ความคิดเห็นที่ 1 เหตุผลหลายประการ 1. คนที่จบสายวิชาชีพเฉพาะตอน ป.ตรี  เวลาจะขึ้นเป็นผู้จัดการ หรือผู้บริหารตั้งแต่ระดับต้น ตอนสมัครงาน มันจะมีคำว่า MBA would be advantage หรือ MBA is the must 2. ได้ Connection รู้จักคนในวงการอื่นๆ นอกเหนือจากที่เราทำงานเยอะ บางคนเป็นเจ้าของกิจการหรือทาญาติ เป็น ตำรวจ หมอ วิศวะในบริษัทใหญ่ๆ หลายๆ ครั้งกลายมาเป็นคู่ค้ากันด้วย 3. สำหรับคนที่ไม่ได้จบบริหารมา มันคือสิ่งที่ใหม่มาก มี Case Study ให้อ่านเยอะ มีเนื้อหาที่ทำให้เราเข้าใจภาพธุรกิจได้มากขึ้น และหลายๆ อย่าง เอาไปคุยได้เวลาเจอคนอื่น เค้าพูดเรื่องนู๊น เรื่องนี้ เราจะตามเค้าทัน เข่นว่า คนคุยเรือง สตาร์บัค เราก็นึกออก เพราะอยู่ใน Case Study หรือ คุยเรื่อง Southwest airline พวกนี้อยู่ใน Case ที่ต้องอ่านทั้งนั้น และพวกนี้แหละ ที่คนชอบหยิบมาเป็นประเด็นคุยกัน ผมว่าคนที่จบบริหารมาแล้ว ก็คงได้อะไรไปน้อยกว่าคนที่จบสาขาอื่นมา เพราะเคยเรียนแล้วใน ป.ตรี ส่วนการเรียนตามเพื่อน หรือไม่รู้จะเรียนอะไร ผมว่า จริงๆ แล้วก็มีหลายคนที่เรียนตามกระแสสังคม แต่เพราะ สังคมต้องการคนจบ MBA ก็เลยต้องตามกระแส แค่นั้นเอง จากคุณ : M style เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 17:51:50

ความคิดเห็นที่ 2 อยากรู้เหมือนกัน จากคุณ : V_Accy เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 18:19:01

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าผมเรียน MBA นะครับ ผมคงเรียนมาเพื่อใช้ในการทำธุรกิจเองครับ ไม่ใช่เรียนเพื่อไปเป็นลูกน้องให้คนอื่นมาบริหารผม ปล. แต่ตอนนี้ไม่ได้เรียนครับ เลยเป็นลูกน้องอยู่ 555+ จากคุณ : basic10th เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 18:38:50

ความคิดเห็นที่ 4 คห 3 ผมว่าใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของธุรกิจนะ ประเด็นคือ ไม่มีทุน นี่ดิ ไม่ได้เกิดมารวย ต้องสะสมกันไป เป็นลูกจ้างระดับสูงๆ หน่อย รายได้เยอะ รู้เรื่องงานเยอะขึ้น มี Connection มากขึ้น แล้วค่อยออกมาทำเอง จากคุณ : M style เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 19:12:54

ความคิดเห็นที่ 5 mba เดี๋ยวนี้คุณภาพแย่ลง ส่วนมากเรียนเพื่อเอาไว้พูดศัพท์ เวลาเมาท์กันจะได้ดู ไฮโซ แต่เวลานำไปใช้จริง ตามตำราแพ้ตลอด จากคุณ : คนทุ่ง (คนทุ่ง) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 19:35:10

ความคิดเห็นที่ 6 MBA ที่หลักสูตรดี ๆ เค้าไม่เน้นทฤษฎีเหมือนที่เรียนปริญญาตรีหรอกครับ ช่วงปริญญาตรี มันจะเน้นไปทางด้านทฤษฎี ส่วนปริญญาโท จะเน้นการเอาไปดัดแปลงใช้กับธุรกิจ นอกจากนั้น ก็จะเป็นเรื่องของ connection ซึ่งในโลกธุรกิจมันก็ช่วยได้น่ะครับ จากคุณ : philly เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 20:44:06

