 |
ขอตอบสมาชิกที่ถามมาและที่กำลังคิดจะถามผมนะครับ ขอตอบตรงนี้นะครับ เรื่องการนำเข้านั้น ผมเองก็ยังเป็นมือใหม่ กำลังศึกษาอยู่อย่างล่ะเอียด จะโดยรวมผมไม่รู้จะสรุปถูกต้องใหม รอคนที่ชำนาญเรื่องการนำเข้ามาช่วยกันตอบดีกว่า แต่ถ้าผมแนะนำ 1.สำหรับมือใหม่ ไม่เคยสั่งของจากเมืองจีนเลยแต่อยากจะลอง ก็ลองหาเอเย่นคนกลางดู ในการสั่งของแทนเรา โดยเราไม่ต้องทำอะไรมาก ก็หาจากเว็บไซต์นั่นล่ะครับ จะมีบริการนำเข้าให้แทนเรา ควรหาเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและมีตัวตน ที่สำคัญประวิติดีด้วย เราก็ไม่ต้องทำอะไรมาก เราเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์การสั่งออเดอร์จากเว็บไซต์เขา ใส่ลิ้งสินค้าที่เราต้องการจะซื้อให้เขา บอกชนิดสินค้า ,จำนวนสินค้า,ขนาด,สี และราคา ไป ทางบริษัทเอเย่น จะเข้าไปติดต่อทางร้านจีน ว่ามีสินค้าไหม และเมื่อตกลงได้แล้ว ทางบริษัทเอเย่นจะส่งยอดรวมชำระทั้งหมดให้กับเรา ส่วนใหญ่แล้ว เราจะโอนเงิน 2 รอบ รอบแรก คือ ราคาค่าสินค้าที่เราสั่ง อาจบวกค่าขนส่งภายในประเทศจีน เพราะบริษัททางเอเย่นเขาต้องนำเงินส่วนนี้ไปชำระจ่ายเงินค่าสินค้าแทนเรา ส่วนรอบที่ 2 ที่เราต้องชำระ ก็คือค่าบริการให้กับบริษัทเอเย่น ซึ่งส่วนใหญ่คิดค่าบริการเรา เป็น กิโลกกัม เช่น บริษัทเอเย่นนี้ คิดค่าน้ำหนักสินค้า กิโลกรัมล่ะ 100 บาท สินค้าของเราหนัก 60 กิโลกรัม ก้เอา 100 x 60 =6000 บาท นี่คือราคาค่าบริการที่เราจะชำระ เมื่อเราชำระเรียบร้อยแล้ว ก็ระบุวันเวลา และสถานที่ในการรับสินค้า ข้อดีของการใช้บริการบริษัทเอเย่นนำเข้า 1.สะดวกสบายเรา แค่เราเลือกสินค้าหน้าเว็บที่เราต้องการ แล้วส่งลิ้งให้เขาจัดการ เขาจะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง ไม่ว่าการคุยเจรจาต่อรองให้เนื่องจากเอเย่นมีความสามารถเรื่องภาษาอยู่แล้ว หรือการชำระเงินให้กับร้านจีนเขาก็ทำแทนให้ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องการโอนเงิน 2.เอเย่นมีประการณ์ในการสั่งซื้อมาก ทำให้รู้สถานการณ์ต่างๆ ในประเทศจีน รู้ว่าร้านใหนดี ร้านใหนไม่ดี หรือสินค้าใหนเสี่ยงที่จะเสียหาย เขาก็แนะนำให้ ยกตัวอย่าง ผมสั่งอูคูเลเล่ เขาก็แนะนำทันทีว่า ควรตีลัง เพราะสินค้าตัวนี้ ผมสั่งให้ขนส่งทางบก มีการแตกหักแน่นอน เพราะเคยมาแล้ว ซึ่งเป็นข้อดีที่เราจะได้เรียนรู้ ( แนะนำควรถามอะไรเกี่ยวกับพวกนี้เยอะๆ เพื่อเป็นแนวทางที่เราจะได้นำเข้าเอง ) 3.เรื่องภาษี ส่วนใหญ่ทางบริษัทเอเย่น จะมีการเครียร์ภาษีให้กับเราแล้ว ซึ่งค่าน้ำหนักจะบวกรวมกับภาษีแล้ว ดีกว่าเรานำเข้ามาเอง อาจเสี่ยงเจอเรียกภาษีแพงๆ อาจไม่คุ้มค่านำเข้า ส่วนใหญ่เอเย่นเขาก็มีวิธีการรับมือภาษีอยู่แล้ว ไม่ว่าด้วยวิธีใหน ข้อเสียของการใช้บริการบริษัทเอเย่นนำเข้า 1.