หลักธรรม หลักชัยของพ่อค้า จากกระทู้ธรรมะครับ

เรื่อง: เข้าใจธรรมะแบบง่ายๆ[คำถามที่๕๙๘-ปัญหาหนี้สินจากธุรกิจ]


เป็นธรรมะ กับเรื่องใกล้ตัวดีครับ น่าจะนำไปใช้ และเข้าใจกันได้ง่าย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านครับ

อนุโมทนาบุญแก่ผู้ที่สนใจทุกท่าน และ ขอให้บุญรักษาครับ

-โทษคนอื่นได้กิเลส โทษตนเองได้ปัญญา
-กิเลสไหลท่วมท้นใจทั้งคืนวัน คิดว่าปัญญาเพียงน้อยนิดจะเอาชนะกิเลสได้

*ควรใช้ปัญญาพิจารณาทุกครั้งในการรับข้อมูล ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อครับ

ขอบคุณ เวป raksa-dhamma ครับ
--------------------------------------------------------------------------
คำถาม
ตอนนี้ดิฉันกลุ้มใจมากค่ะ มีหนี้สินเยอะแยะมากมาย งานธุรกิจที่ทำก็ไม่ค่อยมีรายได้เข้าที่ควร มีรายจ่ายเท่าเดิม รายรับน้อยลงเกิดปัญหาพอกพูนหนี้ อยากให้คนเดินทางช่วยแนะนำดิฉันด้วยค่ะ จะทำอย่างไรให้จิตใจสบายและสามารถพ้นจากกรรมตรงนี้ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ

ตอบ
เรื่องนี้ เหมือนก้อนด้ายที่ยุ่งเหยิง ท่านผู้ถามต้องทำความเข้าใจ ยอมรับ แล้วค่อยๆแก้ปัญหาไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งอย่างไรเสีย...ต้องยอมรับว่า นี้เป็นส่วนหนึ่งของวิบากที่ท่านทำไว้ในอดีตอันแห้งแล้งและกันดาร...ความตระหนี่ในอดีตอันอาจจะเกิดประกอบร่วมในการทำกุศลใดๆ มีการให้ทานที่ให้แล้วมีความตระหนี่เป็นบริวารก็ได้...หรือเพราะกิเลสที่เนื่องด้วยความตระหนี่ อันได้แก่ มัจฉริยะ นั้น เกิดขึ้น แล้วผลก็กำลังเบียดเบียนกุศลที่ท่านมีอยู่ให้อ่อนกำลัง หมดกำลัง เข้าถึงความลำบาก..เป็นไปด้วยยาก...นี้เป็นผลแห่งอดีตเหตุอันยาวไกลที่ท่านทำมา
คราวนี้ ตกมาถึงปัจจุบันนี้ ผลที่เกิดนั้น... จริงอยู่แม้จะมีส่วนของวิบากกรรมเก่าที่ส่งผลหนุนขึ้นมาก็ตามที แต่ก็พึงเห็นว่า ความเพียรที่เป็นไปกับการเพียรผิด ไม่แยบคายในปัจจุบันก็เป็นเหตุใหญ่เช่นกัน
เพราะธรรมของพ่อค้าที่จะประสบความสำเร็จนั้นก็ต้องอาศัยองค์ประกอบเพื่อผลนั้นๆด้วย...

พระองค์ทรงแสดงเรื่ององค์ประกอบของพ่อค้าที่จะประสบความสำเร็จนั้นต้องมี องค์ประกอบดังนี้
1.มีตาดี..ได้แก่วิสัยทัศน์ การมองการณ์ไกลได้เป็นอย่างดีไม่ผิดพลาด ...เช่นรู้ว่าสินค้าอะไรดี เหมาะกับตลาด เป็นที่น่าสนใจ... และฉลาดที่จะรู้ทางหนีทีไล่..เช่นรู้ว่าฤดูนี้เหมาะแก่การลงทุนเพิ่ม หากไปสงวนโอกาสก็ทำให้ได้ผลน้อย..หรือรู้ว่า ระยะนี้ควรจะหยุดขยายการลงทุน หากไปดันทุรังทำ ก็จะเสียหายเป็นต้น เรื่องอย่างนี้ ท่านเรียกว่า ผู้มีตาดี...

