ความคิดเห็นที่ 1 แยกไปทำสินค้าใหม่แล้วไปไม่รอดครับ  เลยกลับมากินบุญเก่า ขนาดชื่อยังต้องตั้งให้คล้ายของเดิมเลย จากคุณ : babyonboard เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 20:58:19

ความคิดเห็นที่ 2 แกคงลืมไปว่า แบรนด์โออิชิที่แข็งแกร่งเพราะมีร้านอาหารและบุฟเฟ่มาก่อน และคู่แข่งที่ปรับตัวช้าเลยสู้ไม่ได้ โออิชิไม่ได้ดังเพราะตันนะครับแต่ตันดังเพราะโออิชิ   คราวนี้แกออกมายืนตรงข้ามกับแบรนด์เดิม โดยที่แกไม่มีจุดแข็งที่โดดเด่นเลย ก็น่าคิดว่าจะเอาอะไรไปสู้กับคู่แข่งเดิมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว จากคุณ : babyonboard เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 21:06:51

ความคิดเห็นที่ 3 มันเป็นเรื่องผลประโยน์ทางธุรกิจ...และเรื่องของชื่อเสียงนะครับ... ถ้าคุณมองว่าไทยเบฟทำให้คุณตันมีชื่อเสียง...คุณก็คงมองโออิชิดีกว่า... แต่ถ้าคุณมองว่าตันเป็นคนสร้างแบรนด์โออิชิ...ตันคงไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร ในเมื่อแบรนด์มันอยู่ที่ตัวเขา ไม่ได้อยู่ที่ตัวโออิชิ... ฉะนั้นถ้าผมเป็นคุณตันผมคงมองว่า...ทำไมผมต้องให้คนที่เทคโอเวอร์บริษัทเรา...แล้วให้เราบริหารจนมีชื่อเสียง...ได้เงินไปมากมายมหาศาล... ฉะนั้นเขาเองก็คงทำบ้างได้...ในเมื่อเดิมมันเป็นความคิดของเขา...ว่ากันจริงๆ...มันคือลิขสิทธ์ทางปัญญาของเขา... จากคุณ : Aniloxez เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 21:07:35

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ นั่นคือสิ่งที่ผมอยากทราบครับว่า ในแง่ผู้บริโภค มองจุดแข็งและจุดอ่อนของทั้ง 2 แบรนด์อย่างไร โออิชิที่ดังเพราะตัน จะมีอนาคตอย่างไร ตันจะสามารถสร้างแบรนด์ใหม่ภายต้ชื่อตัวเองหรือไม่ อยากถามความเห็นให้ชาวสีลมช่วยวิเคราะห์ครับ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 21:54:07

ความคิดเห็นที่ 5 ผมไม่อยากเชื่อว่าคุณตันแก"ตัน"จริงแบบว่าหมดทางไปแล้ว ตามประวัติมันไม่ใช่แบบนั้น อาจเป็นแผนการตลาดของเจ้าของโออิขิใหม่ ที่จำเป็นต้องสร้างคู่แข่งที่สูสีกัน ออกมาสู้กัน กันไม่ให้รายใหม่เกิดขึ้นและจะคุมไม่ได้ ร้านแว่นตาที่มีทุกถนน ทุกจังหวัดก็ทำแบบนี้ อีกสักพัก คุณตันก็ไปทำของเล่นใหม่ รอเวลาและโอกาสที่ฟ้าเปิดเท่านั้น ...นี่ความเชื่อส่วนตัวนะครับ จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 22:21:00

ความคิดเห็นที่ 6 ในระยะต้น เราว่าแบรน์ส่วนหนึ่งติดภาพคุณตันพอสมควร แต่เมื่อออกสินค้าไปซักระยะ แล้วคุณภาพแบรนด์ใหม่ไม่ดีพอ ก็กลับบ้านเก่าเหมือนกัน มันเหมือนกับว่า การที่คุณตันออกมาโฆษณาแบรนด์ใหม่ ทำให้เรารู้สึกอยากซื้อมาลองทานได้ง่ายกว่า หากรสชาดดี ก็ซื้อต่อไป แต่ถ้าไม่ ก็เลิก เราว่าประมาณนี้มากกว่า คุณตันมีอิทธิพลอยู่ในการเลือกลองสินค้า แต่ไม่ใช่การบริโภคอย่างต่อเนื่อง จากคุณ : babysang เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 22:21:11

ความคิดเห็นที่ 7 ปั้นแล้วขาย  แกสุดยิดมาก โออิชิแกทำได้  แบรนใหม่ไม่ยากหรอก ทรัพย์สินขายได้แต่ สมองไม่โดนขายไปด้วยนี่ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 22:34:57

