ความคิดเห็นที่ 1 FOB JAPAN PORT เป็นราคาส่งของให้ที่ท่าเรือในบ้านเขา คุณต้องหาเฟรทเรือรับของที่ ท่าเรือบ้านเขา เพื่อส่งมาไทย และทำการออกของที่ไทยเอง ครับ จากคุณ : หัวใจนก เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 10:57:29

ความคิดเห็นที่ 2 ให้ทางญี่ปุ่นออกใบ Proforma Invoice มาแล้วนำไปทำการโอนเงินค่าสินค้า Wire transfer ไปจ่ายเขา แล้วเขาจะทำการหาเรือลงส่งให้เราเอง ถ้าส่งทางอากาศเขาก็จะหา Air courier ส่งให้เอง ผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องไปหาเรือหรือยานพาหะนะใดมาขนสินค้าที่ตนซื้อ พอของมาถึงเมืองไทยก็หาชิปปิ้งไปทำการออกของให้ แต่ก่อนอื่นผู้ซื้อ คือ จขกท มีไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้ากับกรมศุลกากรหรือยังละ ถ้ายังก็รีบไปขึ้นซะ นำหมายเลขทะเบียนประจำตัวผู้เสียภาษีไปขึ้นได้ จากคุณ : คนที่ราบสูง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:07:36 A:119.42.66.176 X: TicketID:255841

ความคิดเห็นที่ 3 FOB Japan port นั้นหมายถึง ผู้ขายดำเนินการเตรียมส่งสินค้าให้จนถึงตัวเรือ โดยรวมค่าพิธีการทางฝั่งของผู้ขาย รวมถึงเอกสาร ที่ต้นทาง ทางผู้ซื้อมีหน้าที่ 1.จ่ายเงินตามเงื่อนไข โดยกรณีนี้ จะต้องให้ทางผู้ขายออกเอกสาร Proforma invoice ให้ ระบุราคาให้ชัดเจนรวมถึงบัญชีชองผู้ขายที่ต้องการให้เราโอนเงินเข้าให้ และต้องมี "SWIFT CODE" ระบุมาด้วย เมื่อคุณได้แล้ว ก็เตรียมเงินไปติดต่อธนาคาร ให้จัดการโอนเงินให้ แล้วคุณก็เอาหลักฐานการโอนเงิน มาscan แล้วแจ้งผู้ขายไป เมื่อเขาได้รับชำระเงินเรียบร้อย เขาก็จะเตรียมส่งสินค้าให้ 2. ในกรณีที่คุณซื้อ FOB คุณจะต้องติดต่อ 2.1 FREIGHT FORWARDER คือตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ http://www.marinerthai.com/sara/view.php?No=1003 และตกลงราคาค่าขนส่งทางเรือกันให้เรียบร้อย โดยกรณี FOB คุณผู้ซื้อ ต้องเป็นคนจัดหา และจ่ายเองค่ะ เมื่อได้แล้ว ก็ให้เขาติดต่อไปที่ผู้ขายของคุณ 3. คุณต้องหา Shipping agent มาเป็นผู้ให้บริการในการดำเนินพิธีการออกของให้เมื่อสินค้ามาถึงเมืองไทย และส่งสินค้าไปให้คุณถึงที่ กรณีนี้ ผู้ซื้อเป้นผู้จ่าย ณ ที่ปลายทางค่ะ ก่อนจ่ายเงินค่าสินค้า แนะนำว่าให้ตกลงเรื่อง spec และเอกสาร ที่คุณจำเป้นต้องใช้ เพื่อดำเนินการออกของให้เรียบร้อย  และให้ระบุ ไว้ใน proforma invoice ด้วยนะคะ ถ้าไม่แน่ใจว่าต้องใช้อะไรบ้าง  แนะนำให้หาชิปปิ้งก่อน แล้วปรึกษาเขาก็ได้ค่ะ การนำเข้าสินค้า http://www.customsclinic.org/index.php?option=com_content&view=article&id=136&Itemid=165&lang=th จากคุณ : หนอนแบกเป้ (หนอนแบกเป้) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 13:35:20

ความคิดเห็นที่ 4 เพิ่มเติมค่ะ เมื่อทุกอย่างด้านบนเรียบร้อย และผู้ขายจัดส่งสินค้าออกมาให้เราแล้ว แนะนำว่า ให้ทางเขา รีบ Scan เอกสารทั้งหมด มาให้คุณดูทางเมลล์ ว่ามีอะไร ข้อความใด ผิดพลาด หรือตกหล่นหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจ ให้ส่งให้ชิปปิ้งดู ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย ก็ให้ผู้ขายส่งมาให้คุณ แล้วก็ส่งต่อไปให้ชิปปิ้ง เพื่อดำเนินการออกสินค้าค่ะ โดยชิปปิ้ง จะเป็นผู้ติดต่อกับ สายเรือ แนะนำให้ผู้ขาย อีเมลล์แจ้ง Tracking no. ของการส่งเอกสาร มาให้คุณทราบด้วยนะคะ เพราะจะได้สามารถเช็คสถานะของพัสดุได้ หากทุกอย่างเรียบร้อย คุณก็จะสามารถออกของได้ภายในสามวันค่ะ แต่หากเอกสารผิดพลาด  ต้องมีการส่งกลับไปแก้ไข จะยุ่งยาก และเสียเวลา อีกทั้งยังจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในกรณีที่สินค้าต้องมาตกค้างอยู่ที่ท่าเรือ จะถูกเก็บเงินเพิ่มรายวันค่ะ จากคุณ : หนอนแบกเป้ (หนอนแบกเป้) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 13:44:02

ความคิดเห็นที่ 5 v v แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 54 18:21:38 จากคุณ : หัวใจนก เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 18:18:38

ความคิดเห็นที่ 6 แนะนำเพิ่ม พยามขอให้เขาเสนอราคาในเทอม CIF BANGKOK จะง่ายในการนำเข้าหน่อยไม่ต้องหาเฟรทเรือเอง ส่วนในไทยค่าใช้จ่ายในการนำเข้า ตามนี้ www.topsuccess.tht.in/imp.html จากคุณ : หัวใจนก เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 18:19:33