2.เป็นผู้มีความขยัน.... เป็นคนมีความคิดริเริ่ม ใส่ใจค้นคว้าหาความรู้เพิ่มพูนเรื่องความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง.... คนขยันต้องทำตนให้ทันสมัยอยู่เสมอ ไม่ตกสมัย ....ต้องรู้เรื่องเศรษฐกิจของประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน หรือเมืองใกล้เคียง .... และต้องมีผู้มีความรู้เป็นที่ปรึกษา ดำเนินการประชุม ปรับปรุงกลยุทธ์ทางการค้าตลอดเวลา ขยันติดต่อ ประสานงาน ขยันหาความรู้ใส่ตนให้ทันสมัย
3.ถึงพร้อมด้วยที่อาศัย ตรงนี้หมายถึงว่า เป็นผู้ที่เพรียบพร้อมด้วยเพื่อนฝูง ...เป็นผู้มีหูตากว้างไกลเพราะมีการรู้จักผู้คนมากมาย ..การช่วยเหลือ การให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆแก่ตนเองนั้น ส่วนหนึ่งก็ต้องได้จากผู้คนที่รู้จักช่วยแนะนำ เตือนให้ระลึกได้ ให้ความรู้ คำแนะนำ เช่นแนะนำลูกค้าให้แก่เรา เพราะเราเป็นคนมีอัธยาศัยดี น่าคบ จริงใจ คนที่เขาแนะนำก็สบายใจเพราะแนะไปแล้ว คนเหล่านั้นได้รับประโยชน์จากเราจริงๆ..ดังนั้น เรื่องนี้ก็คงเป็นเรื่องมนุษย์สัมพันธ์นั่นเอง ที่มาของแหล่งข้อมูล การให้การสนับสนุนช่วยเหลือเราในด้านต่างๆ พร้อมที่จะส่งเสริมเรา หรือแนะให้เราเพลาๆไว้ก่อน ... สิ่งเหล่านี้ก็สงเคราะห์ลงอยู่ในหัวข้อนี้ค่ะ
นี่เป็นองค์ประกอบ 3 ประการที่เป็นเหตุแห่งความสำเร็จของพ่อค้า
ท่านผู้ถามก็ต้องพิจารณาปัจจุบันเหตุด้วยว่า ท่านด้อย หรือขาดองค์ประกอบใดหรือไม่ ....หากทราบแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ท่านจะต้องหาวิธีการเพิ่มพูนให้ปัจจัยนั้นๆบริบูรณ์ขึ้นมา

นอกจากนี้แล้ว ก็ขออนุญาตเสริมรายละเอียดเรื่องนามธรรมที่สมควรจะต้องศึกษาและปรับปรุงจิตใจด้วย ได้แก่
1.ทาน....ผลอันได้แก่วิบากที่เกิดแต่กรรมในอดีต หากเป็นผู้มากด้วยความตระหนี่ ก็จะให้ผลที่เป็นไปด้วยความอัตคัต ฝืดเคือง และธรรมชาติของกิเลสตัวนี้ หากใครมีแล้ว ก็นับวันจะหนาแน่นขึ้น ดังนั้น ก็มักพบว่า หากในอดีตเป็นผู้มากด้วยความตระหนี่ ชาตินี้ก็จะต้องรับผลเป็นไปด้วยความลำบาก และแม้ในชาตินี้ ก็เห็นได้ว่า กิเลสตระหนี่นี้ก็ยังเป็นไปด้วยความชำนาญ เพราะจิตนั้นสั่งสมความชำนาญไว้
ดังนั้น จึงควรพิจารณาด้วยว่า ผู้ดำเนินกิจการคือท่านผู้ถามหรือหุ้นส่วนนั้น เป็นผู้มากด้วยความตระหนี่หรือไม่...พอลงได้ตระหนี่แล้ว เพื่อนฝูงก็เสีย ผู้ที่จะส่งเสริมช่วยเหลือก็เสีย หนีจากไปหมด เพราะตระหนี่แล้ว จิตใจก็คับแคบ คิดแต่กลัวเสีย คิดแต่ส่วนที่จะได้เท่านั้น ดังนั้น หากมีปัจจัยนี้อยู่ ในองค์ประกอบเรื่อง"ถึงพร้อมด้วยที่อาศัย" ย่อมบกพร่องแน่นอน
ในบรรดาพ่อค้าทั้งหลาย เขาพอใจคบหาคนที่มากด้วย"ทาน" จิตใจกว้างขวาง ไม่คับแคบ ไม่เห็นแก่ตัว นี่จะนำมาซึ่งผู้อุปถัมภ์ ผู้อุปการะมากมาย เพราะเป็นคนไม่เอาเปรียบ คนที่ติดต่อคบค้าด้วยก็ย่อมสบายใจ
และโดยอานิสงส์แห่งทานนั้น ย่อมเป็นเหตุแห่งการรับ...การให้เป็นเหตุ..การรับจะเป็นผล นี่เป็นกฏของธรรมชาติค่ะ