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าจำไม่ผิด ราคาอิชิตัน เปิดตัว 16 บาทด้วยนะครับ และถ้าอร่อยด้วยผมคิดว่าตัวอิชิตันก็น่าจะแย่งส่วนแบ่งตลาดได้ แต่จะสำเร็จแบบโออิชิไหม คงต้องดูกันอีกซักพักแหละครับ จากคุณ : blue machine เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 22:40:26

ความคิดเห็นที่ 9 ตัวชาเขียวที่เปิดตัวใหม่ รสชาดเหมือนกับโออิชิเลยครับ เพราะเพื่อนคุณตันที่เป็นคนไต้หวันเป็นคนคิดสูตร ถ้าราคาถูกกว่า แต่รสชาดเหมือนกัน คงต้องเอาองค์ประกอบอื่นๆ มาเป็นปัจจัยแล้วหล่ะครับ จากคุณ : Urban_Park เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 22:55:49

ความคิดเห็นที่ 10 ผมมองอย่างนี้นะ คุณตันเป็นคนสร้างแบรนแต่ด้วยตัวแกเองแกยังไม่ใช่แบรนนะครับ ถ้าพูดเรื่องคอนเนคชั่นต่าง ๆ ก็คงมีจุดส่งเสริมได้อยู่บ้าง ถ้าไม่โดนไทยเบฟกดดันกับพวกซัพพลายเออเสียก่อน (อย่าลืมเรื่องเหล้าพวงเบียร์ฝีมือเจ้าไหนด้วยนะครับทางนั้นเค้าก็เขี้ยวเหมือนกัน) จากคุณ : Jump.Jr เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 23:39:09

ความคิดเห็นที่ 11 ทำไมคนถึงมองว่าถูก 16 บาทราคามันก็ตามปริมาณ อยากกินถูกๆกินเพียวริคุไม่ดีกว่าเหรอ ? รสชาติผมว่ามันก็หนีกันไม่มากหรอกพวกชา อะ ถ้าอยากให้เค้าเปลี่ยนการบริโภคจากโออิชิมาอิชิตันรสชาติต้องดีมากๆ ไม่ก็การทำการตลาดต้องเยี่มยอดสุดๆแต่ผมว่าคงทำไม่ได้หรอก สรุป "ตัน" แน่ จากคุณ : หนูโกะ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 00:47:17

ความคิดเห็นที่ 12 คงไมถึงกับตันแต่คงไม่ได้ดังเพราะทุนบาง เส้นสายไม่แข็งพอ จากคุณ : Windows X เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 00:58:52

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่า คุณ ตัน ไม่ธรรมดานะครับ ผมว่าเขาทำงานแบบลุยงาน ลงลึกในรายละเอียด ดังนั้น ธุรกิจชาเขียว สำหรับคุณตันแล้ว ผมคิดว่า  เขารู้ลึก รู้หมด รู้จริง ตั้งแต่การผลิต การตลาด การจัดการทุกอย่าง (ผมเชื่อว่าเขารู้ด้วยว่าเครื่องจักรไหนดีไม่ดีอย่างไร บรรจุภัณฑ์ไหน ดีไม่ดีอย่างไร) ตอนนี้ คุณจะเห็นเองว่า พลังผลักดันของคนเป็นเจ้าของกิจการ(จริง)  มาเจอกับพลังของนักบริหารมืออาชีพ(ที่ทำงานเป็นลูกจ้างบริษัท)  เวลาเจอกัน สู้กันทางการตลาด  จะเป็นอย่างไร คุณตัน หนีชาเขียวไม่พ้นหรอกครับ นามสกุลแกยังเอาคำว่า กรีนทรี มาใส่เลยครับ  ไม่รู้แกสักลายชาเขียวไว้ที่กลางหน้าอกหรือเปล่า จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 02:16:04

