ความคิดเห็นที่ 1 ถามผมนะ ชอบแบบโพสตามที่ จขกท บอก....ได้อารมณ์ดี เคยลองผ่านเวปขายของแล้ว ต้องยอมรับว่า ของเยอะคนเยอะ  เลยไม่ประสบความสำเร็จ  ผมไม่นิยม ลดแหลก แจกแหลก เพราะมันไม่ใช่ของแบบนั้น ผมยอมคุยหลายๆครั้ง บางครั้งเป็นเดือน เพื่อให้ได้ออเดอร์  ผมคนซื้อจะต้องซื้อของกะผม จนวันตาย  ถึงวันนั้น ผมคงได้จากลุกค้าเยอะแหละ จากคุณ : TheRed2008 เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 15:53:28

ความคิดเห็นที่ 2 น้อยครั้งมากเลยค่ะที่จะขายของให้คนไทยได้ และที่ขายได้ก็จากเว็บบอร์ดจริงๆด้วยหล่ะค่ะ จากคุณ : PiG A Pui เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 16:18:04

ความคิดเห็นที่ 3 แต่เราชอบแบบ shopping cart นะ สะดวกดี ไม่ต้องไปย้อนไปย้อนมาเพื่อดูออร์เดอร์ มีแบบฟอร์มชื่อที่อยู่ครบ เก็บไว้เป็นฐานข้อมูลง่าย เพราะเว็บสำเร็จรูปที่ใช้มีระบบนี้ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 54 16:20:37 จากคุณ : atomicgibby เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 16:20:11

ความคิดเห็นที่ 4 คนขายชอบแบบชอปปิ้งคาร์ท ==> คนให้บริการเว็บโฮสติ้งได้ตังค์ คนซื้อชอบแบบเว็บบอร์ด ==> คนขายทางเว็บบอร์ดได้ตังค์ จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 16:26:32

ความคิดเห็นที่ 5 ใช่ค่ะ เราว่าส่วนใหญ่การซื้อขายผ่านทางเว็บบอร์ด ค่อนข้างดีในบ้านเรา เพราะก็เคยลองเหมือนกันคะ ขายโดยโพสตามเว็บบอร์ด คนจะมาจากทางนี้มากกว่าอีก เคยลองแบบว่าโพสทิ้งเอาไว้ไม่ได้อัพเดทอะไร ลองสินค้าเฉพาะกลุ่ม โดยโพสทิ้งไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ช่วงนั้นก็มีคนมาสอบถามสินค้า ต้องการซื้อขายด้วยพอสมควร ปัจจุบันนี้ยังมีคนที่เข้ามาซื้อสินค้ากับเราอีกแหนะ ส่วนตัวแล้วตอนนี้คิดว่าเว็บก็สำคัญ ทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง จากคุณ : cyber_lomogirl เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 16:35:04

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนตัว วางที่ไหนก็ขายไม่ด้ทั้งๆที่มันคือกล้องถ่ายรูป   แต่พอมาโพสบน FB แบบบ้านๆ ไม่สนว่าขายได้ไหม เป็นของในบ้านที่ไม่อยากเก็บ กลายเป็นขายดีสุดๆ ง่ายๆสุดๆ ลูกค้าโอนเงินเกินให้ด้วย   ทำเสื้อยืดลวดลายออกแบบเองขายก็ขายจนหัวปั่น   คือ เดี๊ยนสร้างชื่อเสียงจาก ของดี ของถูก ของสวย และซื่อสัตย์ที่สุด อุตส่าห์บอกว่า สินค้านี้มีละกษณะ เก่านะ อย่างนั้นอย่างนี้นะ ซึ่งพูดความจริง คนกลับยิ่งแย่งโอนเงิน   มาวิเคราะห์ คิดว่า จากการทำเสื้อยืด limited editon ขาย ทำให้ลูกค้าเกิดความเื่อถือเรื่องความตรง และซื่อสัตย์ เขาเห็นความจริงใจ จึงบอกต่อ   ตอนขายกล้อง ขำมาก ลงขายไปทั่ว สามปีไม่มีใครติดต่อมาแม้แต่คนเดียว เลยคิดว่าไม่ายดีกว่า เก็บไว้ใช้อีกเครื่องหนึ่ง   แต่พอมีคนโทรมา เดี๊ยนก็พยายามบอกข้อเสียของมันทุกอย่าง หวังว่าเขาจะเลิกรา ที่ไหนได้ กลับบอกว่าจะเอา นัดเจอ ควักเงินให้เลย แล้วพอมีคนแรกโทรมา กลับมีคนโทรมาอีก ทุกคนบ่นเสียดายที่โทรช้าไป เดี๊ยนคิดในใจว่า เมื่อสามปีนั้น พวกคุณไปอยู่ไหนมา จนเราไมขายแล้ว เขากลับเห็นของของเรา   แปลกมาก ^^ จากคุณ : โสมรัศมี เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 17:27:46

