Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อยากทำเว็บไซต์ขายของ ช่วยอ่านตรงนี้ก่อนนะครับ[article] ติดต่อทีมงาน

บทความครับ เอามาให้อ่านกัน

====
หลังจากคลุกคลีอยู่ในวงการเว็บไซต์ไทยมานานมากแล้ว ได้รู้ได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง

ตอนแรกตั้งใจจะแชร์ประสบการณ์การทำงานเขียนโปรแกรม แต่มันคงจะลึกเกินไป เพราะคนส่วนใหญ่ชอบบอกว่า โปรแกรมเมอร์ชอบพูดภาษาต่างดาว -”-


นอกจากผมจะทำงานบริษัทเป็น Webmaster & developer ให้กับเว็บไซต์แห่งหนึ่งแล้ว ผมก็จะมีรายได้มาจากการรับงานอิสระ หรือที่เรียกกันว่า Freelance?

?

การรับงาน Freelance นั้น ทุกอย่างเราต้องทำคนเดียวหมด เมื่อได้รับการติดต่อมา จากเพื่อน คนรู้จักบอกว่า มีคนสนใจจะทำเว็บไซต์ขายของ แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร เค้าหาคนทำอยู่ เค้าก็แนะนำและให้เบอร์ผมกับลูกค้าไป แล้วเค้าก็จะโทรมาแจ้งอีกที

- ให้ความรู้

เพราะลูกค้าส่วนมาก ไม่รู้อะไรเลย เราต้องบอกว่าถ้าจะทำเว็บไซต์ มีต้นทุนอะไรบ้าง การจดโดเมน การเช่า hosting การจ้างเขียนโปรแกรม

?

- ให้คำแนะนำ

ลูกค้าหลาย ๆ คนโทรมาและบอกความต้องการของเค้าซึ่งฟังดูดี แต่อาจจะไม่เวิร์ค เช่น ลูกค้า A โทรมาบอกว่าอยากทำเว็บไซต์เพื่อขายเฟอนิเจอร์ โดยมุ่งไปที่กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ


เมื่อได้โจทย์มาแล้ว หากเป็นคนอื่นเค้าจ้างทำ อยากได้ยังไงก็บอกมา หลับตาจิ้ม ๆ ให้เดี๋ยวก็เสร็จ แถมเงินดีอีกต่างหาก

แต่มุมมองของผมมันจะต่างออกไป เมื่อได้โจทย์เช่นนี้มา เราต้องคิดและประมวลผลแต่ข้อมูลมันไม่พอ เราก็ต้องถามเพิ่มอีก

?

ผม “เอ่อ ไม่ทราบว่าสินค้าที่จะขายเนี่ย คุณ…เป็นผู้ผลิตเองหรือเปล่าครับ หรือว่าขายมานานหรือยัง”

ลูกค้า “อ๋อ ปกติผมทำงานบริษัท ของที่จะขายเนี่ยผมรู้จักกับโรงงาน เลยคิดจะหารายได้เสริม”

ผม “นั่นหมายความว่า ไม่เคยขาย ไม่ได้ผลิตเอง แต่รู้จักโรงงานนะครับ”

ลูกค้า “ครับ”

ผม “กลุ่มเป้าหมายจะเป็นลูกค้าต่างชาตินะครับ แล้ววางแผนอะไรไว้บ้างครับ”

ลูกค้า “ตอนแรกตั้งใจจะเปิดร้าน แต่ต้องใช้ทุนสูง ค่าเช่าที่ ต้องมีคนเฝ้า มันวุ่นวาย เลยคิดว่าทำเว็บไซต์เนี่ยล่ะ ถูกสุด แถมหลากหลายกว่า เผื่อได้ออเดอร์ต่างชาติเยอะ ”

ผมคิดในใจ [เอาแล้วไง ไม่รู้อะไร คิดว่ามันง่าย เดี๋ยวก็พังไปเป็นแถบ]

ผม “แล้ววางแผนการขายยังไงครับ ติดต่อกับโรงงานไว้หรือยังครับ ว่าพี่จะเอาของมาขายในเน็ต”

ลูกค้า “ก็ไม่ได้มีแผนอะไร ก็ไปที่โรงงาน ถ่ายรูปสินค้ามาโพสไว้ แล้วก็รอให้คนเข้ามาดู ถ้าลูกค้าจะซื้อสินค้า ก็ให้หักเงินผ่านบัตรเครดิต แล้วเราก็ส่ง order ไปให้โรงงานส่งของให้”

ผมคิดในใจอีกรอบ [มาอีกแล้วครับ จับเสือด้วยเชือกว่าว ระวังเชือกขาด โดนเสือแว้งกลับมางับหัวนะครับคุ๊ณณณณณ]

ผม “แล้วคุณคิดว่าในเว็บที่จะให้ทำ จะมีอะไรบ้างครับ”

