ความคิดเห็นที่ 1 โจ  จีราร์ด  ยอดนักขายบันลือโลก....บทที่ 3 จงสร้างความเชื่อมั่นและความกล้าหาญ (ต่อ) ....โดย ลุงแอ็ด 5. ความกลัวและความกล้า เมื่อผมเป็นเด็ก ผมมีพ่อที่ไม่เคยเห็นผมมีคุณค่าอะไรเลย  ท่านด่าผมว่าเจ้าทำอะไรไม่ได้ เลี้ยง เสียข้าวสุก เสียชาติเกิด  สารพัดจะสรรมาด่าว่า ผมกลัวจนลนลาน ตระหนกตกใจ ขวัญหนีดีฝ่อ เรื่อยมา พ่อสร้างความกลัวให้ผม ขณะเดียวกัน ผมมีแม่  ซึ่งประพฤติปฏิบัติและคิดตรงกันข้ามกับพ่อราวกับขาวกับดำ ลูกต้องเชื่อ มั่นตัวเอง ลูกจะชนะ  ลูกทำอะไรก็ได้ถ้าคิดว่าทำได้ แม่สร้างความกล้าให้ผม ความกลัวคอยกระซิบอยู่ข้างหู คุณทำสิ่งนี้ไม่ได้...คุณจะขายตัวคุณเองไม่สำเร็จ...งานนี้มันยาก เกินไป.งานหนักเกินไป...คุณไม่มีวันจะทำได้... แต่ความกล้าก็จะคอยกระซิบอยู่อีกข้างหนึ่ง...คุณจะทำอะไรก็ได้ ถ้าคุณคิดว่าคุณทำได้...คุณจะ ต้องกล้าที่จะทำ...ใคร ๆ จะศรัทธาและเสื่อมใสคุณ เพราะคุณเป็นคนที่ควรนับถือและศรัทธา คุณจะทำอย่างไรกับความกลัวและความกล้าทั้งสองอย่างนี้ ผมทำอย่างนี้ครับ ผมตัดสินใจ  มุ่งแน่วแน่ไปทางการสร้างความกล้า ความเชื่อมั่น มากกว่าที่จะมาสนใจความกลัว และจะปฏิเสธทุกอย่างที่จะทำให้ผมท้อถอย  ไม่ว่าจะเป็นทั้งคำพูดหรือความคิด ใช่แล้ว ผมได้พบหนทางที่แจ่มใสบรรเจิดจ้า ผมหนักเพียง 150 ปอนด์  แต่สามารถบังคับควบคุมยานพาหนะที่หนักถึง 4,000 ปอนด์ได้  ผม เป็นนายมัน  ผมก็สามารถจะนำมัน บังคับมัน ให้ไปสู่จุดหมายที่ผมต้องการได้   ถ้าผมไม่ สามารถควบคุมมันได้ ผมก็คงไปไม่ถึงที่หมาย หรืออาจจะต้องจอดโดยไม่ต้องแจวก็เป็นได้ เพื่อนของผมอีกคนเป็นศัลยแพทย์ที่โด่งดังมากบอกผมว่า คนเรานั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 อย่าง คือ ร่างกายและจิตใจ  ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม จิตใจจะเป็นนาย ผู้บังคับ กำกับ และบงการร่างกายให้ทำตามที่ต้องการ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลก เพราะคนเราส่วนใหญ่กว่า 95 เปอร์เซ็นต์  เป็นผู้ที่ไม่สามารถควบคุม จิตใจได้เลย ซึ่งก็เหมือนกับ คนเรามีแต่ความกลัวมากกว่าความกล้านั่นเอง ใจอาจจะบอกเราว่า ไปเถอะ เชื่อเถอะ คุณทำได้ ทำมันเดี๋ยวนี้ นั่นคือ ความกล้าที่มาบอกเรา ซึ่งเป็นคำบอกที่มีพลังที่สุดในโลก แต่ร่างกายจะบอกว่า อย่าไปเลย คุณทำไม่สำเร็จหรอก คุณทำมันไม่ได้แน่ไว้ทำวันหลังดีกว่า ความกลัวมันจะบอกคุณอย่างนี้ ถ้าคุณจะสร้างความเชื่อมั่นให้ตนเอง  อย่าผัดวันประกันพรุ่งเป็นอันขาด เหมือนกับป้ายของร้าน