PANTIP.COM : B11406509 "อยากมีธุรกิจส่วนตัว แต่คุณแม่ไม่เห็นด้วย" ถามธรรมตอบธรรมกับพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี [SME]

ความคิดเห็นที่ 1

วิสัชนา

จากคำถามของคุณเรามีประเด็นที่ต้องแลกเปลี่ยนกัน 3 เรื่อง

1. เรื่องความมั่นคง
2. เรื่องดวง
3. ความเสี่ยง

การที่คุณพ่อคุณแม่ท่านรับราชการมานาน ก็เป็นธรรมดาที่ท่านจะมองว่า ความมั่นคงในหน้าที่การงานเป็นสิ่งที่ดี แต่ข้อเสียของความมั่นคงคือ มันทำให้เราได้ใช้ศักยภาพเท่าที่องค์กรของเราต้องการเท่านั้นแม้ว่าบางทีเราจะเก่งหลายอย่าง แต่เมื่อองค์กรไม่ต้องการให้เราทำอะไรมาก ทำไปตามหน้าที่แบบ “ประจำวัน” ก็พอแล้วชีวิตไม่ต้องเสี่ยงเลยนั้นเป็นชีวิตที่มั่นคง คนรับราชการส่วนใหญ่ย่อมคิดอย่างนี้ ถ้าคุณไม่อยากรวย คุณก็ควรเลือกความมั่นคงไปเถิด แต่ถ้าคุณอยากรวย อยากมั่งคั่ง ก็ต้องกล้าที่จะออกมาเสี่ยง ทำไมต้องคิดว่าออกมาเสี่ยงแล้วจะล้มเหลวเสมอไปล่ะ ทำไมไม่คิดใหม่ว่า มันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความรุ่งโรจน์ก็ได้

ส่วนเรื่องดวงนั้น ในทางพุทธศาสนาท่านถือว่าไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะหากเราเชื่อดวง ก็เท่ากับเชื่อว่า ชีวิตเราถูกลิขิตไว้แล้ว ดังนั้น เราก็ไม่ต้องทำอะไรปล่อยชีวิตไปตามดวง ทัศนะเช่นนี้ พุทธศาสนาไม่เห็นด้วย เพราะมันให้มนุษย์ “หมดศรัทธาในตัวเอง” ไม่กล้าคิดสร้างสรรค์ ไม่กล้าตัดสินใจฝากชีวิตไว้กับอะไรก็ไม่รู้

คุณเคยสังเกตบ้างไหม ทำไมนักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ นักคิด นักนวัตกรรม ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป หรือชาวอเมริกัน คำตอบก็เพราะว่าคนเหล่านี้ไม่ค่อยเสียเวลามาเชื่อเรื่องดวงอะไรนี่เลย เขาเชื่อในสติปัญญาของมนุษย์ จึงไม่ยอมจำนนต่อธรรมชาติ ไม่ยอมจำนนต่อปัญหา เขาจึงกล้าคิด กล้าทดลอง กล้าคิดสิ่งต่าง ๆ มาให้เราได้ใช้ แต่คนไทยทำอะไรก็กลัวไปหมด บางคนก็กลัว “วันพุธห้ามตัด วันพฤหัสห้ามสระ” (ห้ามตัดห้ามสระผม) ทำไมเราจึงปล่อยตัวเองอยู่ในความงมงายเพียงนี้ ชีวิตเป็นของเรา เราก็ควรจะออกแบบชีวิตได้ ด้วยสติปัญญาของเรา ไม่ใช่ปล่อยให้ดวงมากำหนดกฎเกณฑ์ชีวิตของเราจนไม่เป็นตัวของตัวเอง พุทธศาสนาท่านบอกว่า ชีวิตของเราเป็นไปอย่างไรก็เพราะ “กรรม” คือ “การกระทำ” ของเราไม่เกี่ยวกับดวง ใครทำดีชีวิตก็ดี ใครทำเลว ชีวิตแย่ ไม่ใช่ดวงทำให้ แต่เราทำของเราเอง ดังนั้น เราจึงออกแบบชีวิตของเราได้

ส่วนเรื่องความเสี่ยง ก็ขอแนะนำว่า คุณควรจะกล้าที่จะออกมาจากชุดความคิดที่พ่อแม่สอนกันมาว่า ตระกูลของเราทำการค้าไม่เคยสำเร็จ ทำไมต้องสอนกันมาแบบนี้ด้วยล่ะ ฟังดูคล้ายกับคำสาปประจำครอบครัวไปเลย คุณเองยังไม่แก่ซะหน่อย เอาชีวิตไปแขวนไว้กับคำสาปประจำตระกูลโดยไม่ทดลองทำอะไรเลย ก็ยอมแพ้เสียแล้วอย่างนี้ก็น่าเสียดายแย่

สตีฟ จ๊อบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ล ที่เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการคอมพิวเตอร์ทุกวันนี้เขาเป็นคนกล้าเสี่ยงมาก ตั้งบริษัทมากับมือแท้ ๆ แต่ถูกไล่ออกจากบริษัทที่ตัวเองก่อตั้ง ทว่าก็ยังไม่ท้อ ยังตั้งบริษัทใหม่ได้อีกสองบริษัท ผ่านไป 10 ปี ก็ยังกลับมากู้บริษัทเดิมได้อีก ทุกวันนี้ แอปเปิ้ลเป็นบริษัทที่มั่งคงติดอันดับต้น ๆ ของโลก

นี่คือวามกล้าเสี่ยง คนที่กล้าเสี่ยงก็มีโอกาสประสบความสำเร็จ พอ ๆ กับที่จะล้มเหลวนั้นแหละ ส่วนคนทีไม่กล้าทำอะไรเลย ก็ไม่มีโอกาสได้รู้ว่า ตัวเองจะทำอะไรได้มากว่าที่เป็นอยู่บ้าง ชีวิตก็เลยจมอยู่กับวังวนเดิม ๆ ตลอดไป

ขอให้คุณเชื่อมั่นในสติปัญญาของตัวเองอย่ายอมแพ้ให้ตัวเองถูกมัดตราสังเพราะคำว่าดวง หรืออย่ายอมให้ความมั่นคงสะกดไว้จนไม่กล้าลองออกมาทำอะไร คุณควรจะรู้ไว้ด้วยว่า คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่นั้นล้วนเป็นคน “กล้าล้มเหลว” ทั้งนั้น ส่วนคนที่เป็นลูกค้าของคนเหล่านี้ ก็คือ คนที่ไม่กล้าเสี่ยงนั้นเอง
แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 54 18:13:00
แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 54 18:11:48

จากคุณ : tSlevin

เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 54 17:57:49