุณ ผมไม่สนญาติเมียคุณ โดนเหมือนกัน ค่ะ ไม่รู้ไปหามาจากไหน ตอบ คุณ chelee_ry คิมว่าคอนเซ็ปท์ดี แต่วิธีไม่โอเคค่ะ จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 19:37:12

ความคิดเห็นที่ 65 อย่าไปรับค่ะ!! ลบไปให้หมด คนไม่รู้จักยิ่งไม่ต้องรับ คนรู้จักถ้าแท้กมาลบไปเลยค่ะ เหตุเพราะคนส่วนนี้เค้าไม่ได้ใช้เฟสในการติดต่ออยู่แล้วค่ะ ใช้เพื่อธุรกิจเท่านั้น เรื่องนี้ทะเลาะกันจนตายก็ไม่จบค่ะ คนหัวฝังไปแล้ว ขุดขึ้นมาก็ยาก!! เพื่อนเราเป็นอยู่คนที่มีขอบเขตกับเพื่อนยกเว้นเราก็คบด้วยได้ คนที่ไม่มีขอบเขตกับเพื่อนก็ยังจะหลอก ขอโทษนะคะ แต่เราด่าเสียหมาจริงๆ เอาขึ้นstatusเลย คนกดไลค์กันให้ลึ่ม!! มันไม่ใช่ว่าเรารำคายหรืออะไรแค่นั้นนะคะ แต่เห็นคนทำโดนหลอก มันรับไม่ได้ค่ะ!!! พูดเรื่องนี้แล้วมันช่างงงงง... 555555555 ปล.คห.นี้พิมพ์เพื่อระบายล้วนๆค่ะ อย่าถือโทษโกรธกันสำหรับผุ้ที่ทำธุรกิจนี้อยู่ จากคุณ : raccoongrizzly เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 20:45:44

ความคิดเห็นที่ 66 @ K. raccoongrizzly ของคิมยังไม่มีใครหาญกล้ามาแท็ก เพราะถ้าแท็กก็คงจะเตือน และ untag ไป แต่เห็นเพื่อนๆ โดนแท็กกันเพียบเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะพวกน้องๆ นักเรียนนักศึกษา อะไรกันนักกันหนาก็ไม่รู้ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 54 21:02:42 จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 21:02:13

ความคิดเห็นที่ 67 ไม่รวยทุกคนหรอกครับ ผมเดาว่า 1:100 จากคุณ : baggiony เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 00:10:45