อาหารแบบกรีกในเมืองดีทรอยด์ ที่เขียนไว้ตัวเบ้อเริ่มว่า “คุณกินเงินเชื่อได้  พรุ่งนี้” ความปลอดภัยจะมีได้เพราะยังไม่ถึงพรุ่งนี้  คุณตัดสินใจวันนี้ว่าจะทำอะไรพรุ่งนี้ วันนี้ก็มีความ หมายมีคุณค่า ละทิ้งความกลัว ความอ่อนแอของคุณเสียวันนี้ เพราะมันมีมานานหลายวัน หลายเดือน หลายปี เต็มที วันนี้  คุณตัดสินใจแล้วว่าคุณจะกล้า  จะควบคุมร่างกายของตัวคุณ จะชำระล้างความกลัว ให้หมดสิ้นไปเสียที คุณอาจจะถามผมว่า แล้วจะทำอย่างไร ? จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 09:57:02

ความคิดเห็นที่ 2 . จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 09:58:57

ความคิดเห็นที่ 3 6. กลวิธีขจัดความกลัว ผมจะบอกวิธีการขจัดความกลัวให้ฟัง  ซึ่งช่วยทำให้ผมได้ผลมาแล้ว และคงจะช่วยคุณได้อีก คน คือ 1.  เชื่อในตัวคุณเอง 2. คบกับคนที่มีความเชื่อมั่น 3.  ปรับความเชื่อมั่นของคุณ 4.  เป็นนายของตัวเอง  บังคับตัวเองให้ได้ 5.  ทำงานตลอดเวลา  อย่าอยู่ว่างนิ่งเฉย ลองมาดูกันทีละข้อดีไหม หนึ่ง  เชื่อมั่นในตัวคุณเอง   ความเชื่อมั่นในตัวคุณจะมีได้  ถ้าคุณมีความเชื่อในตัวคุณเสียก่อน คงจำคำพูดของผมได้นะว่า  คุณสามารถทำอะไรก็ได้ ถ้าคุณคิดว่าคุณทำได้   ทำมันเสียวันนี้ เดี๋ยวนี้ อย่ารีรอ ติดป้ายไว้ที่กระจกในห้องน้ำกระจกส่องหลังในรถยนต์  ดูทุก ๆ วัน ตะโกนดัง ๆ และพยายามกระตุ้นตัวเองจนเห็นกิจวัตรประจำวัน และเปลี่ยนเสียใหม่ว่า "ฉันจะทำถ้าฉันคิดว่าฉันทำได้" ผมเคยลำบากมาตั้งแต่เล็ก  เป็นเด็กขัดรองเท้าข้างถนน และเพื่อรักษาตัวรอดต้องต่อสู้ด้วย ลำแข้งของตนเอง แม่ผมพร่ำเตือนอยู่เสมอว่า  “ลูกต้องทำได้ โจ ถ้าลูกคิดว่าลูกทำได้”  แน่ละ ผมมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น คุณก็เช่นกัน ถ้าคุณได้รับการยอมรับนับถือจากคนอื่นเช่นผม สอง   คบกับคนที่มีความเชื่อมั่น  หลีกหนีพวกที่ขาดความเชื่อมั่นไปให้ไกล  ผมจำได้ว่า  คราว ที่เกิดเหตุการณ์ผันผวนทางธุรกิจน้ำมันในอเมริกา    การขายรถยนต์มีแนวโน้มลดต่ำลง ผู้คนต่าง พากันหยุดการซื้อขาย พรรคพวกผมที่ขายรถยนต์อยู่ไม่มีงานทำ บางคนถึงกับเปลี่ยนงานใหม่ ผมพยายามคบกับพวกที่ยังสามารถขายรถยนต์ได้อยู่ เพราะไม่ว่าน้ำมันจะมีปัญหาหรือไม่มี ผม ก็คงต้องขายรถยนต์อยู่นั่นเอง  ผมต้องเชื่อมั่นว่าผมขายได้     ถ้าผมจะขาย ความเชื่อมั่นสร้าง ความเชื่อมั่นไงล่ะครับ สาม  ปรับความเชื่อมั่นของคุณ     ผู้บรรยายและผู้นำสัมมนาที่มีชื่อเสียง  และยอมรับในหมู่นัก ขายคนหนึ่ง  