ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องเรียนแนะนำให้หาที่มีทุนช่วงเหลือบบ้าง จ่ายเองทั้งหมดลำบาก เรื่องเงินเดือนตอบยากครับ จากคุณ : พี่หอม เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 20:04:36

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าจบใหม่คงจะต่อรองเรื่องเงินเดืงนลําบากหน่อย หลายๆบริษัทเขามีโครงสร้างเงินเดือนอยู่แล้วคับ มีหลายๆแบ็งค์ที่เขามีสินเชื่อสํหรับเรียนโท ลองสอบถามดูเป็นอีกทางเลือกคับ ภาษาอังกฤษเป็นตัวช่วยได้มากเลยคับ ถ้ามีโอกาสลองฝึกฝนดูคับ จะได้เปิดโอกาสสําหรับงานดีๆ เดี๋ยวนี้บริษัทใหญ่ๆดีๆต้องมีผลคะแนนโทอิคด้วยคับ โชคดีนะคับ :) จากคุณ : ทิดอ้วน เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 20:07:03

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ไหว และไม่มีทาง จากคุณ : ผมเสียโสดให้หญิงร้าย เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 20:10:12

ความคิดเห็นที่ 4 ขอทุนเรียนฟรี จากคุณ : NongMuay เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 20:11:06

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าจบออกมา ได้เกรด ไม่ถึง  3   จะเรียนต่อ ปอ โท ใน มหาลัยบางแห่ง ถือว่า ขาดคุณสมบัติบางอย่าง  คือ  มหาลัยบางแห่ง กำหนดให้ต้องผ่านการมีประสบการณ์การทำงานมาแล้วไม่น้อยกว่า  3  ปี   บางแห่ง ก็กำหนดไว้  ปี เดียว                แต่ถ้า จบออกมาได้เกรด มากกว่า  3   มหาลัย บางแห่งเปิดโอกาสให้เรียนต่อปอ โท ได้เลย  โดยไม่ต้องผ่านการทำงานมาก่อน                    ผมไม่รู้ว่า  จขกท  เรียน ปอตรี  สาขาอะไรมา  ตีคล่าว ๆ  ว่า อย่างเก่งคงได้เงินเดือนไม่เกิน 20k                ถ้าจะเรียนต่อ ปอโท  ในปีที่จบเลย   จะทำได้  ต้องอาศัยทุนจากคุณพ่อคุณแม่ช่วยส่งไปก่อน     ไม่แนะนำให้ไปกู้ยืมมาเล่าเรียนนะครับ  เพราะไม่อยากให้มีหนี้สินติดตัว ในขณะที่ยังเอาความแน่นอนอะไรไม่ได้                ถ้าคิดจะเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย  ต้องวางแผนตัวเองให้ดี ๆ  เพราะมันเป็นเรื่องสุดวิสัย และ เป็นงานที่หนักเอามาก ๆ  เพราะ แทบจะหาวันหยุดไม่ได้เลย  ไม่มีวันพักผ่อน จนกว่าจะปิดเทอม จริง ๆ    และเวลาจะสมัคร ทำงาน  ควรเลือกสมัครทำงานกับบริษัทที่ทำงาน แล้ว หยุดวันเสาร์ และวันอาทิตย์นะครับ  จะได้สบายตัวและไม่เหนือยจนเกินไป เมื่อต้องเรียน ปอ โท จริง ๆ                  ขอให้โชคดีนะครับ จากคุณ : รุ่งโรจน์ทวีคูณ (รุ่งโรจน์ทวีคูณ) เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 20:42:59

ความคิดเห็นที่ 6 #1 ครับ #2 ผมเองก็มองๆอยู่ครับ #3 ครับ #4 ครับหาได้ก็คงดี T^T #5 ผมดูๆรีไควเอ้อไว้บ้างแล้วนะครับ สำหรับสาขาผม ฬ ไม่เอาเกรด+ โทเฟล 400 มธ เอา 2.7 มั้ง ม. ผม เอา 2.5 + โทเฟล 550 เท่าที่ดูผ่านรีไควเอ้อทุก ม ในประเทศครับ ^^ (แต่สอบไม่ติดอีกเรื่องนึง) ส่วนเรื่องเงิน เทอมแรกผมตั้งใจจะกู้ยืมแบบไร้ดอกเบี้ยมาก่อนอยู่แล้วครับ ึคือคณะผมแทบทุกคนจบมาต้องเรียนต่อหมดแหละครับ อยู่ที่ว่าจะเลือกเรียนมาสเตอร์ หรือเรียน Bar เท่านั้นเอง คนส่วนใหญ่เลือก bar แต่ผมว่ามันไร้ประโยชน์ (คหสต) ผมไปเน้นทางที่อยากเป็นไปเลยดีกว่า ปัญหาคือจำพึ่งพาพ่อแม่ให้น้อยที่สุด เพราะก็คิดว่าตัวเองโตแล้ว เกาะที่บ้านต่อไปไม่เวิคแน่ๆ ขอบคุณทุก คห ครับ จากคุณ : ไม่ขำผมเอาจริง เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 20:56:41 A:223.204.16.71 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 7 คงต้องบอกสาขาวิชาที่เรียน และงานที่จะทำ จะได้รู้เรทเงินเดือน ไม่งั้นก็คงแนะนำกันยาก จากคุณ : หมวยสลัม เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 21:32:32

ความคิดเห็นที่ 8 #7 กฎหมายครับ จากคุณ : ไม่ขำผมเอาจริง เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 21:43:47 A:223.204.16.71 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 9 เทอมละ 5 หมื่น ปีนึงก็แสนนึง ตกเดือนละ 8333 บาทครับ ที่ต้องบวกเพิ่มต่างหากจากค่าใช้จ่ายส่วนอื่น จากคุณ : Shinemon คุง เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 21:53:55

ความคิดเห็นที่ 10 ผมคิดว่า น่าจะยังไม่เรียนโทนะครับ ทำงานซักสองปีเพื่อเก็บเงินออมเพื่อไว้เลยก่อนดีกว่าครับ หมายถึงเรื่องนิติศาสตร์ใช่ไหมครับ ถ้าจะเรียนเนติฯ ก้อเรียนต่อเลยได้  แต่ถ้าจะเรียนโทแนะนำว่า ควรทำงานก่อนครับ จากคุณ : เคนตะซัง เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 22:03:28

