ความคิดเห็นที่ 1 มีอีกเรื่องไหมครับ จากคุณ : ผมรู้..คุณรักผม เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 09:53:55

ความคิดเห็นที่ 2 เคยทำงานโรงแรม เจ้าของเป็นแขกบังคลาเทศ โค ตะ ละ งก และเลว มีเมียคนทีส่ามเป็นผู้จัดการฝ่ายบัญชี ซึ่งโค ตะ ละ เขี้ยว และเลวพอๆ กัน โรงแรมเป็นเชนจากต่างประเทศ เครือสตาร์วูด ซึ่งเข้มงวดมากอยู่แล้ว พนักงานนี่เรียกว่า ทำงานกันเหนื่อสายตัวแทบขาด แต่งานหายาก ก็ต้องตังหน้าตั้งตา ทำงานกันไป เจ้าของนานๆ มาที แบบว่า สองสามเดือนหน พอมาก็จะมาหาเรื่องด่าๆๆๆๆ ช่วงไหนลุงแกมา เดี๊ยวก็เรียกประชุม ไปด่าๆๆๆๆ บางวันสี่ห้ารอบ ประชุมๆๆๆ มีหนหนึ่ง เด็กล้างจาน มายืนลับๆ ล่อๆ หน้าห้องทำงาน พยายามสบตาเรา เราก็เลยเรียกให้เข้ามาหา ถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เด็กก็บอกว่า เมื่อกี๊ หลังกินข้าว เด็กขึ้นลิฟท์มาจากชั้นใต้ดิน สี่ห้าคน กำลังแข่งกันตด อยู่ในลิฟท์ เพราะเป็นลิฟท์พนักงาน แล้วก็ช่วงบริการ ไม่คิดว่าจะมีใครขึ้นมาอีก อยู่ดีๆ ลิฟท์เปิดที่ชั้นจอดรถ เจ้าของกับเมีย เข้ามาในลิฟท์เฉยเลย เด็กๆ ก็เลยหันหน้าเข้าข้างฝา พอลิฟท์ถึงชั้น 1 ก็รียออกกัน ปล่อยให้เจ้าของกับผู้จัดการฝ่ายบัญชี อบอยู่ในลิฟท์ที่ไม่มีแอร์ กับกลิ่นตดคละคลุ้ง เรากลั้นหัวเราะแทบตาย ทำขรึมบอกเด็กว่า อย่าเล่าเรื่องนี้ออกไป จะโดนไล่ออก แล้วก็ให้เด็กไปทำงาน และก็ไม่แปลกใจ ซักพัก มีเรียกประชุมด่วนจากเจ้าของ โดนด่าเละว่า ลิฟท์ขนส่ง กลิ่นเหม็นมาก ทำไมไม่ทำความสะอาด ทำอาหารหก ไม่กวาดขยะ เศษอาหารไปเน่าติดไว้แน่ๆ แล้วขึ้นลงกันทำไมไม่ได้กลิ่น นี่ถ้าเจ้านายไม่มาลองขึ้นลิฟท์พนักงาน คงไม่รู้ปัญหา คงไม่มีใครใส่ใจ เรานะ กัดริมฝีปากกลั้นหัวเราะแทบตาย ปรกติโดนว่าเราจะเดือดปุดๆ เพราะทุกทีมันเป็นเรื่องไร้สาระ แต่คราวนี้ เราอิ่มเอิบบบบบ มาก ตีหน้าเศร้า รับความผิดอย่างมีความสุข บ่ายนั้นก็มาระดมช่างกับพนักงาน ช่วยกันทำความสะอาดลิฟท์ เอาไอ่เด็กที่แข่งกันตดในลิฟท์นั่นแหละไปขัดลิฟท์ ตอนเด็กทำงาน เราเดินผ่านไป เห็นฝ่ายช่างล้อมวงคุยกับพวกเด็กที่แข่งกันตด แล้วพวกช่างก็ลงไปกลิ้งหัวเราะงอหาย บนพื้น เราก็เลยเดินก้มหน้ากลั้นยิ้มผ่านไปเสีย ตั้งแต่นั้น พอเจ้านายเดินเข้าลิฟท์ พนักงานทุกคน ก็ชอบมองหน้ากันแล้วก็แซวกันเอง เฮ้ย ลิฟท์เหม็นหรือเปล่า ทำลิฟท์เหม็นให้นายหน่อยเร็ว จากคุณ : bam_cnx เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 09:57:50

ความคิดเห็นที่ 3 เข้ามา ฟังด้วย ค่ะ จากคุณ : ปาดศรี (ปาดศรี) เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:06:45

ความคิดเห็นที่ 4 ว่าที่กระทู้แนะนำ แต่ละคนตลกมากเลยครับ จากคุณ : blue_nova เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:16:22

ความคิดเห็นที่ 5 ลงชื่อเตรียมตัวอ่านครับ จากคุณ : RAORUE เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:24:21

ความคิดเห็นที่ 6 โอว ถ้าเราเข้าลิฟท์ ที่กลิ่นอบอวลแบบนั้น ขอกลับบ้าน สระผม 3 รอบอ้ะ เอิ้ก ๆๆ ขำๆๆ สมกับวันศุกร์จริงๆ เลย จากคุณ : makotojung เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:38:01

ความคิดเห็นที่ 7 - เดินเข้าไปในคอกเคานเตอร์เพื่อตรวจเช็คงานก่อนจะกลับบ้าน ตอนนั้นก็รู้สึกปวดอี้อยู่เต็มประดา แต่ก็ฝืน เพราะคิดว่าจะเปิดสมุดเช็คอะไรแป๊บเดียว - แล้วเราก็ตดแบบเก็บเสียง 100 เปอร์เซนต์ ( คงรู้กันดีว่า กลิ่นมันจะหนักหนาขนาดไหน ) แต่ก็ช่างมัน เพราะมีฉันอยู่คนเดียว - ที่ไหนได้ เจ้านายเดินผ่านมาจะกลับบ้านพอดี ตอนแกเดินผ่านคอกเคานเตอร์ไป ก็ปรายตามามองนิดนึง เราก็ส่งยิ้มพร้อมกับพยายามไม่พูด หรือทำอะไรอันเป็นการชวนคุย - พอแกเดินจนเกือบถึงประตู ดันนึกอะไรขึ้นได้ เดินกลับมายืนเกาะพาร์ติชั่นคุยกับเรา ทำไงล่ะ จะตอบแบบส่ง ๆ ก็ไม่ได้ ต้องตั้งใจฟังว่าแกจะถามอะไร ขณะเดียวกันก็นึกอยู่ว่าจะลงเอยอย่างไร - สุดท้ายกลิ่นมันคงลอยเข้าจมูกแกเอง บทสนทนาก็เลยสะดุดจบอยู่แค่นั้น ไม่มีสงสัย ไม่มีคำถาม อะไรอีกทั้งสิ้น - โทษใครดีอ่ะ เพราะมีกันอยู่แค่ 2 คน T_T จากคุณ : -- เลือดเย็น -- เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 12:59:11 A:202.47.107.98 X: TicketID:229073

ความคิดเห็นที่ 8 คงจะเหม็นติดปอดกันไปเลย 555 จากคุณ : spitfireboy เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 13:02:51

ความคิดเห็นที่ 9 น่าเสียดาย ที่ทำงานไม่มีเรื่องขำเลย มีแต่เรื่องซีเรียส กับเรื่อง ช๊อคคคค >< จากคุณ : เพชรน้ำสุด เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 14:44:41

ความคิดเห็นที่ 10 ลูกน้องผม มันมีรอยดูดที่ต้นคอมาทำงาน ทุกวัน 3-4จ้ำใหญ่ๆ ทำงานกันมา4เดือนแล้วก็ยังมีรอยมาเรื่อยๆ จากคุณ : red-racket เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 14:59:48

ความคิดเห็นที่ 11 ผมเคยโดนนายใหญ่ตำหนิอยู่ครั้งนึงครับ เรื่องทำงานเกินเวลา นี่คุณ .. ทำงานถึง 1-2 ทุ่ม มันกินค่าไฟ เปลืองค่าแอร์รู้มั๊ย งานเยอะมากขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงทำงานกลับดึกๆ แทบทุกวันเลย แล้วอยู่คนเดียวใน Office แบบนี้ อย่าให้จับได้นะว่า "ขโมยของอะไรออกไป" !!! เจอคำถามแบบนี้ เล่นเอาผมเป็นใบ้ไปเลยครับ ส่วนอันนี้ เรื่องประหลาดเลยครับ นายใหญ่คนเดียวกัน จะหาเรื่อง คนสวน โดยการให้ไปนับว่า ทั้งตึกมี หลอดไฟกี่ดวง ต้นไม้มีกี่ชนิด วันนี้ต้นไม้ชนิดไหนใบร่วงบ้าง แล้วร่วงกี่ใบ ??? คนสวนงง จนพูดไม่ออก เครียดไปหลายวัน อีกเรื่องครับ คนสวนอีกคน กำลังจะเกษียณ ทำงานมา 30 กว่าปี อยู่ใน ช่วงเวลา นายใหญ่คนเดิมครับ .. นี่ทางเราจะต้องจ่ายเงินเดือนให้เขา ตามจำนวนปีที่เขาทำจริงๆเหรอ ?? คนสวนคนนี้ เกษียณไปอย่าง งงๆ ครับ ปล. นายใหญ่เป็นชาวต่างชาติ มีหน้ามีตาทางสังคม มีอายุอยู่ในไทยได้ 3 ปี เบ็ดเสร็จขอต่อเป็น 6 ปี แฮะๆ ... ทุกคน ... เอือม ครับ ปล. เป็นเรื่องจริงที่เล่ากันเอาสนุกนะครับ ไม่ได้มีเจตนาจะนินทาลับหลังนะครับ จากคุณ : Archarn Chan เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 15:34:43

ความคิดเห็นที่ 12 ฮ่าฮ่าฮ่า   ขำอ่ะ  แข่งกันตดในลิฟท์    สะใจแทนลูกน้องจริงๆ จากคุณ : นาโนจัง เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 17:45:41

ความคิดเห็นที่ 13 เหอ เอาเบาะเรื่องล่ะกัน ตอนเป็นนักศึกษาปี 3 ร้อนรนออกไปหางานพิเศษทำ ประมาณไม่อยากแบมือของตังค์อย่างเดียว แต่ถ้าไม่ขอก็ไม่พอใช้ ก็ไปทำ sideline อยู่ที่บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งนึง บ่ายวันเกิดเหตุ ก็มีประชุมเรื่องงานกัน แล้วเจ้านายจะหลงรักเสียงตัวเองนิดนึง ชอบพูดคนเดียว ทุกคนต้องฟัง เขาก็สอนเรื่องการวางฟอร์มในการไปพบลูกค้า ต้องวางมาดยังไง ให้ดูน่าเชื่อถือ ให้ดูเขาเป็นตัวอย่าง เดินเข้า office ลูกค้ามา ต้องให้ลูกค้าประทับใจเลยนะ ต้องให้ดึงความสนใจให้ได้ จะได้เปิดการขายได้ ผมก็ฟังมั่งไม่ฟังมั่ง  ก็เรามันแค่เด็กไซด์ไลน์ ลูกค้าไม่โง่มันก็ต้องดูออกละว้า จะให้มีมาดสะกดใจคนได้ไง ด้วยความที่แกกลัวไม่เข้าใจ แกก็เลยเดินออกไปนอกห้องประชุม กะจะทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ว่า ต้องมีมาดยังไง ก็พอดี เจ้ากรรมนายเวร แกเดินดุ่มๆ เข้ามา แต่ไม่เปิดประตูกระจก  แต่เดินชนเอาดื้อๆ เสียงดังมาก พี่ๆ เขาก็กัดปากกลั้นหัวเราะกัน แต่ผมงี้เอาไม่อยู่จริงๆ ปล่อยเต็มเลย เจ้านายอายจนหน้าแดงเลย แหะๆๆ..  แต่ผลก็คือ ผมโดนขอให้ออกภายในอาทิตย์ถัดมาเลยครับ จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 18:09:58

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ ^ โห...แค่หัวเราะเองนะ  ถึงขนาดบีบให้ออกจากงานเลยเหรอ ใจร้ายเกินไปแล้ว จากคุณ : เพชรน้ำสุด เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 18:38:47

ความคิดเห็นที่ 15 555555555+ แต่ละคน ฮา ๆ ทั้งนั้น เราก้อมีแต่เรื่อง ตด อ่ะ   รออ่านอย่างเดียว ไม่ไหวจะเล่า  เหม็นจนเพลีย 5555 จากคุณ : ดูจากหน้าตาแล้วผู้ชายแย่งกัน เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 18:55:40

ความคิดเห็นที่ 16 สมัยยังทำร้านคาร์แคร์อยู่ ท่านผกก.ประจำโรงพักแถวบ้านขับ BMWซี่รี่ส์ 5 มารับเด็กที่ร้านบอกให้ไปเอามอเตอร์ไซค์แกไปล้างให้ด้วย เด็กหม่องในร้านก็รับทราบ พยักหน้าขึ้นรถไปพร้อมกับแก ด้วยความที่เป็นคนเจียมเนื้อเจียมตัว เวลาไปไหน มาไหน เด็กหม่องจะนั่งหลังรถกระบะตลอด ให้มานั่งหน้าก็ไม่ยอม ครั้งนี้ก็เช่นกัน เด็กน้อยไร้เดียงสาก็เปิดประตูหลังขึ้นไปนั่งตามปกติ แต่ท่าน ผกก.ก็โวยวายเสียงดังลั่นรถ "เฮ้ย!!!!ไปนั่งข้างหลังทำไมวะ กรูไม่ใช่คนขับรถมรึง" เด็กหม่อง O_o" ไม่เข้าใจ จากคุณ : =Le 29 juin= เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 19:50:15

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องน่าอายตัวเองแล้วกัน ที่ออฟฟิศในเบสพม่าเมื่อสองปีก่อน นั่งอยู่ในห้องวิศวกรที่ทำงานที่มีแต่ผู้ชายเต็มไปหมด แล้วเราชอบนั่งแบบเอนหลังเยอะๆเวลาเบื่อๆ เก้าอี้เป็นแบบพลาสติกปรับได้ มีเบาะแบบนั้นอ่ะคะ ที่ดูน่าจะแข็งแรง แล้วแบบอยู่ดีๆมันก็หักเลย ล้มตึงดังมากกกกกกกกกกก คือหนุ่มๆวิ่งมาดูเรากันใหญ่ เรานี่วิ่งหนีไปห้องเจ้านายอายสุดๆๆๆ เดินกลับมา โดนแซวว่าอ้วนไปหรอ.... แต่มีหนุ่มเมกันที่มาจีบแบบเป็นคนดีมาก ปกป้องเราโดยการนั่งดูเก้าอี้ที่หักแล้วบอกเพื่อนๆว่าพลาสติกมันฉีดไม่ดี มันมีรูโหว่อากาศเข้าแบบยาวมากกกกกก เราก็เอ่อ...ขอบคุณนะ จากคุณ : aggiegal เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 19:54:37

ความคิดเห็นที่ 19 คห.17  ...ปิ๊งหนุ่มตาน้ำข้าวแล้วซิ...อิอิ ....ที่จริงผมก็มีเรื่องขำนะ  แต่เจอตด 2เรื่องซ้อน...หายขำเลย  ... แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 22:06:56 จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:02:30

ความคิดเห็นที่ 21 แปะไว้มาอ่านต่อ จากคุณ : แรบบิทแบน เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 00:57:21