ได้รับเชิญให้ไปบรรยาย เรื่องการสร้างความเชื่อมั่นที่   รัฐโอไฮโอ  ขณะที่ขับรถ ไประหว่างทาง  เขาได้แลเห็นป้ายโฆษณาขายน้ำมันแห่งหนึ่ง เขียนไว้ว่า   น้ำมันชนิดใหม่มี ส่วนผสมที่ช่วยกำจัดเขม่าในเครื่องยนต์ และทำให้มีพลังขับเคลื่อนไปได้ไกลกว่าเดิม เขาจึงตั้งหัวข้อการบรรยายในวันนั้นว่า “จงชำระล้างเครื่องสร้างความเชื่อมั่นในตัวท่าน  ด้วยการใช้สารผสมพิเศษ เพิ่มพลังและศรัทธา” เขาพูดถูก เครื่องสร้างความเชื่อมั่นของคุณ จะมีประสิทธิภาพ ถ้ามันสะอาดไม่มีความสกปรก มี เชื้อเพลิงเต็มถัง เครื่องยนต์ตั้งได้เหมาะสมพอดี สี่    เป็นนายของตัวเอง  บริคแฮม ยังก์ เป็นนักสอนและเผยแพร่ศาสนาลัทธิมอร์มอนรุ่นบุกเบิก เป็นผู้นำมวลชนที่เลื่อมใสศรัทธา เดินทางรอนแรมจากหุบเขามิสซิสซิปปี้ไปยังรัฐยูท่าห์   พวก เขาต้องการแสวงหาสัจธรรม จึงยอมลำบาก ตรากตรำทำงานหนัก เพราะมีความเชื่อและศรัทธา ในพระผู้เป็นเจ้า พวกมอร์มอน ตั้งปณิธานไว้ว่า  จะงดเว้นการสูบบุหรี่ และยาเสพติดทุกชนิด  ยังก์เองกลัวว่าตน จะไม่สามารถอดบุหรี่ได้   เพราะมีความเคยชินและติดจนเป็นนิสัย  เขาจึงหาวิธีแก้ไข  โดยเอา ก้อนยาสูบติดตัวไปด้วยทุกหนทุกแห่ง  เมื่อมีความรู้สึกว่าอยากสูบบุหรี่ เขาก็จะควักก้อนยาสูบ ขึ้นมาแล้วถามใครต่อใครว่า “ก้อนยานี้มันใหญ่กว่าผม   หรือผมใหญ่กว่ามัน ?” แน่นอน  ยังก์ต้องใหญ่กว่า  สำคัญกว่าก้อนยาสูบนั้นวันยังค่ำ เขาพูดจบก็เก็บก้อนยาใส่กระเป๋า ตามเดิม นั่นคือ  ความกล้าชนะความกลัว  จิตใจชนะร่างกาย เฮนรี่ ฟอร์ด  บอกเสมอว่า  ผู้ที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองนั้น จะไม่มีวันยอมหนีปัญหาต่าง ๆ เลย เขาจะหันไปเผชิญหน้าสู้ เพราะเชื่อว่า ปัญหาต่าง ๆ ก็เหมือนเงาของตัวเรานั่นเอง "จงเป็นกัปตันเรือของตัวท่านเองเสียเถิด" ห้า   ทำงานอย่าให้อยู่ว่าง   คนที่ขยันทำงานและตั้งใจทำงานหนักนั้น มีโอกาสประสบความ สำเร็จเสมอ ในปี 1974  ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในเมืองดีทรอยต์พากันทำงานสัปดาห์ละ 5 วัน แทนที่จะเป็น 6 วันเหมือนแต่ก่อน ซึ่งดูเหมือนจะมีอยู่เพียงเมืองเดียวเท่านั้นในสหรัฐอเมริกา ผมเชื่อและมั่นใจว่า  วันเสาร์ที่หยุดไปนั้น เป็นวันที่มีความสำคัญมาก ผมบอกตัวเองว่า ผมจะ ต้องกล้าและขยันทำงาน ผมเติมน้ำมันเชื้อเพลิงจนเต็มถัง ล้างเครื่องสร้างความเชื่อมั่นของผม จนสะอาดหมดจด ล้างคาบิวเรเตอร์ และเริ่มลงมือทำงานทันที ไม่รอช้า ผมเชื่อเหลือเกินว่า ลูกค้าที่อยากซื้อรถยังมีอยู่และผมก็จะทำงานหนักเหมือนทุก ๆ วันที่ผ่านมาด้วย พอผมทำเข้าจริง ๆ ผมก็ไม่มีเวลาที่จะคิดเรื่องอื่น ๆ นอกจากการทำงานให้สำเร็จเพียงอย่าง เดียว ในปีแรกผมขายได้เกือบเท่ากับที่เคยขายมา ผมขายได้น้อยกว่าปีก่อนเพียง 49 คันเท่า นั้น ครั้งหนึ่งในการเดินทางไปพักผ่อน ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ด้วยการถ่ายรูป โดยใช้กล้องถ่ายรูปแบบ อัตโนมัติที่จูนซื้อให้ผม เธอบอกผมเหมือนทุก ๆ ครั้งว่า “โจ  เขาบอกฉันว่ากล้องนี้เหมาะสำหรับคุณ คุณจะถ่ายได้ด้วยความมั่นใจ  คุณไม่ต้องห่วงหรือ กังวลในเรื่องของการตั้งหน้ากล้อง  หรือปรับโฟกัสแต่อย่างใด รับรองผลว่า ถ่ายแล้วใช้ได้ทุก รูป” ใช่  เธอพูดถูก  กล้องถ่ายรูปนี้ช่วยผมมากกว่าที่เธอบอกด้วยซ้ำไป  ผมค้นหาประวัติความเป็น มาของกล้องแบบนี้ และพบรายละเอียดจากหนังสือของ บี.ซี. โฟร์บีส  เรื่อง   ผู้สร้างสหรัฐ อเมริกาให้ยิ่งใหญ่  (Men Who Made America Great) ผมเห็นว่า  เรื่องราวของกล้องชนิดนี้น่าสนใจมาก และเป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างความเชื่อมั่น ความกล้า เอาชนะความหวาดกลัวที่ได้ผลเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีใครคิดและคาดฝันว่า  ชายหนุ่มนักคิดค้นสิ่งประดิษฐ์จากนิวยอร์ค จะมาเป็นผู้ผลักดัน อเมริกาให้เป็นชาติผู้นำในเรื่องกล้องถ่ายรูป   ความเชื่อมั่นอันแรงกล้าที่มีอยู่ในตัวเขาเป็นเครื่อง ช่วยทำให้เขาประสบผลสำเร็จอย่างง่ายดาย ซึ่งใคร ๆ ก็สามารถทำได้ จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 10:18:10

ความคิดเห็นที่ 4 . จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 10:18:50

ความคิดเห็นที่ 5 7. ยอร์ช  อีสต์แมน  และกล้องบราวนีย์ เมื่อยังเป็นเด็ก ยอร์ช อีสต์แมน  ย้ายไปอยู่ที่โรเชสเตอร์ นิวยอร์ค  เขาครุ่นคิดและสนใจ ในเรื่องของการประดิษฐ์สิ่งแปลกใหม่   เป็นช่างเครื่องยนต์สมัครเล่น ดูช่างมีความคล่องแคล่ว ในการทำงานด้านเครื่องจักร เครื่องยนต์เป็นอันมาก ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ยอร์ช ไม่เคยคิดค้น เรื่องกล้องถ่ายรูปมาก่อนเลย เพราะเมื่อเขาเกิดมา กล้องถ่ายรูปก็มีเกิดขึ้นในโลกอยู่แล้ว   รูป ภาพที่สำคัญและมีชื่อเสียงในขณะนั้น ก็เห็นจะเป็นฝีมือของ แมททิว  แบรดดี้  เป็นภาพของ อับราฮัม ลินคอล์น  ที่ถูกลอบยิงจนถึงแก่ชีวิต รูปภาพที่ถ่ายกันในสมัยนั้น เป็นรูปที่ต้องอาศัย ฟิล์มชุบน้ำยาแล้วถ่ายทั้งที่ยังเปียกอยู่  ยอร์ชสนใจและเริ่มคิดค้นที่จะพัฒนากระบวนการอัดรูป เสียใหม่  