ความคิดเห็นที่ 11 งั้นเอาแบบนี้มั้ยครับ เรียนภาคปกติ ค่าเทอมแค่เทอมละ 15000-20000 ไม่ต้องทำงาน ขอเงินที่บ้านเป็นค่าใช้จ่าย แล้วเป็นTAอาจารย์ในมหาลัย จะได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมหน่วยกิตฟรี เกือบไม่ต้องจ่ายค่าเทอมเลย เทอมนึงจ่ายแต่ค่าบำรุงแค่ 2-3000 เอง จากคุณ : Last sector เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 23:48:39

ความคิดเห็นที่ 12 เรียนเนฯ ก่อนดีมั๊ย? จากคุณ : กุ้งเต้นชามะนาว เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 00:12:36

ความคิดเห็นที่ 13 #9 ขอบคุณที่คำนวนให้ครับ #10 ผมอธิบายไปแล้วครับ ว่าโดยส่วนตัวแล้ว เน ไม่มีประโยชน์กับชีวิตผม #11 น่าสนใจครับ แต่บังเอิญว่าสาขาที่ผมสนใจไม่มีเปิดภาคปกติครับ #12 คงไม่เรียนตลอดชีวิตครับ ไม่ว่าก่อนหรือหลัง จากคุณ : ไม่ขำผมเอาจริง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 00:27:12 A:223.204.16.71 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 14 จะเรียน โท ไปทำไมครับ ?  มีเป้าหมายชีวิตหรือวางแผนอนาคตไว้อย่างไร ?? คือถ้าคุณไม่ได้วางเป้าหมายชีวิตในระยะสั้น - กลาง - ยาว ไว้ดีๆ ผมว่าไม่ต้องเรียนหรอกครับ เสียเวลาครับ เราควรเลือกเรียนอะไที่มัน support อนาคตของเราอย่างเหมาะสม ถ้าตั้งโจทย์ชีวิตไว้ไม่เหมาะสมการเรียนต่อจะไร้ค่าทันที เหมือนลูกคนรวยที่ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิต เน้นการเรียนต่อๆๆๆๆๆ ฝากไว้แบบนี้ละกัน ผมผ่านจุดที่คุณตั้งคำถามมาแล้ว ก็เลยขอแชร์ในลักษณะนี้นะครับ โชคดีครับ จากคุณ : kennyG เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 00:58:10

ความคิดเห็นที่ 15 @ kennyG เหตผลคร่าวๆมีอยู่ 2 ข้อครับ คุณต้องเข้าใจก่อนว่านิติศาสตร์มันไม่มี เอก ครับ แล้วแต่ละมหาวิทยาลัยก็มีที่ทางอยู่ในฐานะ "โรงเรียนเตรียมเน" แล้วมันไม่ดีอย่างไีีรล่ะ?? เน มุ่งเน้นสอนข้าราชการกฎหมายครับ เนติบันฑิตไทย ในสายตาผมแล้ว มีค่าแค่สิทธิในการสอบผู้ช่วย และครุยเนที่โก้หรู แต่ไม่ได้แสดงถึงสิ่งที่มีอยู่ข้างในเท่าใดเลย สิ่งที่เนติสอนไม่ใช่กฎหมายเป็นอย่างไร เป็นธรรมหรือไม่ แต่เนสอนว่า "กฎหมายฉบับนี้ ศาลท่านเคยใช้อย่างไร" สรุป 1. เนติ ไม่ใช่แนวทางของผม เป็นโรงเรียนกฎหมายที่มีแนวทางตรงกันข้ามกับสิ่งที่้ผมถูกสั่งสอนมา สิ่งที่ผมเรียนมาในชั้นปริญญาตรีในเรื่องราวบางเรื่องบางด้าน ถูกครอบงำโดย สถาบันที่ชื่อเนติเนี่ยแหละครับ เพราะเค้ากลัวกันว่าเนติจะไม่รับรอง ซึ่งมันมีผลให้เกียรติและศักดิ์ศรีในสายตาของ นศ นิติศาสตร์บางคนรับไม่ได้ มหาลัยทุกมหาลัยก็เลยจำเป็นต้องสอนเพียงแต่วิชาที่ เนติ สอน (เพื่อให้เค้ารับรอง เพราะเค้าจะรับรองหลักสูตรที่ตรงกับตัวเองเท่านั้น) สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไอ้ที่เรียนมา "มันไม่พอ" ไม่พอแล้วทำอย่างไรล่่ะ?? หน่วยกิตชั้นปริญญาตรีโดนวิชาเนติบีบอัดจนเต็มแน่น ทำให้มีวิชาเลือกเสรี ด้านกฎหมายได้เพียงไม่กี่ตัว แถมบางวิชาก็ถูกมัดรวมจนสอนน้อยไป คำถามต่อมา แล้วทำไมไม่ไปหาความรู้ในที่ทำงานล่ะ?? คำตอบของผมก็คือ เพราะเค้าไม่รับไงครับ สำนักงานกฎหมายรับคนจบกฎหมายน้อยกว่าคนที่เรียนมา แล้ว เค้ามีความจำเป็นอะไรที่ต้องมารับคนอย่างผมเล่า?? รวบรัดตัดความก็คือ ผมอยากทำงานเฉพาะด้านครับ และในชั้นป ตรี ให้ผมไม่ได้ เน เองก็เป็นพวกเคร่งฎีกาบ้าพรีซีเดนซ์ขาดศักยภาพ ก่อนอื่นผมก็ต้องจบมาสเตอร์ไงครับ เพื่อมีความรู้ให้เพียงพอที่เึึค้าจะรับ พอรับผมก็ไปเรียนรู้งานต่อ สรุป 2.ผมต้องการเป็นนักกฎหมายเฉพาะด้านครับ จากคุณ : ไม่ขำผมเอาจริง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 01:18:09 A:223.204.16.71 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 16 จขกท คคห 13 ครับ อ่านเข้าใจดีครับว่า เนติฯ ไม่สำคัญสำหรับคุณ แต่ผมเขียนตอบเพื่อให้คนอื่นได้อ่านด้วยครับ ไม่ใช่แค่คุณคนเดัียวครับผม ดังนั้น คำตอบของผมคือ ทำงานก่อนเถอะครับ แล้วค่อยเรียนโท แล้วมุมมองจะกว้างมากขึ้น บางที่สขาวิขากฎหมายที่เราสนใจตอนเรียน ป ตรี ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่เราสนใจจริงๆตอนทำงาน ยกเว้น คิดว่า ตนเองมองออกหมดแล้วว่าสาขาวิชากฎหมายไหนเรียนอะไรบ้าง แนวทางเป็นอย่างไร และใช้ชีวิตในการประกอบวิชาชีพกฎหมายเฉพาะทางนั้นๆอย่างไร แต่ก้อเป็นแค่ คคห ส่วนตัวของผมนะ (จากประสบการณ์ป ตรีและ ป โท ด้านกฎหมาย เหมือนคุณเป๊ะ เมื่อ 15 ปีที่แล้ว) ส่วนเรื่องที่เรียนจบแล้วไม่ทำงานต่อ เพราะหางานทำต่อได้ยาก อันนี้ไม่มีข้อแนะนำครับ แล้วแต่การกำหนดคุณสมบัติสถานที่ทำงานในฝันของเราเอง แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 54 08:43:12 จากคุณ : เคนตะซัง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 08:39:16