ความคิดเห็นที่ 22 เอาเป็นสมัยเรียนได้มั๊ยครับ............... เรื่องที่จะเล่าไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ครูบาอาจาย์ใดๆทั้งสิ้นนะครับ...........แต่นึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็อดขำกับความน่ารักของอาจารย์ท่านนี้ไม่ได้ซักที.........เรื่องคือ...... อาจารย์ผมกำลังสอนโดยใช้แผ่นใสขึ้นเลคเชอร์บนจอ ห้องเรียนสมัยก่อนไม่มีแอร์นะครับ (สมัยนี้น่าจะมีกันทั่ว)...............แกสอนโดยมายืนชี้ที่จอเลย ไม่ได้ชี้ที่แผ่นเพราะแสบตา ระหว่างแกสอนไปเรื่อยๆลมก็พัดเข้ามาเป็นระยะ อาคารเรียนผมอยู่ใกล้ทะเลซะด้วย ลมก็แรงดี.....ซักพักลมก็พัดเข้ามาอีกวูบนึง พวกเรานักศึกษาก็เห็นว่าแผ่นใสมันค่อยๆเลื่อนจากในเฟรมฉาย ตัวแกก็คงเห็นว่าแผ่นใสจะหล่น อารามตกใจก็กะโดดตะครุบ แต่ว่าด้วยความรีบแกก็ตะครุบไปที่จอครับ ไม่ได้ตะครุบที่ตัวแผ่นจริง ภาพที่พวกเราเห็นคืออาจารย์แปะตัวอยู่กับจอแล้วพยายามออกแรงเหมือนกดไว้ไม่ให้แผ่นมันเลื่อน...........ตอนนั้นแผ่นใส่มันหมิ่นเหม่จะร่วงมากแล้ว ในห้องก็มัวแต่หัวเราะขำอาจารย์แต่ไม่มีใครเตือนสติแก.....เพื่อนคนนึงก็เลยไปช่วยเลื่อนแผ่นที่เครื่อง อาจารย์ก็ตามตะครุบในจอใหญ่เพราะเห็นแผ่นมันเลื่อนอีก.................55555555555 ซักพักแกคงนึกขึ้นได้ กระโดดพรวดออกจากจอแล้วยิ้มๆเขินๆบอกพวกเราว่า อย่าถือสานะ ครูแก่แล้ว............. หลังจากนั้น ฮาตรึมพร้อมกันทั้งห้องรวมทั้งตัวอาจารย์เอง.......ฮาขนาดเพื่อนผู้หญิงคนนึงหัวเราะจนตดแตก ในห้องเลยยิ่งหัวเราะหนักกันเข้าไปอีก......... ผมจบมาก็หลายปีแล้ว อาจารย์แกเกษียณไปแล้วหละครับ หวังว่าท่านคงยังสบายดีนะครับ....... จากคุณ : NJ THE KOP เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 01:08:10

ความคิดเห็นที่ 23 ทำงานที่เก่าเป็นโรงแรม เป็นโอเปอเรเตอร์แต่รับ Room Service เองด้วย ความรู้เรื่องอาหารงูๆปลาๆกันมาก วันนั้นนั่งทำงานกะป้าคนนึง ฟังแกทวนออเดอร์อาหารที่แขกสั่ง เมนูแรกๆก็คุ้นๆอยู่ เมนูหลังๆชักงงๆ เลยไปยืนฟังข้างๆ ได้ยินแกทวนชื่อเมนู "balcony with shellfish (ระเบียงเสิร์ฟกับหอย?)" อันสุดท้ายได้ยินแกทวน "pineapple cheese (ชีสสัปปะรด?)" เลยแอบสะกิดถามป้าแกว่าแขกสั่งอย่างนี้จริงเหรอ ป้าหันมาพยักหน้าท่าทางเคร่งเครียดบอกว่าลูกค้าสั่งเมนูนี้จริงๆ เปิดหาในเมนูแล้วขำกันใหญ่ เพราะมีแต่ spaghetti with shellfish ส่วน pineapple cheese ก็กะประมาณว่าเป็น pineapple juice (น้ำสัปปะรด) รึเปล่า เพราะโทรไปถามที่ครัวแล้วเค้าบอกไม่มี (ยังกล้าโทรไปถามเค้าอีก อิอิ) สุดท้ายให้โทรไปถามแขกใหม่ แขกบอกใช่ pineapple juice น่ะแหละ เรื่องนี้ฮาเอามาแซวป้าได้เป็นปี ไม่ขำที่ฟังผิด แต่ขำที่ป้ายืนยันเสียงเครียดว่าแขกสั่ง pineapple cheese จริงๆเนี่ยแหละ รวมถึงที่ป้าจะเสิร์ฟระเบียงกะหอยให้แขกด้วย ฮ่าๆๆ แต่ถึงยังไงป้าก็น่ารักที่สุด จากคุณ : lovelybadzbadz เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 01:42:57

ความคิดเห็นที่ 24 #22 คุณ : NJ THE KOP   อาจารย์น่ารักอะค่ะ ฮามากเลย จากคุณ : lovelybadzbadz เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 01:51:12

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าเรื่องเรียน มีขำเหมือนกัน แบบสมัยเด็กๆ เพื่อนเรามีแม่ชื่ออ้วน แล้วพวกเราก็ชอบแซวตามประสาเด็กๆ อ้วน อ้วน อ้วน... วันนึงเรียนภาษาไทยในห้อง พวกเราก็แซวอ้วน อ้วน กะเพื่อนคนนี้ ปรากฎว่าครูเราเรียกเพื่อนคนนี้ขึ้นยืน แล้วบอกว่า ครูรู้ว่าครูอ้วน แต่ครูก็คิดว่าตอนครูว่ายน้ำไม่มีใครแล้ว ไม่คิดว่าเธอจะไปปีนดูครูว่ายน้ำ บลา บลา แล้วครูก็จะร้องไห้อ่า... พวกเราทั้งห้องนี่แบบ ครูขา แม่มันชื่ออ้วนจริงๆ พวกเราไม่รู้เรื่องเลยครูว่ายน้ำตอนไหน ปล เรื่องมันนานมาแล้วแต่พวกเราพูดเรื่องนี้ทีไรก็ยังขำไม่หาย ไม่ได้ว่าคุณครูนะคะ แต่สงสารเพื่อนที่มันเอ๋อไปเลย จากคุณ : aggiegal เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 02:12:07

ความคิดเห็นที่ 26 ผมเป็นช่างภาพครับ มีครั้งหนึ่งผมก็ได้รับงานถ่ายภาพ รับปริญญา ให้เพื่อนสนิท เป็นวันซ้อมใหญ่ จึงมีทั้งเพื่อนของผมและครอบครัว เยอะมาก แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนกัน เลยลืมตัว "ไอ้*** สมชายๆ ไม่เจอกันนานเอ็งเป็นไงบ้าง" "สมชาย ยืนชิดๆคุณพ่อหน่อย" "ยิ้มหน่อย ไอ้*** สมชาย" ผมก็ทำหน้าที่ช่างภาพไปเรื่อยๆ แต่ผมรู้สึกแปลกที่ ครอบครัวของเพื่อนผมยิ้มไม่หุบ ตลอดเลยตั้งแต่เจอหน้าผมแล้ว ผมพยายามสังเกตุตัวเองว่า มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ก็ไม่มี เป็นอย่างนี้จนจบวัน ก่อนจะจากกันก็คุยแนะ นัดกันว่าจะเจอที่ไหน อะไรต่อไป อยู่ๆเพื่อนผมก็พูดขึ้นมาว่า "สมชาย ชื่อพ่อตรู .. ไอ้หอก . ." ทั้งครอบครัวเค้าปล่อยหัวเราะออกมากร้ากใหญ่ . . คนแถวนั้นคงงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ขำอะไรกัน ผมไม่ขำหรอกครับ ถ้าผมขุดดินได้ ผมจะขุดแล้วเอาหน้าซุกเข้าไปครับ . . อาจเป็นบาปที่ตอนเด็กๆล้อชื่อพ่อชื่อแม่ครับ มันไม่ดี จากคุณ : พีพีคุง เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 06:16:09

ความคิดเห็นที่ 27 ที่ทำงาน รับเด็กฝึกงาน 3 คน มาทำงานทั่วๆไป แล้วเจ้านายเป็นคนชอบสอน  ชอบเรียกเด็ก 3 คนมานั่งเรียงกัน  สอนหนังสือ ทั้งทฤษฎีฟิสิกส์ หรือเรื่องทั่วๆไป  บางครั้งยาวนานเป็นชม.ๆ ทั้งๆที่งานในบริษัทก็เยอะมาก เวลาสอน ก็เรียกถามทีละคน  ไอ้คนแรกๆก็ตอบง่ายหรอก  แต่คนหลังๆ คำถามมันจะยากขึ้นเรื่อยๆ เด็กมันเลยแย่งกันนั่งเป็นคนแรก ครั้งสุดท้าย  เค้าถามถึงทฤษฎีการเชื่อม  ก็ทั้งสอนทั้งถามกันไป แล้วแกนุกอะไร ไม่รู้  ถามว่า แล้วนับถือศาสนาอะไร คนแรก   พุทธครับ คนที่2     คริสต์ค่ะ คนที่3    งงๆ  แล้วพูดอย่างเร็ว  ไม่มีศาสนาครับ ทั้งเจ้านายทั้งเพื่อนอีก 2 คน หันขวับมามองเป็นตาเดียว  พูดไม่ออก แล้ว  เจ้านายก็สอนเรื่องอื่นๆต่อไป พอออกจากห้อง  เพื่อนสองคนมาถามคนที่3 มรึงตอบไปได้ไงวะ ไม่มีศาสนา คนที่3  " กรูกลัวซ้ำ "   แหม  มันคิดได้ไงวะ จากคุณ : หวานตาลเฉาะ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 09:49:03

ความคิดเห็นที่ 28 ขอเล่าเรื่องเมื่อสมัยยังเด็กๆ ตอนนั้นไม่ค่อยมีวุฒิภาวะเท่าไหร่ อยากทำอะไรทำ เป็นพวกหัวแข็ง.. มั่นใจในตัวเอง (ออกจาเกินเหตุไปหน่อย) ตอนนั้นทำงานเอเจนซี่ โดยที่มีนายใหญ่เป็นบังคลาเทศ พูดอังกฤษเป็นหลัก พูดไทยได้ แต่อ่านภาษาไทยไม่ออก ความที่นายใหญ่เป็นคนจู้จี้ จุกจิก ชอบพูดเปรียบเทียบว่าคนไทยทำงานไม่เป็น พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เลยไม่ก้าวหน้า ในการงาน บ่นๆๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ ที่นี้มีอยู่วันนึง พี่เลขานาย เปิดอ่านหนังสือประเภท แพรว ดิฉัน ทำนองนั้น แล้วมีคอลัมน์พูดถึง "นายที่ดี 10 ประการ และนายที่ไม่ดี 10 ประการ" เราก็มานั่งอ่านกัน แล้วนายไม่ดี 10 ประการเนี่ย... นายใหญ่มีครบหมดทุกข้อเลย ก็เลยมีคนหัวใส บอกว่า แปะไว้หน้าห้องนายเลยดิ ตรงประตู ก่อนเข้า .. ก็จัดการแปะไว้ นายใหญ่เดินจะเข้าห้อง ก็เห็นกระดาษแปะไว้แผ่นนึง นายหันมาถามว่า "นี่เรื่องอะไรเหรอ (ผมอ่านไม่ออก)" เลขาก็ตอบนายใหญ่ไปพร้อมกับยิ้มหวานเจี๊ยบว่า "อ่อ.. เป็นบทความเกี่ยวกับนายค่ะ.. เหมือนเค้าพูดถึงนายเลยอ่ะค่ะ เลยอยากแปะให้นายได้เห็น" ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก นายหันมาบอกว่า "อ่อ เหรอ.. ดีจัง" แล้วก็เดินเข้าห้องไป พวกเราก็หัวเราะกันกลิ้งอยู่ข้างนอก นายก็ยังไม่รู้เรื่องอยู่ดี :D จากคุณ : เอ๋แม้ว เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 11:00:01

ความคิดเห็นที่ 29 จิ้มไปที่ 27 ขำจนน้ำตาเล็ด จากคุณ : imcha เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 11:31:05

ความคิดเห็นที่ 30 วันนึงเจ้านายเราถามว่ากินเป๊บซี่เนี่ย อ้วนมั้ย ไอ้เราก็ไม่เคยเกรงใจใครอยู่แล้ว เลยตอบไปเต็มๆว่าอ้วนค่ะ แกทำหน้าไม่เชื่อบอกว่า มันซ่าแบบเนี้ยจะไปอ้วนได้ไง (เอ่อ...มันเกี่ยวกันมั้ยเนี่ย) ต่อมาเลิกกินเป๊บซี่หันไปกินชามะนาวแทน กินวันละกระติก (ชามะนาวร้านกาแฟโบราณน่ะค่ะ)แล้วถามเราว่ากินแล้วอ้วนมั้ย เราก็ตอบเหมือนเดิม แกก็เถียงอีก ชามะนาวมันเปรี้ยว มันไม่อ้วนหรอก เราเลยบอกว่างั้นคราวหน้าเวลาไปซื้อน่ะคอยดูเค้าชงละกัน พอวันต่อมาเดินบ่นอุบอิบๆประมาณว่า "มิน่าล่ะ ช่วงนี้รู้สึกอึดอัดจัง" 55+ หลังจากนั้นก็หันไปกินพวกชานมไข่มุก โดยบอกว่าพวกน้ำหวานขวดๆที่เค้าไว้ผสมชานมเนี่ยสกัดจากผลไม้จริง ธรรมชาติแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แถมไปเชียร์ให้ใครต่อใครเค้ากินกัน ทีแรกก็ว่าจะทำไม่รู้ไม่ชี้ไป แต่สุดท้ายทนไม่ไหวเลยแอบกระซิบบอกว่าตอนไปซื้อคราวหน้าลองอ่านข้างขวดน้ำหวานดู ไม่กี่วันหลังจากนั้นก็วิ่งหน้าตาตื่นมาฟ้องเราว่า "อ่านข้างขวดแล้วมันไม่เห็นมีผลไม้เลยอ่ะ" อ้าวววววววว เพิ่งรู้เรอะ! โอย...ปวดหัว แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 11:51:02 จากคุณ : จิงโกะจัง เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 11:47:08

ความคิดเห็นที่ 31 บริษัทดังย่านรัชดา น้องผู้หญิงเดินมาบอกว่า พี่ในห้องน้ำหญิง ไม่รู้ใครไปขี้ไว้ที่พื้น เหม็นมากเลย จากคุณ : พด เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:13:35 A:124.122.213.79 X: TicketID:314898

ความคิดเห็นที่ 32 เรื่องนี้นานมากแล้ว แต่นึกทีไร ขำทุกที สายวันเสาร์ แต่ต้องมาทำงานส่งลูกค้า น้องผู้หญิงแต่งชุดออฟฟิส สวยงาม แต่มีเส้นสีดำพาดกลางตัว แบบแบ่งซ้ายขวา ถามได้ความว่า แย่งกันขึ้นรถเมล์ เจ้าตัวมือนึงหิ้วถุง อีกมือนึงหิ้วกระเป๋า+ถุง แย่งชาวบ้านไม่ทัน เลยต้องขึ้นคนสุดท้าย ขึ้นไปได้ครึ่งตัว คนขับเจือกกดปิดประตู ตัวครึ่งนึงอยู่ในรถ อีกครึ่งอยู่นอกรถ คนตะโกนโหวกเหวกดังลั่นป้ายรถเมล ทั้งคนในรถ ตะโกนบอกคนขับ พอประตูเปิดออกอีกครั้ง แถบยางสีดำตรงขอบประตูที่เต็มไปด้วยฝุ่น ที่ทาบกลางตัว ก็ติดตัวมา แบบเจ้าตัวไม่ได้สังเกต เพราะอายมาก (เจ้าตัวสารภาพทีหลัง) เธอบอก ไม่น่า! ทำไมคนยิ้มให้ทั้งตึก ... จากคุณ : อ๊ะจึ๋ย เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:45:42

