 |
ผมมองว่านโยบายนี้สุ่มเสี่ยงต่อการบริหารจัดการการเงินการคลังของประเทศ
|
 |
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนครับว่าไม่ได้ดูถูกแนวความคิดหรือวิธีเลือกของใครทั้งสิ้น ด้วยเข้าใจถึงวุฒิภาวะและค่านิยมของแต่ละคนและโดยส่วนตัวก็มิได้มีอคติใดๆกับพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใดทั้งสิ้น วิจารณ์กันแค่แนวนโยบายล้วนๆ ในฐานะปชช.คนไทยคนหนึ่งที่ไม่ค่อยสบายใจกับ3เรื่องนี้ครับ
แต่สิ่งที่ผมค่อนข้างเป็นห่วงกับนโยบายรบ.ปู1
1.ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300บ.เท่ากันในทุกพท.ทั่วประเทศ
2.ปรับฐานเงินเดือนแรกรับของน้องๆที่จบป.ตรีเป็น15,000บ.ทั้งหมด
3.นโยบายรับจำนำข้าวเปลือก
1.ปรับค่าแรงขั้นต่ำ300บ.ทั่วประเทศ โอเคครับดีกับแรงงานแน่นอน เงิน/คชจ.สะพัดมากขึ้นมีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้นก็เท่ากับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไปด้วย....แต่ครับแต่..อย่าทำเป็นดีใจไปกับนโยบายนี้ คุณปูวาดฝันเรื่องนี้ออกมาโดยนำเรื่องลดภาษีมาเป็นตัวล่อและเป็นการหาทางออกเพื่อปลอบใจผู้ประกอบการและนักลงทุนทั้งหลาย ถามกลับว่าวันละ300บ.กับข้าวของที่เตรียมจะปรับราคาและการปรับราคาครั้งนี้ผมเชื่อว่าจะเป็นไปอย่างรุนแรง เนื่องจากการปรับค่าแรงที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในระบบ
สิ่งที่จะตามมาที่พอจะคาดเดาได้ว่า จากนี้อีกไม่นานจะมีผู้ประกอบการSMEsอีกนับร้อยนับพันที่จะล้มหายตายจากไปกับการปรับค่าแรงครั้งนี้ มันไม่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหรอกครับแต่อาจใช้เวลาอีกสักหน่อยถึงจะเริ่มเห็นผลกระทบและจะค่อยๆรุนแรงขึ้น แน่นอนครับว่าบริษัทขนาดใหญ่ย่อมไม่ได้รับผลกระทบนี้หรือถ้ามีก็น้อยมาก เนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่พวกนี้สามารถใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการผลิตได้ตามกำลังเงินที่มีอยู่ค่อนข้างมาก แต่SMEsละครับ ผมไม่รู้ว่ารบ.คุณปู1เตรียมอกเตรียมใจที่จะรับภาวะที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแล้วหรือยัง แรงงานอีกมากมายที่จะกลายเป็นคนว่างงานอีกครั้ง ปัญหาอื่นๆที่จะตามมาอีกเพียบ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และอาชญากรรมลำพังแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวก็คงทำให้รบ.คุณปู1เหนื่อยพอแรงแต่ยังจะมาพ่วงไปกับข้อ2.ที่ผมเกริ่นไว้แล้วนี่จะทำให้ยิ่งเหนื่อยหนักก็เป็นได้