ความคิดเห็นที่ 17 เอาค่าเทอม มาเป็นตัววัดเงินเดือน ..? ไม่น่าจะใช่... จบ นิติฯ มาก็เป็น ทนาย , กฏหมาย , สัญญา , บุคคล เด็กจบใหม่อายุ 22 - 23 ปี เงินเดือนให้เต็มที่ก็คง หมื่นต้นๆ.... ไว้สอบ เนฯ ได้ ค่อยเรียกเงินเดือน สองหมื่นได้ จากคุณ : ฟหกด2 เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 14:00:38 A:180.183.5.28 X: TicketID:323088

ความคิดเห็นที่ 18 #16 ครับ #17 เท่าที่เห็นที่เกิน 20k มันก็มีพอสมควรนะครับ(ที่เห็นมารับใน ม )สำหรับอินเฮาส์บางบริษัท แต่เป็นงานที่ไม่ค่อยได้ประโยชน์เท่าไหร่ครับ จากการสอบถามรุ่นพี่ที่ไปอยู่ ค่าเทอมคือ burden อย่างเดียวของผมนี่ครับ? ถ้าผมไม่ใช้ค่าเทอมผมควรใช้อะไรล่ะ?? ส่วนสอบ เน โอเค อาจจะอัพเงิน เหมือนมีใบเซอเพิ่มมาใบนึง อย่างที่ว่าได้จริง แต่มันไร้ค่าในระยะยาวครับ จากคุณ : ไม่ขำผมเอาจริง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 14:22:05 A:223.204.16.71 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 19 คุณเจ้าของกระทู้ต้องได้เงินเดือนอย่างต่ำแล้ว 16k ขึ้นไปครับ ถึงจะ cover ค่าใช้จ่าย (แต่ไม่ทั้งหมด) เงินเดือน 16k นี้หักประกันสังคม 0.75k หักเก็บไว้เรียนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกเดือนละ 9k (อันนี้คำนวณเป็นตัวเลขกลมๆ)สรุป เหลือเป็นตัวเลขกลมๆ ประมาณ 6k เป็นค่ากิน ค่าเดินทาง (ถ้าพักหอพักอีก เงิน 16k นี้อยู่ลำบาก) สรุปก็คือถ้า จขกท อยากจะเรียนจริงๆ ก็เรียนได้ครับ อยากได้เกือบๆ 20k ภาษาอังกฤษในวิชาชีพกฏหมายก็คงต้องปึ๊ก เพราะองค์กรที่จะ สามารถจ้าง จขกท. ได้เยอะขนาดนี้ (สำหรับเด็กจบใหม่) ก็น่าจะมีแต่องค์กรที่ขยายองค์กรมาจากต่างประเทศนะครับ ยกตัวอย่างเช่น Baker & McKenzie (Thailand), Clifford Chance (Thailand), Linklaters (Thailand),....... Freshfields Bruckhaus Deringer (Thailand) และ Allen & Overy (Thailand) เป็นต้นครับ เชื่อมั่น จขกท. ต้อง รู้จักดีอยู่แล้ว เพราะองค์กรพวกนี้ขึ้นชื่อมากครับ แต่เนื่องจากผมเองไม่ได้จบกฏหมาย ผมจึงไม่แน่ใจว่าองค์กรดังกล่าว ที่ผมยกตัวอย่างไป JD มันจะใช่อย่างที่ จขกท. ได้เรียนกฏหมายมารึเปล่า(?) คือแนะนำไปเพราะฐานเงินเดือนองค์กรที่ กล่าวมานี้ Rate ดีสำหรับเด็กจบใหม่ครับ จากคุณ : นิรนาม เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 15:18:42 A:103.1.164.12 X: TicketID:340972

ความคิดเห็นที่ 20 ก่อนจะถามว่าเงินเดือนจะได้เท่าไหร่ ดูัศักยภาพตัวเองก่อนว่าสมควรจะได้เท่าไหร่ ปล. ทำงานก่อนสัก 1-2 ปี ก่อนแล้วค่อยเรียนก็ไม่สาย และไม่แนะนำให้เชื่อรุ่นพี่หรือว่าคนอื่นที่ทำงานแล้วบอกว่าทำในองค์กรนั้นก็ไม่ได้อะไร ของแบบนี้ต้องเจอกับตัวถึงจะรู้แจ้งเห็นจริงมากกว่านะคะ ^^ จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 15:48:08