ความคิดเห็นที่ 33 ^ ^ ความเห็นที่ 32 ขำมากมาย ^^ จากคุณ : ม่ายรำพึง เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 14:14:36

ความคิดเห็นที่ 34 คห. 32 นึกภาพตามแล้วฮาอ่ะ .. จากคุณ : Geminorum เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 14:45:01

ความคิดเห็นที่ 35 มีน้องมาสัมภาษณ์งาน ซึ่งตำแหน่งก็ดูแลเรื่องเอกสาร แต่เนื่องจากเป็น บ. ต่างชาติ เลยต้องตรวจสอบความสามารถด้านภาษานิดนึง เรา: น้องพอพูดภาษาอังกฤษได้ไหม น้อง: ได้ค่ะ เรา: อะ ว่ามา น้อง: Hi .. เรา: -*- คำเดียวแค่นั้นจริงๆ ไม่พูดไรต่อ สุดท้ายเราก็ไม่รับค่ะ มันเกินไปหน่อยอะ จากคุณ : amkoka เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 14:57:12

ความคิดเห็นที่ 36 อ่าน คห บนเลยนึกได้ ตอนนั้นเราจะลาออก เป็นเลขาญี่ปุ่น เจ้านายพูดแต่ญี่ปุ่น เค้าให้หาคนมาแทน พอมีคนมาสมัครเราก็เข้าไปสัมภาษณ์ด้วย ถามว่าอยากทำงานแบบไหน เค้าบอกว่า "อยากเป็นแอร์" -_-* (ตอนนั้นเค้าก็อายุเกินสมัครแอร์แล้วด้วย) แล้วนายเราก็ถามเป็นภาษาญี่ปุ่น (เค้าเขียนในใบสมัครว่าพอพูดได้) ปรากฏเราต้องแปลทุกคำ เค้าก็ตอบกลับมาเป็นภาษาไทย เจ้านายเลยถามว่า พูดได้มั้ยเนี่ย เราก็แปล เค้าก็ตอบมาว่า "ต้องกลับไปรื้อฟื้นก่อนค่ะ" เอ่ม...แถวบ้านเรียกพูดไม่ได้นะนั่น แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 15:48:14 จากคุณ : Superstarie เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 15:47:09

ความคิดเห็นที่ 37 เพื่อนเราเป็นเลขาเจ้านาย วันนั้นนัดทานข้าวกัน ที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว แต่ด้วยความที่เขาต้องไปคุยงานต่อกับเจ้านายก่อน 2 ที่ วันนั้นเราก็เลยตกลงกับเพื่อนอีกคนว่าจะไปเดิน shopping รอ ขณะที่คุย ๆ กันอยู่นั้นเพื่อนเราต้องกลับไปเตรียมแฟ้มงาน จะด้วยความรีบหรือเปล่าก้ไม่รู้ พอเจ้านายออกมาจากห้อง ยัยเลขา นี่ก็รีบร้องถามเจ้านายว่า boss คะ ตกลงว่าเราจะไปพบลูกค้า ที่สาลม หรือ สีทร ก่อนดีคะ  ..... เจ้านายก็งง เพราะเขาเป็นชาวญี่ปุ่น ก็เลยถามกลับมาว่า แล้ว ลูกค้าที่นัดที่ สีลม กับ สาทร นี่เขา cancle นัดแล้วหรือ ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย !!!!!!!!                   แป่ว ........ พูดสลับ ฮากระจายเลย ปล.เมื่อ9 ปีที่แล้วนะเรื่องนี้ จากคุณ : ฟ้าสางที่เชียงดาว เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 15:50:13

ความคิดเห็นที่ 38 เรื่องมีอยู่ว่า ที่ออฟฟิตรับแม่บ้านคนใหม่ ชีแกหน้าตาไม่ค่อยรับแขก  มาทำงานได้ 5 วัน แต่ทำงานเนี๊ยบ สะอาดมาก วันนึง เราทำงานที่ชั้น 1 ปกติจะมีพนักงานอยู่ประมาณ 3-4 คน วันนั้นไม่มีใครอยู่ มีแต่เรากับแม่บ้าน  เจ้านายเดินลงมาคุยงานกับเราข้างล่าง พร้อมบอกแม่บ้านว่าให้เรียก อุ๊บ ลงมาหน่อย (อุ๊บ คือชื่อพี่วิศวกร อยู่ชั้น 4) แม่บ้านจะเดินขึ้นบันไดไปเรียกให้ นายบอกว่าจะไปไหน โทรเรียกเค้าลงมาสิ(เสียงเข้ม) แม่บ้านเดินกลับมาต่อเบอร์ห้องวิศวกร (ห้องวิศวกรมีอยู่ 2 คน) แม่บ้านคุยในสายว่า "ขอสาย ปุ๊ป หน่อย บอก ปุ๊บ ว่านายเรียกลงมาข้างล่าง"  เท่านั้นแหละนายของขึ้น บอกแม่บ้านว่า เรียกเค้าว่าอะไร เค้าชื่อ อุ๊บ ไม่ใช่ ปุ๊ป ทำงานมากี่วันแล้ว ทำไมไม่รู้จักชื่อ  พรุ่งนี้ไปที่ห้องผมนะแล้วไล่ชื่อพนักงานมาให้หมด (ประมาณ  10 คน) วันรุ่งขึ้น แม่บ้าน ไม่มาค่ะ ออกไปเลย เซงกันเป็นแถวเพราะแม่บ้านหายากมากกกกก แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 17:56:17 จากคุณ : NJZuii เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 17:55:20

ความคิดเห็นที่ 39 Hi     จากคุณ : nOngOngZ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 19:45:10

ความคิดเห็นที่ 40 เราเป็นนักพากย์ค่ะ มีน้องนักพากย์ผู้หญิงคนนึง มันมีปัญหากับการอ่านบทมาก อ่านบทกลับปลิ้นเอาหน้ามาหลัง เอาหลังมาหน้า สลับกันมั่วไปหมด เวลามันพากย์ผิดที พวกเรานักพากย์ที่เหลือในห้องก็เตือนสติมันที “คุณพ่อฮะ  ทำไมเราไม่กินพุดเดิ้ลเป็นอาหารเช้าฮะ” เสียงเด็กชายตัวน้อยออดอ้อนฉอเลาะพ่อ “พุดดิ้ง!!!” เสียงนักพากย์ที่เหลือทั้งเจ็ดประสานขึ้นพร้อมเพรียงกัน “คุณรออยู่นี่นะ  เดี๋ยวบุรุษไปรษณีย์จะมาเข็นเตียงคุณไปที่ห้อง” “บุรุษพยาบาล!!!” “ทำแบบนี้มันชกมือโมะกันชัดๆ!” “มัดมือชก!!” “พวกเราดูนั่นสิ แมงไมชักยุม” “แมงมุมชักใย!” "แม่อนุญาตให้หมอกลับบ้านได้แล้วจ้ะ" "หมออนุญาตให้แม่กลับบ้านได้แล้วจ้ะโว้ย!" แต่พอมันเทคทีก็ฮาทีค่ะ เลยให้อภัย :) แล้วพวกนักพากย์นี่ จะไม่ค่อยนั่งติดโต๊ะ ถึงบทพากย์ตัวเองแล้ว แต่ไม่รู้เจ้าตัวหายไปไหน เดือดร้อนพี่คอนโทรลต้องกดทอล์คถามนักพากย์คนอื่น "เจ้าหญิงโดโรธีไปไหน" พี่คอนโทรลชอบเรียกด้วยชื่อตัวละครค่ะ แล้วนักพากย์คนอื่นก็จะพร้อมใจประสานเสียงกันตอบ "เจ้าหญิงโดโรธีไปขี้!" แหะๆ วันนั้นเราเองแหละ เป็นเจ้าหญิงโดโรธี ก็มันปวดนี่นา แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 23:19:16 แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 23:17:51 จากคุณ : ปลาทูอยู่ทะเล เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 23:14:24

ความคิดเห็นที่ 41 คุณปลาทูอยู่ทะเล....ขออนุญาตนำข้อความไปเผยแพร่นะครับฮามากกกกกกกกกกกกก......ขอบคุณครับ จากคุณ : daxter เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 00:28:20

ความคิดเห็นที่ 42 เป็นเรื่องของรุ่นน้องผมได้มั้ยครับ เล่าเลยละกัน สั้นๆครับ ....รุ่นน้องผมเป็นนายสิบยศ..หมู่ครับ   วันนึงหมู่ซื้อโทรศัพท์มือถือมาใหม่ จอใหญ่ และชัดมาก ก็ลงคลิปโป๊ตามปกติ แล้วที่นี้พวกรุ่นพี่หมู่จ่า ก็มาดูกัน และตอนเข้าเวรดึกคู่ จ่าบอกยืมมือถือโทรหาเมียแปป ก็ให้ยืมไป   . ...แต่นานเกินหมู่เลยไปตามหาดู ไปเจอที่ห้องน้ำ ปีนดู เห็นจ่ากำลังดูคลิป และกินตับไปด้วย จ่าด่าเลยครับ แล้วก็ต่อจนเสร็จ   .......... ..ออกมาเอามือถือมาคืน จ่าบอกว่า     เงียบไว้นะเมิง      "นักรบเขาไม่พูดกัน" แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 54 00:47:47 จากคุณ : prg047 เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 00:45:09

ความคิดเห็นที่ 43 เอาเป็นความน่ารักฮา ๆ ของนายละกันค่ะ - นายใหญ่เคยเซ็นต์เอกสารไม่ครบหน้า ไม่เซ็นหน้า 2 เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก เราเลยติดโพสอิทไปให้ ตรงช่องที่ต้องเซ็นต์ กลัวไม่เก็ท เขียนไปว่า "sign here" และแล้วก็ได้ผล นายเซ็นต์มาบนโพสอิทเลยค่ะ!! ได้คืนกลับมาไม่กล้าดึงโพสอิทออกเลย - นายใหญ่ให้ตอบเมลล์ลูกค้า เขียนมาหาเราว่า "please replay him" ... พวกเราก็จะ fw กันแล้วบอกว่า "เฮ้ย นายบอกให้เล่นมันเลยว่ะ" แล้วก็ฮา... - หัวหน้าเราเป็นชาวต่างชาติ ที่พูดไทยได้ แต่ออกเสียงวรรณยุกต์บางตัวไม่ชัด วันนึงเค้าลาป่วย อีกวันอยากเล่าให้ลูกน้องฟัง ... "เหมือวานนะ ผมไข่สูงมากเลย" ... ทุกคนในห้องอึ้งกันหมดเลยค่ะ เพื่อนเราเมลล์มาถามว่า "สูงจริงป่าววะ ไม่กล้าดู" จากคุณ : ใช่สิ ฉันมันตัวร้าย เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 01:28:36

ความคิดเห็นที่ 44 มาต่อกันอีกน้าาา ขำมากมาย จากคุณ : แม่ปุกปุย เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 09:51:57

ความคิดเห็นที่ 45 คห. 41 คุณ daxter ด้วยความยินดีค่ะ :) จากคุณ : ปลาทูอยู่ทะเล เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 11:11:35

ความคิดเห็นที่ 46 ผมเคยไปทำแบบสอบถามที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง และแบบสอบถามหัวข้อมันเป็นภาษาอังกฤษครับ มันก็หัวข้อที่ถาม Sex (ผู้ชายหรือผู้หญิง) แล้วครูใหญ่ของโรงเรียนแกคงไม่ค่อยเก่งอังกฤษแกเลยตอบมาว่า "2 ครั้งต่อสัปดาห์" จากคุณ : GamaBunta เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 11:35:34

ความคิดเห็นที่ 47 มีเรื่องขำที่ออฟฟิศค่ะ เป็นช่วงบ่าย น้องฝ่าย HR หิว เนื่องจากไม่ได้กินข้าวกลางวัน ก็เลยโทรไปหาพี่ฝ่ายช่าง ที่ออกไปข้างนอก เพื่อให้ซื้อขนมมาให้ ฝ่าย HR: พี่......ซื้อขนมปังมาให้หน่อย 2 อันนะ ฝ่ายช่าง: ได้ๆ เอายี่ห้อ อะไร ฝ่าย HR : อะไรก็ได้ เวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที พี่แกกลับเข้าออฟฟิศมา พร้อมผ้าอนามัย 2 ห่อ ................ทุกคน ทั้งออฟฟิศมองหน้ากัน.....แล้วฮากันทั้งห้อง จากคุณ : DiFfeRent of LoVe เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 16:19:29

ความคิดเห็นที่ 48 พี่คนนึงที่ออฟฟิตเก่าชอบมายุ่งกะของบนโต๊ะเรา เราจะมีกระติกน้ำอยู่2ใบ ไว้ใส่เป๊ปซี่กินตอนกลางวันใบนึง อีกใบนึง ใส่เศษขยะวางไว้โต๊ะ เหอๆ ไม่เคยล้างเลย เน่าค่อด (ก่อนหน้านั้นเคยใส่ถุงมัดรวมไว้กะรองเท้าแตะแล้วก็ของที่ไม่ได้ใช้ เนื่องจากโต๊ะรกมากก) วันนึงเราเอาขยะในกระติกไปเททิ้ง แต่ไม่ได้ล้างนะ วางไว้บนโต๊ะแล้วออกไปซื้อข้าว หยิบกระติกอีกอันไปซื้อเป๊ปซี่ กลับมานั่งล้อมวงกินข้าวกันในออฟฟิต เราก็เห็นพี่คนนั้นนั่งดูดน้ำในกระติก(ขยะ)ที่เหมือนของเราเลย! ยังไม่ทันจะถาม พี่แกบอก เออ พี่ยืมกระติกใส่น้ำหน่อยนะ! เรา : พี่ล้างยังคะ เค้า : พี่เอาทิชชู่เช็ดและ เรา : -_- ด้วยความที่กระติกมันสีเข้ม แกคงจะมองไม่เห็นความสกปรก ไอเราก็ไม่กล้าพูดต่อ....คนนั่งกันอยู่เป็นสิบ หุหุ จากคุณ : Labellavita เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 19:17:20

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านแต่ละคหที่นี่อย่างฮา คลายเครียดไปได้เยอะ อ่ะ จากคุณ : tipsri เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 20:27:38

ความคิดเห็นที่ 50 เรื่องฮา ที่ไม่ใช่ที่ทำงานล่ะกัน มีฝรั่งคนนึง มาดูงาน โดยมีลูกน้องคนไทย ไปต้อนรับ ลูกน้องเค้าบอกว่า คนนี้ไม่เคยมาไทย ฟังไทยไมได้แน่นอน เค้าบอก ลองหลอกด่าแล้ว เค้าฟังไม่ออก ด่าไปหลายรอบด้วย ไม่มี feedback สักพัก ตอนดูงาน ลูกน้องแก ก็นินทา เป็นภาษาไทยนี่แหละ ให้พวกเราฟัง เราก็อืมๆ ไปเรื่อย ถึงจุดนึง คนที่ดูแลบริเวณนี้พูดอังกฤษไม่ค่อยถนัด ก็เลยพูดอังกฤษปนไทย ฝรั่งบอก พูดไทยก็ได้ เค้ารู้เรื่อง แป๋ววววว ความซวยมาเยื่อนแร๊วววว นินทาไปเยอะ แต่ไม่จบนะครับ ไอ้เจ้าลูกน้อง นี่ มันนึกว่าฝรั่งฟังได้แค่คำง่ายๆ คำหยาบ คงฟังไม่รู้เรื่อง ก็ทดสอบอีกที ไปยืนด่าเครื่องจักร ต่อหน้าฝรั่ง ฝรั่งหันมาถาม ไปด่าเครื่องทำไม ^_^! จากคุณ : M style เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 21:29:08