ความคิดเห็นที่ 14 โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบครับ คุณตันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โออิชิ ดังนั้นการขายให้เสี่ยเจริญนั้นเป็นการขายด้วยความเต็มใจ และคนที่ได้เงินก็คือตัวแกเอง การจะบอกว่าสร้างมากับมือ แล้วสุดท้ายก็ต้องกลายเป็นลูกจ้าง เป็นมือปืนรับจ้างให้นายทุนจึงไม่ถูกต้องนัก ตอนขายกิจการก็เป็นเพราะเต็มใจขายนี่นา ดังนั้นที่แกออกจากโออิชิแล้วมาเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น ขายชาเขียว ผมมองว่ามันไม่สวยเท่าไหร่ เปรียบง่ายๆคือผมมีกิจการ แต่คุณมาขอซื้อ ผมก็ขาย ได้เงินมาเยอะเลย แล้วผมก็มาตั้งกิจการแบบเดียวกัน แบบนี้แสดงว่าผมไม่สนใจคุณเลย เพราะจะว่าไปแล้วคุณไม่มีทางบริหารงาน และเข้าใจธุรกิจได้เท่าผมแน่ แล้วลูกค้ามันก็คนเดียวกัน คุณว่าผมกับคุณใครจะได้เงินลูกค้าหละ จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 03:40:06

ความคิดเห็นที่ 15 ตอนเข้าตลาดมูลค่าของโออิชิประมาณ 300 ล้านบาทเท่านั้น แต่เมื่อเจ้าสัวเจริญยื่นข้อเสนอที่ปฎิเสธไม่ได้ด้วยดีล 3000 ล้านบาท กำไรถึง 10 เท่าภายในเวลาไม่ถึง 3 ปี ที่สำคัญกว่านั้นคือการยอมให้ตันบริหารต่อไปในฐานะCEOโดยคงหุ้นไว้ 10%เท่านั้น โดยที่เจ้าสัวก็จะไม่เข้ามายุ่ง หรือแทรกแซงอะไร ให้ตันบริหารไปเต็มที่ http://www.oknation.net/blog/assuming/2011/05/19/entry-1 ใครบ้างจะไม่ขายโออิชิ จากคุณ : A.R.T. เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 11:38:31

ความคิดเห็นที่ 16 ต้องเปิดให้มีชิงโชคอีกที่ คราวนี้ต้องมีตั๋วไปนอกโลกเลยจะได้ดัง เสียดายครั้งที่แล้วไม่ได้ จากคุณ : chet123654 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 13:10:25

ความคิดเห็นที่ 17 เร็วไปที่จะวิจารณ์ในตอนนี้ ต้องดูยาวๆ ส่วนตัวคิดว่าถ้าแกเล่นตั้งแบรนด์ชาเขียวใหม่ ตั้งชื่อคล้ายๆกับโออิิชิ ก็ต้องวางกลยุทธ์แล้วว่าทำยังไงให้คนจำได้ว่า นี่คือแบรนด์แก ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับโออิชิอีก ไม่งั้นถ้ารสชาดก็เหมือนกัน แพคเกจใกล้เคียง distribution ได้ ทรงพลัง ที่ไหนมีโออิชิ มันต้องมีอิชิตันเข้าไปด้วย สุดท้ายถ้าลูกค้าไม่สามารถแยกแยะได้ว่า ความแตกต่างของสองแบรนด์อยู่ที่ไหน ความสำเร็จแบบสุดยอดแบบตอนแรกๆอาจจะไม่เกิดขึ้น จากคุณ : paeagain เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 13:51:51

ความคิดเห็นที่ 18 โดยส่วนตัว เราไม่ชอบวิธีนี้ ขายไปแล้ว ควรมีจรรยาบรรณ มารยาทในการทำธุรกิจ funtional drink ควรล้างมือจากสิ่งนี้ไปเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่ออกมาทำแข่ง เพื่อ.... อะไร   เปลี่ยน ผู้บริโภค (ไทยเบฟ)...มาเป็นลูกค้า เปลี่ยน ลูกค้า มาเป็นคู่แข่ง ไม่ช้าจะเป็นศัตรู ตอนทำชาเขียวแข่งนี่ละ ...... จากคุณ : อำแดงเฟริ์น เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 16:41:31

ความคิดเห็นที่ 19 น้ำผสมน้ำตาลขาย 16 บาท แถมทำมาแข่งกับเจ้านายเก่า คุณว่า นิสัยเขาเป็นยังไงละ ทำบุญสุนทานเอาหน้า หรือ แท้จริง ไม่รู้จักพอ จากคุณ : พด เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 18:46:28 A:124.122.21.158 X: TicketID:314898

ความคิดเห็นที่ 20 อิชิตัน = ตัน > โออิชิ จากคุณ : คุณเจน เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 21:42:01

ความคิดเห็นที่ 21 ไร้จรรยาบรรณ และมารยาททางธุรกิจ คุณขายให้เค้าไปเอง 3,000 ล้านบาท แล้วยังมีหน้า มาตั้งบริษัทแข่งกับเค้า สินค้าเดียวกันอีก บอกได้คำเดียวว่าทุเรศจริงๆ ผมผิดหวังมาก คุณตันเคยไปไอดอลผม แต่จากนี้ไป ผมว่าไม่ใช่ละ ผมไม่กินอีกละ อิชิตัน หรือไม่สนับสนุนคุณตันอีกแล้ว จากคุณ : ชื่อนี้ไม่มีคนรู้จัก เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 22:26:43