2.ปรับฐานเงินเดือนเด็กจบป.ตรี15,000บ. จากเดิม7,000-8,000บ.นึกดูครับว่าขึ้นไปกี่เปอร์เซนต์ และไม่ใช่แค่เด็กจบใหม่นะครับ คนเก่าๆละที่รับเงินเดือนฐานเดิมอยู่ ก็ต้องปรับให้ใช่มั้ยหรือคุณจะปล่อยให้เด็กจบใหม่รับเงินเดือนกระโดดข้ามหัวคนเก่า แล้วยังไงล่ะ ใช้เงินเพิ่มอีกเท่าไหร่ คนเก่าที่ได้เงินเดือนฐานเดิมอยู่ในธุรกิจSMEsมากมายเหลือเกิน ถามว่าผู้ประกอบการจะกล้าจ้างเด็กจบใหม่มั้ย ผมว่าน่าคิดนะ15,000บ.กับคนที่ไม่มีปสก.มาเลย กับลูกน้องเก่าปัจจุบันที่รับอยู่8,000-20,000บ./เดือน จะขยับปรับเงินกันยังไงดีล่ะ จะรับเด็กใหม่เพิ่มเพื่อขยายกิจการแต่ต้องจ่าย15,000บ./เดือนกับปสก.เป็นศูนย์ และลูกน้องเดิมที่เคยรับอยู่15,000บ./เดือนต้องขยับเงินเดือนขึ้นไปอีกกี่เปอร์เซนต์ถึงจะทำให้ลูกน้องเก่าไม่รู้สึกว่า โหย..ทำงานกับบริษัทมา3ปีต้องมารับเงินเท่าเด็กจบใหม่เลยเหรอ ถ้าบริษัทปรับเป็นสมมุติ20,000บ./ด. คชจ.ที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าไหร่/เดือน เทียบกับการลดภาษีประจำปีให้ โอว..มันช่างต่างกันมากมาย
3.การรับจำนำข้าวเปลือก เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมมองว่าสุดท้ายจะพากันล่มจม จำได้มั้ยครับสมัยนั้นที่พี่ชายคุณปูเป็นนายกฯ ก็ด้วยนโยบายนี้แหละครับที่ทำให้สถานะการเงินของประเทศต้องหดหายไปมากมาย
ลองนึกถึงโรงรับจำนำดูนะครับ สมมุติผมมีสร้อยคอทองคำหนัก1บ.เดินเข้าไปโรงรับจำนำ สมมุติราคาทองวันนี้บาทละ20,000บ. โรงรับจำนำจะให้เงินผม25,000บ.มั้ยครับ ไม่มีทางใช่มั้ย อย่างมากก็ประมาณ60-80%เป็นอย่างสูง เอ้า!ผมให้80%=16,000บ.แล้วกัน ด/บก็ว่ากันไประยะเวลาผ่อนก็ว่ากันไป
แต่รบ.คุณทักษิณทำยังไง ตัวเลขที่แสดงนี้เป็นตัวเลขที่ผมสมมุติขึ้นนะครับแต่วิธีการตั้งตัวเลขก็จะแสดงให้เห็นว่าเมื่อยุคนั้นทำแบบที่ว่านี่แหละครับ
ราคาข้าวในตลาดโลกตันละ12,000บ. รบ.รับจำนำที่ตันละ14,000บ.ขณะที่ราคารับซื้อที่หน้าลาน10,000บ. ชาวนาเมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จก็นำมาเข้าโครงการรับจำนำถึงเวลาก็มารับเงินไป รบ.เองก็พยายามจะดันราคาข้าวให้ขึ้นไปถึง18,000-20,000บ.ให้ได้แต่คิดผิดครับ ทำยังไงราคาตลาดโลกก็ไม่ขยับไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ ทำไงล่ะทีนี้ เก็บครับสต็อคข้าวไว้ในโกดังรอจะขาย นานเข้าราคาก็ไม่ไปข้าวเมื่อเก็บนานๆวันเข้าคุณภาพก็เริ่มลดลง ทั้งมอดทั้งแมลงก็เริ่มโจมตี อุตส่าห์หาวิธีขอแลกเปลี่ยนกับสินค้าจากประเทศอื่นๆก็แล้วก็ยังไม่หมด สุดท้ายต้องจำใจขายขาดทุนมโหฬาร บักโกรกกันไปตามๆกัน ถามว่าเงินจากไหนละครับ ก็ของพวกเราไงภาษีทั้งนั้นที่เอาไปละเลง แล้วนโยบายนี้จะกลับมาหลอกหลอนคนไทยอีกแล้วหรือครับ
ผมเชื่อว่าหลายท่านย่อมมีความเห็นแย้งกับผมแน่ๆ ยินดีรับฟังครับ เปิดกว้างแต่ขอให้เป็นข้อความที่สุภาพนะครับ ขอบคุณทุกความเห็นต่อจากนี้ไปครับ
| จากคุณ |
:
ร้าวราน..ใน..ร้าวฉาน  
|
| เขียนเมื่อ |
:
7 ก.ค. 54 18:52:54
|
|
|
| |