ความคิดเห็นที่ 51 มีแต่ทำเรื่องฮาๆนอกที่ทำงานน่ะครับ ทำงานในมหาวิทยาลัยแห่งนึงทางภาคตะวันออกครับ ในห้องทำงานมีกัน 4 - 5 คน วันดีคืนดีนึกสนุกทำคลิปเล่นๆ เหอๆ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 54 23:13:06 จากคุณ : Darth Aiglatson เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 23:12:37

ความคิดเห็นที่ 52 #51 ฮามากครับ บรรยายอย่างกับรายการญี่ปุ่นเลย ชอบตอนแกะกุ้งกับซ่อมเตาย่างครับ จากคุณ : ไซโค เสก เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 23:39:49

ความคิดเห็นที่ 53 สมัยทำงาน..บ.ผลิตโฆษณาแห่งนึง มีแต่ต่างชาติ ทีนี้มีพี่คนนึงเพิ่งเข้ามาใหม่ และภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงนักเป็นผู้ช่วยคนตัดต่อ..ด้วยความที่พี่แกทำงานดึกมากและต้องมาเตรียมงานเช้า (งานโฆษณาเลิกไม่เป็นเวลา) เลยพลาด!! พอถึงเวลาคนตัดมาทำต่อ (เป็นฝร่ัง) รู้สึกได้ว่างานมีปัญหา เลยหันไปถามผู้ช่วย(ออกแนวอุทานมากกว่า) ว่า  How come? พี่ผู้ช่วย ยืนมึนๆ งงๆ และตอบว่า by boat.. เรายืนอยู่ในห้องทำงานด้วยและกำลังจะดื่มน้ำแทบจะสำลักน้ำ!! เลยหันไปบอกพี่เค้าว่า..เอ่อ พี่คะ คุณฝร่ังเค้าถามว่าไฟล์ตัวนี้มันเป็นมายังไง ทำไมเปิดไม่ได้ ไรงี้ ไม่ได้ถามว่าพี่มาทำงานยังไง =_=" พอดีพี่เค้า ไป กลับ ที่ทำงานโดยเรือด่วนคลองแสนแสบอะจ้ะ ^^ เลยกลายเป็นตำนานเลย พี่ผู้ช่วยก็จะโดนแซว เห้ยย..วันนี้นั่งเรือมาทำงานป่าว?? แซวไปเป็นปีเลยอะ จากคุณ : taman เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 00:14:37

ความคิดเห็นที่ 54 บริษัทมหาชนแห่งนึง....กู้เงินหมื่นล้านมาทำโรงงานใหม่ ใหญ่มหึมา...จากฺ Banker ต่างชาติหลายแห่ง เมื่อโรงงานเสร็จ และเริ่มเดินเครื่อง...จึงนัดเจ้าของเงินทั้งหลาย มาชมโรงงาน จีเอ็ม ก็ฟุดฟิดโฟไฟ บรรยายความสำเร็จสารพัด...Our commissioning is complete and will run next week... เดินคุยไปเรื่อยๆ จนถึงลิฟท์ในโรงงาน....มือกดลิฟท์....พลางหันหน้าไปคุยกับ Banker อย่างมั่นใจ สักครู่ เสียงดังติ๊งงงง ลิฟท์มา...เสียงประตูลิฟท์เปิด... จีเอ็ม ก้าวเข้าลิฟท์ไป ...พร้อมด้วยเสียง NOOOOOOOO! จากคนอื่นๆ ไม่ทันซะแล้ว...จีเอ็มหายวับไปกับตา...ตกลงมากองที่พื้นชั้นล่าง จากช่องประตูลิฟท์ชั้น 3 จีเอ็มขาหักทั้งสองข้าง....เพราะลิฟท์เปิด แต่ตัวลิฟท์ไม่มาด้วย... กลายเป็นเพียงปล่องว่างเปล่า (เพราะเป็นช่วงทดลองโรงงาน) ถ้าใครอยู่ในบริษัทมหาชนนี้ จะรู้เรื่องทั้งเครือค่ะ...ยังคาตาอยุ่จนทุกวันนี้ จากคุณ : มิมิแพนด้า เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 00:37:33 A:124.120.115.225 X: TicketID:266891

ความคิดเห็นที่ 55 คห.54 เรานึกภาพไป แล้วขำอ่ะค่ะ ฮามาก บรรยายแบบเห็นภาพเลย โอ๊ย .....ขำปนสงสาร นะนั่น แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 21:34:27 จากคุณ : ฟ้าสางที่เชียงดาว เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 01:17:16

ความคิดเห็นที่ 56 ผมเป็น Call Center บริษัทแห่งหนึ่งครับ และค่อนข้างมีปัญหาเรื่องท้องไส้ ในระหว่างที่กำลังให้ข้อมูลกับลูกค้า อยู่ๆเกิดงานเข้า(ปวดอึอย่างรุนแรง) แต่ก็พยายาม กลั้นไว้ เพราะว่าคิดว่าลูกค้าคงใกล้จะวางสายแล้ว แต่เผอิญลูกค้าไม่ยอมวาง และผมก็ไม่สามารถกลั้นไว้ได้อีกต่อไป พอลูกค้าเปิดช่องให้หาข้อมูลได้ปุ๊บผมจึงเริ่มปฎิบัติการทันที ลูกค้า : คุณคะข้อมูลรุ่นนี้เป็นอย่างไร ผม : ได้ครับตรวจสอบข้อมูลให้ ถือสายรอสักครู่นะครับ ในใจผมมีคำตอบให้ลูกค้าอยู่แล้วครับ แต่ที่ให้ถือสายรอ เพราะว่าต้องรีบวิ่งไปปลดทุกข์ ผมก็ปลดปล่อยประมาณเกือบ 5 นาที และกลับมาให้ข้อมูลลูกค้าคนนี้ต่อไปจนจบสาย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล. หลังจากนั้นเรื่องนี้ก็เป็นที่กล่าวขานในที่ทำงานสืบไป =_=" จากคุณ : mkrit1 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 06:17:20

ความคิดเห็นที่ 57 เคยทำงานในบริษัท IT ข้ามชาติ เป็นบริษัทใหญ่ทุกคนรู้จัก มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกส่งไปทำงานที่เมืองจีน และกำลังจะเดินทางกลับมา โดยกำหนดการณ์เครื่องลงในวันพุธ ปรากฏว่าหนีทางบ้านเที่ยว และโกหกทางบ้านว่าจะกลับวันอาทิตย์ (หนีเที่ยว 4 วัน) ปรากฏว่าเธอสื่อสารผิดกับที่บ้าน บอกที่บ้านว่าจะกลับ 6 โมง แต่ที่บ้านจำว่าจะกลับตอนเที่ยง เรื่องราวเป็นดังนี้ - ตอนเที่ยง เธอคิดว่าตอนนี้ที่บ้านต้องเข้าใจว่าเธอกำลังอยู่บนเครื่อง ดังนั้นเธอปิดมือถือ - ทางบ้านคิดว่าเธอน่าจะกลับได้แล้ว จึงโทรหาเธอตอนบ่ายสาม ปรากฏว่าโทรไม่ติดเพราะเธอปิดมือถือ - เธอมีแฟนเป็นชาวต่างชาติในบริษัทเดียวกัน ทางบ้านเลยโทรหาแฟนของเธอ (แฟนไม่รู้ว่าเธอหนีเที่ยว) - แฟนเธอทำงานในบริษัทเดียวกัน รู้จักกับระดับผู้บริหารในบริษัท จึงโทรหาผู้บริหารระดับสูงของบริษัทที่สิงคโปร์ - ผู้บริหารระดับสูงที่สิงคโปร์โทรมาที่เมืองไทยว่า "รู้ไหมว่าพนักงานหายตัวไป" - ผู้บริหารคนเดียวกันนี้โทรหาลูกน้องทั้งหมดทั้งไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ให้ช่วยกันค้นหาตัวให้เร็วที่สุด เพราะหากส่งพนักงานไป ตปท. แล้วพนักงานเกิดอันตรายขึ้น บริษัทต้องรับผิดชอบมโหฬาร (เหตุการณ์ 911 เพิ่งเกิดไปก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ทำให้บริษัทตระหนักเรื่องความปลอดภัยสูงมาก โดยเฉพาะการทำงานในต่างประเทศ) - พนักงานในจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย แทบทุกคนจะได้รับโทรศัพท์จากผู้บริหารว่า "Is Ms.... with you now ?" ทุกคนช็อคว่าเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะที่ต่างประเทศ พนักงานงงว่าถามทำไม พนักงานที่เมืองไทยจะมาอยู่กับฉันได้อย่างไร รวมทั้งตัวผมก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้บริหารแบบนี้เช่นกัน - มีการโทรไปตรวจสอบที่ ตม. ที่สนามบิน ว่าคนชื่อนี้ถือพาสปอร์ตหมายเลขนี้ได้เข้ามาประเทศไทยหรือยัง ทาง ตม. ตรวจสอบว่าเข้ามาตั้งแต่วันพุธ - เลขาโทรไปที่บ้านเธอรายงานว่าเธอกลับมาตั้งแต่วันพุธ ขณะกำลังคุยโทรศัพท์อยู่นั้นเธอเดินเข้ามาในบ้านพอดี - เรื่องนี้กลายเป็น Joke สำหรับพนักงานทั้งภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ไม่ใช่เรื่องตลกสำหรับผู้บริหาร และที่สำคัญที่สุดตัวเธอผู้ใหญ่เรียกไปตำหนิจนตัวลีบ แต่ก็ไม่ได้ลงโทษอะไร เพราะไม่ใช่ความผิด แค่ทำให้เกิดความวุ่นวาย สรุปเรื่องนี้เกิดจากการหนีเที่ยว สื่อสารผิด และปัญหาคือเรื่องถึงผู้ใหญ่ในบริษัท ทำให้เกิดความวุ่นวายไปเกือบทั้งโลก ดีที่เรื่องหยุดลงได้ก่อน จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 12:34:14

ความคิดเห็นที่ 58 ปกติเป็นคนไม่ค่อยทานของหวาน เพราะไม่ค่อยชอบ วันนั้นไม่รู้นึกไง อยากกินไอติมโคนขึ้นมา ร้อยวันพันปีไม่เคยจะกิน ยืนกินไอติมอยู่ในลิฟท์ คนเต็มลิฟท์เลย พอถึงชั้นที่ผมทำงาน ประตูลิฟท์เปิด ก็ขยับเท้าจะก้าวออกจากประตูลิฟท์ เท้าดันไปเตะถูกเท้าของผู้หญิงคนนึง ผมเลยหันหลังไป กะจะขอโทษ จังหวะที่หันไป ดันจาม ฮัดชิ่วว ไอติมที่ถืออยู่ รสสตอเบอร์รี่ พลิ้วไหว ลอยไปแปะที่เสื้อของผู้หญิง (คนที่ถูกผมเตะนั่นแหละ) กลายเป็นหนักกว่าเก่า ผู้หญิงคนนั้นอึ้ง ผมก็อึ้ง คนมองเต็มลิฟท์เลย ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับบบบบ ไม่รู้จะทำยังไง เช็ดให้ก็ไม่ได้ด้วย เลยได้แต่ก้มหน้า มองพื้นแล้วบอกว่าขอโทษจริงๆครับ แล้ววิ่งออกจากลิฟท์ไปเลย โคดอาย จากคุณ : รอยสักไหล่ขวา เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 12:40:25

ความคิดเห็นที่ 59 รำลึกตอนทำงานที่แรก ในลิฟท์ สำนักงานย่านเพลินจิต ตอนเช้าเวลาที่คนแน่นสุดๆ ข้างหลังผมเป็น ผช ภูมิฐานมาดดีในชุดสูทเสียอย่างเดียว เตี้ย+หัวล้าน ผมยืนบัง ผช คนนั้นอยู่ครับ ซักพักมี ผญ 2 คนเข้ามามา นิ่รู้ป่ะคุณ.....หัวแกสะท้อนแสงได้ด้วยนะ วันก่อน แกเปิดม่าน แสงมันสะท้อนเข้าตาฉันเต็มๆเลย เหม็นเขียวด้วย ฉันเคยเดินผ่านโต๊ะแกทีไรต้องกลั้นหายใจทุกทีเลยอ่ะ อิอิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เดี๋ยวคุณทั้งสองตามผมไปที่แผนก HR หน่อยนะครับ ผมมีเรื่องจะคุยด้วย สองสาวสะดุ้งเฮือกหันมา ป้ะกับ นายหัวล้านเต็มๆ ทำหน้าไม่ถูกเลยครับ สองสาว ผมกะไว้แล้ว พูดถึงเหม็นเขียว ผมก็เหม็น แต่ไม่คิดว่าจะเจอคนโดนนินทาระยะไม่ถึง 1 เมตรแบบนี้ อยากบอกสองสาวนะครับ เหม็นเขียวจริงๆ แต่เวลาจะนินทานายสำรวจที่ทางกันก่อนนะครับ  จากคุณ : Mbell เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 13:40:26

ความคิดเห็นที่ 60 เรื่องแต่ละคน ขำๆ ทั้งนั้น ขอเล่าเรื่องตัวเองบ้างนะ... มีอยู่วันนึง มีรายงานต้องส่ง ด่วนมาก แล้งบังเอิญว่าเจ้านายต้องไป ตจว. เราก็เลยต้องเร่งทำคนเดียว เพื่อให้ทันส่ง โดยทำที่คอมพ์ 2 เครื่องไปพร้อมกัน คือ ที่ PC เครื่องประจำของเรา และ Notebook ของเจ้านาย (เพราะเขาร่างบางส่วนไว้ให้) พอยึ่งใกล้เวลาส่งก็ยิ่งรีบ จะพิมพ์ที่ Notebook แต่จับเม้าส์ของ PC (Notebook ของเจ้านายไม่ได้ต่อเม้าส์เอาไว้) เราก็ใส่อารมณ์ซิ โวยวาย เวรกรรมอะไรเนี่ย งานจะต้องส่งแล้ว เครื่องยังจะรวนอีก ทั้งโวยวาย ทั้งกระแทกเม้าส์เสียงดัง คนในฝ่ายก็เลยมาดู มาช่วย น้องคนนึงกำลังจะตามช่างมาดูให้แล้ว ดีนะที่ยังไม่ได้ตาม เพราะมีคนบอกซะก่อน ว่าเม้าส์คนละเครื่องกัน เรานี้อายมาก 555 คนในฝ่ายก็ขำกันใหญ่ วันรุ่งขึ้นเจ้านายกลับมา ยังเล่าเรื่องเราให้เจ้านายฟังอีกแน่ะ จากคุณ : จินนี่ LFC เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 15:53:24

ความคิดเห็นที่ 61 54 คล้ายๆของบ.เก่าเรา แต่ไม่ฮา... เพราะลิฟต์มันลงตามมา... แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 16:20:05 จากคุณ : rodia เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 16:19:26

ความคิดเห็นที่ 62 พี่ที่รู้จักกันฝากตังค์น้องข้างห้องซื้อหวย บอกว่าให้ซื้อ 54 ถ้าไม่มีให้เอาตัวอะไรก็ได้ น้องคนนั้นกลับมา พร้อมส้มตำและไก่ย่างเต็มมือ และบอกพี่ว่า 54 หมดครับ จากคุณ : สายลมอิสาน เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 16:50:28

ความคิดเห็นที่ 63 คห. 56 สุดยอด ผมก็มีคล้ายๆกัน แต่จะบอกลูกค้าว่า"ขอเวลาเช็คสักครู่นะครับ แล้วเดี๋ยวจะโทรกลับไป" จากคุณ : Pu'Chew เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 16:55:10