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่าระบบกระจายสินค้าสินค้าเค้าสุดยอดมาก ที่ออกมาวางจำหน่ายได้รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ รสชาติก็ไม่เหมือนหรอก แต่ขวดกับราคา 15 บาท ที่แตกต่างเท่านั้นที่ทำให้คนลอง ส่วนชอบไม่ชอบแล้วแต่คน แต่ที่รู้เค้าทำเค้าได้ เค้าแบ่ง จากคุณ : Rasia เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 23:28:13

ความคิดเห็นที่ 23 วิเคราะห์ไม่เป็นไม่เก่งทางนี้ แต่อ่านข่าวแล้วชาวบ้านอย่างเราได้แต่งง ขายให้เค้าแล้วมาเปิดแข่งกับเค้า ทำกันได้ด้วยหรอ อย่างงี้ Steve Job ขายแอปเปิ้ลให้ใครก็ได้ แล้วมาเปิดบ.ผลิดมือถือ คอม อีกเจ้าชื่อ Mango ได้ป่าว จะขายได้ไหม จากคุณ : aggiegal เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 01:44:11

ความคิดเห็นที่ 24 "คุณตัน" วิสัยทัศน์สูงมาก ขายธุรกิจทั้งหมดออกไปตอนพีคสุดของวัฏจักรวงจรธุรกิจ บางคนเลือกขายทิ้งตอนขาลง บ. กำไรน้อยใกล้เจ๊ง แต่คุณตันแกขายตอนสูงเลย อีกอย่างจะหาคนมาซื้อ บ. จ่ายเงินซื้อหลักพันล้านไม่ง่ายนะ ไม่เหมือนขายน้ำเต้าหู้หน้าปากซอย พอขายไปแล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนมือ เปลี่ยนเจ้าของไป แต่สูตรทำชาเขียว การตลาดต่างๆ ปั้นแบรนด์ มันอยู่ในสมองอยู่แล้ว จะมาสร้างใหม่เริ่มจาก 0 มันไม่ยากหรอก ถ้าเครื่องดื่มมันสามารถ copy กันง่าย ป่านนี้ COKE, PEPSI มันก้อมีคนเอาสูตรมาปล่อยในก้นครัว ให้พวกมือใหม่มามั่วๆทำกันออกมาขายแล้ว เหมือน KK สูตรโน้นสูตรนี้ สรุป ดูกันยาวๆ คุณตันไม่ธรรมดาครับ ส่วนราคา รสชาติ ว่ากันตามชอบ จากคุณ : บ่ายสี่โมง เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 05:20:13

ความคิดเห็นที่ 25 อย่ามองในแง่ "ซื่อสัตย์" มากเกินไปครับ การค้าเสรีครับ ทำแบบฝรั่ง คิดแบบฝรั่ง ครับ คุณตันทำธุรกิจ สร้างธุรกิจด้วยตัวเอง ประสบความสำเร็จ มีคนมาขอซื้อกิจการ กำไรตั้งกี่เท่า ใครไม่ขาย ก็บ้าสิครับ แถมยังให้สิทธิบริหารอีก ทำต่อ รุ่งอีก (มีเงินเยอะขึ้น เพราะเจ้านาย มีเงินเยอะ ก็ขยายกิจการเยอะ) ยอดขายเพิ่มไม่รู้กี่ร้อย กี่พันเท่า ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ อยู่ต่อ ก็ไม่มีอะไร แถมกดดันด้วย (ปีต่อไปยอดจะเป็นอย่างไร บวก ก็เฉย ๆ แต่ถ้าเท่าเดิม หรือยอดตก งานเข้าแน่) ออกดีกว่า แน่นอน เขาต้องมีสัญญาลูกผู้ชายกัน สังเกตุไหมครับ กี่ปี กว่าจะมาเริ่มธุรกิจนี้ใหม่ เออ ถ้าออกปั๊บ สร้างแบรนด์แข่งเลย อันนี้ น่าตำหนิครับ แต่นี่ เป็นปีเลย กว่าจะมาเริ่มธุรกิจใหม่ ในแง่นี้ ผมถือว่าแฟร์ครับ (แต่ถ้าผมเป็นเบียร์ช้าง จ้างคนเอาเอาลูกตะกั่วไปแจกสักหน่อย เผื่อเงินสามพันล้านที่เสียไป จะได้คุ้มค่าบ้าง แหะ ๆ) เอาน่า อย่าคิดมาก ถูกใจก็ลองกิน ไม่ถูกใจ ก็ลองดู ผมว่าดีออก ไม่งั้น ต้องรอโปรโมชั่น โออิชิ ถึงจะลดราคา เดี๊ยวต่อไป เหลือขวดละสิบบาท พ่อจะกราบงาม ๆ 5 5 5 (แล้วออกไปซื้อทีละขวดมากิน) จากคุณ : สุกรสยาม เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 18:07:17