โดยใช้แผ่นฟิล์มแห้งแทนของเดิม ความสำเร็จของเขาเกิดขึ้น    และเริ่มเป็นผู้ผลิตแผ่นเพลทแห้งออกขาย ซึ่งขายได้ดีมากจน ผลิตไม่ทันแต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น  ลูกค้าทุกคนต่างพากันไม่ซื้อสินค้าของเขา โดยไม่มีการบอกล่วงหน้าให้รู้ตัว  พ่อค้าขายปลีกต่างพากันต่อว่าและขอส่งสินค้ากลับคืน โดย อ้างว่า แผ่นฟิล์มดังกล่าวสร้างปัญหาในการอัดรูปและภาพที่ได้ก็ไม่ดีพอ ยอร์ชต้องเริ่มคิดหนัก  และตั้งต้นใหม่เหมือนกันกับผมที่เคยล้มเหลวในธุรกิจก่อสร้าง เขาออก ไปพบกับลูกค้าขายปลีก  ช่างถ่ายรูป และหน่วยราชการต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อคำอธิบายและชี้ แจงเหตุผลของเขา  ทำให้เขาเกิดความไม่แน่ใจในสิ่งที่เขามีอยู่  คือความเชื่อมั่นในตนเอง เขาพยายามแล้วพยายามอีกเพื่อเรียนรู้   และศึกษาว่ามันมีข้อผิดพลาดตรงไหน อย่างไร เขา ตัดสินใจเดินทางไปอังกฤษ  เพราะทราบว่าที่นั่นมีการใช่แผ่นฟิล์มแห้งกันอยู่ แต่ความรู้ใหม่ที่ ได้รับก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้เพราะขณะนั้น เขามีปัญหาเรื่องเงินทุนเสียแล้ว เขาบอกว่า  ชีวิตบั้น ปลายของเขามันเลวร้ายจนไม่มีอะไรจะมาเปรียบเทียบได้เลย หุ้นส่วนของยอร์ช  “เฮนรี่ สตรอง”  ยังคงเชื่อถืออยู่  และที่สำคัญที่สุด  “จูน “  ภรรยาของเขายัง เชื่อและศรัทธาเขาเช่นกัน  เธอพยายามผลักดันเขาให้สู้ต่อไป  อย่าเกรงกลัว หรือท้อแท้ให้มี ความเชื่อมั่นเหมือนเช่นเดิม เขาสร้างความเชื่อต่อตัวเองใหม่ ปลอบตัวเองให้เข็มแข็ง    เพราะเชื่อว่ามีมันสมองที่ปราด เปรื่องฉลาดเฉลียว   อยากรู้อยากเห็น และเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน  เขาตัดสินใจพบปะ กับผู้ที่ยังเชื่อถือเขาอยู่  และผู้ที่มีบทบาทสำคัญในตอนนั้นก็คือ  “บิล วอล์คเกอร์” ซึ่งสนับสนุน ยอร์ชให้บุกเบิกตลาดฟิล์มแห้งต่อไป  และพัฒนามาเป็นฟิล์มม้วนในปัจจุบัน ยอร์ชมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น ความเชื่อมั่นสร้างความเชื่อมั่นจริง ๆ เขาปรับเครื่องสร้างความเชื่อมั่นของเขาด้วยความศรัทธา และก้าวไปในธุรกิจฟิล์มม้วนต่อไป อย่างไม่หยุดยั้ง  เขาเป็นนายของตัวเอง และไม่ยอมท้อถอยกับปัญหาหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้นเลย เขาทุ่มเทความพยายามทุกอย่าง  ตัดความวิตกกังวลทิ้งไป และทำงานเต็มที่ทั้งกลางวันและ กลางคืน บางครั้งเขาถึงกับนอนอยู่ในโรงงานตลอดทั้งคืน  เพื่อทำงานให้เสร็จทันเวลาที่ต้องการ ในที่ สุด   ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ก็ปรากฏให้เห็น   ความเชื่อมั่นและศรัทธา ทำให้เกิด โกดัก  ชื่อที่ ไม่มีความหมายอะไร  แต่ก็ฟังดูไพเราะหู กล้องบ๊อกซ์ สีน้ำตาลปลุกตลาดทั้งโลกให้ตื่นขึ้น  เด็ก เล็ก ๆ ก็สามารถถ่ายรูปได้อย่างมหัศจรรย์ไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน คำขวัญที่ติดปากของ อิสต์แมน   โกดัก  ก็คือ “เพียงกดที่ปุ่ม  ได้ภาพนุ่มที่ต้องการ” ผมเพลินอยู่กับการถ่ายรูปด้วยกล้องโกดักบราวนีย์  ซึ่งถ่ายได้ง่ายที่สุด แต่ปุ่มที่ผมกดลงไป นั้น   เป็นปุ่มของความเชื่อมั่น ไม่มีใครจะรู้ดีเท่าเขา  “ยอร์ช  อีสต์แมน”  ซึ่งประสบความสำเร็จ ในชีวิต เพราะสามารถสร้างความเชื่อมั่น และความกล้าให้กลับคืนมาได้ ในโลกเรานี้ เต็มไปด้วยผู้ที่ประสบความสำเร็จ เขาเหล่านั้น เป็นผู้ที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง และ ไม่ท้อถอยกับปัญหาหรืออุปสรรคต่าง ๆ ที่มาแผ้วพานเลย ลองพิจารณาดูซิครับ ว่า นักบอลลูน “แมกซี่ แอนเดอสัน”  และเพื่อน ประสบความสำเร็จในการใช้บอลลูนข้ามมหาสมุทร ทั้ง ๆ  ที่ก่อนหน้านั้น มีผู้ประสบความล้มเหลวและผิดหวังมาก่อนมากมายหลายคน  แมกซี่  ให้ สัมภาษณ์ที่ฝรั่งเศส  ว่า “เราไม่เคยสงสัยว่า เราจะทำมันไม่ได้ ถ้าเราจะทำ” “อีลีนอร์  รูสเวลท์ “  ภริยาประธานาธิบดีผู้ลือชื่อของสหรัฐ  เอาความเชื่อมั่นของเธอชนะความ ขี้เหร่และความพิการของสามี  จนสามารถเป็นผู้นำของโลกได้ “เซอร์ลีย์ แม็คเลน”  สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า เธอเป็นได้ทั้งการาภาพยนตร์และนักเขียนที่ ประสบความสำเร็จได้  เพราะความเชื่อมั่นว่า  เธอเป็นนักเขียนได้ โดยเฉพาะหนังสือที่ขายดี ของเธอ ชื่อ  ท่านสามารถไปที่นั่นได้จากตรงนี้ (You Can Get There Form Here)  คำที่สำคัญ ที่สุดของชื่อนี้คือ สามารถไงละครับ “ชาร์ลส์  เคตเตอริ่ง”  คิดค้นสตาร์ทเตอร์เครื่องยนต์ที่ใคร ๆ ไม่เชื่อว่าจะทำได้สำเร็จ  แต่ในที่ สุดก็ใช้กับรถยนต์  “คาดิแลค”  ที่มีคนรู้จักทั่วโลก มีอีกมากมายหลายคน  ที่พยายามขายตัวเองให้กับคนอื่น ๆ และประสบความสำเร็จทั้งในธุรกิจ การเมือง และวงการอื่น ๆ เพราะเขาเชื่อว่า  เขาทำได้ จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 10:32:58

ความคิดเห็นที่ 6 . จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 10:34:24

ความคิดเห็นที่ 7 8. คุณต้องทำจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็ง คุณต้องพัฒนาความกล้าหาญในทุกสถานการณ์  เพื่อจะขายตัวคุณเอง คุณต้องทำความกังวลให้เป็นความเชื่อมั่น “เจมส์ เค.แวนฟลีท”  แนะนำไว้ในหนังสือ ชื่อ MIRACLE POPLE POWER ว่า  ถ้าคุณเชื่อว่า   ไม่มีทางที่จะล้มเหลวละก้อ ทำทันทีอย่ารีรอให้เสียเวลาเลย ทำเสียวันนี้เดี๋ยวนี้ เชื่อในตัวเอง เขียนการ์ดติดไว้ในบ้าน  ในรถยนต์ ในที่ทำงาน ในห้อง ว่า “ฉันเชื่อตัวฉันเอง” พูด ท่อง     ซ้ำคำขวัญดังกล่าว  วันละ 10 ครั้ง พูด  ท่อง  ว่าจะ  เชื่อ ตัวฉันเอง  วันละ 10 ครั้ง ปฏิเสธ  คำกระซิบ  บอกเล่าจากความกลัว  เปลี่ยนให้กลายเป็นความกล้าแทน คบกับผู้ที่เชื่อมั่นในตัวเอง  ขอยืมความเชื่อมั่นของเขามาใช้กับตัวเรา ปรับเครื่องสร้างความเชื่อมั่นของคุณ  ใส่สารผสมเพื่อเพิ่มพลังความศรัทธาและมุ่งหน้าสู่จุด หมายที่คุณต้องการ 9.  ทำงานอย่าอยู่ว่าง  จิตใจจะได้ไม่ว้าวุ่น ทุกเช้า เมื่อตื่นนอน     บอกตัวเองว่า ฉันจะเป็นกัปตันผู้ควบคุมตัวฉันเอง ทำอย่างนี้ทุกวัน ไม่มี อะไรที่น่ากลัว ทำสิ่งที่คุณกล้าทันที ถ้ารู้ว่าไม่มีทางล้มเหลว  จงทำเสีย จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 10:40:38

ความคิดเห็นที่ 8 โจ  จีราร์ด  ยอดนักขายบันลือโลก ตอนที่ 1  :  โจ จีราร์ด ยอดนักขายบันลือโลก....แนะนำ....โดย ลุงแอ็ด http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11390094/B11390094.html ตอนที่ 2  :  โจ จีราร์ด ยอดนักขายบันลือโลก....บทที่ 1 ขายตัวเองให้คนอื่น..... http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11394771/B11394771.html ตอนที่ 3  :   โจ จีราร์ด ยอดนักขายบันลือโลก....บทที่ 1 ขายตัวเองให้คนอื่น (ต่อ).... http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11399130/B11399130.html ตอนที่ 4  :   โจ จีราร์ด ยอดนักขายบันลือโลก....บทที่ 2 ขายตัวคุณให้คนอื่น .... http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11404141/B11404141.html ตอนที่ 5  :   โจ จีราร์ด ยอดนักขายบันลือโลก....บทที่ 3 จงสร้างความเชื่อมั่นและความกล้า หาญ .... http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11408381/B11408381.html จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 10:57:57

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนต่อไป ตอนที่ 7  :  บทที่  4  พัฒนาความคิดสร้างสรรค์  ทัศนคติด้านบวก คอยติดตามวันพรุ่งนี้นะครับ.....อย่าพลาดชม อมร  ถาวรมาศ amorntvm@hotmail.com จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 54 11:07:11