ความคิดเห็นที่ 7 อยุ่ที่ตัวบุคคล จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 21:12:04

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วMBA หลักสูตรดีๆนี่มีที่ไหนหรอครับ ขนาดผมได้ MBA NIDA กับ เกษตร ผมยังไม่เอาเลย มีดีกว่านี้มั้ย จากคุณ : Last sector เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 21:13:06

ความคิดเห็นที่ 9 ดูจากการตั้งกระทู้และถามคำถาม ไม่น่าเชื่อว่าจบโท สาขาที่คุณเรียนเขาไม่พูดถึงจริยธรรม คุณธรรม  การให้เกียรติผู้อื่นเลยรึไง สิ่งที่คุณไม่เห็นค่า  อาจมีค่ากับคนอื่น  และสิ่งที่มีค่ากับคุณอาจเป็นแค่ผงธุลีสำหรับคนอื่นก็ได้ แล้วที่ว่าดีหรือไม่ดีของคุณ  คุณใช้อะไรเป็นตัวชี้วัด อย่ามองโลกแค่มุมของคุณ จากคุณ : kawao เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 21:26:51

ความคิดเห็นที่ 10 BBA กะ MBA มันคนละเรื่องกันเลยครับ ป.ตรี เน้นวิชาการ ทฤษฎีสารพัด อัดมันเข้าไป ท่องๆ จำๆ ไปสอบ แต่ ป.โท ผมไม่ทราบว่าที่ไทยเรียนกันอย่างไร แต่ที่ผมเรียนมา มันให้อะไรเยอะเลยครับ ในหลักสูตร จะเน้นไปทางการใช้งานจริง มีการนำเคส ตัวอย่างกรณีศึกษามา และนำมา ถกกัน(อันนี้สำคัญมาก) ซึ่งการดิสคัสเนี่ย มันนำไปสู่การต่อยอดความคิด ฝึกการตั้งคำถาม ฝึกการนำเสนอ ยิ่งถ้ามีโอกาสได้มาเห็นพวกฝรั่งมันนำเสนอ ดิสคัสกันเนี่ย คนละชั้นกะบ้านเราเลย เป็นอะไรที่น่าเรียนรู้มากๆ และสำหรับเด็กไทย ตามหลักสูตรไทยๆ ร้อยเปอร์เซนต์แบบผมเนี่ย การได้มาเรียน มันช่วยอะไรเยอะมากเลยครับ ทั้งความกล้าแสดงออก ทั้งการนำเสนอ ทั้งการถก การแชร์ความคิดเห็น ทั้งหมดนี้ หาไม่ได้ในปริญญาตรีทางด้านการบริหาร(หรือหาได้น้อยมาก) จากคุณ : กาลครั้งหนึ่งบนดวงดาวสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 21:37:17

ความคิดเห็นที่ 11 MBA มันไม่ได้เข้ายาก ได้ทั้งนิด้า กับเกษตร ก็ใช่ว่าเก่งนะครับ ผมก็ได้ทั้งสองที่นี้เหมือนกัน แต่ผมเลือกนิด้า เพราะเิดินทางสะดวก มุมมองของคนไม่เหมือนกัน ผมเรียน MBA เพราะผมจบสายวิชาชีพเฉพาะมา มีความรู้ด้านบริหารไม่มาก พอนำความรู้เฉพาะทาง มาผสานกับการบริหาร มันทำให้เราเห็นสิ่งต่างๆ มากขึ้น และพร้อมก้าวสู้ผู้บริหารอย่างเต็มตัว ผมได้อะไรจาก MBA เยอะนะครับ ทั้งสังคม เพื่อน Connection จากคุณ : M style เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 21:40:58

ความคิดเห็นที่ 12 แล้วเอา TU (TBS) & CU (CBS) ไปทิ้งตรงไหนอ่ะคับ (?_?) จากคุณ : งง (dramo_123) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:02:50

ความคิดเห็นที่ 13 อย่างแรกเลย ด้วยการตั้งคำถามของคุณ ผมเห็นด้วยในบางความคิดของ คห.9 เกี่ยวกับเรื่องจริยธรรม ที่แสดงทัศนคติเกี่ยวกับสถาบันการศึกษา และหลักสูตร ปกติแล้วหลักสูตร MBA จะมีความต่างจาก BBA และปริญญาโททั่วไป ในเรื่องการเน้นไปในทางปฏิบัติ ศึกษาจาก case study ที่มีคนนำไปใช้ แล้วประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลว มากกว่าทฤษฏี ปกติแล้วเขาก็จะต้องมีการคัดเลือกคนเข้าเรียน ว่าจะต้องมีประสบการณ์การทำงาน หรือมีคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจจริงๆ จึงเหมาะสมที่จะเรียน ในบางที่ คนที่เรียนก็จะมีอายุเฉลี่ยเกือบ 30 และมีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว จึงจะได้ประโบชน์จากหลักสูตรอย่างเต็มที่ (กลุ่มคนที่เรียนตามกระแส และไม่เข้าข่ายที่บอก จะไม่ได้ประโยชน์เต็มที่) อย่างคุณที่เคยเรียน BBA มาแล้วอาจจะได้ประโยชน์น้อยกว่าคนอื่นหน่อยเนื่องจากเรียนทฤษฏีมาแล้ว แต่ก็อาจจะได้ประโยชน์จากหลักสูตรที่เน้นไปในทางปฏิบัติมากกว่า ได้เครือข่ายธุรกิจ ฯลฯ นี่จึงเป็นเหตุผลอย่างนึงที่ คนส่วนมากที่เรียน เป็นกลุ่มที่มีการทำธุกิจ และมีพื้นฐานเฉพาะด้านอย่างอื่น สุดท้ายการเรียน MBA จะเป็นการเรียนเพื่อ skills และ knowledge ที่สำคัญเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจทั้งหมดอย่างกว้างๆ สำหรับการไปเป้นผู้บริหาร จึงทำให้บางครั้งการเรียนปริญญาโทในสาขาเฉพาะทางอย่างอื่น อาจมีประโยชน์มากกว่า อย่างในกรณีของคุณที่คุณบอกมาก็เป็นได้ จากคุณ : อีกความคิดเห็น เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 02:38:46 A:93.97.34.52 X: TicketID:318389

ความคิดเห็นที่ 14 เพราะคนที่เลือกเรียน MBA ไม่ได้จบปริญญาตรีบริหารธุรกิจ บางคน จบแพทย์ วิศวกร หรือสาขาที่เด็กเก่งเขาเรียนกันน่ะ แต่เมื่อต้องเข้าวงการธุรกิจ ก็เลยเรียนเพื่อรู้เป็นพื้นฐานในการทำธุรกิจ แต่ในความเป็นจริงแล้วก็คงจ้างเด็ก ป.ตรีบริหารธุรกิจมาทำงานให้ล่ะนะ จากคุณ : Roselines เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 09:39:40

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าจบบริหารธุรกิจแล้วอยากต่อป.โท เป็นผมก็ต่อด้านอื่นที่ไม่ใช่ MBA ครับ ส่วนคนที่เรียน MBA  เพราะส่วนใหญ่ตอนป.ตรีเรียนด้านอื่นกันมา ผมเองก็จบป.ตรีบริหารธุรกิจภาคสมทบของมศว.ประสานมิตร แต่ตอนเรียนก็มีการทำ Case study ตลอด  อาจารย์ที่สอนก็พูดตลอดเหมือนกันว่า ถ้าใครจะต่อโท ให้ต่อด้านอื่น ไม่ต้องต่อ MBA แล้ว เพราะไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ ปล. อาจารย์ผมท่านสอนป.โทอยู่ด้วย ท่านจึงกล้าแนะนำแบบนี้ จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 10:07:52