ความคิดเห็นที่ 21 #19 ครับ ต้อง 16k ขึ้นเลย = =' หนักเอาการ ส่วนพวกlaw firm ที่ว่า รู้จักแน่นอนครับ แต่ถ้าเข้าระดับนั้นได้ผมคงไม่เรียนแล้ว = =' (เฟิร์มพวกที่ว่า จ้างเด็กจบใหม่หลายหมื่นครับ เค้าว่าเบเก้อนี่เงินเดือนนักกฎหมายทั่วไป ยืนพื้นที่แสน รุ่นพี่ผมคนนึงไปฝึกงานภาคฤดูร้อนกับอัลเลนมั้ง เค้าให้ 20k) แต่ก็ยังมีพวกโลคัลเฟิร์มไม่ก็ สำนักงานกฎหมายที่รับงานแนวนั้นอยู่บ้างครับ #20 ศักยภาพผม 0 บาทครับ เพราะถ้าไม่ได้เทรนงานกับที่ทำงานที่แรก ผมจะทำอะไรไม่เป็นเลย ทำได้ก็ทำมั่วๆ เขียนฟ้องกากๆ ซึ่งไม่ดีแน่ ถ้าได้เจ้านายที่เก่งพอ และสามารถทำให้ผมเก่งขึ้นได้ 0 บาทผมก็ทำ งานบริษัทแรกผมไม่ต้องการไปทำงาน ผมต้องการไปขโมย แต่พอดีมันดูยากน่ะ ว่าเจ้านายเก่งจริงไหม ผมก็เลยต้องเรียกเงินไว้ก่อน แล้วเอาไปแลกอะไรซักอย่างมารับรองว่าจะเก่งขึ้นได้จริง แน่นอนเค้าก็จะได้ใช้งานผมกลับ ขอบคุณทุกๆคนนะครับ แอตติจูดผมผิดมนุษย์ไปบ้างอย่าถือสาเลยครับ เด็กมันยังอ่อนต่อโลก น้อมรับคำสั่งสอนครับ จากคุณ : ไม่ขำผมเอาจริง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 16:03:06 A:223.204.16.71 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 22 จขกท ค่ะ ถ้าจบกฎหมายมาลองทำงานเกี่ยวงาน ER ดีไหมค่ะ เงินเดือนก็น่าจะสักไม่เกิน 15 K สำหรับคนจบใหม่ ลองทำงานดูสักพักแล้วจะรู้ตัวเองค่ะว่าควรจะเรียนต่อหรือเปล่า จากคุณ : จรีน่า (จรีน่า) เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 16:36:13

ความคิดเห็นที่ 23 เถียงเก่งสมเป็นเด็กจริงๆ เห็นด้วยกับความเห็น 14 ครับ(อย่างแรง) จากคุณ : CatchinG เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 17:01:55

ความคิดเห็นที่ 24 คุณเจ้าของกระทู้อย่าเพิ่งดูถูกความสามารถของตัวเองขนาดนั้นเลยครับ ถ้ารู้จักองค์กรเหล่านั้นก็ลองดูซักตั้งเถิด ดูจากการตอบ การอธิบาย การแสดงความคิดเห็นของ จขกท. ดูแล้วมีความมั่นใจในตัวเองค่อนข้างมาก และก็ ค่อนข้างจะ clear ในความคิด ทำให้คิดถึงตัวผมสมัย จขกท. ครับ ผมจบบัญชีบัณฑิตมา เคยคิดเหมือนกันว่า CPA คือจุดสุดยอด จุดสูงสุดของวิชาชีพการบัญชีแล้ว ตอนนั้นไม่คำนึงถึงอะไรทั้งนั้น คิดอย่างเดียวว่า ทำยังไง ก็ได้ จะเป็น CPA อย่างเดียว จนเวลานี้ ล่วงเลยมา 2 ปีกว่าแล้ว (หลังจากจบการศึกษา) ทำงานด้าน Acc.ด้วย SAP 1ปี ย้ายมาทำ Aud. ใน Big Firm อีก 1ปี ทำให้ผมได้รู้และเปิดกว้างว่า CPA ไม่ใช่จุดจบของบัณชีบัณฑิต มันยังมีอะไรอีกหลายอย่าง ซึ่งก็คล้ายกันกับ จขกท. ครับ (ยังไงก็ไม่เอา เนติบัณฑิต แน่นอน) ผมว่า จขกท. ลอง ตั้งหน้าตั้งตาทำงานซักพักหนึ่งเถิดครับ (เข้าในองค์กรนานาชาติเหล่านั้นให้ได้) เผื่อคุณ จขกท. จะได้หนทางและ ความชอบ รวมถึงความถนัดที่แท้จริงของตนเองก็เป็นได้ (และอาจจะเปลี่ยนทัศนคติที่ไม่ดีเกี่ยวกับ เนติฯ ก็อาจจะ เป็นได้นะครับ) รวมถึงหนทางในการเรียนต่อของคุณ จขกท. เพื่อขยาย career path ของตัวเองในท้ายที่สุดครับ .... สู้สู้ครับ ^^'' จากคุณ : นิรนาม เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 17:31:55 A:103.1.164.8 X: TicketID:340972

ความคิดเห็นที่ 25 งั้นผมจะช่วยทำให้คุณคิดแผนอนาคตง่ายขึ้นละกัน  ที่คุณบ่นๆและตอบคนอื่นมาไม่เห็นจะทำให้เข้าสู่วิธีการหรือเป้าหมายได้เลย เป้าหมาย ได้เป็นนักกฎหมายเฉพาะด้าน ทำงานด้านกฎหมายเฉพาะด้าน --> ต้องเรียนเฉพาะด้าน(อันนี้จากข้อมูลที่คุณให้มา)  --> ต้องใช้เงินเพื่อเรียนและอยู่รอด --> ต้องมีเงินก้อนเป็นค่าเทอม A บาทและรายเดือนเพื่อกินอยู่,เดินทาง,ฉุกเฉินต่างๆอีก B บาท สรุป ถ้าคุณจะเอาเป้าหมายนี้ คุณต้องเริ่มจากมี "เงิน" ก่อนครับ หรือถ้าไม่มีเงินก็ต้องหา "ทุน"  ครับ เพราะถ้าไม่มีทุน หรือ เงิน คุณเลิกฝันที่จะให้ถึงเป้าหมายเลยครับ ไม่มีทางแน่นอน เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณต้องทำ ณ บัดนี้เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายคือหา "เงิน" ครับ เพราะฉะนั้นกระทู้ที่คุณควรจะต้องตั้งคือทำยังไงให้มีเงินครับ การบ่นถึงรายละเอียดอื่นๆไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย สู้ๆครับ หวังว่าจะหาทางเจอนะครับ . จากคุณ : kennyG เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 17:37:52

