Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เมื่อได้ลองไปเป็นพ่อค้าส้มตำในตลาดนัด. ติดต่อทีมงาน

ก็คิดมาตลอดครับ ว่าอยากจะมีร้านส้มตำเล็กๆ เป็นของตัวเอง ตกแต่งร้านให้ดูโปร่งๆ โล่งๆ แต่ชุ่มชื่นไปด้วยต้นไม้สีเขียว

แต่สุดท้าย ไม่กล้าเสี่ยง ไม่มีทุน และยังคงเป็น ลูกจ้างประจำ ที่ต้องนั่งทำงานตั้งแต่เช้าจนเย็น เลิกงานก็กลับบ้าน

แต่แล้ว เมื่อวันหยุดยาว 3 วันที่ผ่านมา คิดมาตลอดสัปดาห์ว่า วันหยุดนี้ต้องลองให้ได้ ต้องไปขายให้ได้ คิดเอาไว้ 3 เมนูง่าย ที่เราถนัด เป็นใบเบิกทางก่อน นั่นก็คือ  ส้มตำข้าวโพดหวานไข่เค็ม  ส้มตำเห็ดยอดมะพร้าวอ่อน และลาบเห็ด

เวลาว่างจากการทำงาน นั่งวางแผน ต้องซื้ออุปกรณ์อะไรบ้าง วัตถุดิบอะไรบ้าง จัดแจงเช็คราคาสินค้าจากเว็บต่างๆ

วันหยุดวันแม่ ตื่นเช้าไปใส่บาตรก่อนเลย เอาฤกษ์เอาชัย สายๆ ไปเดินซื้อของ พวกกล่อง กระปุ๊ก ทัพพี ชามใหญ่ กระชอน บลา.... หมดไป 410 บาท  เป็นเงินลุงทุนก้อนแรก สำหรับสินค้าทุน

เช้าวันเสาร์ จะไปซื้อของสด แวะไปดูสถานที่ขายของก่อน แวะไปสอบถามแม่ค้าแถวนั้น ว่าเค้าเปิดจองพื้นที่ขายที่ไหน เวลาไหน ราคาเท่าไร  สรุป ค่าที่ 60 บาทต่อล็อค เปิดขายตั๋วบ่าย 2  

พอได้ข้อมูลเบื้องต้นแล้ว มุ่งหน้าตลาดสี่มุมเมือง ซื้อของสด ต่างๆ เช่น
เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู ยอดมะพร้าวอ่อน ข้าวโพดหวาน พริก มะนาว มะเขือเทศราชินี หอม กระเทียม บลา.... หมดไปอีกเกือบ 500 บาท

กลับมาบ้าน ช่วยกัน จัดแจงแบ่งงาน ล้างเห็ด ล้างผัก ต้มข้าวโพด หั่นหอม พริก คั่วถั่วลิสง ทำข้าวคั่ว พริกป่น เรียกว่า วุ่นวายไปหมดเลย

นี่ถ้าขายไม่หมด มีหวังได้เบื่อเห็ดกันคราวนี้แหละ

เตรียมของเสร็จ บรรจุกล่องเรียบร้อย อาบน้ำแต่งตัว เตรียมเดินทาง ไปรอตั้งแต่บ่ายโมง ไปนั่งรอ ยืนรอคนขายตั๋ว แดดก็ร้อน นี่เราพาแฟนมาลำบากด้วยหรือป่าวหว่า  ความฝันของเราคนเดียวแท้ๆ ทำไม ต้องลากเค้ามาด้วยกันละนี่

บ่ายสอง ก็ไปเข้าแถวซื้อตั๋ว เนื่องจากเ้ราเป็นพ่อค้า ขาจร จำ้เป็นต้องรอให้ขาประจำเค้าตั้งแผง ตั้งร้านเสร็จก่อน บ่าย 3 ครึ่งถึงได้รู้ว่า ต้องไปตั้งร้านตรงทำเลไหน

โชคไม่ดีเลย ทำเลร้านเรา ไปตั้งตรงข้างร้านขายดอกไม้ แต่ตรงข้ามกับร้านขายสลัดผักเำื่พื่อสุขภาพ เห้อ...แล้วของเรามันจะได้ขายหรอเนี๊ยะ 555+  มองหน้ากัน 2 คนแ้ล้วก็หัวเราะ สงสัยได้กินเห็ดกันจนอ๊วกแน่ๆ

ตั้งร้านเสร็จ 4 โมงเย็น ลูกค้าเริ่มเยอะ เริ่มมาจับจ่าย ซื้อข้าวของ ซื้ออาหารกัน ร้านสลัดฝั่งตรงข้าม ลูกค้าแวะเวียนมาไม่ขาด ร้านดอกไม้ด้านข้าง ก็ขายดีไม่แพ้กัน  ร้านของเรา มีแต่คนมอง แล้วเดินเลยผ่านไป

ลืมบอกไปว่าวันนั้นแดดร้อนมาก เนื่องจากเป็นพ่อค้าใหม่ ร่มใหญ่กันแดดก็ไม่มี  โต๊ะวาง ก็เอาโต๊ะไม้ยางพารา โต๊ะกินข้าวที่บ้านมา เก้าอี้เล็ก 2 ตัว มองไปที่หน้าแฟน เริ่มแดงกล่ำแล้ว เพราะฤทธิ์แดด แต่ตัวเรา ดำดีสีไม่ตกอยู่แล้ว