ความคิดเห็นที่ 16 เพราะการบริหาร เป็นศาสตร์ที่มีอยู่ในทุกๆวงการครับ องค์กรทุกองค์กรต้องมีการบริหารจัดการหมดพูดง่ายๆก็คือMBAเปรียบเสมือนยาครอบจักรวาลแลยที่เดียวเพราะจบมาสายงานมันกว้างมาก สามารถเข้าไปทำงานได้ในทุกองค์กร แต่ตอนปตรี จะเน้นเป็นหลักทฤษฏีมากกว่า ส่วนป.โทนั้นจะเน้นที่การปฏิยัติ  คะแนนส่วนใหญ่ มาจากการทำงานกลุ่มมากกว่า เพราะในชีวิตจริง การทำงานเราไม่ได้ทำอยู่คนเดียว ต้องทำกันเป็นทีมครับ แล้วส่วนมากคนที่ทำงานแล้วที่มาเรียน เราจะได้ประโยชน์มากกว่าเพราะสามารถนำสิ่วต่างๆ ที่ได้จากที่ทำงงานตนมาแชร์กันได้ ได้ความรู้ทั้งในและนอกตำราเรียนครับ จากคุณ : CryBabiiZ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 10:12:21

ความคิดเห็นที่ 17 d จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 10:32:52

ความคิดเห็นที่ 18 สมัครตามหญิงครับ ช่วงนั้นหน้ามืดตามัว ตันติด เรียนแล้วได้อะไร ได้เพื่อนครับ สำคัญสุดแล้ว จากคุณ : FatBoy99 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 11:42:08

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่จริงอะ เรียนMBAได้ connection เรียนโทสาขาอื่นก็ได้ connectionเหมือนกันแหละ บางสาขานี่มีสภาวิชาชีพด้วยนะ เรียนMBA มีป่าว อิอิ จากคุณ : Last sector เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:03:40

ความคิดเห็นที่ 20 บางคนก็ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดเยอะแยะ จากคุณ : หนูน้อยโฮยอน เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:07:07

ความคิดเห็นที่ 21 สาวรอบข้างเรียนโท ดพื่อหาแฟน แต่แล้วก็ไม่สมหวังเพราะอัตราส่วนชาย- หญิงมันต่างกันเยอะ หล่อๆก็ไปเป็นเกย์ เป็นสามีเกย์หมด เหลือแต่ปลวกๆ จากคุณ : kk (kreingwit) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:18:27

