ความคิดเห็นที่ 1 ก็บอกเค้าไปว่า ทำออดิทให้ได้ตลอดนะ อย่าออกมาทำบัญชีล่ะกัน เพราะงานมันหนักเว่อร์เลยอะ ออดิทเนี่ย จากคุณ : Umiki เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 09:19:38

ความคิดเห็นที่ 2 จากข้อที่เลือกเป็นผมเลือกข้อ 2 นะ อยากเรียนต่อต่างประเทศอะ ส่วนตัวผมนั้นก็จบบัญชี ทำ ออดิด นะ แต่การที่ดูถูกนักบัญชีเนี่ยไม่ถูกอย่างยิ่งเลยนะครับ ผมว่าทำอะไรก็ก้าวหน้าได้หมดครับ อยู่ที่ ความขยัน ความสามารถ โอกาสของเราครับ จากคุณ : ข้อความนี้ห้ามอ่านฟรี เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 09:33:41

ความคิดเห็นที่ 3 ทำไมต้องแข่งกับคนอื่น ทำไมต้องทำเพื่อคนอื่น ในเมื่อตัวเองก็มีคำตอบอยู่แล้ว คุณควรมุ่งไปที่เป้าหมาย และทางของคุณเอง ไม่ใช่ทำเพื่อเอาชนะใคร เพราะที่สุดแล้ว คุณก็ต้องอยู่กับสิ่งที่คุณเลือก งานที่คุณทำ ในความคิดเห็น น้องอายุยังน้อย ถ้าพอมีทุน มีเวลา ก็เรียนเพิ่มเติม เรียนต่อ และหาประสบการณ์ สายงานบัญชีให้มาก ๆ ไว้ดีกว่า มัวแต่ต้องเป็น cpa เพราะจะต้องแข่งกับผู้อื่น อันนั้น ไม่แนะนำอะคะ จากคุณ : ratchanapa (Ratchanapa) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 09:43:02

ความคิดเห็นที่ 4 .               ก็ ออดิท มันมีโอกาสทำเงิน และเงินเดือน ส่วนใหญ่จะได้เยอะนิคร๊ะ มาทำงานใครๆ ก็มุ่งหวังเรื่องผลตอบแทน *** เรามองว่า มันเป็นธรรมดาของสังคมการทำงาน *** *** อย่าว่าเรานะ เราคิดแบบนี้จริงๆ *** จากคุณ : ปาดศรี เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 09:45:40

ความคิดเห็นที่ 5 น้องคะ ในมุมมองของพี่ มันอาจเป็นแค่ความเชื่อของเพื่อน ๆ เนื่องจากตอนเค้าไปทำงานตรวจสอบถึงแม้จะเป็นแค่จูเนียร์ แต่ด้วยหน้าที่ต้องไปตรวจงานของบัญชีทำให้คิดไปว่าบัญชีต้องได้รับการตรวจจากเค้าอารมย์เหมือนครูตรวจงานนักเรียนอ่ะ แล้วเวลาเค้าตรวจเจอประเด็นก็จะมองว่าทำไมหลุดประมาณนี้ ก็ให้เค้ามาตรวจไงเจอข้อผิดพลาดไม่ใช่ว่าเค้าเก่งกว่าผู้ทำบัญชีนะคะ แต่นั้นคือหน้าที่เค้า บทบาทต่างกันเท่านั้นเอง ส่วนตัวพี่ไม่มีอคติกับเรื่องบัญชี หรือ ออดิทค่ะ  แต่พี่ก็เคยโดนประมาณว่าจบบัญชีมาเหรอ ไม่ไปสอบ cpa หล่ะ ถามกันอยู่นั่นค่ะ เลยจัดให้แต่ใจไม่รักนะคะ ขอให้เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำค่ะ ไม่ว่าน้องจะเป็นผู้ทำหรือผู้สอบขอเพียงมีความรู้จริงในงานที่ทำน้องก็จะดูเลอค่าเองแหละ ปล.เคยทำมาแล้วทั้งสองอย่างค่ะ จากคุณ : มะหุ่ย เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 09:58:01

