 |
5. ประการที่สาม ใช้พลังความคิดให้เป็นประโยชน์
บ่อยครั้งไปที่คุณเคยเห็นถ้อยคำที่เขียนเป็นคำขวัญ ติดอยู่ตามที่ต่าง ๆ เช่นในที่สาธารณะ ห้อง
สุขา โรงแรม หรือแม้กระทั่งท้ายรถเมล์ บางคำก็ดูขบขัน หยาบโลน บางชิ้นก็มีความหมายที่
ไพเราะและกินใจผู้อ่านพอสมควร
“ทอม วัดสัน” ผู้มีอัจฉริยะยิ่งต่อการทำให้ บริษัท ไอ.บี.เอ็ม. ประสบความสำเร็จในธุรกิจ
คอมพิวเตอร์ คิดคำขวัญที่สั้นกะทัดรัดได้ใจความที่สมบรูณ์ คือ คิด (THINK)
ครับ คำนี้แหละ มีพลังมหาศาลถ้าคุณคิดกันให้ดี
ความคิดเป็นพลังภายในตัวที่มีอยู่กันทุกคน เป็นตัวที่จะนำทางไปถึงยังจุดหมายปลายทางที่
ปรารถนาได้คุณจะต้องรู้จักพัฒนา และนำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เฉพาะอย่างยิ่ง การขายตัว
คุณให้คนอื่น ผมไม่ใช่แฟนที่ติดละครจนงอมแงม แต่ผมก็ชอบที่จะไปดูละครที่เขียนเรื่องโดย
เช็กสเปียร์ (William Shakespesre) เพราะผมชอบมากและจำเรื่องเจ้าชายแฮม
เลต(Hamlet) ได้ดี ผมยังนึกถึงคำกล่าวที่ว่า
“ไม่มีอะไรดีหรือเลวในโลกนี้ นอกเสียจากเราคิดไปเอง”
คุณเอง อาจตัดสินใจที่จะปลูกฝังความคิดด้านลบ หรือด้านบวกให้เกิดขึ้นกับตัวคุณเองได้ตามที่
คุณต้องการ เพราะมันเป็นตัวของคุณเอง ไม่ใช่คนอื่น
ก่อนผมเกิด “เอมีล คูเอ” (Emile Couel) เป็นคนที่มีแนวความคิดด้านบวก ได้ตั้งทฤษฏีของ
เขาไว้ และมีคนนิยมแพร่หลายในเวลาต่อมา เขาเขียนเป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ แต่มีคุณค่า
มหาศาล ชื่อว่า “Self Mastery Through Conscious Auto-suggestion”
ผมจะเล่าให้คุณฟัง
คูเอ เป็นนายแพทย์ชาวฝรั่งเศส เขาทดลองทฤษฏีของเขากับบรรดาคนไข้ ซึ่งมีทั้งชาวยุโรป
และอเมริกันทุกคนจะต้องพูดตามที่ คูเอ บอกไว้ คือ
“ทุกวัน ทุกวัน
ฉันจะเสาะหาหนทาง
สร้างตัวเองให้ดีขึ้น ดีขึ้น”
แนวทางของเขา คือต้องรู้จัก คิด และ เชื่อว่า จะเป็นไปตามที่ต้องการดูแล้วแสนจะง่ายดาย
ทุกวัน 1,440 นาที มันจะเป็น วันใหม่ที่คุณคิดว่า เช่นกัน ถ้าคุณรู้จักคิด และทำมัน
พลังความคิด ซึ่งใคร ๆ ก็ดูถูกและหัวเราะเยาะเขา แต่คูเอ ไม่เคยวิตกกังวล เขาไม่เพียงแต่มี
ความคิดที่ถูกต้องเท่านั้น มันยังมีประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้า ในเวลาต่อมา ไม่ว่าจะเป็นนอร์
แมน วินเซนต์ พีล, บาทหลวง ฟูลตัน เจ.ซีน,บรุซ บาร์ตัน, และเอลเมอร์ วีลเลอร์ ต่างก็ใช้
ทฤษฏีหรือแนวความคิดของเขาทั้งสิ้น
แน่นอน ถ้าคุณคิดและพะวงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นแล้วละก้อ สิ่งที่คุณคิดก็จะเกิดขึ้นเสียด้วยซี
ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง ถ้าคุณเข้าไปร่วมกิจกรรมในสมาคม สโมสร หรือชมรมใดก็ตาม ไม่ว่า
จะเป็นโบสถ์ หรือทีมโบวลิ่ง มันก็เท่ากับว่า คุณจะต้องขายตัวคุณเองให้กับคนอื่น ที่อยู่
ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ กับคุณ
ถ้าคุณคิดว่า คุณด้อยกว่าคนอื่น ขาดความคล่องแคล่วว่องไว ขาดภาวะผู้นำหรือทำคะแนนได้ไม่
ดีเท่าที่คุณคิดหรือคาดหวัง มันก็เท่ากับว่า คุณกำลังเปิดเผยตัวคุณให้คนอื่น ๆ รู้ว่าคุณเองไม่
มีน้ำยา ไม่มีเพื่อน เป็นคนน่าสงสารเข้าตัวเปล่า ๆ โดยใช่เหตุ
ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณคิดว่า คุณเป็นคนน่ารัก น่าคบหาสมาคมด้วย คุณก็คงจะแสดงตัว
เหมือนอย่างที่คุณคิด โรเบิร์ต เบรินส์ พูดไว้ว่า “จงดูคนอื่น ๆ เหมือนที่คนอื่น ๆ ดูเรา”
ผมเชื่อแน่ว่า ไม่มีปัญหา แต่อยากจะเพิ่มเติมอีกหน่อยว่า ความจริงนั้น คนอื่นเขาดูเราดังที่
เราดูตัวเราเอง และคิดว่าตัวเราเองเป็นอย่างนั้น
คุณคิดอย่างไรกับเรื่องที่ผมเล่าให้ฟัง มันดูคล้าย ๆ กับการบริหารร่างกายทุกวันนั่นแหละ แต่
เป็นเรื่องของการบริหารทางใจมากกว่า
ลองดูไหมล่ะ ว่าคุณทำมันได้ไหม ทำมันทุกวันเลย วันละ 12 ครั้งเท่านั้น ลองดูซิครับ
จากคุณ |
:
ลุงแอ็ด
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ธ.ค. 54 10:18:20
|
|
|
|
 |