|  | 
             Sanyo เริ่มแย่มาตั้งแต่กลางทศวรรษ 2000 แล้วล่ะครับใครที่ติดตามธุรกิจญี่ปุ่นก็จะรู้ดี  Sanyo เริ่มสูญเสียตลาดในมือตั้งแต่ตู้เย็น,แอร์, Etc ให้คู่แข่งจากจีนและเกาหลี (จนเป็นเรื่องจิกกัดกันในหมู่ผู้กีดกันสตรีเพศเพราะช่วงนั้น Sanyo แต่งตั้ง CEO ผู้หญิงซึ่งพบเห็นได้ยากกกมากกกในสังคมที่บุรุษเป็นใหญ่อย่างญี่ปุ่น) ดังนั้นการทำธุรกิจของ Sanyo จะเป็นการทำไปแบบทรงๆ ไม่มีเงินสดในมือมากนัก เมื่อเกิดวิกฤตจึงแย่กว่าที่อื่นและพร้อมจะเลิกกิจการได้ตลอดเวลา Hitachi เองก็ประสบปัญหาเดียวกันแต่ปรับตัวได้ดีกว่ามากโดยการลดการทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและหันไปเน้นสินค้าอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูงๆแทน ส่วน Sony กับ Panasonic มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งมากอยู่แล้วและมีธุรกิจอื่นช่วยเสริมเป็นจำนวนมาก ถึงจะถูกรุกหนักจาก LG และ Sumsung ก็ยังพอประคองสถานการณ์ไปได้
 
 Toshiba ที่บางกะดีโดนน้ำท่วมทุกโรงตั้งแต่ Toshiba carrier(แอร์) TPT (ตู้เย็น,เครื่องซักผ้า) TST(เซมิคอนดักเตอร์) Toshiba lighting (หลอดไฟ) ยังไม่คิดจะย้ายหนีเลยครับเพราะคนญี่ปุ่นรู้ดีว่า ถึงเมืองไทยอาจจะมีค่าแรงที่สูงอยู่บ้าง  แต่ปัจจัยการผลิต,supplier,Infrastructure มีพร้อมกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้มากๆ
 
 
 ค.ห.35 ขายดีแค่ถ่านกล้องกับกล้องอย่างเดียวอยู่ไม่ได้หรอกครับสำหรับธุรกิจที่มีพนักงานมากขนาดนั้น....
 
 
 จากประสบการณ์การทำงานตรงกับญี่ปุ่นทั้งในเมืองไทยและญี่ปุ่นเกือบ 10 ปี....
 แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 54 23:44:14
				 
				 
				
					| จากคุณ | : 
โรคุง (rosickyus)   |  
					| เขียนเมื่อ | : 
11 ธ.ค. 54 23:39:41 |  
					|  |  |  |  |