ความคิดเห็นที่ 6 อุดมการณ์มีมันก็ดีครับ.... แต่ต้องดูความก้าวหน้าคู่กันไปด้วย ถามว่า ทำไม ออดิทในสายตาคนทั่วไปดูดีกว่านักบัญชี ตอบนะครับ.... คุณจะตรวจว่านักบัญชีทำถูกหรือผิด คุณก็ต้องรู้มากกว่าเป็นเรื่องปกตินะครับ ต่อมา อีกเหตุผล คือ ความหลากหลาย ที่ได้พบ.... เช่นคุณทำบัญชี ปตท ...ถามหน่อยครับ....เมื่อไหร่คุณจะเข้าใจในระบบบัญชี ปตท ทั้งหมด อีก 10 ปี ยังไม่รู้จะมีโอกาสเลยหรือป่าว แต่ถ้าคุณเป็นออดิท คุณมีโอกาส พบได้ ภายใน 3 ปี (อันนี้คือเร็วสุดนะครับ) และที่สำคัญ ถ้าคุณเป็น outsource กิจการใหญ่ ที่มี รายการที่ ซับซ้อน เขาจะมาจ้างหรือครับ นี่คือข้อได้เปรียบ ของออดิทครับ ต้องเข้าใจนะครับ ไม่ใช่ว่าบัญชีเก่งกว่าไม่ได้ครับ แต่ จากรูปแบบเนื้องาน มันบังคับให้ออดิทรู้มากกว่า มันบังคับให้เจอสิ่งแปลกใหม่เสมอ มันบังคับให้โตเร็ว อยากให้เข้าใจ ออดิทครับ แปลกนะครับ... ผมเห็นแต่ ออดิท โดนบัญชี ดูถูก... 555 ส่วนเรื่องชีวิต ไม่มีอะไรตายตัวหรอกนะครับ.... ผมเห็นคนเรียนโทจบนอก...กลับมา ได้เงินเดือนน้อยกว่า คนที่ยังไม่เรียนโทด้วยซ้ำ ผมเห็นคน จบมหาลับธรรมดา ปัจจุบันรวยกว่า คนจบม.ดังๆก็มี มันอยู่ที่คุณจะทำไง กับสมอง และมือที่คุณมี ผมว่าลองถามตัวเองดูนะครับ...ว่าทำอะไรแล้วมีความสุข อะไรคือความาสุขที่แท้จริง... บางคนเงินเดือนเป็นแสน แต่ ครอบครัวไม่อบอุ่น บางคนเงินเดือน หมื่นต้นๆ แต่ เจอหน้าครอบครัวทุกวัน ผมว่าวิธีคิดที่ดีสุดคือ...คุณเท่านั้นที่ตัดสินคุณเอง ไม่ใช่คนอื่น อย่าทำอะไรไป เพราะคำพูดคนอื่น อีก 10 ปี ได้คนที่คุยกับคุณ ณ วันนี้ จะยังรู้จักกันอยู่หรือป่าวก็ไม่รู้ แต่สิ่งที่คุณทำวันนี้มันจะอยู่กับคุณนะครับ จากคุณ : โย้ๆ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 10:03:35 A:180.183.210.127 X: TicketID:320980

ความคิดเห็นที่ 7 รู้แต่ว่าทำงานสายออดิท ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรมเร็ว เพราะไม่ได้พักผ่อน และต้องเจอกับสิ่งกดจากนักบัญชีที่ไปตรวจสอบ จากคุณ : สวนฝั่งธน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 13:33:18

ความคิดเห็นที่ 8 ทำอย่างที่คุณชอบค่ะ ไม่ได้ขอข้าวใครกิน ไม่ต้องเอาคำพูดคนอื่นมาคิดมากค่ะ จากคุณ : พีพี เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 14:06:27 A:202.176.81.204 X: TicketID:292645

