ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเป็นร้านค้าออนไลน์ ผมยังคิดว่าร้านค้าสำเร็จรูปหรือทำเว็บเองยังดีกว่าขายบน facebook นะครับ ผมรู้สึกว่าคนใช้ facebook ไม่ค่อยอยู่ในอารมณ์จะซื้อสินค้า สักเท่าไหร่ เล่นเอาสนุกมากกว่า แต่ถ้าใช้ facebook เพื่อสร้างกระแสหรือโปรโมทร้านค้าก็อีกเรื่องนึง ผมเองยัง ไม่ค่อยเก็ทว่าเขาทำกันยังไง แต่ก็ได้ยินว่ามีคนทำแล้วได้ผลดีมาก ขนาดร้าน ก๋วยเตี๋ยว ร้านกาแฟเล็กๆ ยังมีทำเลยครับ จากคุณ : PoojeeChunn เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 13:15:39

ความคิดเห็นที่ 2 ผิดแล้วครับ Facebook เนี่ยอะ ขายของ ได้อย่างดี และดีมากเลย เป็นการขยายฐานลูกค้า อย่างดีให้แก่ร้านคุณเลย พี่สาวผม ตอนแรกเปิดเว็บขาย ก็มีฐานลูกค้าอยู่กลุ่มนึงพอสมควร มาระยะหลัง เริ่มลงสินค้าผ่านหน้าเฟสบุ้ค เพราะสะดวกและเร็วกว่า ผลปรากฏว่า ลูกค้าเพิ่มขึ้นเยอะเลย เนื่องจาก เพื่อนของเพื่อน พอเห็นสินค้า ที่หน้าwall ของเพื่อน ก็จะตามเข้ามาดูสินค้า แต่ทั้งนี้ การขายของใน เฟสบุ้ค ควรมี ความเหมาะสมพอดี ไม่ไปติดแทค สินค้ามั่ว ใช้การโพสใน wall ตัวเอง หรือหากอาจจะติดแทค สินค้า ของลูกค้าได้เพื่อแจ้งว่าสินค้า ส่งออกแล้ว จากคุณ : ฉอยจ้า เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 13:27:09

ความคิดเห็นที่ 3 ของเราใช้วิธี ลงสินค้าทาง FBด้วย แต่ให้คลิกเข้ามาสั่ง หรือ แจ้งโอน ทางเว็บ แทน เพราะใน FB สั่งใต้รูปเลยเนี้ย แม่ค้าหายาก แถมกลับมาดูรำบากไม่รู้รูปไหนอีก เลยต้องทำคู่กันไป แต่มันใช้คุยกับลูกค้าง่ายมากจริงๆ คะ จากคุณ : แห้วหวาน เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 14:34:27

ความคิดเห็นที่ 4 เราขายของทางเว็บ ปกติจะใช้ Facebook ในการประชาสัมพันธ์มากกว่า เพิ่งจะมา ทดลองขายเพราะลูกค้าอยากสั่งในเฟส :จุดนี้ทำให้เราพบว่า การซื้อสินค้าในเฟส ลูกค้าจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนทันสมัย เข้าถึงเทรนด์ ตามหลักการตลาด เพราะขนาดชวนให้มาดูในเว็บ ของก็เยอะกว่า ดูง่ายกว่าก็ไม่เอา เราเริ่มขายครั้งแรก เรารู้ตัวว่าเป็นคนโลว์เทค เลยเลือกเปิดเป็นรอบก่อน ลงสินค้า 10 กว่าชิ้น ระยะเวลาสั่ง 5 วัน ตัดรอบ พ้นจากนี้ไม่รับแล้ว ใครอยากซื้อแจ้งใต้รูปเลย แล้วเราจะรวมยอดพร้อมส่งเลขที่บัญชีให้ทีหลัง : จุดนี้ทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกว่าต้องซื้อตอนนี้ เพราะถ้าช้าปิดรอบไปแล้วจะอดซื้อ ผลที่ได้ 5 วัน เราได้ยอดสั่งซื้อ เกือบหมื่นบาท แต่มีคนที่โอนเงินจริงเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น : จุดนี้ทำให้เรารู้ว่า การเร่งปิดการขายทำให้คนตัดสินใจซื้อเร็วจริง แต่เมื่อเขากลับไปนอน คิด สินค้าที่เขาซื้ออาจไม่ใช่สิ่งที่ต้องการจริงๆ ซ์้อเพราะอารมณ์ ลูกค้าค่อนข้างหลักลอย มากกว่าในเว็บ เพราะเราไม่มีชื่อจริง ที่อยู่ เบอร์โทร รู้แต่ว่าเป็นแฟนเพจ...ตามไม่ได้ หลังจากพิจารณาแล้ว เราคิดจะขายต่อไป เพราะอย่างน้อยก็ยังได้ลูกค้า ไม่ถึงกับเป็น 0 ช่วงที่เปิดขาย เราได้แฟนเพจเพิ่้มขึ้น หน้าเฟสเราดูคึกคักคนเข้ามาดูเต็มเลย มีถาม-ตอบกันสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซด์หรือเฟส ถ้ามีคนเข้าคึกคักมันสร้างความ "น่าซื้อ" ให้เกิดขึ้นได้ค่ะ จากคุณ : สกุลลัน (สกุลลัน) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 16:04:25

ความคิดเห็นที่ 5 Facebook ไม่ได้ตอบโจทย์การค้าขายออนไลน์  ไม่สนองการใช้งานการหาซื้อของ ของลูกค้า เช่น ลูกค้านึกอยากซื้อของเล่นชิ้นนี้ พฤติกรรมแรกคือ หาใน google แล้วลองดูผล search ใน google สิ ไม่มีของที่วางขายใน facebook โผล่เลย จากคุณ : ลาช่า เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 16:06:33

ความคิดเห็นที่ 6 Face book เหมาะแก่การหาเพื่อนของเพื่อน และเพื่อนๆ เข้าหน้าเว็ป มาสั่งในเว็ปอยู่ดี แต่สั่งผ่านหน้า FB ยอมรับว่าสบายกว่า เพราะคนส่วนใหญ่ login ค้างไว้ หรือ บางคนเล่นผ่านมือถือ การถามตอบ หรือแจ้งเตือนการแจ้งเตือนจะดูง่ายมากเลยคะ จากคุณ : แห้วหวาน เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 16:19:17

ความคิดเห็นที่ 7 มันแล้วแต่สินค้าด้วยครับ ถ้าเป็นสินค้าพวกน้ำหอม เสื้อผ้า เครื่องสำอาง โทรศัพท์มือถือ ก็เหมาะที่จะขายใน เฟสบุค หาลูกค้าได้ง่ายด้วย แต่สินค้าบางอย่างก็ไม่เหมาะครับ ใช้เฟสฟุคเป็นช่องทางในการติดต่อเพิ่มเติมอย่างเดียว จากคุณ : คิดถึงแล้วรักป่ะ เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 17:05:11

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนนี้เราก็ Get code กล่องคอมเม้น FB มาใส่ในร้าน พอดีเปิดร้านกับพันทิปมาร์เก็ตอะ นะ ช่วยให้ติดต่อง่าย แล้วก็ถ้ามีคนมาโพส ก็ช่วย PR ร้านไปในตัว  แต่ บอกลูกค้าเลยว่า อย่าสั่งบน FB เหมือนที่ความเห็นบนๆบอกแหละ มันติดต่อกลับยากจริงๆ ใช้ส่ง PMจะง่ายกว่า จากคุณ : แห้วหวาน เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 17:37:04