ความคิดเห็นที่ 26 #22 ER คืองานเกี่ยวกับอะไรครับ? #23 ครับ ขอบคุณสำหรับคำชมครับ #24 ครับ ขอบคุณครับ #25 ภาระผมมีแค่ ค่ารถ ครับ ผมก็อธิบายไปตรงหัวกระทู้แล้วว่าค่ากินถ้าจำเป็นไม่ต้องก็ได้ เพราะผมกินข้าววันละแค่มื้อเดียวมา สิบกว่าปีแล้ว ฉุกเฉิน ผมก็มีญาติครับ ผมว่าคุณตีแฟคเตอร์ของผมไม่ถูกนัก เป้าหมาย ได้เป็นนักกฎหมายเฉพาะด้าน ทำงานด้านกฎหมายเฉพาะด้าน --> ต้องเรียนเฉพาะด้าน(อันนี้จากข้อมูลที่คุณให้มา) --> ต้องใช้เงินเพื่อเรียนและอยู่รอด --> ต้องมีเงินก้อนเป็นค่าเทอม A บาทและรายเดือนเพื่อกินอยู่,เดินทาง,ฉุกเฉินต่างๆอีก B บาท +++++++++++++++ 1.ผมมีเงินก้อนเป็นค่าเทอมแรก (เงินกู้ยืมแบบไม่มีดอกเบี้ย และจะชำระหนี้เมื่อไหร่ก็ได้) เงินที่ต้องใช้คือเงิน 50000 ในอีกครึ่งปีถัดไปต่างหาก 2.ค่ารถ เป็นค่าใช้จ่ายอย่างเดียวที่ผมต้องเสีย ค่ากินไม่มีผมทำปิ่นโตไปจากบ้านก็ได้ ไม่มีปัญหา ผมก็อธิบายแล้วว่าผมไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า ไม่สูบ ไม่อะไรเลย คำถามของผมคือ 1.ผมมีความสามารถเท่าี้นี้ พอจะหางานที่มีเงินพอเรียนโทได้ไหม 2.ถ้าทำไม่ได้จะทำยังไง คุณตอบว่าหาเงิน >>> ผมมองว่าคุณตอบข้อ 1 ว่าไม่ได้ และตอบข้อสองว่า ต้องหาเงิน ใช่ไหมครับ?? ส่วนเรื่อง วิธีการเข้าสู่เป้าหมายนี่คือหนึ่งในประเด็นที่ผมมาตั้งกระทู้ถามครับ ถ้าผมตอบได้แล้วผมจะมาตั้งกระทู้ถามทำไมล่ะครับ การที่ผมพูดถึงรายละเอียดเรื่องเน เพราะมีคนพูดเรื่องเนเยอะครับ ผมเป็นคนที่ใครถามก็ตอบ ถูกผิดก็มาถกกัน ถ้ามันผิด คุณก็มาถกกับผมได้ แต่ถ้ามันไม่ผิด หรือผิดหรือเปล่าไม่รู้ แต่ทำให้คุณรำคาญผมก็ขอโทษที่ตอบครับ จากคุณ : ไม่ขำผมเอาจริง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 19:22:48 A:223.204.16.71 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 27 เจ้าของกระทู้ เลือกเรียน ป.โทกฎหมายสาขาใด มหาลัยใดครับ ถ้าเลือก ราม ภาคปกติ ค่าเทอมประมาณ 18000 บาท  ภาคพิเศษ 3หมื่นกว่า มสธ. ประมาณ 23000 บาท จุฬา มธ. ประมาณ 3 หมื่นกว่า นิด้า ภาคปกติ ประมาณ 3 หมื่นบาท ถ้าภาคพิเศษ เทอมแรกจ่าย 7หมื่นกว่า  รวม 2แสนกว่า ผมเรียน มสธ. ป.โทนิติ สาขากฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมครับ จากคุณ : ขอเป็นตัวแทน เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 20:01:54

ความคิดเห็นที่ 28 เล็งภาษีไม่ก็การเงิน ฬ ไว้ฮับ จากคุณ : ไม่ขำผมเอาจริง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 20:34:01 A:223.204.16.71 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 29 อืมมมม เด็กนิติมันจะเพี้ยนๆ แบบนี้เอง 5555 1. ผมมีความสามารถเท่านี้ พอจะหางานที่มีเงินพอเรียนโทได้ไหม ใครจะไปรู้คะ ตั้งแต่อ่านมาก็ยังไม่รู้เลยว่า ตกลงจขกท. มีความสามารถเท่าไหน คุณประเมินตัวเอง ก็ดันตอบว่า 0 บาท ใครจะไปช่วยได้ล่ะคะ 2. ถ้าทำไม่ได้จะทำยังไง ไม่รู้เหมือนกันค่ะ คนอื่นบอกว่าเรียนเนฯ คุณก็ว่าไม่ใช่ทางคุณ คุณจะเรียนโท และจะทำงานไปด้วย แต่ดันบวกลบคุณหารไม่ได้ ว่าตัวเองต้องใช้เงินเท่าไหร่ ปัจจัยอื่นๆ ก็ไม่รู้ ที่ทำงานอยู่ไกลบ้านแค่ไหนก็ไม่มีใครรู้ แล้วจะเอาอะไรมาคำนวณดี บางคห. อุตส่าห์คำนวณให้ออกมาได้ แต่ที่จริงคุณเองน่าจะรู้ดีที่สุด ว่าเดือนนึงจะใช้เงินเท่าไหร่ จะเหลือเก็บประมาณเท่าไหร่ และเท่าไหร่ถึงจะพอเรียนโทได้ บลาๆ สรุป ไม่รู้ว่าจขกท. จะมาถามคนอื่นทำไมอะค่ะ 5555 อีกอย่าง มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่ค่ารถจะเป็นค่าใช้จ่ายอย่างเดียวที่คุณต้องเสีย ในเมื่อคุณบอกว่า อยากพึ่งพาพ่อแม่ให้น้อยที่สุด ที่ว่าน้อยที่สุดคือ ค่าอาหารกับที่อยู่อาศัยใช่มั้ยคะ? แล้วค่าโทรศัพท์ใครจ่าย ค่ายาค่าหมอใครจ่าย เสื้อผ้า ชุดทำงาน ที่มันต้องซื้อต้องหามาใส่ ใครจ่าย คนเราพอจะเลี้ยงตัวเองขึ้นมาจริงๆ มันมีค่าใช้จ่ายจุกจิกเยอะนะ มันต้องมีไปกินข้าวนอกบ้านบ้าง ใช้จ่ายอะไรเพื่อความบันเทิงบ้าง หรือซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ที่อยากได้ (หรืออาจจะจำเป็น) อะไรพวกนี้ ถ้าไม่มีเลยก็อย่าเป็นคนดีกว่าอะ ซึ่งคุณนั่นแหละที่จะรู้ดีที่สุด ว่าเงินเดือนแค่ไหนถึงจะพอสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว และแค่ไหนถึงจะพอสำหรับเก็บไว้เรียนต่อด้วย แต่ประเด็นก็คือ ต่อให้คุณจะรู้ตัวเลขเหล่านั้น คุณก็ไม่ใช่คนกำหนดเงินเดือนเองอยู่ดีแหละ มันจึงไม่มีใครตอบได้หรอกว่า คุณจะทำได้มั้ย ในเมื่อตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าคุณจะได้เงินเดือนเท่าไหร่ เราว่า ถ้า priority คุณคือ ต้องการจะเรียนต่อ คุณก็เริ่มจากเรียนโทก่อนดีกว่า สักพักค่อยมาคิดว่าทำงานไปด้วยไหวมั้ย ถ้าทำงานไปด้วยไหว ก็บวกลบคูณหารดู ว่าเดือนนึงคุณต้องใช้เงินเท่าไหร่ (เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย กับเรียนอย่างเดียว กับทำงานอย่างเดียว ก็ต้องการเงินต่อเดือนไม่เท่ากัน จากประสบการณ์ตรงที่ทำมาแล้วทั้งสามแบบ และเรียนด้วยทำงานด้วย น่าจะใช้เงินเยอะสุด) หลังจากนั้นสมัครงาน ถ้าได้หลายที่ค่อยเอาแต่ละที่มาเปรียบเทียบกัน ว่าแบบไหนคุณจะทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยได้ และรบกวนพ่อแม่ให้น้อยที่สุด ปล. เราว่าคุณทำอะไรก็ได้อะไรบางอย่างทั้งนั้นแหละค่ะ ถ้ามัวแต่คิดว่าทำนั่นทำนี่แล้วไม่ได้อะไร วันๆ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี จริงๆ อ่านแล้วชอบคุณนะ กล้า 55555 และคิดว่าทุกคนคงมีคอนเส็ปต์บางอย่างที่ตัวเองยึดถือไม่เหมือนกันทั้งนั้น แต่หลายๆ อย่าง ถ้าออกมาเจอโลกการทำงาน ระบบการทำงาน ระบบของสังคมจริงๆ คุณอาจจะคิดไม่เหมือนตอนนี้ก็ได้ค่ะ สนับสนุนเรื่องเรียนต่อค่ะ ถ้าอยากเรียนก็เรียนไปเถอะ แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 54 20:36:41 จากคุณ : ZzIqka เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 20:34:38