ความคิดเห็นที่ 7 อ้าว เพิ่งตอบกระทู้ข้างบนไปว่า ประเทศไทยยังเป็น e-catalog ยังไม่ใช่ e-commerce จากคุณ : ไม่มีตรรกะ มีแต่กระ เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 17:39:47

ความคิดเห็นที่ 8 fb ก็อยู่ในลักษณะเดียวกับ webboard นะครับผมว่า เพราะลักษณะคือการโพสต์ขาย แล้วมีคนมา คอมเมนท์ต่อ ซึ่งคอมเมนท์ต่อนี้ล่ะจะเป็นเหมือนการส่งเสริมให้ขายได้ และเป็นการทำให้คนมาทีหลังมั่นใจได้ ต่างจากระบบ Shopping Cart ที่เลือกของใส่ และ Check Out จ่ายตั้งค์ แบบนี้ผมว่าบ้านเราไม่ค่อยกล้ากัน ระบบจ่ายเงินก็เหมือนกัน โอนเงินผ่านธนาคาร บ้านเรามั่นใจวิธีนี้ อาจจะโอนผ่านตู้เอทีเอ็มแล้วเก็บสลิปไว้ อุ่นใจอีกนิดหนึ่ง ทั้งๆที่หลายๆคนก็มีบัตรเครดิตกัน แต่จะมีสักกี่คนที่กล้าใช้บัตรซื้อของในเน็ต (แต่ผมเคยนะ บ่อยครั้ง) หลายๆเจ้าพยายยามจะทำระบบเงินออนไลน์เพื่อใช้ซื้อของในเน็ต แต่ถ้าดูภาพรวมผมว่ายังไม่แจ้งเกิด ธนาคารบ้านเรา เขาคงรู้ดีบ้านเราชอบโอน แทนที่จะทำจ่ายเงินออนไลน์ในประเทศ ก็เลยทำ Internet Banking ให้โอนกันง่ายๆ ถือว่าได้รับการตอบรับอยู่ในระดับดีนะผมว่า จากคุณ : เส้นเล็ก เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 17:47:56 A:124.40.226.35 X: TicketID:184596

ความคิดเห็นที่ 9 คนไทยไม่เหมือนใครในโลก จากคุณ : กุ้งเต้นชามะนาว เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 18:02:09

ความคิดเห็นที่ 10 คนขายออนไลน์ คนซื้อออฟไลน์ ในเวป ก็ทำหน้าที่เป็น แคตาล็อคไป ส่วนลูกค้าก็โทร ถามรายละเอียด ต่อราคา นัดดูของ กันไป คล่องดี ผมลาออก มาทำ 7 เดือนแล้ว ยอดขายเฉลี่ยเดือนละ 2แสน ไม่ต้องไปเปิดหน้าร้าน แค่คอยดูโทรศัพท์ อย่าเผลอปิดเครื่อง หรือ แบตหมด เป็นพอ หมั่นเ็ช็คเมล์ จากคุณ : พนมพร เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 21:20:43

ความคิดเห็นที่ 11 ดีแล้ว ลูกค้าจะได้สบายใจ เพราะมีคนมาคอยตอบคำถามในเว็บบอร์ด ถ้ามีแต่หน้าเว็บ หยิบของใส่รถเข็น จ่ายเงินเลย กลัวว่าจะไม่มีสัญญาณตอบรับ เวลาผมสั่งของ ต้องถามก่อนว่าของชิ้นนี้เหลือไหม โอนแล้วจะแจ้งอีกที สุดท้ายขอเลขลงทะเบียน เว็บไหนตอบดี ก็จะใช้เว็บนั้นบ่อย ไม่ตอบก็ไม่กล้าซื้อกลัวจ่ายเงินไปแล้วเงียบหาย จากคุณ : konmanjapenpriest เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 22:24:57

ความคิดเห็นที่ 12 ขายในเวปบอร์ด แต่เวปมีไว้สำหรับเป็นหน้าร้านให้ดูน่าเชื่อถือ ผมทำเช่นนี้เหมือนกัน webboard มันสัมผัสกับผู้ขายได้มากกว่า แต่เวปขายสำเร็จรูป เหมือนซื้อของกับหุ่นยนต์มากกว่า ความมั่นใจเลยแตกต่างกัน ลูกค้าผมมีทั้ง 2 ทาง ส่วนใหญ่จะโทรมาหาเองมากกว่า ไม่ก็เมล์มา ไม่มีใครกดซื้อของลงตระกร้าเท่าไหร่ จากคุณ : arito เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:29:05

