ความคิดเห็นที่ 1 จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค แผนที่ 1 แผนที่ 2 ...... ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ ต้องวิเคราะห์ให้ขาด บนสมมติฐานที่เป็นไปได้มากที่สุด สุดท้ายมันขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้ประกอบการ ว่าจะยอมรับความเสี่ยง ณ ระดับใด ภายในกรอบของทรัพยากรที่มีอยู่ (ทุน ผู้ประกอบการ ระยะเวลา) จากคุณ : 234 เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 00:14:44 A:125.24.71.202 X: TicketID:288777

ความคิดเห็นที่ 2 ลอง Revise ใหม่อีกครั้งครับ ดูจุดที่ต้นทุนสูง ดูว่าสามารถลดได้มั้ย หรือปรับเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้มั้ย เท่าที่ดู น่าจะเป็นการผลิตสินค้า ถ้าใช่ สามารถลดขนาดเครื่องจักรได้หรือไม่ เพื่อให้ต้นทุนต่ำลง ลองวิเคราะห์ตลาด ทำ Forecast ยอดขายใหม่ ให้เข้าใกล้ความจริงมากที่สุด ถ้าทำแล้ว ไปไม่รอด คือทำ Fes ดูแล้ว ไม่ไหวจะเคลียร์ NPV, IRR ,PB แย่ทั้งหมด ก็ยกเลิกครับ ไม่ทำ แผนธุรกิจ บางทีก่อนทำ เราวาดภาพสวยหรู แต่พอเขียนแผนปุ๊บ มันมีอะไรมากมายงอกออกมา ที่เราไม่ได้คิดไว้ทีแรก จากคุณ : M style เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 00:40:29

ความคิดเห็นที่ 3 ต่ำแค่ไหน... อยากรู้... กี่% จากคุณ : NEZ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 02:01:35

ความคิดเห็นที่ 4 ต้นทุนสูงกำไรต่ำ คำนี้ไม่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์เลย เพราะถ้าส่วนต่างของกำไรต่ำนั้น มาจากราคาขายใกล้เคียงกับต้นทุนทั้งนั้น ซึ่งจะเรียกว่าต้นทุนสูงก็ได้ เมื่อคุยถึงแผนธุรกิจ จขกท. ต้องเอาswot มาให้เพื่อนๆวิเคราะห์จะได้คำตอบมากกว่า จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 06:31:25

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่า ต้นทุนสูงกำไรต่ำ  นี่สำคัญมากนะครับ เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้น ของการวิเคราะห์ด้าน Financial analysis ดูว่าต้นทุนสูงจากอะไร แล้วต้นทุนส่วนไหน ต้นทุนของเงินลงทุน หรือต้นทุนของทุนหมุนเวียน ถ้าเงินหมุนเวียน มาดูว่าเกิดจากอะไร ต้นทุนสินค้า CoGs หรือ จาก Admin Expense ทำ Financial statement ล่ะรู้เลย อันนี้แหละที่คนทำแผนทั้งหลาย ปวดกระบาล เพราะมันยากเหลือเกิน ไปยื่นธนาคาร เค้าก็ดูฝั่ง Financial เป็นหลักเลย หรือ Executive summary ก็ต้องมีตัวเลขพวกนี้อยู่ด้วย สิ่งที่สำคัญคือ ต้นทุนสูงไปมั้ย ธุรกิจจริง ต้นทุนสำคัญมาก ถึงมากที่สุด แม้แต่ต้นทุนเงินทุน ถ้าได้มาแพง ก็จบข่าว แข่งไม่ไหว ด้าน SWOT เอาไว้วาง Strategy ได้ดีมาก จะได้รู้ว่า เราจะเข้าตีตลาดจุดไหน เข้าแบบไหน ตอนไหน ก็เริ่มจาก SWOT นักศึกษาหลายคน มันเขียน SWOT หลายๆ ข้อ คือให้มันดูดี เหมือนทำการบ้านมาเยอะ บางข้อไม่ได้มีผลกระทบอะไรเลย แต่เขียนเข้าไปก่อน SWOT บางทีนะครับ แค่ข้อเดียว ถ้ามัน Outstanding ในมิตินั้นจริงๆ ก็เพียงพอแล้ว ถ้าธุรกิจใหม่เข้าไป ดู 5 Force ครับ อันนี้สำคัญมากๆ ต่อการเข้าไปเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ มันเเกี่ยวข้องกับความน่าสนใจ ที่จะกระโดดเข้าไปเล่นมั้ย Core competency ดูว่าเรามีอะไรเด่น เป็นความสามารถพิเศษ ผมเคยเขียแผนธุรกิจแล้วไม่ทำ เพราะก่อนหน้านี้วาดฝันไว้สวยหรู แต่พอเขียนแผนปุ๊บ มันมีหลายๆ อย่าง ให้คิดมากขึ้น ผมต้องไปขอราคาเครื่องจักรจากเมืองนอก ให้เค้าทำ Quotation เครื่องจักร หลายๆ ที่ เอามาเปรียบเทียบกัน หา Supplier จริง เลย ดูราคาว่า แต่ละเจ้าราคาเท่าไหร่ ให้เค้า Quote ราคามา ใน Volume ที่เราคิดว่ารับได้ Survey ตลาดดูว่า ราคาขายต้องเท่าไหร่ถึงจะ อยู่ใน acceptable point เรื่องตึก ก็วาดแบบคร่าวๆ ให้รับเหมาก่อสร้างตีราคา ข้อมูลพวกนี้  ใช้เวลาหลายเดือนครับกว่าจะหามาคำนวณต้นทุน ฝั่ง marketing ก็หาข้อมูลไม่น้อยนะครับ ต้องดูว่า แต่ละ Ad ใช้งบเท่าไหร่ Ad จะเข้าช่วงไหน ออกช่วงไหน เพราะอะไร บางทีอยู่บ้าน เขียนแผนมันไม่ใกล้ความจริงเลย ต้องออกไปหาข้อมูลมา สุดท้าย ทำแผนแล้ว ไม่ Fes ครับ Revise หลายๆ รอบแล้ว ยังไงก็ไม่ Fes เลิกทำครับผม แผนธุรกิจไม่จำเป็นต้องทำให้ เป็น บวก เสมอนะครับ แต่ต้องทำให้ใกล้ความจริงที่สุด จากคุณ : M style เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:33:06

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าประเมินหลายอย่าง หลายรอบแล้วไม่work ให้เลิกทำครับ อย่าดันทุรัง จากคุณ : 66 เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:23:51 A:129.49.228.202 X: TicketID:101679

ความคิดเห็นที่ 7 ลองมองหาทางออกอื่นๆ ก่อน ใจเย็นๆ   พยายามตัดสินจากข้อมูล ไม่ใช้ความรู้สึก (แต่ข้อมูลต้องถูกต้องและรอบด้าน) ถ้าลองแล้ว  ข้อมูลบ่งบอกว่าไม่รอด  ก็เห็นตามความเห็นบน อย่าดันทุรัง จากคุณ : จริงๆ (Flying Guy) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 12:47:24

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนใหญ่แผนธุรกิจ พอเอามาทำจริงแล้วรายได้จะต่ำกว่าที่forcastไปอีกstepนึงด้วยนะ ลองพิจารณาให้ดี จากคุณ : vood เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 16:09:54