ความคิดเห็นที่ 30 ความคิด จขกท. ยังอยู่ในโลกอุดมคติเกินไปครับ ตอนยังไม่เจอความลำบากก็พูดได้ครับว่าผมจะทำแบบนี้ๆ กลับมาสู่โลกความจริงนะครับ ตอบ จขกท.นะครับ ลองเขียน mind map ก่อนนะครับ เหมือนที่ คคห.ที่ 25 เขียนก่อนก็ได้ครับว่าตัวเราเองมี requirement อะไรบ้าง และการไปสู่จุดหมายที่คุณฝันไว้ต้องเดินเส้นทางไหน กำหนดจุดที่ต้องผ่านไปทีละขั้นครับ ต้องเรียนป.โทเฉพาะด้าน? -------> แล้วไปไหนต่อ(ในช่วงอายุเท่าไร) ---------> ต้องทำอะไรต่อ(ในช่วงอายุเท่าไร) -------->จุดหมายอยู่ที่ไหน(ในช่วงอายุเท่าไร) อันนี้ผมช่วยคุณไม่ได้ครับ อนาคตคุณเอง คุณต้องลงมือเขียนเอง ส่วนอีกเรื่องที่ผมพอจะช่วยได้ คือเรื่องการคำนวณรายจ่ายครับ การคำนวณรายจ่าย ต้องการเรียนเฉพาะด้าน (มีคนเอาหญ้ามาป้อนให้แล้วว่า เดือนละ 8333 บาท) ค่าอาหาร (จขกท.บอกว่าทานวันละมื้อนะครับ = 35 x 30 = 1050 บาท.......ทำได้จริงเหรอ?) ค่าเดินทาง ตีเผื่อว่าไปรถเมล์ 2 ต่อนะครับ รวมไปเรียนด้วย (7 x 2 = 14 ไปกลับ = 28 บาท/วัน = เดือนละ  840 บาท) ไปเรียนต้องมีค่าชีท ซีร๊อกข้อสอบเก่ารุ่นพี่ ช๊อตโน๊ทเพื่อน สอบทีหนึ่งตีว่าราวๆ 500 บาทครับ/6เดือน = เดือนละ 83.33 บาท เรียนโท ค่าเข้าสังคมอีกเท่านึงของค่าเรียนครับ ทำใจไว้เลย = total x 2 ค่าใช้จ่ายจิปาถะ ใส่เพิ่มลงไปตามที่เห็นสมควรนะครับ คิดรายจ่ายต่อเดือน = (8333+1050+840+83.33) x 2 = 20612.66 บาท ตีเลขกลมๆก็ 2 หมื่นบาท แต่ถ้าเป็นผมผมไม่จ้างหรอกครับ ด้วยเหตุผลที่ว่า ตีค่าตัวเองไว้ที่ 0 บาท ตรรกศาสตร์ง่ายๆแบบนี้ยังคิดไม่เป็น มุมมองยังแคบอยู่มาก คำแนะนำในฐานะรุ่นพี่นะครับ 1.ลดอีโก้ลงแล้วลองออกมาทำงานซะ จะได้เพิ่มมุมมองของชีวิตความในความเป็นจริงครับ เรื่องนี้ช่วยคุณได้เยอะแน่นอน 2.จัดระเบียบความคิดซะใหม่ เข้าใจว่าเรียนกฏหมายเน้นท่องจำ ลองพัฒนาตัวเองทางด้านตรรกศาสตร์และการอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมดูครับ 3.เพิ่มประสบการณ์ครับ คุยกับคนหลายๆอาชีพ อย่าปิดตัวเอง ผมอาจจะเป็นยาขมให้คุณในตอนนี้ครับ แต่เมื่อคุณเริ่มออกสู่สังคมการทำงานจริงๆ คุณจะรู้เองว่ายมขมดีเสมอครับ จากคุณ : basicball เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 21:32:57

