ความคิดเห็นที่ 1 เลือกข้อ 2 ครับ  ลูกค้าสั่งแล้วยอดกำไรไม่ถึงพัน ผมไม่ขายให้ ไม่ส่งให้ ขี้เกียจครับ จากคุณ : คิดถึงแล้วรักป่ะ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 00:41:46

ความคิดเห็นที่ 2 ได้ข่าวว่า คห.1เป็นบริษัทใหญ่ไม่ช่ายเหรอค๊าาาาาาา จากคุณ : รินบุญญา เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 00:55:37

ความคิดเห็นที่ 3 คห. 2 จากคุณ : บ้านดอกชวนชมสารพัดสี เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 00:58:12

ความคิดเห็นที่ 4 เลือก 1 เราอยากได้ลูกค้าประจำ และให้เค้าแนะนำเพื่อนๆมาซื้อกับเราค่ะ ยอมกำไรน้อยหน่อย แต่ไม่ต้องเสียค่าโฆษณา แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 54 01:39:50 จากคุณ : กระบี่ในใจ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 01:39:33

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าชอบก็ต้องชอบข้อ 2 สิคะ เหนื่อยน้อย ได้กำไรเยอะ ใครก็ชอบ แต่ชีวิตจริงรู้สึกจะยังตกอยู่ข้อ 1 นะ กำไรต่อชิ้นน้อย ขายเยอะ เหมาะกับพวกร้านขายส่งมากกว่า ขายปลีกอย่างเรา ถ้ายุ่งเป็นลิง แต่กำไรนิดเดียว ก็ไม่ไหว ถ้าขายเป็นงานอดิเรกก็โอ แต่ถ้าขายเป็นอาชีพหลักก็จนตายเลย จากคุณ : JiGGO InLove เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 02:44:44

ความคิดเห็นที่ 6 คห.2    ผมก็เป็นพ่อค้าออนไลน์ตัวเล็กๆเองครับ จดทะเบียนบริษัทเพื่อที่จะได้ซื้อขายคล่องๆ เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง แค่นั้นเองครับ เวลาไปติดต่อซื้อขาย ถ้าไม่ได้ติดต่อในรูปแบบบริษัท บางหน่วยงาน บางแห่ง เขาไม่คุยด้วยเลยนะครับ  หรือ บางที่เขี้ยวๆเขาไม่คุยทางโทรศัพท์มือถือด้วยซ้ำ ต้องการคุยทางโทรศัพท์บ้านอย่างเดียว แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 54 02:50:47 จากคุณ : คิดถึงแล้วรักป่ะ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 02:48:54

ความคิดเห็นที่ 7 เลือกข้อ 1 ครับเพราะตอนนี้หันมาขายส่งอยู่กำไรต่อชิ้นน้อยมากๆเน้นจำนวน จากคุณ : withyou again เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 02:56:17

ความคิดเห็นที่ 8 1. กำไรต่อชิ้นต่ำ ขายมือเป็นระวิง ไม่ต้องเป็นลิงก็เหนื่อยจนอยากหลับ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 05:02:32

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อ 1 ค่ะ เพราะตอนนี้ขายส่งได้เยอะมาก ๆ แต่ขายปลีกก็ขายได้แต่น้อยลง ถือว่าไปได้ด้วยดีแม้ว่าจะได้กำไรน้อย ๆ แต่ส่งได้หลายกล่องพัสดุต่อวันก็พออยู่ได้ พิมพ์ผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 54 08:43:15 จากคุณ : กัญจน์ญภา เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 08:39:56

ความคิดเห็นที่ 10 เลือก 2 ข้อได้ไหมคะ ฮา แบบว่า แล้วแต่สินค้า และโอกาสนะคะ แต่ก็เน้นข้อ 1 ค่ะ จากคุณ : buchecktien เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 10:35:32

ความคิดเห็นที่ 11 เป้าหมายอยู่ ข้อ2 ชีวิตจริงยังต้วมเตี้ยมอยู่ข้อ 1 เพิ่งขายได้เดือนกว่าๆ ทุนก็มีไม่มาก อาศัยผันกำไรเป็นทุนต่อยอดไปเรื่อยๆ ขอเรียกลูกค้า สร้างความน่าเชื่อถือก่อน นี่กะเพิ่งเอากำไรจากล็อต 1 ไปซื้อของล็อต2 มาลงเพิ่ม เว็ปบอร์ดก็เริ่มคึกคัก เลขพัสดุลูกค้าเก่าเราก็มี เดือนหน้าว่าจะลองขายแบบ pre-order ด้วย กำลังศึกษา แต่ไม่รู้จะใช้บริการอันไหนดี เยอะเกิ๊น เวียนหัว 555 จากคุณ : spaghettina เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 10:43:18

ความคิดเห็นที่ 12 รอคนมาตอบครบ15คน เราจะพูดของเรามั่ง ว่าแต่จะมีคนมาตอบอีกมั้ยเนี่ย จากคุณ : รินบุญญา เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 10:59:38

