Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มาดูกันว่าดิฉันวางแผนใช้ชีวิตยังไงกับเงิน 5000 บาทสุดท้าย ในขณะที่กำลังตกงาน และไม่มีเงินเก็บเลยสักบาท ติดต่อทีมงาน

รับเงินเดือนเดือนสุดท้ายเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมาค่ะ หักรายจ่ายประจำทุกอย่างแล้วตอนนี้เหลืออยู่ 5500 บาทถ้วนๆ เลยค่ะ

ของมีค่าติดตัวที่มีก็มีเพียง
1. กล้องดิจิตัล ราคา 15000 บาท ที่ใช้เงินโบนัสปีที่แล้วซื้อมาใช้ได้ 8 เดือน สภาพยังใหม่มาก
2. BlackBerry Curve 3G เครื่องหิ้วจากมาบุญครอง ราคา 8000 บาท ใช้มา 5 เดือน สภาพยังดี
3. คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุค เก่าๆ ตกรุ่น แถมเปิดไม่ติดมาเป็นปีแล้ว ยังไม่ได้เอาไปซ่อมสักที ตอนซื้อมาแพงมาก เพราะสเปคมันสูง แต่มันก็คืออดีต ตอนนี้คงทำได้เพียงขายแยกส่วน หวังว่าจะได้สักพันนึงนะ ของแบบนี้ทำให้ดิฉันได้บทเรียนว่า “อย่าซื้อสเปคสูงเกินการใช้งานของเรา” ตอนนี้ใช้บริการร้านเน็ตมาเป็นปีๆ จ่ายค่าเน็ตเดือนนึงเป็นพันค่ะ เอาสะดวกเข้าว่า

ข้อเสียอย่างแรงของดิฉันคือ เป็นคนเก็บเงินไม่เคยอยู่ ได้มาเท่าไหร่ใช้หมด ใช้เงินเดือนชนเดือนตลอด ทำงานได้เงินมาก็เปลี่ยนเป็นของใช้พวกนี้ แล้วถึงเวลานึงราคามันก็ตกจนแทบจะให้ฟรีกันเลยทีเดียว ดิฉันเคยซื้อมือถือเครื่องละ 2 หมื่นโดยไม่คิด เพียงเพราะมันเป็นรุ่นที่ดีที่สุด ณ ตอนนั้น หลายปีผ่านไป มือถือเครื่องนั้นมาบุญครองยังไม่อยากได้เลยค่ะ ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เก็บเงินซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ไม่ได้สักที ก็ต้องเสียเงินให้ร้านเน็ตอยู่ร่ำไป

ดิฉันส่งอีเมล์สมัครงานไปบ้างแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็ยังเงียบอยู่ มีโทรมาถามบ้างว่าจะสมัครตำแหน่งนี้จริงๆใช่มั้ย ดิฉันตอบไปอย่างมั่นใจว่าถ้าได้ก็ทำค่ะ แล้วเค้าก็เงียบไป ยังไม่โทรมานัดสัมภาษณ์เลย

ดิฉันถูกบีบให้ออกโดยไม่ได้รับเงินชดเชยค่ะ โทษฐานบกพร่องในหน้าที่ เจ้านายและฝ่ายบุคคลเสนอให้ดิฉันเขียนใบลาออกเองแลกกับการไม่มีเร็คคอร์ดว่าถูกให้ออกจากงาน ดิฉันยังอยากทำงานสายเดิมและจำเป็นต้องใช้ที่นี่เป็น reference โดยที่หัวหน้ายินดีเป็น reference พูดถึการทำงานที่ดีที่ผ่านมาของดิฉันหากนายจ้างคนใหม่จะโทรมาสอบถาม ในขณะที่ HRไม่ได้ยืนยันอะไร แต่ดิฉันก็รู้จัก HR ดีว่ามักจะตอบทุกคำถามเสมอ ใช่มั้ยคะ โดยเฉพาะคำถาม “เคยทำอะไรผิดหรือเสียหายบ้างหรือไม่” แม้ความผิดของดิฉันจะไม่ร้ายแรง แต่ดิฉันเชื่อว่า HR ซึ่งเพิ่งเข้ามาเริ่มงานที่บริษัทนี้ได้เพียง 1 เดือนกว่าๆ และไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดิฉันแสดงผลงานที่ดีเยี่ยมจนเป็นที่พอใจของผู้บริหารชุดเก่าและลูกค้าท่านนั้นเป็นอย่างมาก กอบกู้ชื่อเสียงของบริษัทได้ถึง 2 ครั้ง 2 คราภายในเวลาสั้นๆ แต่ที่สุดแล้วทั้งลูกค้าและผู้บริหารชุดเก่าก็ไม่มีใครช่วยดิฉันไว้ได้ มันน่าน้อยใจค่ะ

ตอนนี้ดิฉันหวังว่าจะได้งานโดยเร็ว ถ้าได้เริ่มงานภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้จะดีมาก เพราะดิฉันจะได้เงินเดือนถึงครึ่งเดือนมาประทังชีวิตเดือนหน้า แต่ดิฉันก็ต้องวางแผนสำรอง (ซึ่งควรเป็นการเก็บออมก่อนหน้านี้มากกว่า) เอาไว้แบบนี้ค่ะ