ความคิดเห็นที่ 31 #29 ขอบคุณครับ ก็ผมไม่เคยเป็นนายจ้าง ผมก็เลยไม่สามารถวิเคราะห์ได้ครับ ว่าคนแบบผมควรจะจ้างในราคาเท่าใด ทางเดียวที่ผมจะเรียกผมก็ต้องเรียกที่ เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของผมและทำให้ผมมีชีวิตอยู่ได้ครับ จะให้ผมเขียนไปว่า เรียกเงินเดือน 50000 ต่อ 1 เทอม + ค่าใช้ชีวิตก็แปลกๆนะครับ เรื่องค่าใช้จ่าย ก็ผมไม่ใช้อะไรจริงๆอ่ะ เงินเดือน 1000 ผมก็อยู่ได้ ถ้ามันจำเป็น ก็เคยอยู่มาแล้ว เสื้อผ้าผมไม่เคยซื้อเองเลย ที่ซื้ออย่างเดียวก็คือการ์ตูน ซึ่งผมกลับบ้านไปก็คงอาศัยของที่พี่ๆซื้อได้อยู่ดี ครอบครัวผมทรัพย์สินทุกอย่างเป็นของส่วนรวมครับ #30 ถ้าจะฟังเต็มๆ จุดหมายผมคือตั้งเฟิร์มเองครับ ผมจำเป็นต้องหาคอนเนคชั่นและพัฒนาตัวเอง ก็อยากจะเข้าเฟิร์ม ไปเพื่อพัฒนาตัวเองและหาคอนเนคบ้าง การสร้างคอนเนคชั้นสำหรับลูกตาสีตาสาทำเองไม่ได้เลยครับ สำหรับผมมันสำคัญยิ่งกว่าความสามารถที่จำเป็นต้องมีอีก และผมไม่สามารถรอคอยได้ครับ ผมเองก็ทำแผนไว้ ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว การบอกคุณให้ละเอียดมีประโยชน์อะไรเหรอครับ คำถามผมก็แค่เงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะพอครับ ไปบอกเดี๋ยวคุณก็ลอกไปใช้ เรื่องค่าใช้จ่าย >>> ผมกินข้าววันละมื้อ ไม่เกินสองมื้อ กินมาสิบกว่าปีแล้ว ถ้ามันไม่มีตังผมก็กลับไปกินข้าวบ้านได้ครับ ตอนมัธยมก็ทำบ่อย ค่าเข้าสังคม เข้าสังคมแบบไหนล่ะครับ? มีงานต้องทำ มีเรียนเสาร์อาทิตย์ แล้วยังปุเลงๆกินเหล้า ผมว่าคนแบบนั้นไม่น่าแปล การตีค่าตัวเองไว้ 0 บาท >>> คุณจะให้ตีค่าตัวเองกับคนที่ไม่รู้จักอย่างไรครับ? แล้วคิดว่าเวลาคุณไปสมัครงานเค้าจะฟังคุณโม้หรือดูทรานสคริป?? แล้วยิ่งพูดกับคนไม่รู้จัก คุณมั่นใจเหรอครับว่าคุณค่าที่คุณตีค่าให้ตัวเอง มาจากการตีค่าความสามารถของคุณ ไม่ใช่ฐานเงินเดือน มั่นใจเหรอครับว่าตอนสมัครงานครั้งแรก HR เก่งขนาดดูคุณจากความสามารถได้ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาหลงคิดว่าคุณจะมีในอนาคต??? ออ แล้วคนที่ถามผมเป็น HR หรือไม่ครับ?เค้าจะรับผมทำงานเหรอครับ เราคุยกันในเรื่องความเป็นจริง จะสร้างภาพ ผมเก่ง ผมดีทำไมล่ะ ก็ผมเป็นแค่คนที่กำลังจะจบนิติ อยากเรียนโท ความสามารถผมมีเท่านี้นี่ ไอเอล(จำลอง)ที่เคยสอบตอนปี 2 ก็ได้เท่านั้น แล้วก็ยังไม่ได้สอบใหม่ เพราะมันเปลืองเงิน เกรดก็ไม่ถึงสาม เออ แถมยังไม่จบด้วยนะ ผมจะมองข้ามคำสบประมาทของคุณไปนะครับ ผมก็เพิ่งรู้ว่ายังมีพวกหลังเขามีความเชื่อแบบว่า นิติ เรียนแต่ท่องจำอยู่อีก เลิกสบประมาทคนอื่นเถอะครับ ผมเชื่อว่าคนที่ตรรกะดีกว่าผม มีอีโก้ต่ำกว่าผม มองโลกกว้างกว่าผมคงไม่เที่ยวดูถูกวิชาชีพคนอื่นครับ ส่วนตัวผมก็รู้นะครับว่าการทำยากกว่าการพูด งานตอนนี้ผมก็ทำได้แต่พาทไทม์ครับ งานกฎหมายไม่มีใครจ้าง มันเหมือนกันมั๊ย ผมก็ไม่รู้ จากที่ไปฝึกงานมากับทำพาร์ททาม มันต่างกันอยู่นะ แต่คุณจ้างผมมั๊ยล่ะ?? ผมคิด 50000 ต่อเทอม ไม่คิดค่าเครื่องบิน ผมยอมขาดทุนไม่ได้ความรู้อะไรเลย เอาแต่เงินอย่างเดียว อะไรนะ? ไม่จ้างเหรอ? เห็นไหม?การทำยากกว่าการพูดเสมอครับ ออ เรื่องที่คำนวนให้ผมขอบคุณมากครับ จากคุณ : ไม่ขำผมเอาจริง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 22:11:10 A:223.204.16.71 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 32 นิติศาสตร์ อย่าเพิ่งต่อโท ไปสอบตั๋วทนายให้ได้ก่อน ลงตั๋วรุ่นรึยัง รุ่นที่ 38 ใกล้จะปิดรับสมัครแล้ว ถ้าอยากมีเงินสูง ต้องมีตั๋วทนาย ที่สำคัญคือ ภาษาอังกฤษ และความรู้ในการร่างสัญญา จากคุณ : yothint เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 23:13:51