2.เป็นผู้มีศีล มีสัจจะ ไม่โป้ปด หลอกลวง..ของจริงย่อมตั้งมั่นอยู่ได้..ของปลอมย่อมไม่ยั่งยืน ...
เพราะเหตุที่ว่า ผู้มีศีลนั้น กลิ่นศีลย่อมหอมทวนลม...
ธรรมชาติกลิ่นใดๆในโลกนี้ย่อมมีลมเป็นผู้พาไปในที่ต่างๆ ดังนั้นกลิ่นในโลกนี้ย่อมตามลมไป ... แต่ทว่า กลิ่นศีล ย่อมขจรขจายไปได้ทั่วทุกทิศ ไปได้ทั้งตามลม และทวนลม ...เพราะชื่อเสียงดี ใครๆก็ให้ความเคารพ เชื่อมั่นและนับถือ อยากคบค้าสมาคมและช่วยเหลือ
และศีลนั้นแหละ เป็นที่มาแห่งโภคะทรัพย์ทั้งหลาย
บุคคลผู้เสียศีลแล้ว ย่อมเข้าถึงความวิบัติ ไม่สามารถรักษาทรัพย์ไว้ได้เลย
บุคคลผู้มีทานกุศล มีศีลกุศลแล้ว ย่อมอยู่เป็นสุข ไม่เดือดร้อน อำนาจแห่งทานย่อมทำให้ได้รับอานิสงส์เป็นบุคคลผู้มากด้วยโภคะ... อำนาจแห่งศีลทำให้ตั้งมั่นอยู่ในความเจริญ ก็บุคคลที่มีกุศลทั้งสองนี้ เขาย่อมมีความร่าเริงบันเทิงใจ...ก็พระองค์ทรงแสดงว่า เขาย่อมร่าเริงบันเทิงใจแม้ในโลกนี้ และบันเทิงแม้ในโลกหน้า....

ดังนั้น ข้อแนะนำทั้งหมด ท่านจงนำไปพิจารณาเถิด แล้วนำไปปรับปรุงการทำงานตลอดจนจิตใจของท่านด้วย ประโยชน์ย่อมเกิดได้แน่นอน
การเดือดร้อนเศร้าหมอง ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรๆในโลกนี้แม้แต่น้อย ....แต่การพิจารณาด้วยความแยบคาย แล้วตั้งใจปรับปรุง"เหตุ"ให้ถูกต้อง ก็ย่อมเกิด"ผล"ที่ปรารถนาได้ ....เพราะผลนั้นฟ้องเหตุ
จึงสมควรปรารภที่เหตุ อย่าไปปรารภผล มิฉะนั้นท่านก็จะเดือดร้อนเรื่อยไป
ปรับปรุงการจ่ายให้เท่าหรือพอแก่รายรับ ขณะนี้ต้องแก้ไขโรคฉุกเฉินก่อน
เรื่องบางอย่าง เดินหน้า..ก็ชื่อว่า ก้าวหน้า
เรื่องบางอย่าง อยู่เฉยๆ ก็ชื่อว่า ก้าวหน้า
หรือเรื่องบางเรื่อง ถอยหลัง จึงจะชื่อว่า ก้าวหน้าค่ะ

ดังนั้น ท่านผู้ถามต้องจัดการเรื่องฉุกเฉินนี้ก่อน จะก้าวหน้า หรือจะอยู่เฉย หรือจะถอยหลัง .....หรือจะเสริม หรือจะตัดทอนลง หรือจะขยาย...ท่านต้องพิจารณาด้วย"ตาดี"ของท่านด้วยค่ะ
ฉลาดหา ฉลาดใช้ ฉลาดเก็บออมด้วยค่ะ


credit คุณ AngleScholes เว็บ ซ็อกเกอร์ซัค ครับ

จากคุณ	: Zhounat
เขียนเมื่อ	: 29 มิ.ย. 54 17:23:28