ความคิดเห็นที่ 1 ประชานิยมล้วนๆ ทำไมรักแต่ชาวนา ไม่เห็นรักพนักงาน office เลย จขกท. มีพรรคอื่นให้เลือกมั่ย T_T จากคุณ : new_som เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 19:44:33

ความคิดเห็นที่ 2 จริงๆก็มีนโยบายเพ้อฝันเยอะนะครับ เช่น จบใหม่ ป.ตรี รับไปเลยเงินเดือน 15,000 บาท ผมอยากจะถามเค้าเหลือเกิน ว่า ถ้าป.ตรี 15,000 บาท แล้วป.โทจะรับเท่าไหร่กัน ผมวุฒิ ป.ตรี ทำงานอยู่ในรัฐวิสาหกิจ ยังเงินเดือนไม่ได้ 15K เลย แล้วป.โทก็ไม่ถึงด้วย ^^ ขยับแต่ป.ตรีระวังป.โทเค้าจะน้อยใจขอลดวุฒิกันนะ ( ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นนโยบายเพ้อฝัน แต่ก็อยากฝันนะ) จากคุณ : hunchback เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 19:48:47

ความคิดเห็นที่ 3 นโยบายพรรคแรก : เหมือนการให้ โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนก่อน แล้วไปลงทุนทำด้วยตนเอง สุดท้ายยังไงรัฐก้ต้องได้คืน นโยบายพรรคสอง : ลงทุนยังไงก็ไม่มีการขาดทุน เอาจริงๆนะ ผมว่าอันที่ 2 เนี่ย มันประชานิยมมากกว่าด้วยซ้ำ -------------------------------------------- จากคุณ : ขนมหลายชั้น เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 20:41:19

ความคิดเห็นที่ 4 โว่วววๆๆๆ อาจดุล่อเป้า... แต่ถ้าดูกันเฉพาะนโยบาย จะสังเกตได้ว่าเพื่อไทยให้ราคาสูงกว่า...มาก... ซึ่งวันนั้นผมฟังอภิสิทธิ์พูดทางช่องสาม ผมก็รู้สึกว่ามีบางข้อที่จริงนะครับ... การรับจำนำหรือประกัน ไม่ได้ต่างกัน... หากแต่ความเป้นไปได้...ในการที่รัฐบาลจะรับซื้อข้าว...ต้องดูเม็ดเงิน...ที่รัฐบาลจะรับไหว... เพราะถ้าพิจารณากันตามจริง การประกันราคาข้าว หรือรับจำนำข้าว ก็คงเปรียบเหมือน...รัฐบาลรับซื้อข้าว ณ ราคาหนึ่งๆ...เหมือนมีราคากลางที่จะช่วย ไม่ให้พ่อค้าคนกลาง...กดราคามากเกินไป เช่น รัฐบาล XXX ประกัน/จำนำ ราคาข้าวที่ 10,000 บาท ต่อตัน พ่อค้าคนกลาง...จะมากดราคาชาวนาที่ 6-7 พันคงทำไม่ได้...เพราะคงไม่มีชาวนาหน้าไหนโง่ไปขายให้ สุดท้ายพ่อค้าก็คงต้องให้ราคาที่ใกล้เคียงหรือมากกว่าเล็กน้อย แต่ถ้ารัฐบาลอัพราคาประกันข้าวให้สูงขึ้นไปเท่าตัว...เป็น 20,000 บาท/ตัน พ่อค้าคนกลางที่ไหนจะสู้ราคาล่ะครับ...สุดท้ายมันก็เป็นการดันราคาสินค้าทางอ้อมได้เหมือนกัน... เพราะพ่อค้าคนกลางเปรียบเสมือน Distributor ทีนี้ล่ะครับ...ภาระจะอยู่ที่รัฐบาลคนเดียว... ถ้าพอเห็นภาพก็น่าจะเข้าใจได้นะครับ... ที่ผมวิจารณ์อาจดูเหมือนผมเข้าข้าง อภิสิทธิ์นะครับ แต่ที่ผมวิจารณ์เป็นเพียงนโยบายเดียว...เท่านั้นคุณยังต้องใช้อื่นๆพิจารณาอีกเยอะครับ.... จากคุณ : Aniloxez เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 20:45:50