ความคิดเห็นที่ 33 #32 ครับ ม ผมต้องรอได้วุฒิก่อนน่ะครับ เค้าไม่ยอมออกอนุให้ T^T แต่ตั๋วอันนี้สอบแน่ครับ จากคุณ : ไม่ขำผมเอาจริง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 00:05:31 A:223.204.16.71 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 34 ลืม ขอบคุณครับ จากคุณ : ไม่ขำผมเอาจริง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 00:05:57 A:223.204.16.71 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 35 คนละสายงาน แต่แจมหน่อยละกัน จขกท มีความฝันดี ผมนี่ตอนจบใหม่ๆ ไม่มีความฝัน รู้แต่จบแล้วต้องเลี้ยงตัวเอง หาเงินก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน ได้บริษัทเล็กๆ เงินเดือนดีหน่อย เพราะจบเกียรตินิยม ทำงานอยู่ 3 ปี เงินเดือนอัพมาพอจะจ่ายค่าเรียนโทได้ ถึงไปเรียนโท เรียนโท จบแล้วถึงเปลี่ยนงาน ค่าเทอมห้าหมื่นต่อเทอม ตอนผมเรียนโท เงินเดือน 27000 ครับ ตัดเข้าแบงค์ไว้เดือนละหมื่น เหลือหมื่นเจ็ด กินเดือนละห้าพัน อีกหมื่นสอง ออม ตอนตัดสินใจเรียนโท ผมมั่นใจว่าขอแค่ผมมีงานทำอีกหกเดือน ผมจะมีเงินออมพอเรียนจบคอร์ส โดยไม่ต้องขอเงินใครเลย เพราะเก็บเงินมาตั้งแต่เริ่มทำงาน พอจบโทแล้วก็ย้ายงาน ของคุณ ที่้บ้านยังเลี้ยงคุณได้ ของผมที่บ้านมีหนี้ครับ หลังเรียนจบก็ต้องเอาตัวรอดเองแล้ว ตอนนี้ผมก็กลับมาแบกหนี้ที่บ้านแล้ว ถ้าสถานการณ์ไม่เหมาะสม บางครั้งก็ต้องเดินอ้อมบ้าง จะหวังให้เดินตรงๆไปถึงเป้าหมาย บางครั้งมันก็เป็นไปไม่ได้ ถ้ารู้ว่าขาดเงิน ก็ต้องดูว่าทางไหนหาเงินได้ เรียนเน ช่วยหาเงินในระยะสั้นได้มั้ย? เดินอ้อมหน่อยแต่ไปถึง ดีกว่า เดินตรงไปตกเหว เช่นเรียนๆไปแล้วเงินหมดกลางทาง อันนี้ต้องตัดสินใจเอง จากคุณ : panote_saechiew เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 14:40:51

ความคิดเห็นที่ 36 #35 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ จากคุณ : ไม่ขำผมเอาจริง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 21:18:51 A:223.204.16.71 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าเรียนมาคณะเดียวกัน จะเเนะนำให้ได้ ทำงานครบสองปี หัวหน้าส่งต่อโทนอก+เงินเดือน เเล้วกลับมาทำงานต่อให้ครบ 10 ปี ไอ้เราเองก็เสียดายอยู่ ไม่งั้นป่านนี้ก็ไปลั้ลล้าอยู่ ตปท เเระ แหงะ แหงะ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 22:01:38

ความคิดเห็นที่ 38 ผมชอบเจ้าของกระทู้แหะ (ขอเดาว่ามช ไม่ก็พายัพ) ท่าทางจะเป็นคนที่รับความกดดันได้ดี และจิกกัดไม่ปล่อย ซึ่งก็เป็นพื้นฐานของคนที่มีแนวมาทางทนายlaw firm เชื่อว่าถ้าได้รับโอกาสเข้าไปน่าจะอยู่ได้ โดยไม่ร้องไห้ถอดใจในตอนแรกๆ จาก ปสก ส่วนตัวของผมในวงการนี้ ก็ต้องบอกว่าเส้นทางของทนายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่มีใครสามารถบอก road map ได้ (บอกได้อย่างเดียว ทำเกรดให้ได้สูงสุดกู่ แล้วจะดีเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเสมอไป)  ทำงานไปยิ่งสูงเท่าไหร่ยิ่งพบว่าความสามารถมีส่วน 30 ความเฮง 70 เป้าหมายยิ่งสูง ยิ่งต้องขึ้นอยู่กับดวง นี่คือข้อสรุปส่วนตัว การเรียนเนติ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเรียนแล้วได้ใบเซอร์มาเฉยๆ คุณอ่านมาก คุณก็ได้ความรู้ ความแม่นในตัวบทและฎีกา ซึ่งมันก็ดีกับตัวคุณเอง ถ้าคุณมีเงินไม่พอที่จะเรียนโท ไม่รู้จะทำอะไร ว่างๆก็ลงเรียนดูไม่เสียหาย ไม่แพง หรือไม่ก็ฝึกภาษาไปเรื่อยๆซึ่งมีเว็บดีๆ ฟรีๆ อยู่มากมาย ถ้าคุณชอบ finance , tax คุณก็สามารถไปเรียนตรีการเงินอีกใบที่มสธ ค่าเทอมถูกแสนถูก เรียนออนไลน์ไม่ต้องเดินทาง ถ้าคุณจบมาได้(ก็พอๆกับใช้เวลาจบโท) แค่นี้โปรไฟล์คุณก็โดดเด่นไม่แพ้ใครแล้ว คุณต้องรู้จักรอคอย รอเวลาที่จะเป็นของคุณ ระหว่างนี้ คุณต้องทำตัวให้พร้อม และเมื่อวันนั้นที่โอกาสมาถึง คุณจะได้พุ่งตัวขึ้นไปในจุดสูงสุดที่ใฝ่ฝันโดยไม่สะดุด ไม่เสียดายอดีต ทุกอย่างมันประกอบกัน มันไม่ใช่ว่าโทอย่างเดียว ซึ่งใครๆก็เรียนกันดาษดื่น ขอให้โชคดี จากคุณ : พัท เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 20:38:58

ความคิดเห็นที่ 39 #37 น่าเสียดายจริงๆที่ผมไม่ได้อยู่ในสายงานเดียวกับคุณครับ^^ ขอบคุณครับ #38 ขอบคุณครับ เป็นอีกแนวทางที่น่าสนใจครับ จากคุณ : ไม่ขำผมเอาจริง เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 21:48:14 A:223.207.59.21 X: TicketID:256654