ความคิดเห็นที่ 1 Segment and direct market to direct potential customer then WOM and SMM. จากคุณ : เขียนบน iPad (mgolf) เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 11:55:40

ความคิดเห็นที่ 2 อะไรอะ คห 1 อาจารไม่เคยสอนหรอว่าการอธิบายอะไรให้คนฟังนะให้ใช้คำที่คนทั่วไปเข้าใจได้ แบบนี้เป้นหัวหน้าคนไม่ได้แหง อยู่ๆก็ใช้ abbreviation แบบนี้อะนะ ผมว่าถ้าเราเล็กๆแล้วเจอคู่แข่งใหญ่ๆเราต้องดูว่าอะไรที่เราทำออกมาจำนวนน้อยๆแล้วได้กำไลมากกว่าให้เขาเปลี่ยนวิธีการผลิตเขาเพราะเชื่อว่าเขามี sunk cost ในการผลิตแน่ๆ เราต้องรู้ว่าถ้าใช้อีกวิธีทำออกมาแล้วแล้วเนี่ยคนที่เขาใหญ่ๆไม่คุ้มที่จะตามเรา แต่มันก็แล้วแต่ว่าทำอะไรด้วย เพราะว่าตลาดมีความหลากหลายนั้นแสดงว่าไม่ได้จำกัดอยู่ที่สิ่งๆหนึ่ง จากคุณ : chefknife เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 16:33:16

ความคิดเห็นที่ 3 การแข่งขันสูง = กลยุทธ์ด้านราคา มีผลน้อย/ไม่มีผลเลย expน้อย = expด้านไหน ตัวสินค้า/ตลาด/คู่แข่ง/การผลิต ? อันนี้ไม่เคลียร์ กลยุทธ์ 1.สร้างbrandให้ตัวproduct วิธีตามคห.1 2.creativeลูกเล่นสินค้าให้ฉีกแนวไปเลย เหมือน ipod ทั้งนี้ทั้งนั้น ตลาดแข่งขันสูงและเรามีประสบการณ์น้อย โอกาสธุรกิจจะล่มสูง จากคุณ : วายุหมุน เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 17:58:55

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนผมทำการตลาดให้ลูกค้า ทฤษฎีที่เคยเรียนหรืออ่านมาผมไม่เคยได้ใช้เลย หรือ อาจจะใช้แต่ก็ไม่ได้ใช้แบบตรงๆ ทื่อๆ อย่างในตำรา... การตลาดก็เหมือนกับการใช้จิตวิทยาประยุกต์ เข้าไปปลุกเร้าความรู้สึกของคนให้เกิดความสนใจ (Interest) และ เมื่อสนใจแล้วก็จะปลุกเร้าให้เกิดความต้องการ (Want) จากนั้นก็จะปลุกให้ความต้องการกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ (Need) จริงๆก็มีแค่นี้ ผมใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบธุรกิจเข้ามา จากนั้นหาว่า องค์ประกอบใดบ้างที่จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนของตลาดได้บ้าง แล้วค่อยสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสม โดยใช้องค์ประกอบของธุรกิจในแต่ละด้านมาประกอบเป็นแนวทางการดำเนินการ เช่น ถ้าคุณขายมือถือ คุณก็ควรจะรู้ว่า คุณขายมือถือรุ่นไหน กลุ่มไหนน่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมาย สถานที่ของคุณเป็นอย่างไร คนกลุ่มไหนที่เดินในระแวกสถานที่คุณ ความต้องการของเขาน่าจะเป็นอย่างไร สินค้าคุณตอบสนองกลุ่มพวกนี้หรือไม่ แล้วถ้ากลุ่มเป้าหมายไม่ได้อยู่ที่จุดนี้แต่อยู่จุดอื่นจะทำอย่างไร เลือกมือถือให้ตรงกับกลุ่มคนเดินในระแวกร้านได้หรือไม่ ฯลฯ... ทั้งนี้ คุณทำในลักษณะที่ผมกล่าวมาก็จะได้แนวทางการวางแผนการตลาดได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นครับ หวังว่าคุณจะได้แนวทางในการนำไปประยุกต์นะครับ จากคุณ : wbj เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 19:10:28