สงสารก็สงสาร นาทีนั้น เริ่มรู้สึกว่า อยากพาแฟนกลับบ้านแล้วสิ ป้ายราคา 30 บาทที่ทำมา ถูกเก็บลงไปไว้ใต้โต๊ะนานแล้ว ตั้งแต่ได้ยิน ร้านสลัดร้องขายว่า 20 บาท

สักพักน้องชาย น้องสาว ก็มาถึง มีร่มเล็กๆ ที่ได้เป็นของแถมของธนาคารม่วงมาด้วย เลยรีบกางให้แฟน แล้วก็ให้น้อง ไปเดินเที่ยวตลาดเพื่อสำรวจกัน เผื่อจะมีไอเดียใหม่ๆ ว่าควรหาอะไรมาขายดี

ไม่นาน น้องก็เดินกลับมาบอกว่า ตลาดของกินเพียบเลย น่ากินทั้งนั้น  ได้ฟังยิ่งทำให้ใจเสียเข้าไปอีก เห้อ.... พ่อค้า มันเป็นกันลำบากขนาดนี้หรอ

ช่วงนี้ใครเดินผ่าน ก็มอง คงอยากรู้ว่าเราขายอะไร เราก็พยายามร้องบอก ว่าเรามาขาย ลาบเห็ด ส้มตำข้าวโพดไข่เค็ม และส้มตำเห็ด ก็มีแต่คนมอง แต่ไม่มีใครเอ่ยปากสักที

จนวินาทีนั้น เราตัดสินใจว่า ลองทำลาบ และส้มตำใส่ถุง วางหน้าร้านเป็นตัวอย่างแล้วกัน ให้ลูกค้าได้เห็นหน้าตาบ้าง  แต่ด้วยมือใหม่ มัดปากถุงก็ไม่สวย น้องสาวเลยช่วยมัดใหม่อีกที

คราวนี้ แฟน และน้องชายบอกว่าหิวแล้ว  ก็น่าจะหิวอยู่หรอกนะ ผมกะแฟน ตื่นเ้ช้าขึ้นมา ยังไม่ได้กินไรกันเลย คงเพราะมัวแต่ตื่นเต้น อ้อ ได้กาแฟเย็น 1 แก้ว กินกัน 2 คน เพราะพูดติดตลกกันว่า

"กินกาแฟกันไว้ก่อน กันง่วง เผื่อขายไม่ได้เลย จะได้มีแรงไล่แมลงวัน"

ได้ผล พอตัก ตำข้าวโพดไข่เค็มใส่จาน ให้แฟน นั่งถือทานอยู่ด้านหลัง สักพัก ก็เริ่มมีคนสนใจ

และแล้ว ลาบเห็ดถุงแรก ก็ถูกขายออก คุณป้ายังสาวท่านนึง เดินมาหยุดที่หน้าร้าน ถามว่า
"ลาบเห็ดรสจัดมั้ย"
เราเลยรีบตอบไปว่า รสจัดไม่จัดบอกได้ครับ ปรุงตามสั่งให้เลย  คุณป้าเลยบอก เอาลาบเห็ดถุงหนึ่ง ขอรสจัดๆ
เรางี้ ทำไป มือสั่นไปเลย รีบปรุงให้คุณป้า ถามคุณป้าว่า จะชิมก่อนมั้ย คุณป้าบอก  ไม่ต้องหรอก เห็นตอนทำ ก็รู้แล้วว่าน่าจะอร่อย  
เป็นคำชม ที่เติมเต็มหัวใจ ที่ห่อเหี่ยวไปกับแสงแดดเผาจริงๆ เลยครับ

ไม่นาน ลูกค้า คนที่ 2 3 4 ..... ก็เริ่มมา  
ลาบเห็ด 20 บาท
ตำข้าวโพดไข่เค็ม 25
ตำเห็ดรวมยอดมะพร้าวอ่อน 25

พอแสงแดดเริ่มอ่อน คนเริ่มหนาแน่นขึ้น พอเสียงเพลงชาติไทย บอกเวลา 18.00 น ทุกคนหยุด เราเองก็หยุด ยืืนนิ่ง มองที่บนโต๊ะตอนนี้
ทุกอย่างเริ่มว่างเปล่าไปแล้ว  เหลือลาบเห็ดถุงสุดท้าย ที่เ้รากำลังปรุงค้างไว้อยู่ เพราะต้องหยุดมือ ตอนเพลงดัง

พอทุกอย่าง กลับมาพลุกพล่านวุ่นวาย หลายคนก็แวะเวียนมาถามจะซื้อลาบเห็ดบ้าง จะซื้อตำเห็ดบ้าง แต่ ณ ตอนนี้ ทุกอย่างเราขายไปหมดเกลี้ยงแล้ว

เก็บของกลับบ้านกัน ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินเลย แต่ก็ดีแล้วแหละ เพราะเราไม่ได้เตรียมไฟส่องสว่างมาด้วย เพราะคิดว่า ถ้าขายไม่ได้ ก็ต้องเก็บร้านกลับก่อนมืด

ขับรถกลับมา มองหน้าแฟน แล้วก็ยิ้ม และหัวเราะกันอย่างมีความสุข ถึงแม้ตอนนี้ หน้าแฟน จะยังแดงไม่หาย และเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่นั้นก็เป็นความสุขเล็กๆ ของเรา ที่ได้ลองทำ ลองลงมือทำกันจริงๆ

ขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านจนจบครับ
ปล.ขายจนไม่มีเวลาถ่ายรูป ของที่ขายมาให้ดูกัน เอาปูปลาร้า ที่ตำกินเองไปดูก่อนละกันนะครับ

 
 

จากคุณ : oดินสอน้อยo
เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 16:11:32




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com