 |
ยังมีผู้มุ่งหวังอีกเป็นล้านๆ ราย
คืนหนึ่ง ชุมพล ก็นั่งปลงทุกข์กับภรรยาของเขาในปัญหาเหล่านี้ และทันใด
นั้น เธอก็เอ่ยขึ้นว่า
เมื่อสองปีก่อน ที่คุณตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่นั้น คุณทำอย่างไร
เขารู้สึกชะงักงัน กับคำถามของเธอ และตอบอย่างเซื่องซึมว่า
ไม่รู้ซิ คงจะเป็นเพราะอยากเลิกขึ้นมา ก็เท่านั้น
นั่นนะซิ" ภรรยาเขาตอบ เพียงแต่คุณอยากเท่านั้น
เอาละ ผมไม่เห็นเกี่ยวอะไร กับเรื่องเคาะประตูเสนอขาย ที่เราพูดกันอยู่
ตรงไหนเลย ชุมพล แย้ง
ภรรยาของเขายิ้มแล้วตอบว่า
ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะ เธอเสริม ทำไมคุณถึงไม่ทำเพียง แต่เดินเข้าไปหา
เขา แล้วก็ถามหาคนที่รับผิดชอบในงานเอกสารเท่านั้น...
บ้าละซิ ถ้าเผื่อเขาทำเฉยไม่รู้ไม่ชี้ล่ะ ชุมพล ส่วนกลับ ที่ผมกลัวก็ตรงนี้
แหละ
ถ้างั้น ก็ไปที่สำนักงานอื่นก็ได้ ภรรยาของเขาตอบอย่างหน้าตาเฉย
ชุมพล ฉุกคิดนิดหนึ่ง แล้วก็จุมพิตเธอด้วยความชื่นชม
มันก็แค่นั้นเอง ชุมพลตัดสินใจ
ทำไมเราจะต้องไปมัวกลุ้มอกกลุ้มใจ กับการปฏิเสธของผู้มุ่งหวังเพียงราย
เดียว ในเมื่อยังมีอีกตั้งหลายร้อยสำนักงาน ที่เราสามารถไปเสนอขายได้
เสมอ
เขาเริ่มต้นวางแผนอย่างสังเขปว่า ทุกครั้งที่เขาไปเยี่ยมลูกค้าเก่า ที่อาคาร
สำนักงานแห่งใดแห่งหนึ่ง เขาก็จะไปเคาะประตูเสนอขายผู้มุ่งหวังรายใหม่ที่
อยู่ในอาคารนั้นๆ ให้มากที่สุดเท่าที่เวลาจะอำนวย วิธีนี้ ทำให้เขาไม่ต้องเดิน
ทางจากโน้นไปนี้โดยปรี้ ๆเปล่า ๆ และเขายังจะใช้แผนเดียวกันนี้ กับอาคาร
สำนักงานที่อยู่ข้างเคียงอีกด้วย
จุดสำคัญก็คือว่า จากการเยี่ยมผู้มุ่งหวังรายใหม่ ทำให้เขาค้นพบความจริงว่า
เขาสามารถทำการขายได้มากขึ้น ด้วยผลกำไรที่มากกว่าด้วย เมื่อถึงสิ้นปี
ปรากฏว่า ลูกค้ารายใหญ่ของเขาส่วนใหญ่ จะมาจากลุ่มผู้มุ่งหวังใหม่ๆ เหล่า
นี้เอง ซึ่งบัดนี้ ได้กลายเป็นลูกค้าประจำของเขาไปเสียแล้ว
แผนดังกล่าว สร้างความสำเร็จให้กับ ชุมพล อย่างน่าอัศจรรย์ จนเขาไม่มี
เวลาที่จะไปนั่งทอดอาลัยอีกต่อไป เมื่อเวลาว่าง เขาก็ใช้เวลาดังกล่าว
พัฒนาปรับปรุงระบบการทำงานของเขาเรื่อยๆ เวลาถูกลูกค้าปฏิเสธ เขาก็จะ
ยิ้มขอบคุณ และรีบออกเยี่ยมลูกค้ารายใหม่อีก
ผลปรากฏว่า เขตของการทำยอดขายสูงขึ้น และขยายเนื้อที่มากขึ้น จน
บริษัทต้องหาคนมาให้เขาฝึกเพิ่มอีก 2 คน ซึ่งชุมพลมีสิทธิได้รับส่วนแบ่ง
คอมมิชชั่นจาก 2 คนนี้อีกด้วย
พนักงานขายที่ประสบความสำเร็จแทบทุกคน จะใช้วิธีเพิ่มยอดขาย และ
ขยายตลาด โดยการเคาะประตูเสนอขายผู้มุ่งหวังรายใหม่ ทุกโอกาสที่จะ
เปิดให้เสมอ
ตัวแทนขายประกันคนหนึ่ง ซึ่งมีรายได้ปีละกว่า 3 ล้านบาท ก็เริ่มต้นชีวิตการ
ขายของเขา ด้วยการเคาะประตูเสนอขายแปรงซักผ้ามาก่อน
และเดี๋ยวนี้ เขาสามารถที่จะพูดคุยกับคนแปลกหน้าบนรถไฟและ
ขายกรมธรรม์มูลค่า 200,000 ได้อย่างสบายๆ และบ่อยๆ
หลายๆ บริษัท ได้วางนโยบายให้พนักงานขายใหม่ ออกเคาะประตูเสนอขาย
ลูกค้า ทันทีที่จบการอบรมทีเดียว
ลุงจึงใคร่สรุปไว้อย่างง่ายๆ ว่า คุณจะไม่มีทางขายได้ โดยการนั่ง ซดกาแฟ
ไป จินตนาการไป หรือ ใช้เวลาทานอาหารเที่ยงเกือบ 2 ชั่วโมง อย่างเด็ด
ขาด บุคคลที่จะประสพความสำเร็จนั้น ต้องใช้เวลาทุกวินาทีที่มีอยู่ ให้เป็น
ประโยชน์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเวลาของการขายนั้น มีค่ามหาศาล พึง
ระลึกไว้เสมอว่า ในหุบเขาหรือเหมืองแร่ เต็มไปด้วยทองคำ แต่การจะได้
มาคุณก็จะต้องลงมือบุกเบิก ขุดหามันเสียก่อน
ถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะบุกบ่าฝ่าฟันไปข้างหน้า คุณก็ไม่สมควรที่จะมีอาชีพ
ทางการขาย เพราะการเผชิญหน้าระหว่างลูกค้ากับพนักงานขายนั้น เป็น
หัวใจสำคัญของอาชีพนี้ และอาชีพนี้ จะยืนยง และเจริญก้าวหน้าไปเรื่อย
อย่างไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ ก็จากการเริ่มต้นเคาะประตูเท่านั้น
ประเด็นที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การเผชิญหน้ากันระหว่าง 2 ฝ่ายนั้นจะ
ต้องริเริ่มโดยฝ่ายพนักงานเสมอ ถ้าคุณนั่งเฝ้ารอจดหมายเรียนเชิญจาก
ลูกค้า หรือรอให้ หมูวิ่งมาชนปังตอ เองล่ะก็เศรษฐกิจภายในครอบครัวของ
คุณต้อง สั่นสะเทือน แน่
จากคุณ |
:
ลุงแอ็ด
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ต.ค. 54 12:51:30
|
|
|
|
 |