ลิงกับลา
หญิงชาวบ้านคนหนึ่ง...อาศัยอยู่คนเดียวในกระท่อม
ด้วยความเหงา...
นางจึงหาสัตว์มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน 2 ตัว คือ...ลิงกับลา... วันหนึ่ง...หญิงชาวบ้านคนนี้ต้องออกไปตลาด
เพื่อหาซื้ออาหาร ก่อนออกจากบ้าน...
เธอได้เอาเชือกมาผูกคอลิง
แล้วมัดขาของลาเอาไว้ทั้ง 2 ข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงทั้ง 2 ตัว เดินย่ำไปมา
ในกระท่อมจนทำให้ข้าวของต่าง ๆ ได้รับความเสียหาย
ทันทีที่หญิงชาวบ้านออกจากบ้านไป ลิง...ซึ่งมีความฉลาดและแสนซน
อันเป็นคุณลักษณะประจำตัว ก็ค่อย ๆ คลายปมเชือก
ออกจากคอของมัน อีกทั้งยังซุกซนไปแก้เชือกมัดขาให้แก่ลาอีกด้วย หลังจากนั้น...เจ้าลิงก็กระโดดโลดเต้น
ห้อยโหนโจนทะยานไปทั่วกระท่อม
จนทำให้ข้าวของต่าง ๆ ล้มระเนระนาด
กระจัดกระจายไปทั่ว อีกทั้ง..ยังซุกซน
รื้อค้นเสื้อผ้าของหญิงชาวบ้าน มาฉีกกัดจนไม่เหลือชิ้นดี
ในขณะที่ลาได้แต่มองดูการกระทำของเจ้าลิงอยู่เฉย ๆ
สักครู่หนึ่ง... หญิงชาวบ้านคนนี้ก็กลับมาจากตลาด
เจ้าลิงมองเห็นเจ้าของเดินมาแต่ไกลจากทางหน้าต่าง
ก็รีบเอาเชือกมาผูกคอตนไว้อย่างเดิม
และอยู่อย่างสงบนิ่ง...
ฝ่ายหญิงชาวบ้าน...เมื่อเปิดประตูกระท่อมเข้ามา
เห็นข้าวของของตนถูกรื้อค้น กระจุยกระจาย เช่นนั้น
ก็เกิดโทสะขึ้นมาทันที จึงหันหน้าไปมองลิงกับลา เพื่อดูว่า...ใครเป็นผู้ก่อเรื่อง และเห็นว่า..ลา..
ไม่มีเชือกผูกขาดังเดิม เธอจึงคิดเอาเองว่า...
เจ้าลานี่เอง..คือตัวปัญหา ทำให้กระท่อมของเธอ
มีสภาพไม่แตกต่างไปจากโรงเก็บขยะ
ดังนั้น...หญิงชาวบ้าน จึงวิ่งไปหยิบท่อนไม้นอกบ้านมา
ทุบตีลาอย่างรุนแรง ซึ่งเจ้าลาผู้น่าสงสาร
ก็ได้แต่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจนสิ้นใจตาย
โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย
เธอทั้งหลาย...
เธอหลายคน...คงไม่ค่อยชอบตอนจบของนิทานเรื่องนี้นัก
เพราะสงสารเจ้าลา...ที่ไม่ได้ทำความผิดอะไร
แต่กลับถูกเจ้าของทำโทษจนตาย ส่วนเจ้าลิงซึ่งเป็นต้นเหตุแท้ ๆ กลับรอดพ้น และไม่ได้รับผลกรรมใด ๆ
แต่แท้ที่จริงแล้ว...นิทานเรื่องนี้ ต้องการชี้ให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของหญิงชาวบ้าน
ที่ไม่พิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้ เชื่อแค่สิ่งที่ตนเห็น....
แล้วลงโทษไปตามความรู้สึกและประสบการณ์ส่วนตัว
เธอมองเห็นข้าวของเสียหาย และมองเห็นลาที่หลุดออกมาจากเชือก
แล้วตัดสินว่า...ลาคงเป็นผู้กระทำ แต่ไม่ได้มองว่า...ลาไม่มีปัญญาจะแก้เชือก
และไม่มีนิสัยชอบรื้อค้นทำลายข้าวของ เธอมองเห็นลิงยังถูกเชือกล่ามอยู่ ก็คิดว่าเอาว่า...ลิงคงไม่ใช่ผู้กระทำ
แต่มองไม่ออกว่า...ผู้ที่น่าจะแก้ปมเชือกได้ และมีนิสัยชอบรื้อทำลายนั้น..คือ..ลิง..
ความจริง..ถ้าเธอรู้จักสำรวจร่องรอยความเสียหายสักเล็กน้อย
เธอก็จะพบรอยเท้าและฟันของลิงกระจายไปทั่วห้อง
แต่จะไม่พบรอยเท้าของลาเลย เพราะลาไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน
เหตุที่องค์กรของเราต้องเหน็ดเหนื่อยทรมานกันอยู่ทุกวันนี้...
ก็เพราะความสะเพร่าของผู้นำที่ "ปล่อยให้ลิงสร้างปัญหา แต่ลารับเคราะห์" ลาก็เหมือนกับคนที่ปฏิบัติงานได้ตามหน้าที่ แต่ไม่ค่อยมีปากมีเสียง พูดจาตรงไปตรงมา แต่ไร้เล่ห์เหลี่ยม
ลิงก็เหมือนกับคนที่ฉลาดแกมโกง พูดมาก พรีเซ็นต์เก่ง อ้างอิงตำราได้สารพัด แต่ไม่เคยทำงานจริงจัง
นายที่ดี...ไม่ควรปล่อยให้ลิงหลงระเริงว่าทำผิดเท่าไหร่นายก็ไม่มีทางรู้
ผู้เป็นนายไม่ควรยึดติดกับความสบาย นั่งขึ้นอืด..รอฟังแต่รายงานในห้องประชุม
นายที่ดี...ต้องรู้จักยอมเสียสละตน เสียสละเวลาอีกเล็กน้อย ...เพื่อค้นหาความจริง เพื่อควบคุมเจ้าลิง...
เพราะไม่เช่นนั้น...องค์กรก็จะทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้าลิงสงบได้...องค์กรก็จะพลอยสบายและมีความสุขอย่างยั่งยืนไปด้วย
จากคุณ |
:
สุดแสนเริงร่า
|
เขียนเมื่อ |
:
30 มิ.ย. 54 13:11:29
|
|
|
|