ลูกค้า “ไม่รู้เหมือนกัน ก็ทั่ว ๆ ไปมั้ง ออกแบบสวย ๆ มี product cataloque แล้วก็ระบบสั่งซื้อ หักเงินผ่านบัตรเครดิต”

ลูกค้า “อ้อ แล้วช่วยทำแบบให้ผลการค้นหาอยู่อันดับแรก google ด้วยนะ” (เอาแล้วไง คิดว่าง่ายมั้งนั่น)

ผม “แล้วคุณตั้งงบประมาณสำหรับจัดทำเว็บไซต์ไว้เท่าไรครับ”

ลูกค้า “ผมก็ไม่รู้เรื่องราคาพวกนี้เลยนะ ก็ 3-5 พันมั้งนะ ไม่น่าเกินหรอก”

ผมคิดในใจรอบที่ 3 [เอ่ออ 3-5 พันบาท ออกแบบหน้าแรกยังไม่พอเลยครับ เอ่อ #@$!%#!#%!$#%@$^^@%$#@#%$#@^&*&]

ผม “อืม ๆ งั้นผมแนะนำว่า หากต้องการลองทำตรงนี้ ผมแนะนำว่าลองใช้พวกระบบร้านค้าที่สามารถใช้ฟรีก่อนดีไม๊ครับ เพราะว่าลงทุนไปหากไม่มีความรู้เลย หากพลาดพลั้งหรือว่าไปไม่ไหว จะได้ไม่เจ็บตัวเยอะ ต้องบอกก่อนเลยการทำเว็บไซต์จะมีส่วนออกแบบหน้าตา ออกแบบระบบ การถ่ายรูปสินค้า แล้วก็การประชาสัมพันธ์ ?และงบที่คุณตั้งไว้ต่ำเกินไปครับ ปกติผมรับงานเริ่มต้นที่ 20,000บาทครับ โดยค่าดีไซน์หน้าตาเว็บ คนออกแบบก็คิดหมื่นนึงแล้ว แต่ถ้าอยากทำจริง ๆ ผมลดให้ได้นะ แต่ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทแน่ ๆ ครับ เอางี้คุณลองวางแผนใหม่อีกรอบนึง ถ้าสงสัยอะไรโทรสอบถามที่ผมได้ครับ ถ้าไม่ได้ทำงานอะไร ผมให้คำปรึกษาฟรีครับ”

ลูกค้า “ครับ ๆ “?

ตู๊ดๆๆๆ วางทันที

[อธิบายเหตุผล]

ปกติการทำเว็บไซต์ ผมจะให้ดีไซน์เนอร์รุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกันเนี่ยออกแบบให้ ซึ่งงานของพี่เค้าดีมากครับ แต่เค้าจะเริ่มต้นค่าออกแบบที่ 10,000 -15,000 บาทต่อเว็บ นั่นหมายถึงว่ายิ่งผมรับงานที่ราคาถูกมากเท่าไร ผมยิ่งได้เงินค่าจ้างน้อยลงไปอีก แต่ผมก็ยอมที่จะรับเงินน้อย แลกกับผลงานใน portfolio ครับ

?

เมื่อออกแบบหน้าตาแล้ว ผมก็ต้องมาออกแบบฐานข้อมูล , flow งาน ,user interface ทั้งหน้าเว็บ(Frontend)และระบบหลังร้าน(Backend) ซึ่งส่วนใหญ่จะเหมือน ๆ กันหมดต่างกันที่การเก็บข้อมูลและการแสดงผล และบางส่วนสามารถเอาโค๊ตเก่ามาประยุกต์ใช้ได้ (หรือเรียกว่าการ copy แปะ แล้วปรับ ๆ เอา ประหยัดแรงงานและเวลา)

จึงเป็นเหตุผลแรกที่ผมไม่ทำให้คือ ลูกค้าคิดว่าทำเว็บมันง่าย ถูก และไม่แพง สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมือนทำนามบัตร นั่นหมายความว่าลูกค้าไม่มีความรู้เลย และมีงบจำกัด

เหตุผลที่สอง การมีงบจำกัดสำหรับทำ e-commerce หากว่างบน้อยเกินไป สุดท้ายเว็บไซต์มันก็จะตายแล้วเน่าค้างไซเบอร์สเปซอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะหมดอายุ?

ผมลองประเมินค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ให้ฟังละกัน

1.จดโดเมน 300 – 500 บาทต่อปี แล้วแต่ที่ แล้วแต่นามสกุล?
2.ค่าเช่า Host มีตั้งแต่ 2000 – หลายแสนบาท ต่อปี ขึ้นอยู่กับการใช้งาน กับคุณภาพ
3.ค่าจัดทำ อันนี้ลองย้อนขึ้นไปอ่านด้านบน
4.ค่าประชาสัมพันธ์ โฆษณา?

[การแจกแจง]

1.การจดโดเมน

- มีลักษณะการจดรายปี แล้วแต่ reseller ว่าจะตั้งราคากี่บาท และส่วนมากจะเป็นผู้ให้บริการ hosting ด้วย?