ดิฉันจะขายของมีค่า 3 ชิ้นที่เขียนไว้ด้านบนทั้งหมด แม้จะรักกล้องตัวนั้นมากแต่ก็ต้องตัดใจ มีเงินแล้วค่อยซื้อใหม่ BB ก็ไม่จำเป็นแล้ว เพราะไม่ต้องเช็คอีเมล์ที่ทำงานตลอดเวลาอีกต่อไปแล้ว ส่วนโน๊ตบุคตัวเก่านั้นก็ทำได้เพียงขายแยกชิ้นส่วนค่ะ ภาวนาให้ได้ถึงสัก 2 พันนะ สาธุ

แต่ก่อนที่ดิฉันจะขายกล้องนั้น ดิฉันจะถ่ายรูปเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า สาระพัดที่ซื้อมาด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ซื้อมาแล้วคิดว่ามันสวยดี แต่ไม่เคยได้เอาออกมาใส่เลยสักครั้ง ดิฉันจะถ่ายรูปเอาลงเว็บขายของมือสองให้หมด หมดนั่น ถ้าขายได้ก็ได้หลายร้อยหรืออาจเป็นพันนะ (ก็ราคามือสองนี่นา)

นอกจากนั้นยังมีหนังสือ pocket book ที่ซื้อมาอ่านบ้าง ตั้งไว้เฉยๆ บ้าง เยอะแยะเต็มไปหมด จะขายเหมาให้ร้านหนังสือมือสองให้หมด เก็บไว้แต่เล่มที่เราได้อ่านแล้วชอบเท่านั้น ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหามาก ย้ายหอมาก็หลายครั้งแต่ไม่เคยตัดใจทิ้งได้เลยสักที จนกระทั่งครั้งนี้มีความจำเป็นของชีวิตแล้ว ต้องตัดใจค่ะ

นี่ถ้าการขาย DVD หนังมือสองไม่ผิดกฎหมาย ดิฉันก็จะขายด้วยอีกอย่าง ไม่ได้ติดตามข่าวนั้นค่ะว่าสรุปแล้วเป็นยังไง ตกลงคนขายผิดและถูกปรับจริงหรือไม่ ใครทราบก็ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ แต่ดิฉันคงขายเป็นอย่างสุดท้าย เพราะรักมาก

ดิฉันหวังว่าการที่ขายของมีค่าที่ดิฉันมีทั้งหมดนี้จะได้เงินถึง 15000 บาท หรือมากกว่า เพื่อจะพอจ่ายค่าหอเดือนถัดไป และดิฉันวางแผนหารายได้โดยการนำเงินส่วนนี้ไปซื้อคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคเครื่องใหม่ ที่ราคาไม่ถึงหมื่น นำมาใช้อินเตอร์เน็ตที่ห้อง ไม่ต้องเล่นที่ร้าน ซื้อชั่วโมงรายเดือนสูงสุดที่หอยังไงก็ไม่ถึง 1000 บาท แล้วรับแปลงานภาษาอังกฤษ (บอกเพื่อนๆ ให้ช่วยหาแล้วค่ะ แต่ใครพอมีลู่ทางก็บอกกันได้นะคะ) รับสอนพิเศษภาษาอังกฤษ เพราะดิฉันใช้ได้เป็นอย่างดีทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน และสามารถสอนการออกเสียงได้ด้วย (ตรงนี้ก็ขอฝากเหมือนกันค่ะ)

ดิฉันไม่กล้ายืมเงินเพื่อนๆ หรือบอกทางบ้านค่ะ อยากจะช่วยเหลือตัวเองให้เต็มที่ก่อน ไม่อยากให้ใครไม่สบายใจ เอาไว้ถึงที่สุดถ้ามันไม่ดีขึ้น ดิฉันคงได้ทำตามอย่างกระทู้แนะนำ คือกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัด

ชีวิตคนเราบางทีมันก็มีจุดเปลี่ยนมาให้ได้คิดอะไรรอบคอบขึ้น กว้างขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น อย่างน้อยครั้งนี้ดิฉันก็ได้บทเรียนหลายๆ อย่าง ได้รู้วิธีก้าวเดินอย่างระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม และรู้จักใช้ความรู้ความสามารถที่มีมาประยุกต์ใช้หางานพิเศษบ้าง ไม่ใช่วันหยุดหรือมีเวลาว่างก็พักผ่อนอย่างเดียว หรือไม่คิดพยายามเก็บออมเงินยามลำบากอย่างนี้เลย

หวังว่าอีกหลายๆ ท่านที่ประสบปัญหาเดียวกันจะไม่ย่อท้อและพยายามหาทางสู้ต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้กันและกันนะคะ แล้วยังไงจะส่งข่าวนะคะ

ขอบคุณมากๆ ที่ติดตามอ่านจนจบค่ะ

จากคุณ : Crazy Girl
เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 06:59:59 A:180.183.110.254 X: TicketID:226373




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com