ความคิดเห็นที่ 9 สไตล์การทำงาน วิธีการทำงาน แตกต่างกัน ระหว่างผู้ทำกับผู้สอบค่ะ  แต่ความเครียดและหนักเหมือนกันค่ะ ไม่ได้แตกต่างเลย ชอบอย่างไหน ทำอย่างนั้นค่ะ  บัญชีไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ไม่เคยเห็นว่าไม่เครียดและหนักเลย เงินอาจจะเป็นคำตอบสำหรับคนบางคน  แต่สำหรับคนบางคนเงินไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิตค่ะ  อาจารย์พี่บางคนเป็น Auditor มีโอกาสรับเงินมากมาย  แต่เค้าก็เลือกที่จะทำงานอิสระ เป็นอาจารย์ เป็นที่ปรึกษาแทนการเป็น Auditor  อีกอย่างนะคะไม่เป็นทั้งผู้ทำและผู้สอบ  แต่มาเป็นคนติวแทนเงินดีใช้ได้นะคะ จากคุณ : หมูคิม เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 15:55:10

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้ามีความสุขอยู่แล้ว ก็ทำต่อไป ไม่ต้องแครใคร ให้ปวดเฮด จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 17:03:11

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบแบบไหนก็ทำแบบนั้นแหละ ผมจบบัญชีมาไปทำออดิทได้ 3 เดือนก็ออกแล้ว ไม่เอามันไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ ทำแล้วไม่มีความสุข ตอนนี้ก็ทำบัญชีบริษัทเอกชน มีความสุขดี สวัสดิการก็ดี อาจจะมีเครียดบ้างเวลาปิดงบหรือทำผิด แต่ก็ไม่เครียดมาก เลือกทำในสิ่งที่เราทำแล้วชอบ และมีความสุขดีกว่านะ จากคุณ : GolF_PH (GolF_PH) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 18:02:59

ความคิดเห็นที่ 12 ผมขอแสดงความคิดเห็น ในฐานะบุคคลทั่วไป ที่ไม่ได้จบบัญชี หรือเป็นออดิทนะครับ         ในความรู้สึกส่วนตัวของผมนะ เท่าที่ได้สัมผัสกับพวกออดิท มา    ส่วนใหญ่  จะเห็นว่าคนพวกนี้ เขาชอบอวด ความเป็นออดิท ของเขานะ  และชอบเก ทับ คนที่จบบัญชีมาแต่ไม่ได้ทำงานเป็นออดิท   ผมก็ไม่รู้ว่าพวกนี้ เขาเก่งตรงไหน  ทั้ง ๆ ที่ บางคนเป็นเพียงแค่พนักงานตรวจสอบบัญชีเท่านั้น แต่ยังไม่ได้ใบอนุญาต         ผม เห็นใจ  จขกท  นะ ครับ ที่ เจอ กับปัญหาอย่างนี้   ก็ขอให้ทำใจไว้บ้างนะครับ เพราะ เราเป็นคนอยู่นอกกลุ่มของเขา   เขาเป็นออดิท  เขาก็คุยปรึกษางานด้านออดิทระหว่างกันรู้เรื่อง  แต่เราอยู่นอกกลุ่มของเขา  เขาจึงมองผ่าน ๆ  เรา ไป   ต้องเข้าใจเขานะ              ผมเอง เคยทำงานรับผิดชอบดูแลงานด้านการบัญชีมาก่อน ก็เคยทำการทดสอบความรู้ความสามารถของพวกออดิทเหล่านี้มาแล้ว ( บางคน มาจาก สถาบันดังตรวจสอบต่างชาติด้วย)  ด้วยการตั้งโจทย์เรื่องทรัพย์สินถาวร  มีการคิดค่าเสื่อม 2 วิธี แบบ sum of the year  และแบบเส้นตรง โดยไม่ให้ผิดกฏของภาษีอากร    ปรากฏว่า พวกออดิท เหล่านี้มาตรวจสอบ แล้ว ทำกระดาษทำการปิดงบบัญชีไม่ได้   จนกลายเป็นผมต้องตรวจสอบการทำงานของเขาแทน ว่า เขาตรวจผิดตรงไหน ทำไม ถึงทำกระดาษทำการ แล้วปิดงบบัญชีไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ระบบ ก็ไม่ได้ผิดเรื่องกฏหมายภาษีอากรเลย  แต่สุดท้ายกว่าจะปิดงบบัญชีของเขาได้  ต้องเสียกระดาษไปหลายใบ  แก้แล้วแก้อีก เพราะเขาไม่เข้าใจงานด้านบัญชีดีพอ          จึงอยากจะบอก จขกท  อย่าไปกังวล กับเรื่องพวกนี้ นะครับ   ผมขอเพียงแค่เราพยายามก้าวเดินไปในเส้นทางบัญชีต่อไป  ไม่ต้องไปกังวลว่า จะเป็นออดิท หรือไม่  ขอเพียงแค่ ให้เรารู้จริง  รู้เรื่อง  รู้รายละเอียดในงานบัญชีทุก ๆ  ด้าน  อ่านตัวเลขให้เป็น อธิบายได้    พยายามทำงานให้ก้าวหน้า เป็นใหญ่เป็นโต ในองค์กรธุรกิจใหญ่ ๆ     แล้วสักวันหนึ่ง พวกออดิท จะยกย่องชมเชย จขกท เองครับ           ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : รุ่งโรจน์ทวีคูณ (รุ่งโรจน์ทวีคูณ) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 18:59:07