และการตั้งชื่อโดเมนก็สำคัญ ลูกค้าบางคนต้องการเอาชื่อบริษัทมาเป็นเว็บไซต์ เช่น safeandfurniturethailand.com (เป็นชื่อที่ยกตัวอย่างมาของบริษัทขายตู้เซฟนะครับ อ่านว่า เซฟ – แอนด์ – เฟอนิเจอร์ -ไทยแลนด์ ดอท คอม) จะยาวไปไหน ทั้งที่ตอนนั้นโดเมนว่า safethai.com ยังว่างอยู่ ดังนั้นชี้ให้เห็นว่า การจดโดเมนก็เป็นเรื่องที่ห้ามมองข้ามในการทำเว็บไซต์

?

2.ค่าเช่า Hosting

- ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพและการใช้งาน ลูกค้าบางคนเลือกที่จะหาเช่า hosting เองด้วยเหตุผลด้านราคา เราเสนอ hosting ราคากลาง ๆ คุณภาพดีให้ แต่กลับไปหาเองแล้วโอนจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว แล้วส่ง user/pass มาให้ผม ไอหย๋า เก๊กซิมสุด ๆ?

?

เข้าไปดูปุ๊บ เอ่อ ผมเขียนระบบด้วย php บน linux แต่ดันไปเช่า host ที่เป็น windows/IIS มาให้ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้ .NET มากกว่า

ร้ายกว่านั้นเช่าพื้นที่มา 100 MB ?โอ๊ว ๆๆๆ ฆ่ากันเลยดีกว่า ไม่รู้ทำไมไม่ถาม อ๊ากกกก ( 100 MB ใช้เป็นไฟล์โปรแกรมกับรูป ก็ตก 10-20 MB โดยประมาณ แต่ฐานข้อมูล รูปภาพสินค้า ภาพใน gallery ใส่ได้ไม่กี่รูปก็เต็มแล้ว)


สุดท้ายก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำไป เกิดอะไรขึ้นผมไม่รับรู้ ทำงานเสร็จรับตัง แล้วแยกทางกันดีกว่านะเฮีย


3.ค่าจัดทำ ย้อนไปอ่านด้านบนครับ


4.ค่าประชาสัมพันธ์และโฆษณา

- ข้อนี้ผมเชื่อว่าหลายคนที่คิดจะค้าขายผ่านเว็บไซต์ ไม่ได้นึกถึงและตั้งงบตรงนี้ไว้เลย อย่างที่เจอลูกค้าต้องการให้ผลการค้นหาอยู่ในอันดับหนึ่งกูเกิ้ล

ซึ่งมันไม่ได้ทำง่าย ๆ มันไม่ใช่ว่าเขียนโปรแกรมแล้วระบุได้ว่าจะให้ผลการค้นหาอยู่ตรงไหน หากคุณต้องการให้ผลการค้นหาที่ดี คุณต้องเรียนรู้การทำ SEO ทั้งการเขียนโปรแกรม การทำคอนเท้นต์ การหา Back link และมันต้องใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี และไม่สามารถการันตีได้ว่าจะได้ที่ 1 ไม๊ หรือได้ที่ 1 แต่จะอยู่ตรงนั้นได้กี่วัน และต้องการใช้ kw อะไร มีคู่แข่งเยอะแค่ไหน

ทั้งหลายที่กล่าวมา มีบริการรับจ้างทำครับ แต่ราคาก็ไม่เบาเหมือนกัน ยกตัวอย่าง บริษัท B รับทำ SEO ให้เลือก keyword 5 คำ โดย 1 ใน 5 คำนั้นจะอยู่อันดับหนึ่งของ google ได้ ภายใน 6 เดือน หาก 1ใน 5 คำนั้นไม่ได้ขึ้นอันดับหนึ่ง ยินดีคืนเงิน ด้วยราคา 5 หมื่นบาท (ลูกค้าสะดุ้งกันอีกรอบ -*-)

?

นอกจากนี้บางคนทำเว็บแล้ว ก็ปล่อยไว้อย่างนั้น นั่งจุดธูปเช้าเย็นขอ order แต่ก็ไม่มี
มันจะมีได้ไงครับ เหมือนคุณวาดรูปสวยสุด ๆ แต่คุณตั้งขายไว้ในห้องน้ำบ้านตัวเอง แล้วใครจะไปรู้ล่ะ สิ่งที่คุณต้องทำคือการประชาสัมพันธ์ครับ?

การออกไปประกาศให้โลกรู้ว่า มีเว็บไซต์ของคุณ ที่ขายของดีมีคุณภาพ และราคาถูก ด้วยการโพสลิ้งของเว็บซะบ้าง

แต่การโพสนั้นต้องมีหลักการ ถ้าไม่อยากโดนด่า แล้วโดนแบนจากหลาย ๆ เว็บด้วยข้อหา SPAMMER


แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 00:53:51

จากคุณ : เค้าเปล่านะ
เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 00:48:50




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com