ความคิดเห็นที่ 64 อยู่โรงพยาบาลค่ะ มีคนไข้ชาวเขาแต่เปลี่ยนชื่อสกุลใหม่ ชื่อหรูๆเยอะอยู่ค่ะ ช่วงนี้ใกล้เลือกตั้ง ก็เลยเอาบัตรประชาชนมาถามว่า หมอ ! ผม(หนู)ชื่ออะไรอ่ะ กลัวเลือกตั้งแล้วมีปัญหา คือ ชื่อหรูมาก จนเจ้าตัวอ่านชื่อตัวเองก็ยังไม่ได้ จากคุณ : ดอกเหมย (Fiorina) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 17:41:44

ความคิดเห็นที่ 65 คห. 55 เรื่องมันเป็นยังไงเหรอคะ ฮ่าฮ่าฮ่า จากคุณ : สาวมะม่วง เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:09:51

ความคิดเห็นที่ 66 ผมก็ งง คห.55  ช่วยเล่าหน่อยจิครับ อย่านึกเเล้วขำคนเดียวแบ่งๆกันบ้าง 55555 จากคุณ : BoyZzZyoH เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:27:26

ความคิดเห็นที่ 67 รับเด็กสายอาชีพเพิ่งจบใหม่มาจากต่างจังหวัดมาทำธุรกิจ ให้ติดสแตมป์ส่งจดหมายทางไปรษณีย์หลายฉบับ บอกเด็กไปว่า แสตมป์อยู่แถวๆ ตู้ เปิดหาเอา ติดเสร็จแล้วเอาไปส่งด้วย เพราะไปรษณีย์อยู่ใกล้ ผลคือ เด็กกลับมาพร้อมขอเบิกค่าแสตมป์ เลยถามไปว่าทำไมไม่ติดแสตมป์ที่มีอยู่ในตู้ เด็กบอกว่าติดแล้ว พอไปถึงไปรษณีย์เจ้าหน้าที่ให้แกะออกหมดเลย พูดเสร็จก็ยื่นแสตมป์ที่เจ้าหน้าที่ให้แกะออกมาให้ดู ปรากฏว่ามันเป็นอากรแสตมป์ที่ใช้แปะพวกใบมอบอำนาจ คือเด็กมันหยิบผิด เพราะวางไว้ตู้เดียวกันเพียงแต่คนละช่อง มันคิดว่าเหมือนกัน จากคุณ : patham เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:40:17

ความคิดเห็นที่ 68 เพราะว่าเป็น คห 55 (ฮ่าฮ่า) เลยขำจนเล่าไม่ได้ จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:57:55

ความคิดเห็นที่ 69 เป็นเรื่องตอนทำโอค่ะ มีพี่คนนึงเค้าไปซื้อน้ำตาลมาชงกาแฟ ไอเราก้ไม่ได้สนอะไร นัง่ทำงานเม้ามอยกะเพื่อน ๆ ไปแก้ก้เทน้ำตาลลงกระปุกเรียบร้อย ซักพักพี่เค้าก้เดินไปชงกาแฟ ก๊องแก๊งๆๆๆ มานั่งที่โต๊ะซักพัก "พรวด" เสียงพ่นกาแฟ และตามมาด้วยคำว่า "ไอเ-ี้ย เค็ม ไหน ๆ เอาถุงน้ำตาลตะกี๊มาดูดิ๊" แกก้คุ้ยๆๆ หาถุงน้ำตาลในถังขยะใหญ่ (ถังขยะเป็นถังขยะใส่เอกสารนะคะ มีแต่กระดาษค่ะ) "ไอเ-ี้ย แมร่งเกลือปรุงทิพย์นิหว่า" เราฮาก๊ากเลยค่ะ พอดูถุงแล้วมันก้เหมือนกันจริงๆนะ ขาวๆฟ้าๆเหมือนกัน ที่สำคัญแกซื้อมา 2 ถุงด้วยแหละ แกบ่นใหญ่ "กรูว่าแล้วทำไมเมี่ยงถูก" 555 บ่ายนั้นกำลังง่วง ๆ กัน ตาสว่างกันเลยทีเดียว 555 ป.ล. ขอเพิ่มเติมเรื่องคำหยาบคาบ เพื่ออรรถรสในการอ่านนะคะ ^^" ถ้าไม่เหมาะยังไง ลบได้เลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 21:03:54 จากคุณ : +:+FeMaLe_KiSs+:+ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 21:02:42

ความคิดเห็นที่ 70 ตอบ เรื่อง คห.55 นะคะ พอดีว่าเราพิมพ์ผิดค่ะ พิมพืเร็วไปหน่อย ว่าจะพิมพ์เป็น คห.54 พอกลับมาอ่าน โอ๊ย....ขำน้ำตาเล็ดตอนที่มีคนมาตั้งกระทู้ถามค่ะ ขอโทษนะคะ พิมพ์ผิดค่ะ ไม่ได้มุก นะ แก้ไขแล้วค่ะ 5555 จากคุณ : ฟ้าสางที่เชียงดาว เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 21:41:12

ความคิดเห็นที่ 71 ftp ไฟล์เวปไซต์ทั้งหมดขึ้น server สลับอันกัน หายนะสุด ๆ T   T จากคุณ : mayny the kop เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 21:43:04

ความคิดเห็นที่ 72 ย้อนกลับเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ทำงานใหม่ๆ เป็น export sales จำได้ว่าเดือนที่ 2 ของการทำงาน ลูกค้าเกาหลีมาเมืองไทย มาดูโรงงาน ก็ take care ดูแลปกติ เย็นๆ หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว เขาอยากซื้อของฝาก เลยพาไปสวนลุม ไนท์ ลูกค้าอยากได้ผ้าพันคอ ทำจากผ้าไหม ก็่เลยต่อราคา คุยกับแม่ค้าให้ แม่ค้าบอกว่าถ้าซื้อ 10 ผืน ลดให้ได้ 10% เลยบอกลูกค้าไปแบบมั่นใจว่า "If you buy ten pieces she will give you sib(สิบ) percent discount."  ลูกค้าก็งงๆ เราก็เอ๊ะ ทำไมไม่เข้าใจ ภาษา การออกเสียง รูปประโยคเป๊ะ ขนาดนี้ สักพัก แม่ค้าสะกิดว่าพูดผิด เฮ่อๆๆ โครตอายเลย ลูกค้าก็หัวเราะ แล้วก็หัวเราะกันหมด ต้องมาอธิบายอีกว่า ten เนี่ย ภาษาไทยคือ สิบ อีกเรื่อง เหตุเกิดที่เดิม ที่สวนลุม ไนท์ พาลูกค้าญี่ปุ่นไปกินข้าว แล้วลูกค้ารายนี้พูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก ก็ต้องสื่อสารด้วยภาพ แบบ u จะดื่มจะกินอะไร ก็ดูๆ menu เอานะ สักพัก มีน้อง waiter มารับ order มันคงคิดว่าเราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เลยช่วยถามลูกค้าด้วยสำเนียงอันไพเราะว่า "What kind of drink would you like to have?"  เรานี่อย่างเซ็ง เลยบอกมันไปว่าไอ้ที่ U พูดหน่ะ I ก็พูดได้ แต่ลูกค้าต่างหากที่ฟังไม่รู้เรื่อง น้องมันก็จ๋อยๆ แล้วก็ขอโทษตามระเบียบ จริงๆ ยังมีเรื่องทางภาษาที่ผิดๆ อีกเยอะ ทั้งที่ลูกค้าผิด และเราผิด เอาอีกเรื่องแล้วกัน ลูกค้าเกาหลีอีกราย เราเจอเขาครั้งแรก ไปรับที่สนามบิน ก็ชูป้ายชื่อ พอเห็นเรา ยื่นกระเป๋ามาให้เราถือให้แฮะ เอ่อ ก็ได้ ถือให้ก็ได้ ตอนนั้นยังเป็น sales ด้อยอาวุโส อะไรหยวนๆ ได้ก็หยวนๆ เราก็ชวนคุยโน่นนี่นั่น ถามเขาไปว่า How long will you stay in Bangkok? ลูกค้าก็ตอบได้น่ารักมาก ตอบมาว่า I หน่ะมาเมืองไทยหลายรอบแล้ว ครั้งนี้รอบที่ 3 ก่อนหน้านี้เคยไปภูเก็ต เชียงใหม่ I ชอบมากๆ เลย บลาๆๆๆ อีกมากมาย เราก็เอ่อ คิดในใจว่าพี่ครับ ผมแค่ถามว่าจะอยู่กรุงเทพกี่วัน พี่ตอบอะไรครับ ไปไกลมากมาย สุดท้ายก็ไม่รู้ว่ามันจะอยู่กี่วัน เพราะตอบไม่ได้ตรงคำถามเอาซะเลย จากคุณ : Blancpain เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 10:37:09

ความคิดเห็นที่ 73 มีเด็กใหม่ 2 คนมาสัมภาษณ์งานที่บริษัท เจ้านายไปสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง แล้วก็ถามความเห็นลูกน้องในแผนกว่าอยากรับคนไหน ในแผนกเป็นผู้ชายหมดยกเว้นเราคนเดียว ทั้งคู่คุณสมบัติเริ่ดมาก ตอบคำถามได้ดีทั้งคู่ เจ้านายเลยพูดเปรยๆว่า คนแรกพี่ว่าเหมือนตุ๊ด เลือกคนที่สองละกันแมนๆหน่อย ......... ที่ไหนได้พอรับคนที่สองเข้าทำงาน คนที่สองนี่สาวมาเลย สะพายหลุยวิกตอง ถ่ายรูปหมู่ต้องเด้งขา 555 ไปร้องคาราโอเกะทีไร I will servive ตลอด 5555 แต่เจ้านายชอบนะ น้องเค้าเป็นกระเทยน่ารัก 555 จากคุณ : สิบเอ็ดโมงสิบห้านาทีแล้ว เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 11:06:09 A:203.130.131.89 X: TicketID:310130

ความคิดเห็นที่ 74 วันนั้น เราเดินเข้าไปในห้องน้ำชั้นสามของที่ทำงาน กางเกงในสีเขียวม้วนเป็นเลขแปดแขวนไว้กับที่ใส่กระดาษชำระ !!! ประเด็นคือ "กลิ่น" ที่โชยมาจากกางเกงใน โสโครกมาก เราต้องหันซ้ายและกลั้นหายใจตลอดการขับถ่าย !!! อีกไม่กี่ชั่วโมงให้หลังกางเกงในนั้นก็หายไป คาดว่านางคงมาเก็บซากตัวเอง (หาไม่แล้วแม่บ้านต้องรับกรรมเป็นแน่) จนถึงวันนี้เราิิออกมาจากงานแล้วก็ยังไม่รู้ว่าหญิงนิรนามนั่นคือใคร จากคุณ : ดินสอเปลี่ยนไส้ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 15:06:06

ความคิดเห็นที่ 75 สมัยทำงานแถวสีลมครับเป็นบริษัทใหญ่ข้ามชาติ ด้วยอาการปวดฉี่อย่างรุนแรง รีบวิ่งไปเข้าคอกยืนฉี่ มองซ้าย มองขวา ไม่มีใคร เลยถือโอกาส ตรด ออกมาเป็นจังหวะ เสียงดังและกลิ่นรัญจวนใจมาก พอเสร็จกิจหันกลับมาเห็น พนักงานผู้ชายในบริษัทเดียวกันยืนทำหน้าเข้าใจยากอยู่ (ทำหน้าแบบบอกไม่ถูก) ผมเลยรีบเผ่นหนีไป คิดว่าคงไม่เป็นไร (คิดไปเอง) ต่อมาเดินไปเจอคนนี้ในบริษัท เค้าก็ไม่ทักผมนะเวลาเดินผ่าน แต่พนักงานในแผนกนั้นยิ้มให้ผมทุกคนเลย สงสัยเราจะหน้าตาดี แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 17:18:17 จากคุณ : JamesDeanBradfield เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 17:17:03

ความคิดเห็นที่ 76 คห.55 ไม่น่าแก้เลย อันนั้นฮาชนะเลิศค่า ^^ จากคุณ : moonsky เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:02:08

ความคิดเห็นที่ 77 คนรู้จักทำงานเป็นแม่บ้านเล่าให้ฟังว่า เจ้านายเป็นชายสูงวัย มีลูกสาวทำงานนอกบ้าน อยู่มาวันนึงลูกสาวซื้อมือถือให้พร้อมกับสอนวิธีใช้งาน ก็ใช้ได้ดีไม่มีปัญหา จนกระทั่งเงินในโทรศัพท์หมดใช้โทรใช้รับไม่ได้ก็เลยเติมเงิน ด้วยความสงสัยว่าทำไมเติมเงินแล้วยังโทรออกไม่ได้เจ้านายเลยเอาโทรศัพท์มาให้พี่แม่บ้านช่วยดูให้ พร้อมกับบ่นอย่างหัวเสียว่า " ลูกสาวบอกว่าถ้าหากเงินค่าโทรหมดให้เติมเงิน เมื่อเช้าก็เพิ่งเติมไปร้อยนึงทำไมมันยังโทรออกไม่ได้อีก " พี่แม่บ้านก็รับโทรศัพท์มาตรวจสอบยอดเงิน ก็พบว่ายังไม่มียอดเงินจึงถามไปว่าเมื่อเช้าเติมเงินยังไง เจ้านายเลยคว้าโทรศัพท์มาแล้วจัดการเปิดฝาหลังเครื่องออกมา พร้อมกับบอกว่า " ก็นี่ไง เมื่อเช้าพับแบ็งค์ร้อยแล้วก็ยัดใส่ไว้ที่ฝาหลังเครื่อง เติมเงินโทรศัพท์ไปตั้งร้อยนึงแล้วทำไมมันยังโทรไม่ได้อีกเนี่ย " พี่แม่บ้าน...       -__-! แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 54 06:27:43 จากคุณ : ปั้นดินเป็นดาว เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 23:18:43

ความคิดเห็นที่ 78 คิดอยู่นาน ว่าจะเล่าเรื่องนี้ดีไหม มาถามเพื่อน ๆ ละกัน เพราะมันลามก มันเป็นศัพท์เฉพาะ .........คิดแล้วขำ น่ะ โอ๊ย ..... แต่เอาเป็นว่าเล่าเลยแล้วกัน ณ ตลาดสด ที่เชียงใหม่ คือเพื่อนสนิทคนนึงเป็นคนเมือง และอู้กำเมืองเจ้า เฮากะอู้ได้แหมน่อยเดียว ...เริ่มละนะ วันนั้นเพื่อนเรามันไปแอ่วกาด เฮากะไปโตย ก็ซื้อ ๆ ของ ซื้อผัก ซื้อหมู  ทีนี้ไปถึงร้านขายผักเจ้าประจำ เพื่อนก็พานั่งเลือกผัก พลันมันก็สะกิดแขนเราให้ดูอะไรนั่น คือ พ่อค้า แกเป็นพ่ออุ้ย แก่แล้ว ก็นั่งใส่สะโหร่งบนตั่งเล็ก ๆ คือ กางเกงในแกมันยางยืดนะคะ ของสงวนแกก็แลบออกมา เราก็บอกมันไปว่ารีบเลือกเหอะไปดูทำไม รีบกลับบ้าน โอเค...เลือกได้แล้ว ก็ถามราคา      เพื่อนเรา : ป้ออุ้ยเจ้า ......มะ hum เขือม้า.....พวงเต้าใดเจ้า        ป้ออุ้ย     : มะ hum ขายฮื่อบ่ได้  ( แล้วขำหน่อย ๆ )      เรา         : เฮ้ย ! มะเขือ hum ม้า  ...... เราสะกิด โอ๊ย ....ทั้งขำทั้งอาย คือไม่ได้ถามเบา ๆ นะคะ ถามเสียงดังน่ะ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 54 00:47:01 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 54 00:46:19 จากคุณ : ฟ้าสางที่เชียงดาว เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 00:33:47