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับทุกๆคำแนะนำครับ ทุกวันนี้ มีความสุขดีมากๆครับ ในเรื่องชีวิตการงานและสังคมการทำงาน ผมค่อนข้างดีใจ และอยากไปทำงานทุกวัน เพราะพี่ๆที่ทำงานน่ารักและเอ็นดูผม ในชีวิตครอบครัว ผมก็ประสบความสำเร็จแล้วล่ะครับ ขอขอบคุณอีกครั้ง ผมจะแน่วแน่กับสายงานนี้ครับ จากคุณ : TearNa เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 19:21:59

ความคิดเห็นที่ 14 แปลกนะคะ แฟนเราทำออดิทใน Big4 เห็นบ่นประจำว่าโดนบัญชีต่อว่าประจำ -"- จากคุณ : Queen 'Kz'* เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 19:31:16

ความคิดเห็นที่ 15 อธิบายแบบประสบการณ์ตรงล่ะกันครับ โดยปกติ ผู้ที่เรียนจบบัญชีใหม่ๆ จะขาดความเข้าใจ และประสบการณ์ในงานบัญชี ทั้งในส่วนของระบบงานบัญชี และขนาดของงานบัญชี ต้องยอมรับกันก่อนว่า ประเภทของธุรกิจ มีอยู่เยอะมาก ทั้งซื้อมาขายไป บริการ ผลิต ซึ่งในแต่ละประเภท ก็จะแตกไลน์ออกไปอีกมากชนิด อีกทั้ง ขนาดของธุรกิจ ในแต่ละชนิด ก็มีขนาดของธุรกิจ ที่แตกต่างกันไป เช่นธุรกิจขนาดใหญ่ มหาชน หรือธุรกิจเล็กๆ ครอบครัว ระบบบัญชี ที่ใช้ในธุรกิจ ที่แตกต่างกัน ทั้งประเภท และขนาด ก็ย่อมต้องใช้ระบบงานบัญชีที่ต้องแตกต่างกันออกไป เช่นกัน งานออดิท สำหรับผู้จบใหม่ จะเป็นก้าวแรก ที่นักบัญชีจะได้เจอ ได้สัมผัส และ ทำความเข้าใจ ในองค์ประกอบ ของความรู้ด้านบัญชี ที่ค่อนข้างครบถ้วนเกือบทั้งหมด แต่ถ้า ออดิท ขาดประสบการณ์จริง ในตำแหน่งนักบัญชี ที่ต้องคอยดูแลงานบัญชีทั้งระบบ และ การปฎิบัติงานให้เป็นไปตามระบบงาน ที่ดี ตลอดจนขาดความรู้ถึงอุปสรรคและจุดอ่อนของงานบัญชี และระบบงานแล้ว ก็เหมือนกับว่า ยังมีความไม่สมบูรณ์ในตัวของตนเองอยู่ รวมทั้ง เสริมความรู้ในด้านภาษีอากร ไปด้วยขณะทำงานในแต่ละประเภท เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ไปเรื่อยๆ ก็จะถึงจุดหมายปลายทางได้ไม่ยากเย็น คุณจะทำงานบัญชีก่อน หรือ ทำงานออดิทก่อน ผมรับรองว่า ตัวคุณเองจะรู้ถึงจุดบกพร่องของตนเองได้เป็นอย่างดี เหมือนที่ผมได้เคยรู้มาก่อน สรุปง่ายๆ งานออดิท จะทำให้คุณสามารถมองภาพได้ในมุมที่กว้างมากขึ้น หลากหลายมากขึ้น ส่วนงานบัญชี จะทำให้คุณมองเห็นภาพในมุมละเอียด เฉพาะเจาะจงลงไป ในแต่ละธุรกิจที่คุณสัมผัสมัน จากคุณ : วิช เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 21:20:04 A:171.4.198.215 X: TicketID:121481

ความคิดเห็นที่ 16 ผมหลังไมค์ให้คำแนะนำไปแล้วนะครับ มีอะไรปรึกษาได้ครับ จากคุณ : kennyG เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 00:21:23

ความคิดเห็นที่ 17 ผมทำออดิทเหมือนกัน อายุเท่ากันกับ จขกท. ยอมรับว่าช่วงแรก ๆ ออดิทก็ต้องทำความเข้าใจระบบบัญชีลูกค้าให้ได้มากที่สุด ภายใต้ส่วนงานที่ได้รับมอบหมาย แต่ภายใน 2 - 3 ปี ต้องรู้ระบบงานลูกค้าทั้งหมด แต่ภายมองในแง่ของบัญชีต้องใช้เวลานานกว่ามากกว่าจะรู้ระบบงานทั้งหมด แต่ไม่อยากให้ จขกท. นำตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อนที่เป็นออดิทนะครับ เพราะลักษณะงานมันต่างกัน คุณจะมั่นเรื่องภาษีกว่าออดิทส่วนใหญ่ แต่ออดิทจะแม่นเรื่องมาตรฐานการบัญีชและสอบบัญชี ซึ่งงานทั้งหมดมันต้องสอดคล้องกัน เพื่อไปให้ถึงจุดหมาย (=งบการเงินที่ถูกต้อง) อย่านำตัวเองไปเปรียบกับเพื่อนเพราะต่อให้คุณอวดเพื่อนว่าคุณได้ TA แ้ลว แต่อย่าลืมว่าออดิทมีใบ CPA ซึ่งมีภาษีดีกว่าและครอบคลุมกว่าใบ TA ของคุณ จะโดนเปรียบเทียบมากกว่า  คุณควรเลือกทำงานในสิ่งที่คุณชอบดีกว่า ออดิทก็ไม่ได้เก่งไปหมดทุกคน ส่วนบัญชีถ้าไม่ขยันเรียนรู้ก็นานมากกว่าจะเก่ง มันก็เหมือนกันละครับ จากคุณ : waterkill เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 21:08:44

ความคิดเห็นที่ 18 เราทำออดิทอยู่ เราไม่เคยคิดว่าเราเก่งกว่าลูกค้าเลยนะ เรากลัวโดนลูกค้าด่าด้วยซ้ำ จากคุณ : RosieDunne เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 11:03:55