ความคิดเห็นที่ 5 ผมสงสัยครับ ถ้าราคาข้าว มันสูงมากๆๆ แล้วเราจะส่งไปขาย ต่างประเทศได้ใหม ต้นทุนเราสูง เราจะขายแข่งได้เหรอ ถ้าขายแข่งไม่ได้ ข้าวเหลือ จะทำอย่างไร จะลดการผลิต ก็ไม่ได้ เพราุะชาวนาไม่ยอม กำลังได้ราคา แล้ว ผม กินข้าวทุกวัน ถ้ามันแพง จะกินอะไรแทนได้ แกลบ ก็ไม่น่าจะได้ เพราะแกลบ ได้มาจากข้าวที่แพง เฮ้อ ขอนโยบายอื่นได้บ้างใหมครับ จากคุณ : aksorn_ji เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 21:16:36

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าดูเฉพาะนโยบายน่ะ -จำนำข้าว เวอร์ชั่นพ่วงบัตรเครดิตเกษตรกร ดูโอ กว่าน่ะ ปิดจุดอ่อน เก่าๆได้เกือบหมดเลย คล้ายๆผสมระบบขึ้นทะเบียนเกษตรกร ผสม เข้าไปด้วย แต่รอบคอบขึ้น -ส่วนประกัน พ่วงแจกเงินสด นี่ อาจพึ่งแรกเริ่มมั๊ง แผลยังเยอะเกิน จุดอ่อนก็เยอะ เช่น เป็นนโยบายที่เสียเงินหรือเท่าทุน อย่างเดียว ไม่มีโอกาสกำไรเลย แถมไม่เป็นการกระตุ้นราคาในตลาดอีก สินค้าเกษตรใครๆก็รู้ ว่าขึ้นอยู่กับฟ้าฝน ฝนเยอะผลผลิตก็เยอะ ราคาก็ตก ถ้าไม่มีใครรับซื้อตอนราคาตก ปล่อยให้ออกมาเต็มตลาดโลก ประเทศร่ำรวยก็สบายไปเลย ซื้อข้าวราคาถูก โดยเฉพาะนโยบาย เรื่องแจกเงินสดให้ชาวนาน่ะไม่รู้นิสัยชาวนาไทยเลยหรือ ถึงเอาเงินสดๆไปแจกน่ะ ให้ทุนยืมเพื่อเอาไปทำกิน น่ะ ทำได้ แต่อย่าให้ยืมเงิน เพื่อให้เอาไปใช้เลย น่ะ ขอเถอะ วงจรเก่าๆมันไม่หายไปจากเกษตรกรไทยสักที ประเภทพักหนี้ ยกหนี้ ให้ทีทำกิน เดี๋ยวมีคนมาต่อว่า ว่าเกษตรกรไทย มีแต่ขอเงิน มือไม้ก็มี แต่ไม่ยอมทำกิน เฮ้อ... สอนเขา สนับสนุนเขา ให้โอกาสเขา ช่วยเหลือเขา ให้ทำมาหากิน ในอาชีพของตน ก็พอ แต่อย่าให้เงินสดเป็นอันขาด เพราะมันจะไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคตแน่ๆ แถมทำให้เกษตรกรไทย ถูกเขาดูถูกอีก แก้ปลายเหตุไป จากคุณ : วิช เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 22:19:22 A:49.49.84.95 X: TicketID:121481

ความคิดเห็นที่ 7 อันแรกผมว่าดีกว่ามากครับ แต่ทั้งสองทางยังไงก็ไม่ดีกับเกษตรกร จริงๆหรอก จากคุณ : ดีใจจัง เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 22:36:03

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่เห็นด้วยกับการแจกกะตัง...ทั้งสองอันเลย... จากคุณ : Aniloxez เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 23:25:59