ความคิดเห็นที่ 79 ^^^^^^^^^ คห.78 ตลกขนาด จากคุณ : prg047 เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 01:22:15

ความคิดเห็นที่ 80 พ่ออุ้ยแกคงคิดนะ อะหยังปะล้ำ ปะเหลือ มาผ่ออะหยังที่มะหัมเฮา ผ่อเสร็จ ขอซื้อแหม จากคุณ : Urban_Park เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 11:22:37

ความคิดเห็นที่ 81 วันนี้สดๆ ร้อนๆ โทรไป Call Center True ให้นาย ถามเรื่อง package iPad Call center เสนอ package สำหรับ Android ยืนยันอย่างมั่นใจว่า iPad ใช้ระบบแอนดรอยด์ค่ะ แถมไปพูดถึง Sumsung Galaxy อีก คิมเลยบอกเขากลับไปว่า iPad ของ Apple นะคะ ต้อง run ระบบเดียวกับ iPhone เขาให้คิมถือสายรอสักครู่ กลับมาไม่พูดถึง Android เลย เสนอ package iPad สงสัย Google take over Apple ไปแล้ว นะเนี่ย จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 14:17:52

ความคิดเห็นที่ 82 เราทำงานเป็นรปภ.ที่บิ๊กซีนะ   เป็นของบริษัท  ซึ่ง  จะมีพวก  หัวหน้าแผนกป้องกันการสุญหายมาดูแลเป็นหัวหน้าเราอีกทีนึง(ของบิ๊กซีโดยตรง) แล้วมีอยู่ท่านนึง  เฮี๊ยบมาก  อะไรก็ไม่ได้  ต้องตรวจทุก  ๆ  คน  เสาดังต้องเรียกตรวจทุกคน  (เวลาไปซื้อของแล้วลูกค้าผ่านเสาสัญญาณอ่ะ) แต่ลูกค้าคู่หนึ่ง  อารมณ์ไม่ดี   เพราะเค้าบอกว่าไม่ได้ซื้ออะไร   ซึ่งเรารู้ว่าคงเป็นตัวกันขโมยจากห้างอื่น  เราก็ให้ผ่านกลับบ้านไป  เพราะว่าอารมณ์ไม่ดี  ลูกค้าจะหงุดหงิด  และเราเห็นแล้วว่าตอนเข้าไปโดยที่ไม่ได้ซื้อ  มันดังแล้ว   ออกมามันก็ต้องดังเพราะไม่ได้ฆ่าตัวกันขโมยนั้น   เราจะช่วยก็ไม่ยอม   เราเลยปล่อยไป   ทีนี้  หัวหน้าเรา  เดินมาเห็นพอดี  จึงเรียกลูกค้าคู่นั้นไปอีก   โดนชี้หน้าด่าเลย  หัวหน้าเราเอ๋อแดรกกกก ทำไรไม่ถูก  5555    สม  ไม่กล้าตรวจด้วย สม   ตัวเองไม่เคยมาทำตรงนี้   สั่งอะไรได้  สั่งๆๆๆๆ บางที  ดูจากกล้องว่าทำไมเราไม่ลูบพนักงาน อะไรบ่นได้  บ่นๆๆๆๆ นี่ถ้าแกมาทำบ้างแกคงเข้าใจนะว่ากรูเหนื่อย    และกรูดูแล้วว่า  เค้าไม่ได้ออกมาจากไหน  ไปเอาของออกมาส่ง  ลูกค้าก็รีบ  ๆ  จะให้ช้าอยู่มันไม่ทันใจ เห้อ   เล่าไปมา   แกก็เกลียดเรา   แกล้งเราทุกที บางทีบอกว่า  ต่อไป  ผมจะไม่รับพวกตุ๊ด  ทอมมาทำงานละ   ตุ๊ดใจเสาะ  ทอม  เจ้าชู้  แล้วบอกว่า  เห็นเราหอมแก้มสาว  ๆ   เราเลยบอกว่า  มีหลักฐานไหม  ถ้ามี  เอามาเลย   ถ้าพูดเรื่องไม่จริงอีกเจอกันแน่ ล่าสุด  แกล้งเรา  ให้เราไปประจำจุดส่งสินค้า  เราบอกว่าต้องเวียนกันสิ   แกก็บีบเราบอกว่า  ให้เลือกระหว่างลานจอด  กับจุดนี้  ถ้าทำตัวไม่ดี  ก็ไปลานจอด  เรานึกในใจ  กรูทำอะไร  กรูไม่ได้ทำอะไรเลยไอ้เห้   เราเลยเขียนใบลาออก  บอกเหตุผลว่า เบื่อหน่ายหัวหน้า   และพวกป้อกกันการสูญหาย   ที่สำคัญ  เราระบุชื่อไอ้หัวหน้าคนนี้ด้วย มันโกรธเรา  เราขอให้มันเซ็นต์ใบผ่านออกไปกดเงินข้างล่างให้เรา  มันไม่เซ็นต์   มันบอกว่า  เขียนแบบนั้นไปได้ไง  เราบอกว่า   ก็พี่บังคับให้ไปยู่จุดนั้น   มันบอก  ผมไม่เซ็นต์ได้ไหม   เราบอก  ได้  ไม่เซ็นต์ก็ไม่ต้องออก   ในใจคิดว่า  :-)นนี่ต้องดูทางกล้องอีกว่าเราแอบลง  เราลยให้พี่ที่มารอเอาเงินจากเราไปกดเอง แล้ววันนี้เราเลยไปทำงานสาย  เราจะได้ไม่ต้องไปอยู่จุดนั้น ทีนี้   ที่บริษัทเราบอกว่า  พรุ่งนี้ให้เรากลับมาทำงาน  ไม่อยากเสียเราไป  และจะไมให้อยู่จุดนั้นอีก 5555   เล่นกะใครไม่เล่น  มาเล่นกระกรู กรูไม่สนใจหรอก   หึหึหึ เจอหน้ามันเราคงไม่สนใจอ่ะ  พรุ่งนี้ เห้อ  ตลกป่ะคะ จากคุณ : แม่พวงมาลัย เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 14:30:43

ความคิดเห็นที่ 83 อดีตเจ้านายเป็นคนไต้หวัน แกชอบเก็บของไปทิ้ง เก็บตลอด เก็บแม้กระทั่งเช็คยังไม่ได้เซ็น เป็นเล่มๆ แกก็เอาไปทิ้ง เวลาแกจะทิ้งอะไร ก็ต้องให้พนักงานดูก่อน จากคุณ : หวานใจนายโหด เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 15:18:14

ความคิดเห็นที่ 84 พูดถึงเรื่องตด ก็นึกขึ้นได้ค่ะ อาจจะไม่เกี่ยวกับงานนะคะ คือ เราเนี่ยตดค่อนข้างเหม็น ส่วนจะมีเสียงมั๊ยก็แล้วแต่ แล้วแฟนเราก็รู้นะ เลยแกล้งซะเลย เรื่องเกิดขึ้นตอนเรากับแฟน นอนเตียงเดียวกัน แล้วเราก็ตดและก็บอกแฟนไปว่า ลองดมดูซิ ได้กลิ่นอะไรมั๊ยอ่ะ ก็เลยโดนไปเต็มๆ 555 จนวันนึง แฟนบอกว่า ถ้าหลงป่าเนี่ย ก็ให้เราตดเถอะ รับรองเค้าหาเจอแน่ จากคุณ : yimsai เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 15:24:08

ความคิดเห็นที่ 85 5555   เล่นกะใครไม่เล่น  มาเล่นกระกรู กรูไม่สนใจหรอก   หึหึหึ เจอหน้ามันเราคงไม่สนใจอ่ะ  พรุ่งนี้ เห้อ  ตลกป่ะคะ จากคุณ : แม่พวงมาลัย [Bloggang] ตลกตอนท้ายครับ มาให้กิ้ฟด้วย :) จากคุณ : prg047 เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 15:25:56

ความคิดเห็นที่ 86 แม่พวงมาลัย  -*- ผมบอกจากใจเลย อ่านไม่รู้เรื่อง T_T จากคุณ : เค้าเปล่านะ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 19:34:58

ความคิดเห็นที่ 87 แต่ก่อนเป็น teller ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง รุ่นพี่คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า มีลูกค้ามาถอนเงิน แล้วเซ็นชื่อไม่เหมือนกับตัวอย่างที่ให้ไว้หลังสมุด คือว่าที่หลังสมุด ลูกค้าเขาเขียนชื่อแล้วตัวหนังสือมันเอียงๆ รุ่นพี่ก็เลยบอกว่า ช่วยเขียนใหม่อีกครั้ง เขียนเอนๆ ลูกค้าก็รับไปเขียน แล้วส่งคืนมาให้ สิ่งที่เห็นคือ ตัวหนังสือ ที่เขียนคำว่า เอน เอน สองคำติดกัน จากคุณ : บุษบามณฑารพ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 20:43:33

ความคิดเห็นที่ 88 555+++ แต่ละคน อ่ะ .....เรามีอีกเรื่อง คือด้วยความที่ เราต้องเดินทางไปไหน ๆ บ่อย ๆ ต่างจังหวัดต่างประเทศ ก็มีครั้งนึง เราแวะหาหมอที่ โรงบาล เพราะผื่นขึ้นมันคันไง ก้ไป ติดต่อ ทะเบียนอะไรเสร็จก้ไปรอหมอตรงเก้าอี้ห้องผู้ป่วยนอกฉุกเฉิน เพราะผื่นมันขึ้นเดี๋ยวนั้นขณะขับรถ เราก็นั่งรอ ทีนี้มันเป็นจังหวัดทางภาคอีสานไง จำได้ว่าขอนแก่น เราเห็นยายคนนึงแกนั่งรถเข็นเข้ามา ที่เท้าเต็มไปด้วยเลือด แล้วก็ร้องโอย ๆ ทีนี้พยาบาลก็กรูกันเข้ามาช่วยปฐมพยาบาล  ระยะ นั้นแกก็ร้องเจ็บ  ( เราพูดอีสานได้ ฟังได้ พอ ๆ กับพูดเหนือก็ได้ ฟังเหนือก้ได้ ส่วนใต้แหลงได้นิดหน่อย ดังนั้น เราเลยเข้าใจทุกประโยค ) ยาย : เออะ ๆ อีหล่าแม่ใหญ่เจ็บ พยาบาลก็คงเบา ๆ มือลงเพราะแกไม่ว่าอะไรต่อ เราเสียสละคิวให้ เพราะเขาเป็นเคล ที่ด่วนกว่า เห็นเลือดเราก็กลัวแล้ว         ทีนี้หมอก็ตรวจอาการก็ถามว่า หมอ : คุณยายครับ ไปโดนอะไรมาแผลใหญ่เชียว ยาย  : ตำตอ ( สำเนียงคนอีสานนะ จะได้อรรถรส แต่หมอหนุ่มเป็นคนภาคกลางค่ะ ) หมอ : ตออะไรครับยาย ทำไมเท่าที่ผมดูมันไม่ช้ำนะ คือแผลมันเปิดทางยาว และเย็บแล้วไม่ช้ำนี่ครับ ยาย : ตอปอ ตั้วคร่าคุณหมอใหญ่ หมอ : เอ่อ คุณยายครับ คุณยายบอกมาตรง ๆ เถอะครับ ไม่ต้องตัวย่อหรอก บอกชื่อเต็ม ๆ มาเลย มัวแต่ให้ผมเดาพอดีคนอื่นไม่ได้ตรวจนะครับ  ( หมอหนุ่มคนนั้นแกก็ยิ้มเชิงออกดุหน่อย คงเหนื่อยและ อยากจ่าย ๆ ยาไปเร็ว ๆ น่ะ ) ยาย : ฮ่วย ! แม่นอีหยังอีกหล่ะหมอ แม่ใหญ่บ่ได้บอกคำย่อ หมอเด๊ะ ...เว่า อีหลี ก็ยังว่า ตำตอปอ ตำตอปอ หมอ : ก็นั่นแหล่ะคุณยาย ไอ้ ตอปอ ของคุณยายนี่มันย่อมาจากอะไร ( เราคิดว่าเรารู้นะว่าคุณหมอเข้าใจว่าเป็น ตป. ) ยาย  : เอ๋า....คุณหมอใหญ่ บ่ ฮู้จักตอปอ ติเดียวหนิ เบิ่งเด้อ มันเป็นจั๊งซี่ ( แกหยิบปากกา ขึ้นมา แล้วสาธิต ) อันนี่เป็นต้นปอ แม่ใหญ่ ไปตัดลำปอ ที่สวน ตัดจึ๊ก ขาดออกจั๊งซี่ อันนี้เป็นลำปอ ส่วนอันนี่ เหลือ:-)ม ๆ แม่ใหญ่ย่าง บ่ระวัง ตีนเลยไปตำเอาตอปอ ....ตีนเลยไปตำเอาตอปอ เข้าใจแล้วไป๊ ทีนี้ .....  เท่านั้นแหล่ะ พยาบาล หมอ เราและคนไข้รายอื่น ๆ ที่มานั่งคอยได้ยินได้ฟัง ปล่อยก๊าก แบบไม่ยั้งเลย ปล.โปรดอ่านภาษาเป็นภาษาอีสานนะคะจะได้อรรถรส แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 54 21:32:46 จากคุณ : ฟ้าสางที่เชียงดาว เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 21:03:02

ความคิดเห็นที่ 89 เพื่อนเป็นเลขาหน้าห้องนาย วันนึงนายเพื่อนเดินมาโต๊ะเราแล้วหยิบโทรศัพท์โต๊ะเราโทรหาเลขา ด้วยความที่ว่าเป็นเพื่อนสนิทและโทรหากันบ่อย และเครื่องโทรศัพท์ก็โชว์เป็นแบบโชว์เบอร์ เพื่อนเห็นเป็นเบอร์เรา รีบพูดทันทีว่า "มีไร กินหนมอยู่" โอ้วววววววว ชีวิตเพื่อนเกือบสิ้น 555+ จากคุณ : melodylove เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 21:34:14

ความคิดเห็นที่ 90 มีอยู่วันนึงเรากับน้องที่แผนก (ใหม่กันทั้ง 2 คน) ต้องออกไปเจอเจ้านายนอกออฟฟิศ อาศัยติดรถพี่แมสเซนเจอร์ไป พี่แกก็บอกไปรอเลยนะ รถโตโยต้า พวกเรา 2 คน ลงไปที่จอดรถ รถติดเครื่องค้างไว้ มีผักวางอยู่กระจัดกระจาย ก็จัด ๆ หน่อย แล้วก็นั่งรอกันในรถ ซักพักนึง ใครก็ไม่รู้ พวกเราไม่รู้จัก เปิดประตูรถ แล้วมองมาที่พวกเรา ทำหน้างง น้องที่มาด้วยกับเรามองหน้ากัน เป็นอันเข้าใจ แล้วหันไปบอกเค้า "ขอโทษค่ะ ขึ้นรถผิด" มันเป็นรถที่มาส่งผักน่ะค่ะ ทำไม้.. ไม่นึกเอะใจกันเลย พอลงจากรถคันนั้น ก็เจอพี่เมสเซนเจอร์ แอบหัวเราะจนน้ำตาไหลอยู่ แกบอกว่าแอบดูอยู่นานแล้วอ่ะ จากคุณ : เด็กเกาะ (is_notes) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 00:03:18

