 |
ผมลองดูข้อมูลในบริษัทผมเอง ก็พบว่า หลายๆสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นไปในลักษณะใกล้เคียงกับกฎ 80/20 นี้ เช่น ยอดขาย 80% มาจากจำนวนลูกค้าประมาณ 20%, จำนวนของเสีย 80% มาจากจำนวนสาเหตุประมาณ 20% เป็นต้น ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่ 80/20 เป๊ะๆ แต่ก็เรียกว่า ใกล้เคียงทีเดียว อันที่จริง ตัวเลข 80 และ 20 นี้ เป็นเปอร์เซ็นต์ที่มาจากข้อมูลคนละชุด จึงไม่จำเป็นที่ต้องรวมกันแล้วได้ 100 อาจจะเป็น 80/30, 70/25 หรืออาจจะเป็น 90/10 ก็เป็นได้ แต่จุดที่น่าสนใจคือ ความจริงที่ว่า เปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ของสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น (output) มาจากเปอร์เซ็นต์ส่วนน้อยของสิ่งที่ให้กำเนิดมัน (input) ถามว่า ข้อมูลตรงนี้มีประโยชน์อย่างไร? คำตอบคือ ความสัมพันธ์เหล่านี้สามารถช่วยให้เราดำเนินการตัดสินใจในการบริหารงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมเช่น ในปี 1963 บริษัท IBM สำรวจพบว่าร้อยละ 80 ของเวลาและทรัพยากรในการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดจะเป็นการใช้งานจากโค้ดของ Operating System เพียงร้อยละ 20 เท่านั้น ดังนั้น IBM จึงได้ปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้ใช้ประโยชน์จากส่วนร้อยละ 20 นี้ให้มากขึ้น ทำให้ส่วนนี้สามารถถูกใช้งานได้อย่างสะดวกและง่ายขึ้น
ในทางวิศวกรรมนั้น มีการนำกฎ 80/20 นี้มาประยุกต์ใช้ เรียกว่า Paretos Diagram คือ การศึกษาข้อมูลสองกลุ่มแล้วดูความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น ที่ใช้กันมากก็คือ จำนวนของเสียกับจำนวนสาเหตุของเสีย โดยนำข้อมูลของเสียที่ช่วงเวลาหนึ่ง แล้วเอาจำนวนของเสียเป็นแกน y และ สาเหตุของเสียเป็นแกน x โดยมากจะพบว่า จำนวนของเสียส่วนมากมาจากสาเหตุไม่กี่สาเหตุ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เราควรจะทุ่มทรัพยากรลงไปในการแก้ไขสาเหตุไม่กี่สาเหตุนี้ที่ทำให้เกิดเปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ของจำนวนของเสียทั้งหมด แทนที่จะสูญเสียทรัพยากรไปในส่วนอื่นๆซึ่งแท้จริงแล้วไม่มีผลต่อจำนวนของเสียทั้งหมดมากนัก
จากคุณ |
:
Panda Smile
|
เขียนเมื่อ |
:
19 มิ.ย. 54 01:34:37
|
|
|
|
 |