ความคิดเห็นที่ 22 จริยธรรม คุณธรรม  การให้เกียรติผู้อื่นเลยรึไง <<เกี่ยวไรกับ MBA เพ้อเจ้อสุดๆ ควรจำแนกดังนี้: -> จบธุรกิจ -> MBA ไทย = เรียนไปงั้น อันนี้ผมว่าไม่จำเป็น ประสบการณ์ทำงานสำคัญกว่าเยอะ ไม่คุ้มกับเวลา (2 ปี ถ้าทำงานดีๆ ได้ประสบการณ์เยอะมาก) -> ไม่จบธุรกิจ -> MBA ไทย = เปลี่ยนสายงาน ผมว่าโอเค -> จบธุรกิจ -> MBA นอก (outside top 20) = บ้านรวย ถ้าไม่รวยผมว่าไม่คุ้มอยากแรง ไปศศินทร์คุ้มกว่าเยอะ นอกจากอยากได้ประสบการณ์เรียนต่างประเทศ -> ไม่จบธุรกิจ -> MBA นอก (outside top 20) = เหมือนกับด้านบน แต่บ้านรวยกว่า อันนี้ผมว่าก็คุ้มอ่ะนะ -> จบธุรกิจ -> MBA top 20 = ชุบตัว อัพเกรดโพรไฟล์ คุ้มถ้าเกิดสำรวจตลาดงานให้ดีๆ และพยายามหางานต่างประเทศ หรือหางานในบริษัทดีๆที่เมืองไทย -> ไม่จบธุรกิจ -> MBA top 20 = ยังไงก็คุ้ม เรื่องความรู้ ขอละไว้ จริงๆมีการวิจัยหลายอันที่บอกว่า MBA ไม่ใช่เป็นการหาความรู้ แต่เป็นการ signal ว่าตนเองคือแรงงานที่มีคุณภาพ http://en.wikipedia.org/wiki/Signalling_(economics) ในแง่ความเข้มข้นของเนื้อหา ถ้าเรียนปริญญาตรีในมหาลัยดีๆ เลือกลงวิชาที่หินๆ ความรู้ที่ได้ในแง่วิชาการจะเกินกว่า MBA อีกด้วยซ้ำ MBA มันเป็น professional degree สอนในการทำงาน (ซึ่งผมว่าสอนไม่ได้ / ยาก) ถ้าเรียนเคส แต่เพื่อนร่วมห้องไม่ได้เรื่อง/ไม่มีประสบการณ์ หรือตนเองประสบการณ์น้อย มันก็ไร้ค่า สรุป MBA สำหรับคนไม่ได้เรียนธุรกิจเปลี่ยนสายผมว่าโอเค แต่ถ้าสำหรับเด็กจบธุรกิจมองเป็น signaling จะเวิร์กสุด และลองดูตัวเองว่าต้องใช้ไหม จากคุณ : ! o_o ! เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:57:20

ความคิดเห็นที่ 23 ถูกใจ คห.22จังครับ แต่กดlikeให้ไม่ได้ เพราะเป็นmember มือถือ^^ จากคุณ : Last sector เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 13:37:43

ความคิดเห็นที่ 24 คห.22 MBA top 20 นี่คือที่ไหนบ้างอะครับ ผมคิดว่า Top 21-100 US ยังไงก็ดีกว่าศศินทร์นะครับ คุณภาพนักเรียนก็ผิดกัน หรือถ้าการ discuss ในห้องเรียนคือหัวใจของการเรียน MBA ศศินทร์ไม่ใช่คำตอบแน่นอน ผมฟันธง หรือแค่เฉพาะอาจารย์จาก kellogg และที่อื่นๆแค่บางคนมาสอน เลยถือว่าดี การเรียน MBA อาจารย์เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่เหรอครับ อย่างมหาลัยที่ไม่ติดอันดับที่เมกาบางแห่ง ผมเห็นคุณภาพอาจารย์ก็คับแก้วเช่นกันนะครับ อาจารย์บางคนก็ย้ายมาจากมหาลัยดีๆเป็นต้น เพื่อนผมบางคนที่เรียนศศินทร์ก็เคยบอกว่าอาจารย์ที่บอกเก่งๆบางคนก็สอนไม่ค่อยดีนะครับ จากคุณ : อะอะ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 13:46:54 A:129.49.228.202 X: TicketID:101679

ความคิดเห็นที่ 25 แล้วตกลง จขกท.ไม่เรียนMBA. แล้วเลือกเรียน สาขาอะไร ถึงจบแล้วหางานง่าย แล้วช่วยเปรียบเทียบระหว่างMBA.กับสาขาที่คุณเรียนด้วยว่ามีจุดอ่อนและจุดแข็งต่างกันอย่างไร จะได้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่จะเรียนโทต่อไปด้วยนะคะ..ขอบคุณล่วงหน้า จากคุณ : สวนฝั่งธน เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 16:20:30

ความคิดเห็นที่ 26 แล้ว จขกท รู้ได้ยังไงว่า จบMBA แล้วหางานยาก? อื้มถ้าอย่างนั้นช่วยยกตัวอย่างให้หน่อยสิว่าสขาวิชาชีพของคุณหางานง่ายกว่ายังไงครับ? แต่เท่าที่ทราบMBAของผมที่เรียนเค้าเรียนเพื่อเป็นนายจ้างไม่ได้เรียนเพื่อมานั่งเป็นลูกจ้างแบบคุณที่ต้องมาไล่หางานครับ จากคุณ : แหวะ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 17:54:40 A:203.153.160.143 X: TicketID:288132