ความคิดเห็นที่ 91 เป็นสจ๊วตครับ อยู่สายการบินต่างชาติ ฐานการบินอยู่ต่างประเทศ แล้วก็ไม่มีรูทบินมาเมืองไทย ในสายการบินมีแอร์สจ๊วตคนไทยอยู่ราว ๆ ยี่สิบคน พอทำงานนี้กินนอนขี้ ไม่เป็นเวลาครับ ท้องไส้ปั่นป่วน มีลมในกระเพาะ และลำไส้เยอะ อยู่ ๆ ก็มักจะเรอ หรือไม่ก็ ตด เป็นปกติ วันนึงผมบินจากเมืองแขกขาวไปเมืองแขกดำ ขณะเดินผ่านห้องผู้โดยสารจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อจะไปหาเพื่อน เกิดอยากตดใจจะขาด แต่ว่ามันไม่ออกง่าย ๆ ครับ ต้องเบ่งนิดนึง แล้วผมกำลังเดิน ๆ อยู่ก็หยุด เพื่อตด เพราะเบ่งนิดนึง หน้าตานี่นิ่งมาก โปรมาก แล้วค่อย ๆ เดินไป ใกล้จะถึงครัวหลังแล้ว ผู้โดยาสารนั่งแถวสุดท้ายเรียกไป แกถามผมว่า I knew what you did just now แล้วก็ยิ้มให้ผม ผมก็ดีแสนดี ตอบเก๋ ๆ ว่า Sorry Sir, I cant control ไม่พอเดินกลับไปครัวตัวเอง เพื่อนแอร์คนไทยที่ไปหาเมื่อกี้ ก็เดินมาคุยครับหน้า เม๊าท์เป็นภาษาไทย แล้ว พอคุยสักพักก็เหม็นตด ก็เลยพูดกะเพื่อนว่า แกตดใช่มั้ย มันก็ตอบว่า ป่าว แกนั่นแหละตด เราก็บอกว่า แกตด มันก็บอก ผมตด สุดท้ายเพื่อนตัดปัญหา บอกว่า ผู้โดยสารคนนี้ ( มีผู้โดยสารนั่งใกล้ ๆ พวกเรา ) คนนนี้ตด ไม่ทันขาดคำผู้โดยสาร ตอบชัดถ้อยชัดคำเป็นภาษาไทยว่า "ดิฉันไม่ได้ตดนะคะ" จากคุณ : หมีส์บินครับ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 01:39:47

ความคิดเห็นที่ 92 อีกเรื่องนะคะ อันนี้เป็นเพื่อนผู้หญิง วันงานเลี้ยงรุ่น          เพื่อนเราคนนี้ไปเป็นครูสอนหนังสือ ที่ต่างจังหวัด จ.ลำปาง เป็นครูประถม ค่ะ ด้วยความที่ว่าเป็นโรงเรียนต่างจังหวัด ประกอบกับเป็นครูใหม่ยังไม่มีที่ให้ลง ช่วงนั้นพอดิบพอดี กับ ครูที่สอนอนุบาล เขาลาคลอด ทีนี้เพื่อนเราก็ได้รับหน้าที่ดูแลตรงนี้ไปก่อน เพื่อนบอกว่านักเรียนเด็ก ๆ ที่นั่นดื้อมาก ๆ เป็นอนุบาลแค่ห้องเดียวเด็กอายุ 5 ขวบค่ะ ก็ดื้อก็ซนกัน ผ่านไป 1 อาทิตย์ เด็ก ๆ ก็ต้องเริ่มเขียน ก.ไก่ ABC บ้างแล้ว และเล่านิทานให้ฟัง อะไรแบบนี้ ทีนี้ .....มันก็จะมีเด็กที่ดื้อ ๆ หัวโจกใช่ไหม บอกอะไรไม่ฟังเลย ดื้อตลอด ๆๆๆๆ ชอบตีกันแย่งของเล่นกัน ส่วนเด็กอื่น ๆ ก็ซนมาก ๆ  เพื่อนเราเลยออกกฏว่า..... ต่อไปนี้ ห้ามใครนำของเล่นมาที่โรงเรียนเด็ดขาด ถ้าใครไม่ฟัง ครูจะริบให้หมด เก็บไว้ที่โรงเรียนไม่ต้องเอากลับบ้าน  ......หลังจากนั้นเหมือนจะได้ผลนะคะ เด็ก ๆ ไม่เอาของเล่นมาที่โรงเรียนเลย               แต่ .....วันหนึ่งขณะที่กำลังเล่านิทานอยู่นั้น เด็กชาย 2 คนก็ยุกยิกกัน หยอกล้อกัน อะไรกันไปตามประสาเด็ก .....เพื่อนเราเห็นเข้าก็ปรามด้วยสายตา แล้วเล่านิทานต่อไป ทีนี้ เด็กชาย A เลยพูดกับ เด็กชาย B แต่เพื่อนเราได้ยินไง   เด็กชาย A ...... เอายางลบ รูปหมี มาสิ เอามา ถ้าไม่เอามาเราจะบอกครูนะ ว่าตัวเองเล่น คะหลำทุกวัน  .....   เด็กชาย B บอกว่า ..... ไม่ให้ ของเรานะอันนี้ แม่ซื้อให้ .....   เด็กชาย A เลย ฟ้องครู ว่า .....ครูครับ เด็กชาย B แอบเล่นคะหลำทุกวันเลยครับ ...... เพื่อนเราโมโหมาก คำสั่งมันไม่ศักดิ์สิทธิ์เลยใช่ไหม .....อืม... เพื่อนเรา.......... อ้าวยืนขึ้นทั้งสองคนเลย ครูบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามนำของเล่นมาที่โรงเรียน ไหน เอาออกมาซิ เด็กชาย B ...... (ก็นิ่ง ไม่พูด) เพื่อนเรา........ ตกลงจะเอามาให้ครูไหมคะ หรือจะให้ค้นตัว เด็กชาย B ....... วันนี้ไม่ได้เอามาครับ เอามาแต่ยางลบ ( เขาก็ยื่นให้ครู ) เพื่อนเราก็เลยบอกไปว่า พรุ่งนี้อย่าเอามานะ ถ้าเอามาครูจะริบเลย         รุ่งขึ้น 2-3 วันแล้ว เด็กชาย B ไม่ยอมมาโรงเรียนเลย ทีนี้เพื่อนเราก็โทรไปถามว่าเด็กเป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า แม่เด็กก็บอกว่า เปล่า สบายดี แต่บอกไม่กล้าไปโรงเรียน กลัวครู ....เพื่อนเราก็ถามว่า กลัวเรื่องอะไร  ......ทีนี้แม่เด็กก้เปิด phone ไง เด้กก็ตอบมาว่า.... ถ้าหนูไปโรงเรียนครูจะริบของหนูครับ หนูกลัว ...... เพื่อนเราก็ว่า .....ก็อย่านำมาโรงเรียนสิคะ ถ้าหนูเอามาเพื่อนก็อยากเล่นด้วย เดี๋ยวเพื่อนแย่งน้าาา ...... เด็กตอบว่า ..... ถ้าหนูไปโรงเรียนมันก็ต้องไปด้วยอยู่ดี ทีนี้ถ้าครูจะริบเอาไว้โรงเรียน หนูจะเอาที่ไหนฉี่หล่ะ ......            เท่านั้นแหล่ะเพื่อนเรา ฮากระจาย ปล. ภาษาเหนือ คะหลำ แปลว่า อวัยวะเพศผู้ชาย จากคุณ : ฟ้าสางที่เชียงดาว เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 02:24:24

ความคิดเห็นที่ 93 ชอบเรื่องเล่าของที่นี่จัง ทั้งเรื่องขำ เรื่องเศร้า...ซู๊ดหยอด จากคุณ : I'll be there for you. เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 11:57:05

ความคิดเห็นที่ 94 ขอแจมด้วยค่ะ เรามีลูกค้าจะทำเรื่องโอนรถกับที่ร้าน แล้วลูกค้าไม่มีสำเนาทะเบียนบ้าน เราก็เลยให้ลูกค้าเซ็นต์ใบมอบฉันทะไว้ แล้วเราจะไปคัดเองที่อำเภอ   พอเราไปอำเภอรอคิวนานมาก จนท.เรียกคิวเรา เราก็แจ้งวัตถุประสงค์ค่ะ แล้วก็ยื่นเอกสารที่เรามีให้ จนท. เค้าก็บอกเราว่า น้องต้องติด.....แสตมป์ อิอิ เราก็บอกค่ะ เดี๋ยวหนูมาใหม่   แล้วถาม จนท.ว่า ไปรษณีย์อยู่ไหน เค้าก็ทำหน้างงๆแวบนึง แล้วก็บอกว่า เดินออกจาก อำเภอไปเลี้ยวขวาค่ะ เราก็เดินมุ่งหน้าไปเลย คิดในใจ ดีนะ ที่อยู่ไม่ไกล พอไปซื้อแสตมป์เสร็จ มายื่น 555+ จนท.อึ้ง แล้วก็หัวเราะ บอกว่า น้อง พี่ให้ติดอากรแสตมป์ ไม่ใช่แสตมป์อ่า พูดดัง หัวเราะดัง ทั้ง จนท.คนอื่น แล้วก็คนที่มาติดต่องาน ก็หัวเราะตามกันไปด้วย.... จากคุณ : แฟร์รี่เลิฟๆ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 14:55:56

ความคิดเห็นที่ 95 มีอีกเรื่องค่ะ ที่บริษัทจะเป็นโรงงานผลิตอาหาร ซึ่งปกติโรงงานทั่วไป จะเป็นอันรู้กันว่า จะต้องมีห้องแลป สำหรับตรวจเชื้อโรค แล้วก็ต้องมีการตรวจในไลน์ที่ผลิตด้วย ทีนี้ก็มีเจ้าหน้าที่ห้องแลป เค้าจะไปเก็บตัวอย่างเชื้อตามอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในไลน์ผลิต แต่ด้วยมันมีศัพท์เทคนิคที่ใช้กันอยู่ประจำว่า Swab Test หัวหน้าก็พูดประจำ และลูกน้องฟังก็ฟังตลอด แต่พอลูกน้องต้องเขียนรายงาน เค้าเขียน....ว่า สงบ เทส อ่ะคะ หัวหน้าเลยฮา....ยกก้วน เล่ากี่ที ก็ฮา (ไม่รู้เฉพาะ วงการรึเปล่านะคะ) อีกศัพท์ที่ฮา...คือจะเรียกสก๊อตเทป เรียกถูก แต่เวลาเขียน จะเป็นสก็อตเทพ ตลอดเลยอ่ะ จากคุณ : DiFfeRent of LoVe เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 17:43:39

ความคิดเห็นที่ 96 เคยตรวจ คนไข้ ที่ห้องฉุกเฉิน ที่รพ.ครับ เป็นนักศึกษา ผู้ชาย มาด้วยใจสั่น หมอ: กินกาแฟ มั้ย เราน่ะ คนไข้: อ๋อ ไม่ครับ............  ขอบคุณ หมอ:  O_O" อึ้ง ไป (เข้าใจ ที่กรูถาม ม้ายยยย ) ตอนนั้น พยาบาล อ.หมอห้องข้างๆ หัวเราะกันใหญ่ จากคุณ : คลอโรพลาสต์ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 19:51:28

ความคิดเห็นที่ 97 เรื่องตอนฝึกงานค่ะ ซึ่งโรงงานที่เราเคยไปฝึกทั้งสองที่จะมีเจ้ามือหวยอยู่แล้ว โรงงานล่าสุดที่ไปจะมีพี่คนนึงแกขายล็อตเตอร์รี่เลยค่ะ โดยแกจะรับมางวดละปึก หลังวันหวยออกงวดหนึ่ง แกก็รีบเดินมาถามพี่ที่แผนกเราแต่เช้า คนขาย   - เฮ้ย แกไปขึ้นเงินมายังวะ ข้าจำได้ว่าแกซื้อตัวนี้ไป คนซื้อ    - เพิ่งไปขึ้นก่อนมาทำงานนี่แหละ ตัว xx เลย เดี๋ยวเที่ยงนี้ข้าเลี้ยงข้าวแกเอง คนขาย   - ไม่ต้องเลยๆ มันไม่ใช่แค่เขท้ายสองตัวนะเว้ย มันถูกรางวัลที่ห้า!!! ........................................................ คนซื้อ    - O..O" คนที่ได้ยิน - !@#$%^&* ตอนกลางวันแกยังอุตส่าห์ไปถามจากร้านที่รับขึ้นเงินนะคะ แต่ก็รู้ๆกันอยู่ อ้อยเข้าปากช้างไปแล้ว เรานี่เสียดายแทนสุดๆ จากคุณ : บุ๊งแบงค์ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 23:15:47

ความคิดเห็นที่ 98 โอ๊ยยย....นั่งหัวเราะตัวโยนอยู่คนเดียว.... :) คราวนี้ขอเล่าบ้าง... ปัน ๆ กันไป อิ ๆ ตอนทำงานอยู่ที่เก่า เป็นบริษัทที่มีฝรั่งต่างชาติทำงานอยู่ด้วย มีคนนึงเพิ่งเข้ามาใหม่ เป็นแคนาเดียนชื่อโรเบิร์ต โรเบิร์ตเป็นฝรั่งผมทอง หน้าผากกว้างนิดนึงไม่ถึงกับล้านอะไรมากมายแค่หลักแสน หน้าตาฝรั๊งงงฝรั่งแต่โรเบิร์ตพูดไทยชัดใช้ได้เลย พูดอีสานได้ แหลงใต้ก็ได้ ด่าไทยได้ ฮ่า ๆ เคยมีแฟน ๆ เป็นคนไทย (คงจะหลายภาคด้วย ถึงได้คล่องทุกภาคเลย หุ ๆ) โรเบิร์ตเล่าให้ฟังว่า... มีอยู่วันนึงไปทำงาน ตปท. และเดินทางกลับมา กทม. ถึงที่สนามบินดอนเมือง (ตอนนั้นยังไม่มีสุวรรณภูมิ) โรเบิร์ตเหนื่อย ๆ ง่วง ๆ อยากดื่มกาแฟซักแก้ว เลยเดินไปหาซื้อที่ร้้านกาแฟที่สนามบิน ซึ่ง พนง. แผนกต่าง ๆ ที่สนามบินใคร  ๆ ก็รู้ว่าพูดภาษาอังกฤษได้คล่องอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดไทยกับเค้าก็สื่อสารกันได้สะดวกสบาย โรเบิร์ตเลยไปซื้อกาแฟที่ร้านด้วยภาษาอังกฤษ พูดว่า "May I have a cup of coffee?" พนง. ที่รับออเดอร์ก็พยักเพยิดและพูดกับเพื่อน พนง. อีกคนนึงว่า "เฮ้ย... ไอ่ฝรั่งหัวล้านนี่มันจะเอากาแฟแก้วนึง" โรเบิร์ตหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง.. หันไปมองรอบตัวว่า พนง. นั้นหมายถึงใคร ก็พบว่าตัวเองเป็นลูกค้าคนเดียวอยู่ีในขณะนั้น... จะเป็นใครไปซะมิได้.. ต้องหมายถึงกรูแน่นอนเลยทีเดียว ไม่รอช้า... โรเบิร์ตคราวนี้พูดภาษาไทยเสียงดังฟังชัดกับ พนง. คนนั้นอีกครั้ง "ครับ.. ไอ้ฝรั่งหัวล้านคนนี้มันจะเอากาแฟแก้วนึง" แปร่ววววววววววววว...... สมัยนี้อย่าไว้ใจนินทาฝรั่งหัวแดงผมทองในระยะเผาขน ด่าไทยไฟแล่บน่ะเคยได้ยินมั๊ยยยยย ............................... อีกเรื่องค่ะ.. คล้าย ๆ งี้เหมือนกัน แต่เรื่องนี้ได้พบมากับตัวเองเลยค่ะ ตอนนั้นไปติดต่องานที่หน่วยงานราชการแห่งนึงค่ะ ไปคนเดียว ระหว่างนั่งรอเรื่อง ก็เห้นว่ามีคนไทยที่เป็นผู้ประสานงานมากับฝรั่งตัวใหญ่ ๆ กลม ๆ คนนึงค่ะ มาติดต่องานเรื่องธุรกิจของบริษัทนี่แหละ จนท. ของหน่วยงานนั้นก็อัธยาศัยดี น่ารัก ระหว่างทำงานด้านเอกสารไปก็มีการชวนคุย น้องเค้าก็เด็ก ๆ หน่อยแต่ก็ไม่ได้เด็กมากขนาดจบใหม่ จนท. คงนึกอยากเป็นกันเองกับผู้มาติดต่อมั๊ง เลยชวน coordinator ท่านนั้นคุยว่า "ฝรั่งคนนี้เค้ากินอะไรถึงได้อ้วนอย่างงี้ล่ะ" คราวนี้เห็น coordinator นั้นอึกอักไม่รู้จะตอบยังไง ได้แต่ยิ้ม ๆ ฝรั่งเลยตอบเองด้วยน้ำเสียงแปร่ง ๆ (หลังจากนั่งนิ่งเงียบฟังอย่างเดียวมานาน จนไม่มีใครรู้ว่าพูดไทยฟังไทยได้ด้วยเรอะ!) แบบฝรั่งพูดไทยไม่ชัดว่า "พ้มกินข้าวกับน้ำพริกปลาทูทุกวันครับ" วันนั้นดิฉันเก็บหัวเราะไว้แทบไม่อยู่เลยล่ะค่ะ :P จากคุณ : เลขานินทานาย (Little Putt24) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 23:20:43