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนนี้ที่ร้านผสมกันทั้งข้อ 1 และ 2 70% เป็นข้อ 1 >> ทำมานานแระ สินค้าคู่แข่งเยอะ ขายแพงไม่ได้   30% เป็นข้อ 2 >> เพิ่งเริ่มทำ คู่แข่งน้อยมาก แต่สินค้าเฉพาะกลุ่มมากๆ จากคุณ : อิ อิ อิ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 11:31:17

ความคิดเห็นที่ 14 ข้อ 1 ค่ะ เพราะตอนนี้ขายส่งอยู่ กำไรไม่มากแต่อาศัยขายจำนวนเยอะ ขายหมดเร็วก็จะได้หาแบบใหม่ๆ มาลงใหม่อีกชอบค่ะ จากคุณ : ร้านแนนกะเนย (แม่แนนเนย) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 11:48:46

ความคิดเห็นที่ 15 มาช่วยตอบให้ครบ 15 อิอิอิๆๆๆ จากคุณ : คิดถึงแล้วรักป่ะ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 12:52:48

ความคิดเห็นที่ 16 นับเป็นloginจ้ะเสี่ย หึหึ  ตอนนี้11ละ จากคุณ : รินบุญญา เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 13:06:03

ความคิดเห็นที่ 17 ผมขายแบบผสมทั้ง 2 รูปแบบครับ ต้นทุน 800 บาท/หน่วย -กำไรต่อหน่วยสูง ขายไม่กี่ชิ้นก็ขาย เป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป ลูกค้าซื้อ 1-10 หน่วย ขายราคา 1,500 บาท/หน่วย -กำไรต่อหน่วยต่ำ ขายจำนวนมาก ลูกค้าซื้อซ้ำบ่อยๆ เป็นกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ลูกค้าซื้อ 100-500 หน่วย ขายราคา 900-1,000 บาท/หน่วยครัีบ จากคุณ : pc เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 13:06:38 A:223.206.184.176 X: TicketID:315677

ความคิดเห็นที่ 18 เลือกข้อ 2 ค่ะ เพราะข้อ1 มันดูคล้ายๆการตั้งราคาถูกเพราะไปตัดราคาชาวบ้านร้านอื่นเขา เลยขายของมือเป็นระวิง  เราเป็นประเภทตั้งราคาตามตลาด ไม่ก้อแพงกว่าตลาดนิดหน่อยจ้า 555555 จากคุณ : Thundergirl เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 13:50:47

ความคิดเห็นที่ 19 เจอคนเข้าใจเราผิดจากอีกกระทู้  เลยไม่รอ15ละ เม้าท์บ้าง หลักการของเราเป็นแบบข้อ2 แต่เนื่องจากทรัพยากรมันจำกัด ก็เลยมีสินค้าตัวประกอบแบบข้อ1(กำไรต่อชิ้นต่ำ)อยู่ด้วย  แต่ที่ว่าต่ำก็ไม่มากจนถึงขั้นแข่งราคากัีบคนขายส่ง ด้วยเหตุผลสองข้อ  คือ  เราคัดคุณภาพมากกว่า(มากๆ) และอีกข้อ(อายนะเนี่ย) เราคิดเลขไม่เก่ง ชอบระแวงว่าคิดเงินผิด  ก็เลยไม่ชอบออเดอร์ยักษ์ๆ   ตอนนี้ก็พยายามลดตัวประกอบลงบ้างเพราะถึงจะมีฐานลูกค้าในส่วนนี้แต่อยากได้ความชัวร์มากขึ้น จากคุณ : รินบุญญา เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 13:53:52

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าท้ายสุด  ออกมากำไรเท่ากัน ไม่มีปัญหาเรื่องการหมุนเงิน ผมก็เลือกข้อ 2 สิครับ  เหนื่อยแรงน้อยกว่า แต่ได้เท่ากัน เอาเวลาไปคิด ไปทำอย่างอื่นได้อีก จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 15:21:09

ความคิดเห็นที่ 21 ข้อ 2 ครับ อยู่ที่การวาง position กับภาพลักษณ์ของร้าน แต่ก็มีเงือนใขถ้าลูกค้าซื้อมาก ๆ ก็จะยอมลดราคาให้ แต่ตั้งราคาไว้ตามข้อ 2 เลยครับ ลองคำนวนดูแล้ว คู่แข่ง ต้องทำยอดขายให้ได้ 5 เท่า ถึงจะได้กำไรเท่าผม แบบว่าขี้เกียจ เลยไม่เน้นที่ยอดขาย เน้นที่กำไรต่อหน่วยดีกว่า แต่ผมว่า มันก็ขึ้นอยู่กับสินค้าด้วยนะครับ ของบางอย่าง มันสามารถตั้งราคาให้สูงขึ้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ ในการเป็นสินค้าดี ราคาแพงได้ แต่ของบางอย่าง แพงไปบาทเดียว ก็ไม่ซื้อแล้ว จากคุณ : ชาวบ้าน 100% เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 22:24:34

ความคิดเห็นที่ 22 ที่ร้านทำทั้งสองตัวค่ะ มีตัวแพง ตัวถูก  ตัวกำไรน้อย กำไรมากผสมกันค่ะ ส่วนเรื่องเหนื่อย เราก็เหนื่อยทุกวัน เพราะส่งทุกวันอยู่แล้ว จากคุณ : โอลีพ/แม่น้องเซ้นต์ (olives) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 22:40:34