ความคิดเห็นที่ 27 คุณอยากจะเรียนอะไรก้อเรียนไปสิแต่ทำไมต้องเอาสาขาอื่นมาเปรียบเทียบว่าดีหรือไม่ดี จากคุณ : นิสัย (piawa) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 19:43:31

ความคิดเห็นที่ 28 ผมเป็น ไม่จบธุรกิจ -> MBA นอก (outside top 20) -> แล้วก็จะต่อศศินทร์ในอนาคตฮะ ค่าเรียนไม่กี่ล้าน แต่ connection มีมูลค่าเป็น 10 ล้าน 100 ล้าน, คุ้มไหมละฮะ? จากคุณ : nopex เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 20:40:34

ความคิดเห็นที่ 29 สงสัยค่ะ ถ้าจบบริหาร แล้ว ไม่ต่อ MBA ไปต่อทางไหนได้บ้างคะ จากคุณ : mintykitty เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 03:27:57

ความคิดเห็นที่ 30 100 คนที่จบMBA ได้เป็นนายจ้างถึง 20 คนรึปล่าว รู้อยู่แก่ใจ ผมไม่ต้องตอบ จากคุณ : Last sector เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 08:03:49

ความคิดเห็นที่ 31 จขกท.ช่วยตอบหน่อยเถอะว่าจบอะไรมาอยากรู้จริงๆ ที่ถามอีกครั้งเพราะดิฉันเองก็จบMBA.เหมือนกัน แต่ไม่จบTop5เหมือนคุณหรอก  ที่เรียนเพราะว่าตรีจบบัญชีทำงานมานานแล้วสามารถปิดงบได้ แล้วสภาวิชาชีพที่คุณว่าสายบัญชีก็มี แต่ดิฉันคิดว่าหลักของบัญชีเมื่อสามารถปิดงบได้แล้ว ก็ต้องไปศึกษามาตรฐานการบัญชีที่ออกมาใหม่แล้วมันจะเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ และสามารถไปอบรมได้อยู่ตลอดเวลา จึงไม่ต่อโทบัญชี(ขอย้ำว่าความคิดเห็นส่วนตัวไม่ได้ดูถูกวิชาชีพที่เรียนมา) ที่เรียนMBA.สายบริหารการเงินเพราะจะได้เรียนรู้สายอื่นที่อยู่ในองค์กรด้วยทั้งตลาด การเงิน การลงทุนและอื่น เพราะเวลาประชุมเค้าประชุมกันหลายฝ่ายรวมทั้งบัญชีด้วย และตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นนายจ้างอย่างที่คุณบอกนั่นแหละ แต่ดิฉันก็เห็นประโยชน์ของMBA.ดังที่บอก ไม่รู้ว่าคุณจะเข้าใจหรือเปล่า จากคุณ : สวนฝั่งธน เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 09:15:38

ความคิดเห็นที่ 32 คนจบ MBA ไปทำอะไร จขกท. หรือเปล่าเนี่ย ท่าทางจะแค้นจัด   ว่าแต่ จขกท. จบอะไร ที่ใหนล่ะ คนถามตั้งหลายคน ไม่เห็นตอบ จากคุณ : ดอกไม้ทะเล เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 09:17:34

ความคิดเห็นที่ 33 แต่เท่าที่ทราบMBAของผมที่เรียนเค้าเรียนเพื่อเป็นนายจ้างไม่ได้เรียนเพื่อมานั่งเป็นลูกจ้างแบบคุณที่ต้องมาไล่หางานครับ  << ติงต๊อง ปัญญาอ่อน จากคุณ : ! o_o ! เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 13:12:21

ความคิดเห็นที่ 34 ออกทะเล จากคุณ : nat (nat85min) เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 01:01:06