ความคิดเห็นที่ 99 อีกเรื่องค่ะ ตอนนั้นที่บริษัทรับสมัครพนักงานใหม่ ก็มีคนสนใจส่งจดหมายพร้อมรายละเอียดและรูปถ่ายกันมามากมาย ดิฉันก็คัดกรองจดหมายสมัครงานให้เจ้านายพิจารณาดูอีกที ก็ดูมาเรื่อย ๆ จนถึงจดหมายฉบับนึง เห็นรูปถ่ายแล้ว โอ๊ยยย ตะลึงในความงามมากจนต้องออกปากกับน้องอีกคนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ กัน "อ้อ ๆ ... โอ๊ย คนนี้สวยจัง หน้าว้านนหวาน แต่ทำไมชื่อเหมือนผู้ชายไม่รู้" อ้อ... "ชื่ออะไรเหรอพี่..." เราเอง... "ชื่อจีรศักดิ์อ่ะ" อ้อ... "ผู้ชายรึป่าวอ่ะพี่..." เรา... กวาดตาดูรายละเอียดอีกที... เฮ้ยยยยยยยยย เป็น "นาย" จริง ๆ ด้วยยยยอ่ะ แต่สวยมาก ๆ เลยอ่ะค่ะ (จากรูปนะคะ เตะตามาก ๆ) จากคุณ : Little Putt24 เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 00:01:17

ความคิดเห็นที่ 100 สนุกจริง ๆ จากคุณ : ฟ้าสางที่เชียงดาว เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 01:01:13

ความคิดเห็นที่ 101 ฮาคห. 98 มากๆ อย่าได้ไว้ใจเลยเชียว 5555+ จากคุณ : แมวน้อยสีน้ำตาล เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 09:30:07

ความคิดเห็นที่ 102 ที่ออฟฟิศผมจะมี Meeting ทุกเช้า มีอยู่วันหนึ่ง ก่อนจะ Meeting ประมาณ 5 นาทีผมเกิดปวดอึขึ้นมา หลังจากผมทำธุระอะไรเสร็จเรียบร้อยผมก็เอาที่สายฉีด ฉีดทำความสะอาด ร่องรอยข้าศึก จากนั้นผมก็ได้ฉีดทำความสะอาดรอบๆ ทันใดนั้น ไอ้หัวฉีดน้ำเจ้ากรรมดั้นหลุด แล้วไอ้น้ำที่ออฟฟิศนี้แรงมาก พุ่งใส่ตัวผมแบบเปียกหมดเลย ผมพยายามจะยัดไอ้หัวฉีดเข้าที่เดิมเพื่อหยุดน้ำ คิดออกกันมั้ยว่าเวลาเรากดน้ำเท่าไหร่น้ำก็ยิ่งแรงเท่านั้นประมาณเรารดน้ำต้นไม้อ่ะครับ น้ำพุ่งเข้าใส่ผม ยิ่งเปียกเข้าไปใหญ่ ดูไปดูมาไอ้หัวฉีดมันไม่หลุดเปล่าแต่มันหลุดแบบหักไปเลย ไม่รู้จะทำไงตอนนี้ตัวผมเปียกทั้งตัวเลยตัดสินใจเดินออกไปทั้งอย่างงั้นเลย ตอนนี้ผมตัดสินใจเดินไปห้อง Meeting ที่พนักงานทุกคนกำลัง Meeting กัน ทุกสายตาที่มองผมวันนั้นบ่งบอกได้ถึงสภาพ หมาเปียกน้ำของผม ผมนี่ทั้งขำทั้งอายตัวเอง ไม่รู้จะทำยังไงเลยขอลาครึ่งวันไปเปลี่ยนชุด ทุกวันนี้จะเข้าห้องน้ำทีต้องระวังกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย จากคุณ : liverboy เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 10:00:40

ความคิดเห็นที่ 103 ผมได้ลูกน้อง มาใหม่ พอผมกำลังจะไปพัก บอกน้อง เดี๋ยวเอาของนี้เอาไปไว้บนชั้นนะ ตรงที่ว่างนะ ข้างๆก็มีอุปกรณ์วางอยู่เป็นชิ้นๆแยกตามประเภท ชั้นวางอุปกรณ์จะซอย เป็นชั้นๆ สูงห่างกันประมาณ 2 ฟุต กลับมาจากพัก มาดูงานน้อง ตะลึง เลย ของมันใส่ลังใหญ่มาประมาณลังเท่าตู้เย็น แต่ด้านในมันเป็นชิ้นๆ น้องถอดแผ่นชั้นออก 4 แผ่น แล้วยกทั้งลังขึ้นไปวาง โอ้ววววววววววว จากคุณ : ส้มตัดเทา เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 20:58:48

ความคิดเห็นที่ 104 ขอเล่าบ้างครับ มีอยู่วันนึงต้องเข้าเวรคู่กับพี่นักรังสี พี่เค้าออกเนิร์ดๆหน่อย แต่งงานแล้ว ก็ทำไปเรื่อยๆจนใกล้ออกเวร พี่แกก็คิดว่าจะนัดแฟนไปกินข้าวนอกบ้าน เลยหยิบโทรศัพท์จะโทรหาแฟน ปรากฎว่าแบตหมด ก็เลยมายืมมือถือผม แต่โทรไปแฟนพี่เค้าไม่รับสาย ประจวบเหมาะต้องเข้าไปในห้องฉายเพื่อเปลี่ยนฟิล์ดให้คนไข้ ก็เลยยื่นโทรศัพท์ให้ผมแล้วบอกว่า "ถ้าแฟนพี่โทรกลับมา บอกไปเลยนะว่า อาบน้ำแต่งตัวรอได้เลย" เงียบกันไปสักพัก ก็ฮากันทั้งห้อง ผมถามกลับว่าพี่จะให้ผมพูดจริงๆหรอครับ บอกจริงก็บ้านแตก มองหน้ากันไม่ติดละครับ จากคุณ : Pooh_son เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 21:33:27

ความคิดเห็นที่ 105 คห.99 ชื่อเหมือนเพื่อนเราเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ นางเปลี่ยนชื่อเป็น นาย จิระกัญญา เรียบร้อยแล้ว จากคุณ : kwang.daivy เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 22:36:37

ความคิดเห็นที่ 106 โจ๊กรอบดึกมาก ..... เรื่องนี้เกิดในหน้าที่การงานคนอื่น หรือจะเป็นเพียงเรื่องเล่าก็มิอาจทราบได้ เพราะมันตลกมากกกกกกกก เราถามย้ำหลายครั้งแล้วว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง ๆ หรือ และก็ได้รับการยืนยันมาแล้วว่า " จริง "  แต่เรื่องนี้ ก็กลายเป็นโจ๊ก ใน forward mail อยู่ช่วงนึง เลยไม่รู้จะเชื่อใครดี เพราะไม่ได้เจอเอง  เล่าเลยนะคะ               คุณอาของเพื่อนเราเป็น ปลัดจังหวัด เมื่อหลายปีก่อน ทางภาคอีสาน ตอนนั้น มีเชื้อพระวงค์พระองค์หนึ่งได้เสด็จเยี่ยมราษฎร ทุกคนตื่นเต้นมากและดีใจที่จะได้เห็นพระองค์ท่าน วันนั้นเหล่าข้าราชการและพลเรือนต่างเตรียมงานต้อนรับอย่างดี แต่พระองค์ท่านทรงโปรดที่จะเสด็จ ที่ตลาดสดของป่า ของชุมชนละแวกนั้น และก็ไปถึงตลาด ท่านทรงชมตลาด ว่าวิถีชีวืตเรียบง่ายน่าอยู่ พระองค์ท่านไม่ถือพระองค์ กลับตรัสถามไถ่ ทุกข์สุขของราษฎร ตลอดเวลาพระพักตร์ของท่านทรงแย้มยิ้ม จนมาถึงร้านแม่ค้าขายปลาจ้าวหนึ่ง ที่จัดวางแปลกตากว่าใครเพื่อน และมีของให้เลือกเยอะทั้งปลาสด และของป่า            พระองค์ทรงตรัสถามถึงปลาในอ่าง    พระองค์ : นี่ปลาอะไร   แม่ค้า     :  ปลาชะโด เพคะ    พระองค์  : มันคล้าย ๆ ปลาช่อนนะ ไม่บอกคงไม่รู้ แล้วแม่ค้าขายยังไงหล่ะ   แม่ค้า      : กะละมังนี้ ทรงสวรรณคต แล้ว โลละ 40 เพคะ  กะละมังนี้ ทรงประชวร โลละ 50 เพคะ ส่วน กะละมังนี้ ทรงพระเกษมสำราญ โลละ 60 เพคะ ( พอแม่ค้าเริ่มพูด ทุกคนนี่กลั้นหัวเราะ แทบไม่อยู่ พระองค์ก็ทรงมีอารมณ์ขันมาก ทรงพระสรวลออกมาดัง ๆ แล้วตรัวว่า )   พระองค์  : แม่ค้าพูดกับเราธรรมดาก็ได้ เราไม่ถือ   อ้าว แล้วนี่นกอะไรหล่ะ แม่ค้า       : นกแต้วแร้ว เพคะ ตัวนี้จะถวายพระองค์เพคะ ไว้เลี้ยงดูเล่นก็ได้เพคะ พระองค์    : อืม...แล้วมันชอบกินอะไรหล่ะ แม่ค้า        : มันกิน ...ถั่วทีบ ถั่วแดน ...เพคะ ( คนแถวนั้นที่พอจะรู้เรื่องเปิ่น แม่ค้าขำกันกระจาย และยิ่งขำว่านี้อีก เมื่อพระองค์ทรงตรัสกับคนที่ไปด้วยว่า ) พระองค์    : แล้วถ้่วทีบถั่วแดนนี่มันเหมือนถั่วเหลือง ถั่วลิสงไหม แม่ค้า        : ไม่เหมือนเพคะ   พระองค์     : อืม...มันเป็นพันธุ์พิเศษหรือ ถ้างั้น ท่านเกษตรจังหวัด ช่วยเผยแพร่การปลูกถั่วทีป ถั่วแดนไว้เยอะ ๆ นะ เราจะได้เอามาเลี้ยงนก ?????????????????              จากคุณ : ฟ้าสางที่เชียงดาว เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 01:25:08

ความคิดเห็นที่ 107 เคยฝึกงานในบริษัทแห่งนึง เค้ากำลังมีการก่อสร้างเพิ่มเติม จึงมีฝ่ายก่อสร้างด้วย เรากำลังจะเดินไปอีกฝ่ายนึง เผอิญว่าต้องผ่านฝ่ายก่อสร้างนี้ ประธาน    : หนู เรียกวิดวะโย กับวิดวะปลอดภัยให้ทีนะ เรา          : ค่ะ  ได้ค่ะ พอถึงฝ่ายก่อสร้าง  ท่ามกลางพี่ผู้ชายนั่งกันเป็นสิบ   เรา          :  ขออนุญาตค่ะ พี่โย กับพี่ปลอดภัยอยู่ไหมค่ะ ประธานเชิญพบค่ะ พี่ทั้งหลายหันมามอง  ทำหน้างง ใครคนหนึ่งตอบว่า  ไม่มีชื่อนี้ครับ เรา          : ที่เป็นวิศวะกรอ่ะค่ะ   ทุกคนหันกลับมามองอีกที  อมยิ้มทั้งห้อง  เราก็เดินไป เราเรียกพี่ 2 คนนั้นว่า พี่โย กับ พี่ปลอดภัย มาตลอด จนถึงวันที่เราฝึกงานวันสุดท้าย เค้าเพิ่งมาเฉลยว่า  พี่ไม่ได้ชื่อโย  พี่เป็นวิศกรโยธา ส่วนพี่อีกคน เป็นวิศกรคุมความปลอดภัย จากคุณ : mali_malila เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 10:18:15

ความคิดเห็นที่ 108 คห.88 เราเคยอ่านเรื่องนี้ในหนังสืออ่ะ เรื่องแต่งใช่ปะ - -" จากคุณ : อมยิ้มอันเล็ก เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 19:33:46

ความคิดเห็นที่ 109 จะต้องไปพรีเซนต์แผนโปรโมตสินค้า ให้ลูกค้าดู ทำกันจนดึกๆ มันก็เบลอ นายเราพิมพ์ใน powerpoint ว่า จะไปทำ roadshow โปรโมทสินค้า at pubic area (จริงๆ แกจะพิมพ์ว่า at public area) ดีนะ เราเห็นก่อน เลยแก้ทัน ไม่งั้นลูกค้าคงขอเปลี่ยนเอเจนซี่ จากคุณ : บะหมี่เกี๊ยวแห้ง เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 20:16:42

ความคิดเห็นที่ 110 ^ ^ ^ ขำมาก ๆ 109 จะเล่นของสงวนเขากันเลยทีเดียว 55555++++++++++ จากคุณ : ฟ้าสางที่เชียงดาว เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 00:04:52

ความคิดเห็นที่ 111 เคยทำงาน กับ สินค้าแบรนด์หนึ่ง ชมพู่ อารยา เป็นพรีเซ็นเตอร์ แล้วจะมี ป้ายเท่าตัวคน รูปชมพู่ อารยาเป็นของวางโชว์หน้าร้าน ... เรื่องมีอยู่ว่า พี่   :แกลงไปข้างล่างนะ แล้วไปที่ Shop..บอกว่า มาหาคนชื่อชมพู่ พาขึ้นมาข้างบนด้วย เรา :ได้คะ (วิ่งไปอย่างเร็ว ลงไป บันไดเลื่อน ถึงShop ปุ๊ปถามเลย)       "พี่คะ พี่..บอกว่าให้มาหาคนชื่อชมพู่ " พนง.ใน shop : ไม่มีนะน้อง ที่นี่ไม่มีคนชื่อชมพู่ เรา : อ่าว หรอคะ..  (ยืนเขินๆแล้ววิ่งกลับขึ้นมา) เรา :  ไม่เห็นมีคนชื่อชมพู่เลยพี่.. พี่เขาบอกว่าไม่มีคนชื่อชมพู่อ่ะ พี่   : แกบ้าหรือเปล่า ชั้นให้ไปเอาป้ายชมพู่มา แต่เรียกสั้นๆ ไปเอามาใหม่ ไป๊!! เรา : อ่า..วิ่งลงมา เดินเข้าไปใน Shop แล้วบอกว่า พี่เขาให้มา       เอาป้ายนี้ แล้ววิ่งขึ้นมาเลย อย่างอาย จากคุณ : lessimol เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 15:13:56