ความคิดเห็นที่ 26 ผิดมารยาททางธุรกิจ แล้วดูเหมือนจะไอเดีย "ตัน" ต้องมาอาศัย "ชาเขียว" ... จะมาอ้างว่าส่วนแบ่งการตลาดเย่อะมาก แบ่งๆกันกินกันใช้ได้ไหม ฟังดูแล้วน่าเกลียดไป ... ไปเล่นธุรกิจอสังหาฯ เก็งกำไรดีกว่าม้าง สุดท้าย เจอรับน้องตอนสินค้าเปิดตัว ก็ดูสงครามราคา จะคงไปได้เท่าไร งานนี้ margin มันเย่อะ สู้กันนานๆหล่ะ คนกินจะได้รับประโยชน์ ปล.ไม่ได้ไปฟังกี้มานาน คราวนี้เอาอิชิตันมาเป็น mixer อีกหรือเปล่านิ คุณตั๊นตั๋น จากคุณ : Arsenal มินิ คุ้กกี้ เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 54 20:49:34

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าเป็นแบบผรั่งในประเทศอเมริกา ถ้ามีการซื้อขายธุรกิจกัน เขาจะทำสัญญาซื้อขายไว้ว่า ผู้ขายจะต้องไม่ทำการเปิดธุรกิจแบบเดียวกับที่ได้ขายไป ภายในรัศมี (Radius) กี่ไมล็ นับจากจุดที่ตั้งของธุรกิจที่ซื้อขายกัน ในรายของโออิชิ เป็นธุรกิจใหญ่ มี Chain store หลายๆแห่ง สัญญาซื้อขายกันคงทำกันแบบไม่ได้ระบุห้ามไม่ให้เจ้าของธุรกิจเดิมขายกิจการแล้ว ต้องไม่เปิดกิจการใหม่ที่มีสินค้าแบบเดียวกันขึ้นมาแข่งอีก ระดับเจ้าสัวเจริญท่านคงไม่ละเลยข้อนี้ แต่ถ้าตอนทำสัญญาไม่ได้ระบุกันไว้คุณตันแกก็สามารถ้ปิดตัวใหม่ได้ ไม่ได้ผิดกฏข้อบังคับใดๆรวมทั้งมารยาทการทำธุรกิจด้วย จากคุณ : คนที่ราบสูง เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 08:07:41 A:58.9.184.115 X: TicketID:255841

ความคิดเห็นที่ 28 เขาบังคับให้ ตันขาย หรอครับ หรือว่าเขาขอแบรน โออิชิไปฟรีๆ ตันทำแบบนี้ ถือว่าเสียมารยาทนั้นแหล่ะ แต่ก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย หรือ สัญญาอะไร เพราะไม่ได้ระบุไว้ เสียมารยาท แต่ไม่ผิดสัญญา จากคุณ : durasail เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 23:31:29 A:58.9.231.55 X: TicketID:308748

ความคิดเห็นที่ 29 อยากกดไลค์ให้คห.19จังค่ะ เรื่องกิจการ แกก็ตัดใจขายไปแล้ว ความเป็นเจ้าของก็ต้องเป็นของคนที่มาซื้อสิ คนไม่ใช่เจ้าของจะมาตีโพยตีพายอะไรอีก มาน้อยใจอะไรอีกที่ตัวเองไม่ได้อำนาจสิทธิ์ขาด ถ้างั้นก็เหมือนหลอกขายกิจการ เพื่อเอาทุนมาต่อยอด  แล้วจะได้รอเวลาออกไปทำร้อยได้ร้อย แบบที่แกว่า เห็นในเดี่ยวตัน แกก็พยายามบอกว่าจะทำน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ประมาณว่าส่งเสริมให้คนมาดื่มเครื่องดื่มแบบไทยๆ ดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ แต่แน่ใจเหรอ ว่าเพื่อสุขภาพ? จากคุณ : ชุติกาญจน์ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 23:14:01