ความคิดเห็นที่ 13 คนไทยยังไม่ชินกับการซื้อผ่านระบบ หรือผ่านเครื่องจักรน่ะครับ เวลาซื้อจากเวปบอร์ด จะรู้สึกเหมือนกันซื้อกับคนโดยตรงมากกว่า แล้วก็จะถูกหลอกได้ง่ายกว่าด้วยนี่ซิ จากคุณ : ชาวบ้าน 100% เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 02:45:55

ความคิดเห็นที่ 14 คนไทยยังใช้บัตรเครดิต/เดบิตซื้อของผ่านเว็บน้อยมากครับ ไม่เหมือนเมืองนอก จากคุณ : โปร่งใส เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 19:51:56

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าลูกค้าโทรไปหาผู้ขายอาจจะได้ส่วนลด นี่ละมั้งที่ทำให้ webboard ขายได้มากกว่า เวปขายสำเร็จรูป จากคุณ : ลุยดะ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 21:06:02

ความคิดเห็นที่ 16 นิสัยคนไทยคือ ชอบต่อรอง (ปัจจุบันประเทศต่างๆเลยต้องจ้างคนขายพูดไทยได้ สงสัยแหล่งช็อปปิ้งทั่วโลกมีกันหมดมั้ง) การโทรคุยทำให้ได้ต่อรอง การหยิบลงตะกร้าต้องยอมรับราคานั้นๆ ต่อไม่ได้ คนเลยนิยมซื้อจากเวปบอร์ด จากคุณ : หมูเย้น (หมูเย็น) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 11:21:40

ความคิดเห็นที่ 17 มาเก็บความรู้ค่ะ เป็นประโยชน์มากเลย จากคุณ : craftmania เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 16:24:07

ความคิดเห็นที่ 18 เราว่า พฤติกรรมผู้บริโภค ในเมืองไทย (ไม่เหมือนที่ไหนในโลก)ทำให้เป็นแบบนี้ ก่อนอื่น ต้องยอมรับว่า โมเดลธุรกรรมออนไลน์ เรา ก๊อปปี้มาจากต่างประเทศ ซึ่งเขาใช้ บัตรเครดิต ในการจ่ายเงิน และ กฎระเบียบข้อบังคับ ตลอดจนกฏหมายของเขา ปกป้องลูกค้าที่ซื้อของออนไลน์มากกว่า ของบ้านเราด้วย ดังนั้น ในเมื่อมาถึงเมืองไทย จากเว็บอีคอมเมิร์ช แล้วต้องการจะให้ลูกค้าซื้อแล้วจัดส่งเลยนั้น มันกลับทำไม่ได้ เพราะ ลูกค้า ไม่มีบัตรเครดิต(ถึงมีก็ไม่ค่อยจะมั่นใจในการจ่ายเงินผ่านบัตรกับ ร้านค้าโนเนม) ทำให้ธุรกรรมที่ตั้งใจจะให้เป็น ออนไลน์ ต้องกลายเป็น ออฟไลน์ เสียครึ่งหนึ่ง แต่ ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ กลับกลายเป็นว่า ผู้บริโภคยอมรับกับการซื้อของขายของกึ่ง ๆ ออนไลน์แบบนี้เสียอีก แค่เพียงไปโพสในบอร์ด แล้วก็รอออเดอร์ ติดต่อกันทางโทรศัพท์ โอนเงินส่งของกัน เราคิดว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ระบบแวดล้อมของไทย พัฒนาตามต่างประเทศทัน หรือมีมาตรฐานมากกว่านี้ เช่น กฎหมายที่เข้มงวด ระเบียบข้อบังคับในการคืนของ การสร้างความมั่นใจในระบบจ่าย/ตัดเงินของบัตรเครดิต จะทำให้ ธุรกรรมอิเลคทรอนิคส์ เติบโต และ ครบวงจรมากกว่านี้ ณ ขณะนี้ ในฐานะเราที่เป็นทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ยอมรับว่า การโอนเงิน โทรจอง โทรติดต่อ สร้างความมั่นใจให้เรามากกว่า ที่เราจะซื้อของผ่านระบบคอมพิวเตอร์ จากคุณ : beadlover เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 14:19:06

ความคิดเห็นที่ 19 ในฐานะคนซื้อ เราก็ชอบซื้อจาก webboard มากกว่า เพราะมีโอกาสเลือกสินค้า และเปรียบเทียบราคาหลายร้าน แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน จากคุณ : Blue_HaY เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 15:13:12