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณ คุณ mgolf คุณ chefknife คุณ วายุหมุน คุณ wbj ที่ให้คำแนะนำนะครับขอบคุณครับ จากคุณ : kornzro4 เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 22:01:21

ความคิดเห็นที่ 6 ว่างๆก็ลองหาโอกาสไปคุยกับผู้ร่วมธุรกิจ (คู่แข่งนั่นแหละ) บ้างครับ ไปขอเรียนรู้วิชาจากเขาบ้าง บางคนเขาก็ใจกว้างไม่มีหวงวิชา เราสงสัยตรงไหนก็สามารถไปขอความรู้จากเขาได้ครับ จากคุณ : คิดถึงแล้วรักป่ะ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 23:09:27

ความคิดเห็นที่ 7 จุดแข็ง: ไม่มี/ไม่ได้บอก จุดอ่อน: ไม่เป็นที่รู้จัก, ขาดประสบการณ์ โอกาส: ตลาดมีความต้องการหลากหลาย อุปสรรค: การแข่งขันสูง 1. คุณต้องดูว่าคุณมีจุดแข็งหรือไม่ สร้างได้/พัฒนาได้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นด้านสินค้า ราคา ทำเล 2. ตลาดมีการแข่งขันสูง ดูว่าตลาดใหญ่แค่ไหน เพราะถ้ายังมีความต้องการหลากหลาก ถ้าตลาดใหญ่มากอาจจะต้องเลือกทำสินค้า/บริการบางตัว เพื่อลดต้นทุนสต็อก/การเทรนเกี่ยวกับสินค้าและบริการ 3. หากตลาดแข่งขันรุนแรงและเป็นตลาดที่ไม่ใหญ่ อาจจะต้องหาตลาดที่ใกล้เคียงกัน โดยสามารถใช้จุดแข็งที่มีให้เป็นประโยชน์ได้ 4. หากทั้ง 3 ข้อดูแล้วยังไม่ได้ ให้เก็บเงินทุนไว้ก่อน (555) ล้อเล่นนะครับ คุณลองไปคิดให้ตกผลึกครับ แล้วมาปรึกษากันได้อีกครับ ห้องการตลาดจะได้มีสีสันหน่อย จากคุณ : nungning เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 11:00:19

ความคิดเห็นที่ 8 STP แบ่งกลุ่มลูกค้า ตั้งเป้าหมาย วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ และใช้กลยุทธ์เข้าถึง โดยใช้กลยุทธ์ 4Cs เข้าถึงความต้องการของผู้บริโภค ให้รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร มีต้นทุนจ่ายเท่าไหร่ สะดวกซื้อที่ไหนบ้าง และจะสื่อสารกันอย่างไร และใช้วิธีบริหารจัดการแบบมีภาระดอกเบี้ยและความเสี่ยงต่ำสุด เช่น -ขายก่อนซื้อ โดยรับชำระเงินมัดจำบางส่วนหรือทั้งหมดก่อนส่งมอบสินค้าหรือบริการ -ปรับโสหุ้ยให้เป็นต้นทุนขาย ภาพพจน์บริษัทฯเล็กไม่มีชื่อเสียง ก็ไม่จำเป็นต้องสร้างภาพเพื่อไปแข่งขันกับรายใหญ่ ซึ่งทำให้เกิดภาระต้นทุนสูง -บริการลูกค้าจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง A B C -สร้างพันธมิตรทางการค้า ทั้งคู่ค้า ซัพพลายเออร์รายใหญ่ๆ -ปรับตัวตามสภาพแวดล้อม -อื่นๆ สร้างข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่ง กฏชนะคู่แข่ง 2 ใน 3 จากคุณ : pc เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 15:08:04 A:101.108.5.98 X: TicketID:315677