อาจจ่ายค่าบริการเกินจริง เช่น 1.1.ถ้าให้เอเย่นติดต่อแทนเราทั้งหมด เขาอาจแอบบวกค่าใช้จ่ายโดยเราไม่รู้ อย่างเช่น ร้านค้าจีนร้านนี้ เขามี ส่วนลดสินค้า 20 % เอเย่นอาจจะไม่บอกเรา เอา 20 % เข้ากระเป๋าตัวเองก็เป็นไปได้ 1.2.อ้างว่า ร้านค้ามีการขึ้นราคาสินค้า หรือขึ้นค่าขนส่งในประเทศจีน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ 1.3 โกงน้ำหนัก เพราะเราไม่เห็นเขาชั่งให้เราดูนะครับ เขาชั่งที่นู้น แต่จะส่งบิลน้ำหนักให้เราดู และจ่ายตังค์กันไป ( ก็ไม่รู้ว่า น้ำหนักนี้จริงหรือไม่) 2.ไม่มีใบเอกสารที่แสดงการเสียภาษี เขาก็บอกว่า เครียร์ภาษีไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เวลารับสินค้า ไม่มีเอกสารใดที่แสดงเกี่ยวกับการเสียภาษีนำเข้า ในเอกสารมีแต่ชื่อผม ก็รายการสินค้าที่สั่ง ไม่มีชื่อของบริษัทเอเย่นนำเข้า เอ!!! ผมคิดว่า เขาคงเครียร์ภาษีแบบค่าน้ำร้อนน้ำชา เราก็เสียวเหมือนกัน ถ้ามีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสินค้าร้านเรา จะตอบยังไงดี 2.สำหรับคนอยากนำเข้าเองเลย หลายคนคงบ่นครับ ว่าค่าบริการเอเย่น คิดเป็นเงินรวมก็เยอะเหมือนกัน เผลอๆ ราคาค่าบริการ เท่ากับราคาสินค้าที่เราสั่ง ถ้าเป็นแบบนี้ เรานำเข้าเองเลยดีกว่าครับ ถ้าผมแนะนำ รู้จักคนจีนที่นำเข้าสักคน และเหมาเช่า เป็นตู้ไปเลย ไม่ต้องเสียเป็นกิโล รู้สึกว่าน่าจะถูกกว่าเยอะนะ แต่ข้อมูลนี้ผมยังไม่รู้มากนะครับ แต่ก็จะพยายามรู้ให้ได้ในอนาคต เห็นว่าค่าเช่าตู้คอนเทรนเนอร์ อยู่ประมาณ 200-500 เหรียญ ข้อดีการนำเข้าเอง 1.ถ้าคุณติดต่อเองกับเจ้าของร้านที่จีน คุณจะรู้ราคาที่แท้จริง อาจมีส่วนลด หรือคุณต่อรองราคากับที่ร้านจีน ถ้าหวังให้เอเย่น ต่อรองให้ คงยากครับ ถ้าทำได้ ก็เอาส่วนลดนี้เข้ากระเป๋าเอง 2.เหมาเป็นตู้ น่าจะคุ้มกว่าครับ ถ้าคุณนำเข้าเยอะๆ ดีกว่าเสียค่าบริการเป็นกิโล ถ้าคุณสั่งของ 1000 กิโลกรัม ลองคูณสิครับ เยอะเอาการ ข้อเสียนำเข้าเอง 1.ถ้าเป็นมือใหม่นัดนำเข้า อาจเสี่ยงโดนโกง คุณควรศึกษาข้อมูลให้เยอะๆๆๆ 2.ถ้าเราไม่คล่องเรื่องภาษา อาจมีปัญญาเรื่องการสื่อสาร อาจผิดพลาดในการสั่งสินค้า 3.เรื่องภาษี เราต้องศึกษาให้ดี ว่าถ้าเรานำเข้าอย่างถูกต้อง 100 % คุณจะเสียภาษีเท่าไหร่ คุ้มไหม ถ้าไม่คุ้ม คุณจะทำอย่างไร แต่ที่ผมรู้ว่า ก็มีอีกหลายวิธี ( แต่ก็เสี่ยง ) ผมว่าคุณควรรู้อะไรเกี่ยวกับพวกพวกนี้ให้มาก หรือหาเส้นสายให้ดี ในการเครียร์ภาษี ข้อมูลนี้ ผมก็มาเล่าที่เท่ารู้มานะครับ ถ้ามีใครที่มีความรู้นอกเหนือนี้ ก็เข้ามาแนะนำได้นะครับ........
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 54 18:30:59
จากคุณ |
:
แจ๊ค ห้วยสะท้อน (bumroongsheep)
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ต.ค. 54 18:26:44
|
|
|
|
 |