ความคิดเห็นที่ 20 ซื้อขายผ่านหน้าเว็บบอร์ด ก็เหมือนแผงลอยทั่วไปครับ คือไม่ค่อยมีระเบียบ ไม่มีระบบคอยจัดการใดๆเท่าไหร่ เน้น PM หรือโทรคุย นัดส่งของกันตามใจชอบ (เช่นส่ง พกง. หรือนัดเจอตามสถานีรถไฟฟ้า ฯลฯ) แต่หากผู้ซื้อ ผู้ขาย มีการพัฒนาให้เป็นระบบมาตรฐาน เช่นระบบ Online Shop > Shopping Cart > Online Payment รูปแบบการซื้อการขาย ก็จะยกระดับเป็น e-commerce ที่แท้จริงครับ ไม่ใช่แค่ e-catalog แบบที่เห็นกันดาษดื่นในปัจจุบัน จากคุณ : the เด็ก เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 54 17:32:24

ความคิดเห็นที่ 21 ขอเข้ามาคุยด้วยนะคะ ฐานะที่อยู่ต่างประเทศ อยู่บ้านว่างจัดค่ะ เข้าไปในเวบขายของ ฝรั่งคนซื้อต่อราคาสุด ๆ แหลกลาญ(เขียนผิดขออภัย) ก็หน้าที่เขาลงขายของ เขามีช่องให้พูดคุยกันได้ มือหนึ่ง มือสอง ร้านค้า มีหมด ในเวบนี้ สนุกดีค่ะ ซื้อของราคาถูกจ่ายเงินทางเวบมาสเตอร์ เสียค่าธรรมเนียมนิดหน่อย ถ้าของแพงใชัวิธีโอนเงินเอา ถ้าชาวบ้านธรรมดามาขายของแพง คนซื้อถามหาใบเสร็จ ถ้ามีก็ได้ราคาหน่อย ถ้าไม่มี แทบไม่ได้ราคาเลย พวกนึกว่าขโมยมา ก็ว่าไป พวกที่อยากได้ของถูก ๆ เผื่อฟลุ๊ก อ้อ เวบนี้เขาให้สมาชิกเข้าไปขายของได้ฟรี ๆ ว่าจะเข้าไปขายของสักหน่อย มีแต่ซื้อ ๆ หมดไปหลายแล้ว แต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะขายอะไรดี เวบของเขาคงมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการจ่ายเงินซึ่งก็เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ซื้อ และรายได้จากโฆษณาหน้าเวบ เข้าไปในเวบนี้แล้วติดค่ะ วันไหนไม่ได้เข้าไปเหมือนขาดอะไรสักอย่าง เท่าที่เห็นเวบแบบนี้เมืองไทยยังไม่มีค่ะ เสียดายตัวเองทำเวบไม่เป็น จากคุณ : min bedstemor เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 54 01:28:36

ความคิดเห็นที่ 22 ผมก็ทำระบบ e-catalog เพราะสินค้ามีเยอะมาก และมีรายละเอียด เยอะอีกต่างหาก มีการต่อรองราคา เงื่อนไขการจัดส่ง ดังนั้น ลูกค้าต้องการพูดคุยกับทางร้าน ได้ยินเสียง มาเจอที่หน้าร้าน เว็บไซด์เป็นแค่การประชาสัมพันธ์ เป็นแค่การโฆษณา ยังไงคนไทย ก็ยังเป็นคนไทย สินค้าบางอย่าง ขอให้ได้มาจับ มาลูบ มาไส่ดู แล้วค่อยตัดสินใจซื้อ ยังไงก็ขอให้ได้คุยกับคนขาย มันเหมือนมีความสัมพันธ์กันอยู่ ยังไงก็แล้วแต่ ขอให้ได้คุยกับคนขายถึงจะซื้อ...อย่างนี้ก็มี จากคุณ : น้าเดช เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 11:48:29 A:183.89.220.122 X: TicketID:288860

ความคิดเห็นที่ 23 ผมก็ทำระบบ e-catalog เพราะสินค้ามีเยอะมาก และมีรายละเอียด เยอะอีกต่างหาก มีการต่อรองราคา เงื่อนไขการจัดส่ง ดังนั้น ลูกค้าต้องการพูดคุยกับทางร้าน ได้ยินเสียง มาเจอที่หน้าร้าน เว็บไซด์เป็นแค่การประชาสัมพันธ์ เป็นแค่การโฆษณา ยังไงคนไทย ก็ยังเป็นคนไทย สินค้าบางอย่าง ขอให้ได้มาจับ มาลูบ มาไส่ดู แล้วค่อยตัดสินใจซื้อ ยังไงก็ขอให้ได้คุยกับคนขาย มันเหมือนมีความสัมพันธ์กันอยู่ ยังไงก็แล้วแต่ ขอให้ได้คุยกับคนขายถึงจะซื้อ...อย่างนี้ก็มี จากคุณ : น้าเดช เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 11:48:46 A:183.89.220.122 X: TicketID:288860