ความคิดเห็นที่ 9 วิจารณ์ไม่ได้และไม่ควรวิจารณ์ เพราะไม่ใช่นโยบายที่ทำมาสำหรับชาวสีลม ปล่อยให้ชาวนาเค้าเลือกเถิดครับว่าแบบไหนดีกว่ากัน จากคุณ : typeV เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 00:34:47

ความคิดเห็นที่ 10 ประกันราคานั้น วิธีคิดวิเคราะห์ มาจากต้นทุนที่ลงไป+ค่างานที่เกิดขึ้น แล้วสรุปออกมาว่า เท่าไรเกษตรกรจึงจะดำรงชีวิตอยู่ได้ ถ้าราคาขณะนั้น สูงกว่าราคาประกัน เกษตรกรก็โชคดี  มีกำไรจากการทำงาน  วิธีคิดนี้ ไม่ได้เข้าไปทำให้ตลาดผิดปกติ การจำนำ เพื่อไทยบอกว่าจะรับจำนำ 15000 บาท ถ้าราคาตลาดอยู่ที่9000 บาท จะเอาเงินจากใหนมารับจำนำข้าว 5ล้านตัน แล้วจะเก็บที่ใหน เพราะปัจจุบัน เกษตรกรไม่ได้มียุ้งฉางเก็บข้าวเหมือนสมัยก่อนแล้ว อีกทั้งต้องใช้เงินถึง 5000000*15000=75,000,000,000บวกค่าการจัดการไปอีก 15% การจำนำข้าวแบบกำหนดราคาสูงกว่าตลาด เป็นการทำให้ระบบตลาดผิดปกติ สรุปสุดท้าย มันหาเสียงอย่างเดียว ไม่คิดถึงความเป็นไปได้เลย จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 10:33:10

ความคิดเห็นที่ 11 รัก ประชาธิปไตย รัก ประชาฺํธิปัตย์ จากคุณ : ความสุขของคนโดดเดี่ยว เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 14:09:45

ความคิดเห็นที่ 12 เท่าที่เคยได้ยินมา การประกันราคาข้าว คำนวณจากต้นทุน+รายได้ขั้นต่ำที่ชาวนาควรจะได้ เช่น ต้นทุน 7,000 และควรมีรายได้ 5,000 ต่อไร่ ก็จะตั้งราคาประกันไว้ 12,000 ซึ่งการันตีว่ายังไงชาวนาก็ไม่ขาดทุนแน่ๆ และมีรายได้พออยู่พอกินเป็นอย่างน้อย ถ้าราคาตลาดสูงกว่า หรือข้าวคุณภาพดีขายได้ราคามากกว่า ก็ไปขายเอง ได้รายได้เพิ่มขึ้น ราคาจำนำ คือ รัฐฯ จะดูจากราคาตลาดปัจจุบัน และตั้งราคาจำนำ เช่น 13,000 ให้ชาวนาเอาข้าวมาฝากไว้ แล้วรับเงินไปก่อน ต่อไปถ้าราคาตลาดสูงขึ้นเป็น 14,000 และชาวนาต้องการจะขาย ก็ค่อยมาไถ่ถอน และไปขายได้รายได้เพิ่มขึ้น ผมมองว่าโอกาสรัฐขาดทุนจะเกิดกับ การจำนำ มากกว่า เพราะถ้าข้าวราคาลง ชาวนาก็จะปล่อยหลุดจำนำทันที จะกลายเป็นว่ารัฐถือข้าวที่ต้นทุนแพงกว่าเอกชนไปโดยปริยาย ส่วนการแจกเงินหรือระบบบัตรเครดิต ไม่เห็นด้วยทั้งสองอย่างเลย และที่จะตามมาคือเรื่องทุจริต เช่น สตอคลม มีการโกงโควตา จัดสรรให้พวกพ้อง สารพัดพวกนี้ ต้องมีนโยบายที่เข้มงวดมาปราบปราม เป็นกรอบอีกชั้นหนึ่งด้วยครับ จากคุณ : double22 เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 17:00:14